สวัสดีค่ะ

ทริปนี้เดินทางวันที่ 19 - 23 ก.พ. 2563 เดินทางกับครอบครัวเพื่อนรวม 5 คน เช่ารถขับเที่ยวในเมืองโอกินาวา เดินทางด้วยสายการบิน Peach Air แพลนการเดินทางตามนี้เลยค่ะ
อังคาร 18/2 เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ 23.00 น.

พุธ-19/2 Naha Airport - Naminoue Shrine - Tomari Fish Market - Okinawa Churaumi Aquarium - Seven Village Motobu

พฤ-20/2 ซากปราสาทนะคิจิน (Nakijin-jo Site) - Cape Hedo - Kouri tower-Heart Rock- Inn cafe - Orion Beer Factory - Seven Village Motobu

ศุกร์-21/2 Cape Manzamo - Cape Zanpa Lighthouse - Toya Fishing Port - Naha KOKUSAI DORI STREET - Community & Spa Naha

เสาร์-22/2 ปราสาทซูริ - AEON MALL Okinawa Rycom - American Village - My Place Hotel


อาทิตย์-22/2 ตลาดปลา Tomari Fish Market - Manga Soko - Umikaji Terrace Senegajima - ASHIBINAA OUTLET - คืนรถ OTS Car Rental 21.45 กลับ BKK MM 989 - 00.35 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

โปรแกรมพร้อมแล้วไปเที่ยวกันเลย
19 ก.พ. 2563 พวกเราเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัดบินตรงสุวรรณภูมิ - โอกินาว่า สายการบินเดียวนั่นก็คือ Peach Air ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 1.45 ถึง โอกินาวาเวลาประมาณ 8.05 น. เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง



ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่มีการระบาดของ covid-19 การตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสุวรรณภูมิและโอกินาวา ค่อนข้างเข้มข้ม กว่าเราจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้ก็เกือบ 9.30 น. ตลอด 5 วันเราเช่ารถของ OTS ค่าเช่ารถ 5 วันประมาณ 24,950 เยนรวมประกันภัย ที่สนามบินจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับและเมื่อแสดงเอกสารต่าง ๆ แล้วก็จะมีรถรับส่งของ OTS พาไปส่งที่บริษัทที่นี่มีพนักงานคนไทยมาคอยแนะนำด้วยค่ะ ตรวจรับรถเรียบร้อยได้เวลาเที่ยวแล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกแวะไห้วพระเป็นสิริมงคลก่อนที่ ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ (波上宮) Naminoue Shrine ที่ศาลเจ้าอยู่ติดชายหาดไห้วพระแล้วก็เดินลงบันไดเพื่อเดินเล่นชายหาดรับลมทะเล



พวกเราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ตลาดปลา Tomari Fish Market ตลาดอยู่ไม่ไกลจากสนามบินค่ะ ที่นี่ไม่ได้ใหญ่มากมีร้านขายปลาสด และพวกข้าวปั้นแต่กลิ่นคาวปลานี่แรงเอาเรื่องเลย



เราจองที่พักไว้ที่เมือง Motobu ชื่อ Seven Village Motobu ซึ่งเป็นเมืองเดียวกับอควาเรี่ยมค่ะ ขับรถไปยาวๆ ประมาณ 3 ชั่วโมง ที่พักราคาถูกมาก 2 วันห้อง 5 คนประมาณ 2,500 บาท มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเลย ทั้งส่วนของห้องครัวเครื่องครัว จานชาม ห้องน้ำก็มีสบู่ แปรงสีฟัน ไดร์เป่าผมให้ ชอบห้องพักมากๆ เจ้าของโรงแรมก็น่ารักมากเช่นกัน เช็คอินเช็คเอาท์ไม่นาน คือคืนกุญแจห้องก็ไปได้ไม่ตรวจอะไรเลย

รูปประกอบจาก booking.com



ม​​​​​​าต่อกันที่ ที่เที่ยวยอดฮิตของโอกินาวา ใครไม่มาถือว่าไปไม่ถึง Okinawa Churaumi Aquarium เราเลือกจะไปหลัง 4 โมงเย็นซึ่งราคาจะถูกลงเหลือ คนละ 1,360 เยน ด้วยความที่เราไม่ใช่สายอควาเรี่ยม เราเลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากกับที่นี่ กลับชอบสถานที่ด้านนอกการจัดสวนดอกไม้มากกว่า




20 ก.พ. 2563 เริ่มที่เที่ยวแรกของเราในวันนี้ที่ ซากปราสาทนาคิจิน มีค่าเข้าชมปราสาท 400 เยน แต่สำหรับพวกเรานั้นชื่นชมซากุระ อยู่ด้านนอกค่ะ ไม่ได้เข้าไปในตัวปราสาทแต่อย่างใด



ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายเดือนก.พ. ก็ยังพอมีซารุกะให้เห็นอยู่บ้าง แต่ซากุระของเมืองนี้จะดอกไม่ค่อยใหญ่และสีสด ออกแนวพญาเสือโคร่งบ้านเรา ก็สวยไปอีกแบบ



ขับรถต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงแหลมเฮโดะ Cape Hedo แหลมที่อยู่เหนือสุดของโอกินาวา ส่วนตัวเราชอบที่นี่มากที่สุด ได้อารมณ์คล้าย ๆ Great Ocean Road ลมเย็น หินสวย ต้นไม้ไม่แปลกตาเพราะเหมือนไม้โกงกางบ้านเรา



แหลมเฮโดะ ตั้งอยู่ในอุทยาน Yambaru National Park มีจุดชมวิวสวยๆ อีกหลายที่ แต่พวกเรามีเวลาน้อยก็เลยมาได้ที่เดียว
​​​​​



หลังจากที่ไปจุดเหนือสุดแล้วก็ ขับรถกลับโรงแรมจุดแวะต่อไปคือ Kouri tower มีค่าชม 800 เยน ไม่ได้ขึ้นไปนะแวะถ่ายรูปกับร้านกาแฟแถวๆ นั้นวิวสวยเหมือนกัน ต่อด้วย INN CAFE เข้าไปถึงที่แล้วเพื่อนรวมทริปไม่อิน ก็เลยถ่ายรูปด้านนอกมา 2 รูปแล้วกลับ
ต่อด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ งง ที่สุดในทริปนี้นั่นก็คือ Heart Rock การจะเข้าไปดูที่นี่จะต้องเดินเข้าไปในป่า ปีนหิน ปีนป่าย เพื่อไปลงไปที่ชายหาดและชมหินสองก้อนที่เค้าบอกว่าเป็นรูปหัวใจเล็ก ๆ กลางทะเล ส่วนที่จอดรถนั้นก็จะมีที่จอดรถของชาวบ้านแถวนั้น ราคาต่างกันไป 200 -500 เยน



เราได้ทำการจองทัวร์โรงงานเบียร์ Orion Beer Factory ไว้รอบเวลา 16.20 น. ด้วยความที่เราเป็นต่างชาติ เค้าก็จะมีหนังสือภาษาอังกฤษ ให้เราดูระหว่างบรรยาย เพราะการบรรยายใช้ภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ การบรรยายก็จะมีเรื่องการผลิด การหมักเบียร์ การทำขวดแก้วและกระป๋องเบียร์ ใช้เวลาบรรยายประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากชมโรงงานแล้วก็จะให้ชิมเบียร์ฟรี 2 แก้ว สำหรับคนที่ไม่กินเบียร์ก็จะมีน้ำชามะนาว หรือเบียร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ ให้เลือกดื่มได้ค่ะ แจกพร้อมถั่วด้วยนะ



21 ก.พ. 2563 เราจะเดินทางจากเมือง Motobu เข้าเมือง Naha ที่เที่ยวแรกของวันนี้คือ แหลมมันซาโมะ Cape Manzamo ที่เที่ยวยอดฮิตอีกที่ของโอกินาวา ที่นี่จะมีหน้าผาที่มีหินเหมือนรูปช้าง เที่ยวที่นี่ได้อารมณ์คล้ายไปหลายที่ ตอนแรกเหมือนบาหลี เดินไปเจอหินแต่งงานเหมือนที่เมืองมิเอะ เดินไปอีกนิดเหมือนอยู่เชจู



ไปต่อกันที่ Cape Zanpa Lighthouse สำหรับประวัติศาสตร์ว่าอนุสาวรีย์นี้เป็นท่านผู้ใดเราไม่มีรายละเอียดนะคะ แต่ที่นี่เคยมีอดีตว่าเป็นบริเวณแรกๆ ที่ฐานทัพอเมริกันยกพลขึ้นเกาะ สำหรับประภาคารสามารถขึ้นไปชมวิวได้ค่าขึ้น 200 เยน



ใก้ลจะเข้าเมือง Naha แล้วเราไปกินปลาดิบกันต่อที่ Toya Fishing Port ตรงนี้เป็นท่าเรือค่ะ ก็จะมีอาหารทะเลสด ๆ และมีร้านอาหารอยู่ที่ชั้น 2 เราเจอไข่หอยเม่นกระปุกละ 500 เยนเลยซื้อมาชิมซะหน่อย ไม่ใช่แนวจริงๆ ค่ะ



ที่เมือง Naha เราพักที่โรงแรม Community & Spa Naha เป็นห้อง 5 คน มีเตียงเดี่ยว 5 เตียงราคาประมาณ 19,000 เยนรวมอาหารเช้า โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากถนนโคคุไซโดริ ถึงแม้จะอยู่ใก้ล
แต่ไม่พลุกพล่าน ถือว่าทำเลดีมาก

รูปประกอบจาก Booking.com



ที่สวนของโรงแรมมีต้นซากุระกำลังออกดอกอยู่หนึ่งต้น เป็นมุมถ่ายรูปที่ดีเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นซื้อของที่ถนน Kokusai Dori และตลาด Makishi นักท่องเที่ยวน้อยมากขนาดร้านโอนิกิริเจ้าดัง เราไม่ต้องต่อคิวเข้าไปในร้านซื้อได้เลยอร่อยสมคำล่ำลือ
​​​​​​



22 ก.พ. 2563 ตามแผนเดิมเราตั้งใจจะไปเที่ยวถ้ำ okinawa wrold แต่ด้วยความที่มีโรคระบาดเลยไม่อยากไปเที่ยวในที่อากาศไม่ถ่ายเท เลยต้องตัดถ้ำออกไป เราออกเดินทางกันเกือบ 10 โมงกับสถานที่แรกของวันนี้ที่ ปราสาทซูริ ที่เข้าชมได้เพียงด้านนอก



ตัวปราสาทเพิ่งจะถูกไฟไห้มไปไม่นาน และยังไม่ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ เข้าไปชมแล้วก็รู้สึกใจหายเหมือนกันค่ะ หวังว่าคงจะมีบูรณะและกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม



ช่วงกลางวันเราไปกินข้าว ช็อปปิ้งกันที่ห้าง AEON MALL Okinawa Rycom เรากินบะหมี่โอกินาว่าอาหารราคาไม่แพงมาก แต่เค็มมากรสชาติเหมือนไวไวซองสีแดง และเป็นการช็อปปิ้งที่ถูกใจมากเป็นครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่นหน้าหนาวแล้วได้ซื้อเสื้อยืด GU ราคาตัวละร้อยกว่าบาท ปกติไปจะเจอแต่เสื้อผ้าหน้าหนาว

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต



ก่อนเข้าที่พักแวะช็อปปิ้งกันต่อที่ American Village ไปเจอร้านร้อยเยน อยู่ตรงนั้นนานมาก กว่าจะออกมาถ่ายรูปกับชิงช้่าสวรรค์ได้ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักเลยถ่ายรูปมาได้แค่นี้
โชว์รูปรถเช่าที่เราขับเที่ยวโอกินาวา ตลอด 5 วัน คันนี้หละรถแวน 5 ที่นั่งที่พาเราเที่ยวทั่วโอกินาวา



ที่พักของเราวันนี้เป็นโฮสเทลที่อยู่แถวๆ ท่าเรือ ด้วยความที่ช่วงที่เราไปเป็นวันหยุดยาวของญี่ปุ่นราคาห้องพักสูงมากเลยต้องมานอนโฮสเทลกัน เราจองเป็นห้อง 4 คนห้องน้ำส่วนตัวคืนละ 8,550 เยน กับห้องเตียงเดี่ยวนอน 2 คนห้องน้ำรวมคืนละ 5,600 เยนไม่รวมอาหารเช้า ส่วนตัวเราไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ที่นอนยุบ หมอนแบนมากกกกกก แต่ความสะอาดให้ห้าดาวเลยค่ะ

รูปประกอบจาก Booking.com



23 ก.พ. 2563 วันสุดท้ายของการเดินทางวันนี้ได้ทราบข่าวว่าที่โอกินาว่ามีผู้ติดเชื้อ Kovic-19 3 รายเริ่มหวาดระแวงไม่อยากไปไหนเลยอยากอยู่โรงแรมนาน ๆ แต่เค้าให้เช็คเอาท์ได้ 10 โมงหลังจากกินข้าวเช้ากันแล้วก็กลับไปตลาดปลา Tomari Fish Market ที่เราเคยไปวันแรกกันอีกครั้ง และไปช็อปปิ้งสินค้ามือสองกันที่ห้าง Manga Soko urasoe ได้ของติดไม้ติดมือกันมานิดหน่อย

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต



ตอนศึกษาข้อมูลเห็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งในเน็ตถ่ายรูปออกมาสวยมากชื่อ Umikaji Terrace Senagajima ตั้งใจมาจากบ้านเลยว่าที่นี่ต้องสวยมาก ไปดูภาพในเน็ตกันก่อน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต



พอไปเจอของจริงคือแดดแรงมาก ถ้าจะเข้าที่ร่มคือร้านอาหารซึ่งต้องเสียตังค์ถ้าอยากจะนั่งกินลมชิลๆ คือตากแดดไงคะ พวกเราก็เลยเลือกเข้าร้านนี้ค่ะ Luke's Lobster ราคาอาหารอยู่ที่ประมาณ 100 บาทขึ้นไปแต่คุ้มนะได้กินเนื้อลอปเตอร์ในราคาร้อยกว่าบาทเนี่ย



ก่อนที่จะเอารถไปคืน เราไปกันต่อที่ ASHIBINAA OUTLET อย่าเรียกว่ามาช็อปปิ้งเลย เรียกว่ามาหาที่นั่งรอเวลาขึ้นเครื่องดีกว่า ร้านเยอะแต่ของไม่มีอะไรที่ราคาว้าว จนน่าซื้อเลย เวลาประมาณ 5 โมงเย็นเราก็ไปคืนรถเช่าที่ OTS และไปรอเช็คอินที่สนามบิน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต



ที่สนามบินเราไปเข้าแถวซื้อโอนิกิริเจ้าดังอีกรอบ ซึ่งสาขาที่สนามบินจะอยู่โซนขาเข้าภายในประเทศ เดินไปไม่ไกลมาก แต่แถวก็ยังยาวมาก ซื้อกลับมากินที่ไทยก็ยังอร่อยเหมือนเดิม

จบทริปโอกินาวา ไว้ไวรัสซา ตัวเครื่องบินถูกเราเจอกันใหม่นะ

ขอบคุณที่เข้ามาชมรีวิวค่ะและขอบคุณภาพเจ้าของภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตด้วยค่ะ

Tharasaki

 วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.43 น.

ความคิดเห็น