ปี 2015 ปลายเดือนสิงหาคม ปุ้มมีความตั้งใจอย่าง มากๆๆๆ ที่จะ ออกปั่นตามหา สถานที่แสนสวยที่ ปุ้มพบรูปใน internet เพียง สองสามรูป สถานที่แห่งนี้มี มีชื่อว่า “น้ำตกบังเอิญ" นั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ เกิดทริปนี้ขึ้นมา ปุ้มจะขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า “น้ำตกบังเอิญที่มาด้วยความตั้งใจ “
ทำไมใส่ความตั้งใจ ลงไป เพราะว่า การมา ครั้งถึงครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการมาครั้งแรก แต่เป็นการ มาครั้งที่ 4 จริง ๆ แล้ว เราเริ่ม ตามหาสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม แต่เราหาข้อมูล ไม่ได้มากมายนอกจากรู้ว่า น้ำตกนี้อยู่ในจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม และใกล้ น้ำตกเหวอีอ่ำ ฉะนั้นจุดหมายแรก เราจึงเป็นน้ำตกเหวอีอ่ำ ลองดูนะคะ เหวอีอ่ำ ตอนหน้า แล้ง ค่ะ สวย แบบ แปลก ๆ สถานที่ดูไม่รู้เลยว่า ที่นี่เคยเป็นน้ำตก สูงใหญ่ เพราะเราไปเหวอีอ่ำครั้งแรก เราไม่พบน้ำสักหยดเลยค่ะ พบแต่ หน้าผาสูงชัน
เมื่อมีครั้งแรก ก็มีครั้ง ที่สอง เมื่อครั้งแรก เราหาไม่พบ เราก็ยังคงยังดั้นด้น ค้นหาต่อไป รอบที่ 2 เรายังคงไปได้แค่น้ำตกเหวอีอ่ำ เพราะว่า เราหลงทางค่ะ เรา หาทางเข้า น้ำตกบังเอิญไม่เจอ คว้าน้ำเหลว คำณวนเวลาไม่พอ ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมูล เกือบ บ่าย 3 โมงเย็นแล้วแล้วคงต้องหันหลังกลับ แต่ยังมี คราวหน้า และพวกเรา ก็นัดกันว่า ยังไง ต้องหาให้เจอ ฉะนั้น คราวหน้ามาใหม่
ครั้งที่ 3 วันนี้ตั้งใจมากมายว่าต้องไปให้ถึง เรา มาที่น้ำตก เรามาถึงน้ำตกเหวอีอ่ำ ในเวลา เกือบ บ่าย โมงกว่า ทั้ง ๆ ที่เราคุ้นชินเส้นทางแล้ว แต่ ครั้งนี้เรามาหน้าฝน ใช้เวลาและแรง ปั่นมากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา สาเหตุ เป็นเพราะ ฝนตกต่อเนื่อง หลายวัน ก่อนเราจะมาที่นี่ ทำให้ ตลอดเส้นทางการปั่นขึ้นน้ำตก เต็มไปด้วย น้ำ และโคลน เละ แฉะ ปั่นยาก กินแรงมาก เมื่อเรา มาถึงน้ำ ครั้งนี้ ก็หายเหนื่อย เลยค่ะ ที่น้ำตกมีน้ำมาก ม่านน้ำสูงใหญ่ ไหลแรง พอพัก กินข้าว พักกันจนหายเหนื่อย ก็ไม่รอช้าที่จะ ปีน ไต่ หน้าผา ที่ ค่อนข้าง สูง ชัน เพื่อลง ไปเก็บภาพความสวยงามของน้ำตกในครั้งนี้ค่ะ
หลังจาก ถ่ายภาพเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยไป ถึงบ่าย 3 อีกแล้ว เฮ้อเวลาไม่พออีกแล้วคราวนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่เรา สามารถไปจนถึงน้ำตกบังเอิญ และ ครั้งนี้ เราวางแผน กันอย่างดีเพราะ เราตั้งใจเป็นอย่างมากว่า เราจะต้องไปถึงน้ำตกบังเอิญให้ได้ โดยเรา วางแผน เริ่มออกปั่น ให้เร็วกว่า ทุกครั้ง 1 ชั่วโมง และ ตามแผน เราจะต้องปั่น ไปให้ถึง เหวอีอ่ำ ก่อนเที่ยง เราถึงจะมีเวลาเพียงพอที่จะสำรวจ เส้นทางปั่นไปยังน้ำตกบังเอิญ ครั้งนี้ เราชวนเพื่อนที่มีระดับฝีเท้าในการปั่นที่เสมอ กันเพื่อลดระยะเวลาในการรอกัน และเลือกที่จะปั่นขึ้น โดยใช้เส้นทาง ขญ.10 เส้นทางชัน แต่ ระยะทางสั้นกว่า เพื่อที่เราจะใช้เวลาสั้นกว่า ในการขึ้นไปเหวอีอ่ำ
เราถึง เหวอีอ่ำ ประมาณเกือบเที่ยงตามความคาดหมาย รับประทานอาหารกันเสร็จ ก็ รีบออกจากเหว อีอ่ำ เพื่อออกตามหาเส้นทาง น้ำตกบังเอิญค่ะ การตามหาเส้นทางเข้าไม่ง่าย เพราะว่า ในป่า ทุกเส้นทางมีสภาพ เกือบเหมือนกันทุกจุด บางจุดตัน บางจุด ไปต่อได้ ในมือ เราไม่มีแผนที่ชัดเจน แต่เรามีเพียง GPS บอกพิกัด ทิศทาง น้ำตก เท่านั้น เราต้องช่วยกันหาเส้นทางโดย เลือกเลี้ยวตามสันทางที่คิดว่า จะเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่น้ำตก ครั้งนี้เราไปกัน 5 คน และ การเลือกเส้นทาง เราใช้วิธี ผัด กันปั่น เข้าไป ตามทางแยก จน แน่ชัด ว่าไปได้ ก็จะส่งเสียงเรียกเพื่อนทางวิทยุสื่อสาร เพื่อให้เพื่อนตามเข้าไป และ หากว่าเข้าไป และเป็นเส้นทางที่ผิด เพื่อนที่เข้า ไป ก็จะแจ้ง ผ่านทางวิทยุสื่อสาร มาว่า ไม่ต้องตาม ทางตัน ฉะนั้น เพื่อคนที่รอด้านนอก ออกไป ปั่นเข้าเส้นทางแยก อีก ทาง โดย สลับ กัน หาเส้นทาง เพื่อ เลี้ยว เข้าออก ตลอดจน เวลาล่วงเลย มา จนถึง บ่าย 2 โมง ครึ่ง เราก็ยังไม่ถึงปากทางเข้าน้ำตก พวกเรา กำลัง เริ่มถอดใจ เพราะเวลา กระชั้นชิดเข้ามาทุกที ตอนนี้ เราทำการตกลงกันว่า หาก 3 โมงเย็นยังไม่เจอ ปากทางเข้า น้ำตก เราก็ต้อง หันหลังกลับ
ตอนนี้ เราปั่นไกล ออกมาจากเหวอีอ่ำ ประมาณ 3 กิโลแล้ว ตลอดเส้นทางการปั่น เป็นเส้นทาง ดินลูกรัง ขึ้นเนิน
ตอนนี้ เกือบบ่ายสามโมงเย็น กำลังจะหัน หลังออกแล้ว เพราะว่า ตอนนี้เราออกมาไกลจากเหวอีกอ่ำเกิน กว่า 3 โล นั่นหมายถึง ต้องปั่นออก อีก 3 โลขึ้น เขา ชัน ฉนั้น หากว่า ถ้าบ่าย 3 เรายังไม่เจอทางเข้า เราจะหันหลังกลับ แต่คราวนี้โอกาส เข้าข้างเรา เราได้ยินเสียงมอไซค์ ไกล ๆ แว่ว ๆ เรายืนรอตรงปากทางแยกเล็ก ๆ ซึ่งเกือบจะมองไม่ออก ว่าเป็นทางเข้า รอได้ สัก ประมาณ 5 นาที ก็มีมอไซค์ สองคัน ออกมาจากทาง แคบ ๆ พวกเราดีใจเป็นน อย่างมาก เราได้สอบถามเส้นทาง พูดคุยกัน พี่คนขับมอไซค์ บอกว่า ให้ปั่นย้อน ตามรอยล้อมอไซค์เข้าไป อีก เกือบ 2 โล ก็จะถึง กลุ่มมอไซค์ ที่ว่า เป็นชาวบ้านคนพื้นที่ เลยรู้จักน้ำตก แต่ พี่มอไซค์ ก็เตือน ว่า ตอนนี้เกือบบ่าย 3 แล้วนะ รีบ ๆ หน่อยเดี๋ยว มืดก่อนลง นะน้องอันตราย เราก็ตอบตำลง รับคำ ว่าแล้ว เราก็ รีบออก เรารีบปั่น อย่างเร็วที่สุดเพื่อที่จะเข้าไปยังน้ำตก และ ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก
เสียดายที่มีเวลาอยู่ที่น้ำตกนี้น้อยมากก็ต้องรีบออก เราปั่นออก อย่างเร็วที่สุด ที่เคยปั่นมา โชคดี ที่เราซ้อม ปั่นลงที่นี่ มา 3 ครั้ง แล้ว เราปั่นลงด้วยความเร็ว ระยะทาง หินลอย กว่า 20 โล เราปั่น กันประมาณ 1 ชั่ว โมง เราถึง แก่งใหย่ ก่อนมืด และ ก็ ล้างรถล้างโคลนที่แก่งใหญ่ จากแก่งใหญ่ อีก 1 กิโลก็จะออกจากอุทยานแล้ว แต่ ฟ้ามืด ซะก่อน เพราะเป็นหน้าหนาว พวกเราโชคดี ที่มีไฟฉาย หน้ารถ เราเปิดไฟปั่นออกจากป่า ตื่น เต้น ที่สุด ที่เคยปั่น มา แต่ เหนื่อยที่สุด ที่เคยเข้าป่าเช่นกัน ระยะทางรวม 52 กิโล สุดยอด
ใครสนใจ เส้นทางติดต่อเราได้นะคะ
FB: ปั่นเที่ยวป่า
https://www.facebook.com/bikeforestcamp/
Line ID:panjaiv
กลุ่มเรารับจัดทริปทัวร์ค่ะ ติดต่อกันมานะคะ
Panjaiv Panmanee
วันพฤหัสที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.33 น.