ไ ป โ ด น ม า แ ล้ ว น ะ !! [ เ ข า ให ญ่ คี รี ธ า ร ทิ พ ย์ รี ส อ ร์ ท ]

หลบเมืองอันแสนจะวุ่นวายสักวัน มองหาที่พักแจ่มๆสักที่ เอาแบบไม่ไกลกรุงมากนัก ในที่สุดก็มาสะดุดและอยากจะไปโดน ที่เขาใหญ่คีรีธารทิพย์รีสอร์ท อ.ปากช่อง เห็นจากภาพในเว็บ นั่งดูข้อมูลมาสักพักใหญ่ๆแล้ว น่าจะเป็นที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการหนีเมืองไปซบไหล่ธรรมชาติและกอดสายน้ำ ได้วันและเวลาเหมาะเจาะ จึงรีบเก็บกระเป๋าสตาร์ทรถไปทันที

หากใครที่กำลังหาที่พักผ่อนไม่ไกลจากกรุงมากนักและมีแพลนอยากจะมาสัมผัสธรรมชาติและสายน้ำที่เขาใหญ่ ที่นี่ผมว่าก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเป็นของแถม ผมเองเดินทางมาที่เขาใหญ่หลายครั้งมาก แต่ส่วนใหญ่จะเลือกนอนเต็นท์เพื่อกินบรรยากาศ เพียงแต่ครั้งนี้อยากจะลองแหวกแนวของตัวเองดู แต่มันก็คุ้มสำหรับการมานอนเพียง1คืน

ติดตามการเดินทางของผมได้ที่ https://www.facebook.com/wanderaroundthailand

ที่พักที่ผมได้นั้นอยู่ติดกับลำธารพอดี พอมาถึงห้องอยากจะทิ้งตัวลงที่นอนทันที เพราะความบ้าของผมทำให้เดินทางมาถึงที่นี่ประมาณเกือบๆตี3 ฮ่าๆ ค่ำคืนนี้นอนแบบฟินๆเพราะมีเสียงลำธารไหลให้ได้ยินตลอดทั้งคืน

ที่พักที่นี่มีให้เลือกหลายแบบครับ ราคาก็แตกต่างกันออกไปแล้วแต่คนชอบ พื้นที่ภายในโรงแรมใหญ่มาก แต่ดีที่ผมได้ห้องที่อยู่ติดๆกับฟอนต์ เลยเดินไม่ไกล เอาหละ.. คืนนี้ขอพักผ่อนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาเก็บภาพเช้าแล้ววว เวลาผ่านไปเหมือนโกหก รู้สึกว่าตัวเองได้หลับเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เปิดประตูด้านหลังออกมาสูดอากาศ เห็นลำธารอยู่เบื้องล่าง แค่นี้ก็รู้สึกว่านอนเต็มอิ่มทันที อ้อ..ห้องที่ผมได้พักชื่อ "ริมธาร881" งวดหน้าออกแน่นอน ฮ่าๆๆ

บริเวณด้านหลังห้องพักที่มีระเบียงให้ได้ออกมาสูดอากาศยามเช้า แต่ช่วงหน้าหนาวน้ำที่ลำธารจะน้อยนะครับ แต่ถ้ามาพักช่วงหน้าฝน น้ำจะเยอะ แต่สีอาจจะดูไม่ใสเหมือนตอนนี้ฮ่ะ

หลังจากนั้นผมก็เดินตามเสียงน้ำมาเรื่อยๆ เก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พัก ก่อนจะอาหารเช้าจะเริ่ม จุดนี้คือจุดที่ผมเห็นภาพในเว็บมากที่สุด มีเรือคายัคให้แขกที่มาพักในพายเล่นด้วยครับ แต่บังเอิญผมตื่นเช้าไปหน่อย เลยยังไม่มีใครลงมาเล่น

ห่างกันไม่ไกลจะมีสะพานแขวนให้สามารถเดินข้ามลำธารได้ครับ และนี่เป็นอีกจุดที่ผมชอบมาก ที่เห็นอยู่ฝั่งนู้นจะเป็นลานกิจกรรมของทางรีสอร์ทที่จัดไว้สำหรับคณะที่มาเป็นกรุ๊ป

บางทีสิ่งที่มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วบวกกับสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเล็กน้อย มันก็สามารถทำให้ลงตัวได้อย่างบอกไม่ถูก

หลังจากนั้นไม่นานเสียงความหิวจากท้องอันน้อยๆของผมก็ดังขึ้น รีบเดินไปที่ห้องอาหารทันที เอาท้องให้อิ่มแล้วค่อยออกมาเดินเก็บภาพต่อ

ขนาดห้องอาหารยังมีลำธารไหลผ่าน แค่คิดว่ามีอาหารมาวางอยู่บนโต๊ะแล้วทานไปพร้อมๆกับชมลำธาร แค่นี้ก็ฟินแบ้วว^^

บรรยากาศรอบๆห้องอาหารครับ มีมุมให้ไปถ่ายภาพเยอะแยะ

และนี่คือหน้าตาอาหารเช้าของผมครับ จริงๆของกินมีให้เลือกมากมาย แต่ผมขอจัดเท่านี้พอ เพราะเป็นคนกินไม่เยอะครับ ^^ อยากรีบกินรีบเสร็จเพื่อออกไปเก็บภาพต่อ สายกว่านี้กลัวแดดจะมาเยือน

หลังจากอิ่มท้องเสร็จ ก็รีบออกมารัวซัตเตอร์เก็บภาพรอบๆรีสอร์ทต่อครับ อย่างที่บอกว่าที่นี่พื้นที่กว้าง คนแก่อย่างผมเลยออกอาการเหนื่อย ฮ่าๆ อาจจะได้ภาพไม่ครบทุกมุม แต่แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มสุดๆที่ได้เลือกมาพักครับ

เวลาเราอยู่ในสถานที่ที่เราชอบ เวลามักจะกลั่นแกล้งเราเสมอ มันชอบเดินเร็วอยู่เรื่อยเลย จริงม่ะ T-T

สำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสความเย็นของสายน้ำ ไม่ต้องห่วงครับ สามารถลงเล่นได้แบบสบายๆ น้ำน้อยกำลังพอดีครับ ใส น่าเล่นมาก

ยังคงเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆครับ พยายามเสพความสุขให้ได้มากที่สุด ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป ^^

และแล้วก็ได้เวลาที่ผมจะต้องร่ำลารีสอร์ทสวยๆแห่งนี้แล้วครับ อยากอยู่ต่ออีกสักอาทิตย์ ฮ่าๆ สำหรับใครที่ได้อ่านรีวิวแล้วอยากจะลองมาโดนแบบผมบ้าง ก็มาสัมผัสได้เลยครับ ธรรมชาติที่อยู่กับผู้คนและสิ่งก่อสร้างที่ลงตัว ที่พักอาจจะอยู่ลึกหน่อยจากปากทางถนนธนะรัตน์ก่อนขึ้นเขาใหญ่ แต่มันก็ทำให้ผมได้รู้ว่ายิ่งอยู่ไกลแค่ไหน ธรรมชาติสวยๆมักจะซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นเสมอ

การเดินทางมายังรีสอร์ทนั้นไม่ยากครับ ขับรถตรงเข้ามาตามถนนธนะรัตน์ หลักกิโลเมตรที่14 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่มีป้อมตำรวจหมูสี ตรงเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะเจอกับวงเวียน ให้เวียนเลี้ยวขวาแล้วตรงตามเส้นทางมาประมาณ7-8 กม. ก็จะเจอทางเข้ารีสอร์ทที่มีช้าง2ตัวยืนเฝ้าอยู่ฮ่ะ

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณเขาใหญ่คีรีธารทิพย์รีสอร์ทและคุณโบที่ให้การต้อนรับทีมงานสะพายเป้เตร่ทั่วไทยเป็นอย่างดีและเปิดโอกาสให้ได้มาสัมผัสความเป็นธรรมชาติของที่นี่ หากรีวิวนี้มีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะครับ