TOGARI ONSEN SKI RESORT NAGANO JAPAN
ทริป สนุก โหด เฮฮา มันส์ และ ปวดร้าวระบมไปทั้งร่างกาย กับการเล่นสโนว์บอร์ดที่ญี่ปุ่น
สวัสดีนักเดินทางและนักอ่านทุกคนนะครับบบบบบ :)
ครั้งนี้กลับมากับบันทึกการเดินทางของนักเดินทางสมัครเล่น ฮ่ะๆๆ เมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมาได้ออกเดินทางไปเล่นสโนว์บอร์ดกับเพื่อน 2 คน (ไทย ญี่ปุ่น) สถานที่ที่ไปก็คือ Togari Onsen Ski Resort, Nagano, Japan นั่นเอง คิดว่าหลายๆคนคงยังไม่เคยไปที่นี่แน่ๆ ไหนใครเคยไปเล่นสกีที่นี่มาแล้วบ้าง กว่าจะมีอยากเขียนบันทึกนี่ก็ดองไว้นานพอสมควรเลยนะ ก็เพราะถูกเจ้าความขี้เกียจครอบงำไว้นั่นเอง ฮ่ะๆๆๆ
ดังนั้นบันทึกครั้งนี้จะมาเขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปเล่นสโนวบอร์ดครั้งแรกในชีวิตที่ญี่ปุ่นกันสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง ทริปนี้ไม่ได้เดินทางคนเดียวเหมือนที่ผ่านๆมาหรอกนะ อีกอย่างช่วงนี้เป็นช่วงที่โรคโคโรน่ากำลังเริ่มต้นระบาด ดังนั้นตอนนั้นก็เลยไม่ได้กลัวอะไรมาก ยังออกเที่ยวปกติ แต่หลังจากทริปนี้คือหนักขึ้นมากๆ
ดังนั้นบันทึกครั้งนี้จะมาเขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปเล่นสโนวบอร์ดครั้งแรกในชีวิตที่ญี่ปุ่นกันสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง ทริปนี้ไม่ได้เดินทางคนเดียวเหมือนที่ผ่านๆมาหรอกนะ แต่กว่าจะได้สถานที่และจะได้ออกเดินทางนั้นก็มีอุปสรรคมากมายมากคอยขัดใจกวนใจเช่นกัน
เริ่มด้วยช่วงต้นปีคุยกับเพื่อนว่าไปเล่นสโนวบอร์ดกัน ใช่ สโนวบอร์ด ไม่ใช่ สกี ฮ่ะๆๆ อย่าสับสนกันนะ ตอนแรกที่คุยกันคือจะไปสกีรีสอร์ทในจังหวัดเฮียวโกะ(HYOGO) ซึ่งไม่ไกลมากนัก ครั้งนี้เพื่อนเป็นคนจัดการเรื่องสถานที่ ที่พัก รถบัส ให้หมดเลย ผมก็ค่จ่ายเงินให้เพื่อนแค่นั้นแหและ สบายไปอีกกกกก ปกติจะเป็นจัดการตลอดเพราะเดินทางคนเดียว ฮ่ะๆๆๆ
แต่เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้ของญี่ปุ่นนั้นแปรปรวน อากาศไม่ค่อยเย็นทำให้หิมะตกน้อยมาก ซึ่งน้อยเกินกว่าที่สกีรีสอร์ทจะเปิดกิจการสกีในฤดูหนาวปีนี้ ทำให้หลายๆรีสอร์ทต้องยกเลิกกิจกรรมสกี และแน่นอนว่ารีสอร์ทที่จองไว้ก็ยกเลิกไปด้วย เพื่อนบอกว่าทางรีสอร์ทติดต่อมายกเลิกทริปและคืนเงินจำนวนเต็ม เอาแล้วไง เอาไงต่อล่ะทีนี้ ยังนจะไปเล่นกันต่อที่อื่นไหมหรือว่าปีนี้งดก่อนแล้วค่อยว่ากันปีหน้า แต่ไหนๆก็ตั้งใจไว้แล้ว บวกกับลางานไว้แล้วเรียบร้อย ก็เลยเปลี่ยนสถานที่ไปทางภูมิภาคโทโฮคุละกัน ฝั่งนั้นมีหิมะตกแน่นอน
ดังนั้นสถานที่ที่เราจะไปเล่นสโนวบอร์ดกันก็คือ Togari Onsen Ski Resort, Nagano ค่าใช้จ่ายต่อคนก็ประมาณ 21700เยน หรือประมาณ 7,000 บาทนั่นเอง ราคานี้คือรวมค่าที่พัก ค่าอาหาร 2 มื้อ ค่ารถบัสไป-กลับ ค่าลิฟต์ แต่ไม่รวมค่าอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ
แผนที่ของสกีรีสอร์ท Togari Onsen Ski Resort ชื่อก็ยาวเกินนนนนนน
พอวันเดินทางอย่างใจจดใจจ่อ จนถึงวันเดินทางคือตื่นเต้นมากๆ กลางคืนก็นอนไม่หลับอยากไปให้ถึงนากาโนะไวๆ งั้นออกเดินทางกันเลย เนื่องจากผมอาศัยอยู่จังหวัดคากาวะ บนเกาะชิโคขุ ก็เลยต้องนั่งรถบัสไปหาเพื่อนที่โอซาก้าก่อน ซึ่งการนั่งรถบัสไปโอซาก้าก็ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง และจาก Osaka ไป Nagano ก็ใช้เวลาทั้งคืนเลย ระยะทางนั้นค่อนข้างไกลมากมากกกกกกกก
การเดินทางในครั้งนี้ก็จะไปช่วง 1-4 กุมภา เดินทาง 2 คืน พักแค่ 1 คืน หมดเวลาไปกับการเดินทางมากกว่าอีก นอนบนรถบัส 2คืน ออกเดินทางไปเจอเพื่อนที่โอซาก้าละกัน วันนี้เพื่อนยังทำงานอยู่ เลิกงาน 5 โมง เจอกันที่ไหนเอาไว้ก่อน พอเดินทางไปถึงโอซาก้าก็ไปหาซื้อกางเกงและแว่นสำหรับเล่นสโนว์บอร์ดก่อน เสื้อมีแล้ว ตอนแรกว่าจะตรงไปบ้านเพื่อนเลยแล้วให้แฟนเพื่อนพาไปซื้อที่ร้านใกล้ๆบ้าน
แต่เวลายังเหลือเยอะก็เลยเดินหาแถวๆสถานีโอซาก้าไปก่อน เข้าไป 4-5 ร้าน ก็ไม่มีขาย ก็เลยตัดสินใจไปร้านใกล้บ้านเพื่อน โดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนว่าจะไปร้านนั้นนะ นั่งรถไฟไปเองเลย จนหาซื้อของครบถึงบอกเพื่อนว่าซื้อเรียบร้อยแล้ว
พอถึงเวลาก็นัดเจอกันที่สถานี Moriguchi หน้าบ้านเพื่อน เวลายังเหลืออีกเยอะ งั้นไปหาข้าวเย็นกินกันก่อนออกเดินทางไกลสักหน่อยละกัน ซื้อขนม ซื้อน้ำตุนไว้ก่อนด้วย เพราะต้องนั่งรถยาวๆ
พอทานข้าวเย็นเสร็จก็ตรงไปสถานี OSAKA เพื่อไปรอขึ้นรถบัสไปยัง Togari Ski Resort จังวัดนากาโนะ รอไม่นานก็ขึ้นรถบัส ไม่คิดว่าคนจะเยอะนะ เกือบเต็มทุกที่นั่งเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่นนักศึกษา พอขึ้นรถก็ปิดไฟปิดม่าน ต่างคนต่างนอน แต่คืนนั้นนั่งคุยไรไม่รู้กับเพื่อน คุยกันยาวววววเลย ฮ่ะๆๆๆ ระหว่างทางก็จะมีจุดพักรถ 2-3 ที่นี่แหละ ถึงจุดพักรถก็กินข้าว เข้าห้องน้ำแล้วออกเดินทางกันต่อ
พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที เปิดผ้าม่านดูออกไปด้านนอกก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวไปทั่วบริเวณ พร้อมกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มโผล่ขึ้นมาทักทายชาวโลก มันเป็นภาพที่สวยตราตรึงใจมากๆ (ขอโทษรูปไม่สวย ฮ่ะๆๆ) อยากอยู่ที่นี่สักหลายๆคืน พอไม่นานรถบัสก็พาพวกเราถึงปลายทาง
นั่งรถยาวไกลมากๆ แต่หลับสนิทตลอดทาง อีกทั้งคนขับรถก็ขับได้นิ่มมากๆ มีตื่นเป็นช่วงๆบ้าง
พอลงรถมาก็หยิบกระเป๋าออกมา จะบอกว่าพื้นนำแข็งคือลื่นมาก เกือบล้มไปแล้วทีหนึ่ง ไม่ทันไรเพื่อนก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังเปาะ 5555555 สงสารก็สงสาร ขำก็อดขำไม่ได้ อ่ะจัดให้สักรูปละกัน
จากนั้นก็เดินไปติดต่อที่พัก เพื่อขอเก็บสัมภาระต่างๆและเปลี่ยนชุดไปเล่นหิมะ ประเด็นคือยังเช้ามากจึงยังไม่สามารถเช็คอินเข้าที่พักไม่ได้ ก็เลยทำให้แค่ฝากของไว้กับที่พัก รฝากกุญแจล๊อคเกอร์แล้วออกไปเล่นหิมะ
พอเก็บของ เปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินไปติดต่อร้านเช่าอุปกรณ์เล่นสโนว์บอร์ด ร้านอยู่ใกล้ๆที่จอดรถเลย ค่าเช่าอุปกรณ์น่าจะตกคนละประมาณ 3,500 เยนนะ
ตอนนี้ก็พร้อมลุยหิมะแล้ว นี่จะเป็นการเล่นสโนว์บอร์ดครั้งแรกในชีวิตเลยนะ ที่ผ่านมาเคยเล่นสกี แต่เล่นยากมาก ล้มทีคือเจ็บมากด้วย พร้อมแล้วก็ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เนื่องจากว่าเป็นครั้งแรกก็เลยค่อนข้างกังวลมาก กลัวจะเป็นตัวถ่วงให้เพื่อนอีก 2 คน ต้องมาคอยสอน คอยอยู่ใกล้ๆ กังวลไว้ก่อน ฮ่ะๆๆ จากนั้นก็ไปซื้อซองใส่บัตรสำหรับใช้ลิฟต์ ต้องติดให้เจ้าหน้าที่เห็นนะ ไม่งั้นเขาไม่ให้ขึ้น
ขึ้นลิฟต์กันเลยยยยย ใส่ผ้ากันหนาวกันแบบจัดเต็มมากๆ หารู้ไม่ว่าเล่นไปแล้วมันจะร้อนขึ้จ เหงื่อก็แตก และต้องถอดออกในที่สุด ฮ่ะๆๆ
มองไปรอบๆคือขาววววววววไปหมด มันสวยมากๆ ตื่นเต้นสุดๆ ขึ้นไปถึงข้างบนแล้วตอนลงจากลิฟต์ก็คือลำบากมาก คนเล่นเป็นก็จะลงง่าย คนไม่ชินก็จะลำบาก ฮ่ะๆๆ ล้มไปกี่ครั้งแล้วกับลงลิฟต์
ก่อนอื่นก็ต้องถ่ายรูปกันก่อนจะไปลุยของจริง มองไปอีกฟากเหมือนจะฟ้าจะครื้มฝน แต่ก็ไม่ตก กว่าจะได้ไปเล่นจริงก็หมดเวลาไปกับการถ่ายรูปเยอะเลยล่ะ ฮ่ะๆๆ นานๆมาทีก็ต้องจัดเต็มหน่อยเนอะ เอาให้คุ้มไป
ลานหิมะจะละลายเพราะคู่นี้นี่ล่ะนะ ฮ่ะๆๆ พื้นยุบอยู่เน้ออออ
ทีนี้ก็พร้อมลุยละ โอ้ยยยยย จะเล่นเป็นไหมน้อออ อายจริงๆ กลัวปล่อยไก่มากๆ ฮ่ะๆๆ ค่อยๆฝึกไป ยืนเป็นล้มๆ ฮ่ะๆๆ พอยืนได้แล้วก็ลองเคลื่อนบอร์ดดู สไลด์ปุ๊บล้มอีกละ แค่เริ่มต้นที่ก้นก็ระบมไปหมดละ ล้มทีเสียงดังตุบๆ ฮ่ะๆๆ
พอฝึกไปไม่นานก็เริ่มจับทาง ทรงตัวสไลด์ได้แล้ว พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ยากเหมือนที่คิดไว้เลยนะ กลับใช้เวลาในการฝึกไม่นานด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทรงตัวสไลด์ไปได้ไกลๆนะ มันก็จะล้มเยอะหน่อย ถี่ๆหน่อย
คอร์สกิจกรรมหิมะสำหรับสโนว์บอร์ดและสกีของที่นี่คือเยอะมาก กว้างมาก ระยะทางก้ไกลมากด้วยเช่นกัน คือเยอะแบบเยอะจริงๆน
คิดว่าเยอะกว่า Gala yuzawa ด้วยซ้ำไป ที่ Gala คือเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีชิงคันเซ็นถึงที่เลย แต่ที่ Togari Ski Resort คือต่างชาติน้อยมากๆ คือแทบจะนับคนได้เลย
ช่วงเริ่มต้นก็จะลงไปถึงข้างล่างคือล้มไปหลายรอบมาก ล้มหน้า ล้มหลัง ล้มลุกคลุกคลาน ล้มทุกรูปแบบเลย เจ็บไปหมด พอลงไปถึงข้างล่างก็พักดื่มน้ำ กินข้าวสักหน่อย วันนี้ถือว่าฝึอซ้อมละกัน พรุ่งนี้จะต้องเล่นได้สนุกและเต็มที่แน่นอน
พอเล่นไปเล่นมากก็เย็นแล้ว ลิฟต์จะหยุดทำงานตอนประมาณ 5 โมงเย็นมั้ง วันนี้น่าจะเล่นได้ 4-5 รอบอยู่นะ แต่วนเวียนอยู่ที่คอร์สไม่ากี่คอร์ส เพราะยังไม่คล่องมากนัก ตอนกลางคืนที่ที่เขาไม่เปิดให้เล่นช่วงกลางคืนนะ
พอตกเย็นก็เดินกลับที่พัก ขนของเข้าห้อง เตรียมตัวอาบน้ำ รอกินข้าว แต่ห้องอาบน้ำที่นี่เป็นญี่ปุ่น ซึ่งไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ก็เลยรอไปอาบน้ำทีเดียวหลังคนอื่นอาบเสร็จ ฮ่ะๆๆ คือต้องแก้ผ้าเปลือยกายอาบร่วมกับคนอื่นมันไม่ชินไง
ระหว่างนั้นก็รออยู่บนห้อง เดินออกไปดูวิวจากระเบียง ตอนนั้นตะวันกำลังตกดินเหนือภูเขา ตะวันส่องแสงสุดท้ายกระทบหิมะขาวๆ เป็นอะไรที่สวยมากๆ อยากดูแบบนี้ทุกวันเลย (ความคิดตอนนั้น) จากนั้นก้ไปอาบน้ำเตรียมไปกินข้าว
พอถึงเวลาอาหารเย็นพนักงานก็จะประกาสเสียงตามสายในโรงแรมให้ทุกคนลงมาทานอาหารเย็นได้ คือเหมือนเด็กหอพักเลยนะ ลงไปกินพร้อมกัน มีเวลากำหนดด้วย ฮ่ะๆๆ ลืมถ่ายรูปอาหารไว้ กินเส็จแล้วก็ขึ้นไปนอนพักผ่อน เก็บแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้อีกวัน คืนนี้ก็ โอยาสุมินาไซ
โอฮาโยยยยย ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยแสงพระอาทิตย์อ่อนๆที่สาดแสงมากระทบกับดวงตาที่กำลังหลับอย่างสนิทอยู่บนที่นอน บ่งบอกว่าได้เวลาตื่นสำหรับวันใหม่แล้ว พอลืมตาขึ้นมาก็ดึงผ้าม่านระเบียงประตูออกช้าๆ เพื่อที่จะได้ไม่แสบตาเวลาโดนแสง
เปิดทั้งที่ยังนอนอยู่บนฟูกนอนอุ่นๆ สิ่งที่เห็นข้างนอกก็คือ พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาทักทายพร้อมกับสายหมอกที่ลอยล่องเหนือบ้านเรือนราวกับอยู่บนสวรรค์ยังไงอย่างงั้นเลย (พูดเหมือนรู้ว่าสวรรค์เป็นยังไงเลย) แสงแดดเริ่มเปลี่ยนจากสีจางๆเป็นสีส้ม ความสวยงามของธรรมชาติคือสุดยอดจริงๆเลยนะ
พอเห็นวิวแบบนี้ก็ต้องลุกออกจากเตียงเพื่อไปชมความสวยงามของธรรมชาติ มันเป็นช่วงเวลาที่โคตรจะมีความสุข เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวกของวัน มองไปลงด้านล่างก็เต๋มไปด้วยหิมะขาวๆนุ่มๆ อยากกระโดดลงไปในกองหิมะดูบ้าง แต่สูงไปหน่อย ฮ่ะๆๆ
หลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวเสร็จก็ลงไปกินข้าวเช้า เก็บของแล้วเอาไปของไปฝากไว้ที่ห้องเดิมที่ฝากไว้ตอนมาเมื่อวาน ใช่เราเช็คเอ้าท์กันแล้ว เพราะคืนนี้ต้องเดินทางกลับโอซาก้า พักที่นี่แค่คืนเดียวเอง
พอเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ไปเล่นสโนว์บอร์ดกันต่อ วันนี้กะลุยให้เต็มที่ไปเลย ไปเล่นกันตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยล่ะ งั้นไปลุยกันเลย นี่คิดว่าไปเช้าละนะ คนอื่นเขามากันโคตรเช้าเลย ฮ่ะๆๆ งั้นลุยยยยยยยยยย
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส ปลอดโปร่ง ปราศจากความขุ่นมัวของก้อนเมฆ แบบนี้ถ่ายรูปสวยแน่ๆเลย
ขึ้นถึงข้างบนก็สเตปเดิม ยังลงจากลิฟต์ไม่คล่องและถ่ายรูปก่อนแล้วค่อยไปเล่น ฮ่ะๆๆ ขอลองกระโดดเข้ากองหิมะสักหน่อยดิ๊ มันค้างคาใจ มันน่าโดดเข้าไปมากๆ ฮ่ะๆๆ อ่ะจัดเลยละกัน
วันนี้คุยกันว่าเราจะไปลองคอร์สใหม่ๆ ที่ไกลขึ้นแล้วสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน คือมันเยอะมากจริงๆ และแต่ละคอร์สก็เส้นทางสวยๆทั้งนั้นเลยนะ มันมีหลายคอร์ส คอร์สระดับคนเพิ่งเริ่ม ระดับกลาง และระดับยาก นี่ก็ไปลองมาเกือบหมดแล้ว แต่มีอยู่หลายที่ที่ยังไม่กล้าพอที่จะลอง เพราะมันขรุขระเอามากๆ ไว้โอกาสหน้า
สโนว์บอร์ดนี่คือแบบยิ่งเล่นยิ่งสนุก ยิ่งเล่นยิ่งมันส์ เล่นไม่รู้จักเบื่อจริงๆเลยนะ ต่างกับสกีมากๆ
บรรยากาศหิมะริบๆ ท้องฟ้าที่แจ่มใส มันเหมาะแก่การถ่ายรูปจริงๆ นึกว่าพรีเวดดิ้งย้อนหลังซะอีก
เล่นมาเยอะละ ถ่ายรูปกันบ้าง มันจะมีคอร์สหนึ่งที่คนน้อยและบริเวณรอบๆคือสวยมากๆ หิมะยังขาวสะอาดไร้ร่องรอยการมาเล่นของคน ขอท้าความหนาวเย็นของหิมะสักหน่อยละกัน แก้เสื้อโดดตู้มมมเลย เย็นจับใจมากๆ
เหนื่อยละนอนแป๊บบนอนแช่อยู่บนกองหิมะแบบนี้ต่อคงตัวแข็งตายกันพอดี แต่หิมะคือนุ่มมากกกกกก
เห็นเขากระโดดบอร์ดกันก็อยากลองบ้าง นึกว่าจะง่าย ที่แท้ก็ไม่ง่ายเลยนะเนียะ เพื่อนแม่งโดดไม่ขึ้นละ
เล่นไปเล่นมาก็เที่ยงแล้ว ได้เวลาข้าวเที่ยงละ วันนี้ใช้แรงไปเยอะ ของกินข้าวเน้นๆด้วยข้าวแกงกะหรี่หมูทอดเลยละกัน อร่อยมากๆ กินเสร็จก็ไปเล่นกันต่ออีก เล่นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ทีนี้อยากลองแบบสไลด์แล้วกระโดดบ้างก็เลยลองกัน โอ้โหหหหหหห มันยากมาก ทรงตัวไม่อยู่เลย ตอนลงคือลงทั้งตัวนะ ไหลไปไกลอีกด้วย เจ็บปวดไปหมด แต่ก็ยังลองอีกนะ ฮ่ะๆๆๆ เพื่ออะไรรรรรร
พอเล่นๆไปก็ถึง 4โมงเย็นละ เพื่อนบอกว่าพอแค่นี้ก่อน จะไปแช่ออนเซ็น ก็เลยให้เพื่อนไปแช่กันเองแล้วก็เล่นต่อคนเดียว ฮ่ะๆๆ ไม่ค่อยชอบแช่ออนเซ็นเท่าไหร่ก็เลยไม่ไป ให้เพื่อนไปกันเอง เล่นคนเดียววนไป
สิ่งที่ต้องระวังของการเล่นคนเดียวเลยก็คือ ต้องระมัดระวังอย่าให้พลาด อย่าให้เจ็บ เพราะไม่มีใครคอยสังเกตเรา ถ้าไปล้มบาดเจ็บในบริเวณที่ไม่มีคนเลยล่ะก็ต้องลำบากแน่ๆ แต่เล่นได้ไม่มีปัญหา
พอตกเย็น 5 โมงลายกิจกรรมก็ปิดละ นัดเจอกันที่ร้านเช่าอุปกรณ์เพื่อคืนอุปกรณ์ต่างๆ แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนผ้ากันที่โรงแรม เช็คเอ้าท์ออกมา
เหลือเวลาเยอะมาก ก็เลยไปหาข้าวเย็นกินกัน ไปซื้อมาม่าคัพ ซื้อขนมกินเป็นอาหารเย็น นมนี่ก็อร่อยในแบบญี่ปุ่น ไม่อร่อยในแบบไทย ฮ่ะๆๆ คิดเอาเอง ตอนนั้นฝนตกลงมาด้วย นั่งรอเวลารถบัสมารับวนไป
หลังจากนั้นรถบัสก็มารับเดินทางกลับโอซาก้า คืนนี้นอนบนรถบัสแบบหลับเป็นตายไปเลย เพราะเหนื่อยมาก ระบมไปทั้งตัว เจ็บปวดแขนขาไปหมด ฮ่ะๆๆ นอนละ เจอกันโอซาก้า
สำหรับทริปสโนว์บอร์ดนี้มันสนุกมากๆ ถ้าไปเล่นสโนว์บอร์ดคนเดียวคนงเหงาน่าดู ฮ่ะๆๆ ปีนี้ได้เล่นหิมะสมใจอยากละ ไว้ปีหน้จะไปเล่นอีกแน่นอน ไม่แน่อาจจะกลับไปที่นี่อีกก็ได้
สำหรับใครที่อยากเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด แนะนำที่นี่เลยนะ Togari Onsen Ski Resort เป็นที่ที่ดีมากๆ คนไม่เยอะ คอร์สเล่นเยอะ ยาว กว้างมากๆ ราคาก็ถือว่าไม่แพงมากด้วยนะ
ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทั้ง 2 คนมากๆ ไม่งั้นคงไม่ได้ทำกิจกรรมสนุกๆแบบนี้ ปีที่แล้วก็ไปกัน 3คน แต่ได้แค่ไปเที่ยวหาหิมะ แต่ปีนี้ได้เล่นจนได้
หลายๆคนที่เข้ามาอ่านบันทึกอาจจะคิดว่า ทำไมรูปล้มของเพื่อนถึงเยอะจัง ก็เพราะเพื่อนมันไม่ได้ถ่ายเวลานี่ล้ม มันไม่ได้ถ่ายไรเลย นี่คือเก็บวิดีโอ รูปถ่ายเยอะมาก ฮ่ะๆๆ
ปีนี้ได้สนุกกับหิมะเต็มอิ่มแล้ว ทริปฤดูหนาวได้จบลงไปแล้ว สโนว์บอร์ดกลายเป็นกิจกรรมโปรดของฤดูหนาวเข้าแล้ว ไว้จะพยายามไปเล่นทุกปีในขณะที่ยังทำงานอยู่ญี่ปุ่น จบแค่นี้ละนะ อาริกาโตะ :)
ล่ามติดเที่ยว
วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.34 น.