เขาโมโกจู ฉบับ 4วัน 3คืน สักครั้งในชีวิตการเดินเขา (ไปเองไม่ได้ 55) 7B

ถือเป็นจุดหมายของนักเดินเขาหลายๆคน "โมโกจู ณ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์" จังหวัด กำแพงเพรช เป็นเขาที่ไม่ใช่ทุกคนอยากจะไปแล้วได้ไปเพราะว่าการจองและการจำกัดคนขึ้นเขาในการละปีค่อนข้างยากและจำกัด นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมการไปเขาโมโกจูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รวมทั้งเมื่อจองได้แล้วก็ต้องเจอกับระยะการเดินที่ยาว ถ้าเป็นปกติจะเดินกันประมาณ 30 km ไปกลับก็ 60 km กว่าแล้ว แต่ในครั้งนี้เนื่องจากมีภัยแล้งเข้ามาจึงลดระยะทางลงไป 16 km ในช่วงแรก

การเดินทาง

กทม - อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

เดินเขา

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ - แคมป์แม่ประสา - แคมป์แม่เรวา - (น้ำตกแม่เรวา) - แคมป์ตีนดอย - ยอดเขาโมโกจู

** อยู่ในภาพที่ 3 นะรายละเอียดเดินทาง

การจอง

การจองต้องรอติดตามเพจอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ในทุกๆปี จะเปิดจองประมาณต้นเดือนตุลาคม ทั้งนี้ก็แล้วแต่ปีด้วยนะ

วิธีการจองจะต้องส่งอีเมลตามตารางของอุทยานที่ส่งมาให้ โดยทางอุทยานจะยึดจากเวลาที่ส่งอีเมลเข้าไปถึงตามเวลที่อุทยานกำหนด เช่น 12.00.01 บ้างวันที่คนเยอะๆ เขาแข่งกันเป็นเสี้ยววิเลยทีเดียว

ช่วงเวลา ปี 2019 ปลายตค. - มค. โดยมีทั้งหมด 10 ทริป ทริปละ 3 กลุ่ม

** โชคดีที่พี่ในกลุ่มส่งได้ ไม่งั้นอดไปแน่ๆเลย และถ้าได้ไปอีกนี่คงโครตๆยาก 55

ค่าใช้จ่าย

ตามที่อุทยานแจ้งไว้ต่อกลุ่ม และค่าอาหาร

โดยกลุ่มเราตกประมาณ 2492 บาทต่อคน

** ภาพที่ 2

- ร่างกายต้องพร้อม ถ้ามีประสบการณ์การเดินเขาจะดีมาก ไม่เหมาะสมหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเดินเขา

- อุปกรณ์การเดินเขา สามารถใช้เต็นท์หรือเปลก็ได้

- ห้องน้ำที่แคมป์แม่กระสาและแคมป์แม่เรวา โอเคอยู่ แต่แคมป์ตีนดอยต้องหาเอาเองนะ

- ช่วยกันรักษาธรรมชาติด้วยนะ เรื่องขยะ เนื่องจากที่นี่เป็นป่าปิดปกติไม่ค่อยมีการรบกวนจากมนุษย์อยู่แล้ว เราเข้าไปก็ช่วยกันดูแลด้วยนะ

#เขาโมโกจู #โมโกจู #อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ #theonismjourney #ไปเองก็ได้

- จำนวนสมาชิก 12 คนต่อกลุ่ม โดยทางอุทยานได้กำหนดจำนวนไว้แล้ว ประมาณนี้

- ค่าใช้จ่าย

กลุ่มละ 16,000 บาท (จ่ายให้กับอุทยาน รายละเอียดสามาเข้าไปดูได้ในเพจ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์นะ)

อื่นๆ ค่าลูกหาบ ของกิน อื่นๆ

ค่าลูกหาบ 600 บาท/วัน/คน แบกสัมภาระไม่เกิน 20 กิโล/คน/วัน แแต่ละกลุ่มใช้ลูกหาบได้ไม่เกิน 3 คน/กลุ่ม

อาหาร ต้องเตรียมเองทุกมื้อ โดยต้องรวม สมาชิกในทีม เจ้าหน้าที่กลุ่มละ 2 คน และลูกหาบ

รวมแล้วกลุ่มเราตกคนละ 2492 บาทต่อคน

- จำนวนวันเดินทางโดยเริ่มจากอุทยานทั้งหมด 4 วัน 3 คืน แต่ถ้าไม่รวมเดินทางด้วยให้เผื่อ ไว้ 5-6 วัน

ระยะทางการเดินเขาโมโกจู (4 วัน 3 คืน)

- วันที่ 1 เริ่มจาก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ - แคมป์แม่ประสา - แคมป์แม่เรวา - น้ำตกแม่เรวา

โดยปีนี้เราไม่ได้เดินช่วงแรก 16 km เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทำให้ไม่สามารถเดินได้ เราจึงต้องนั่งรถอีแต๊กขนาดใหญ่เข้าไปแทน ประมาณ 2 -3 ชั่วโมง ทำให้ลดระยะทางเดินไปเยอะเลย จากนั้นพอมาถึงแคมป์แม่กระสาก็พักกินข้าวเที่ยงและเดินยาวไปแคมป์แม่เรวา 4 km พอถึงแคมป์พักผ่อน กางเต็นท์สักพัก ก็ออกเดินไปน้ำตกแม่เรวา

รวมเดินไปประมาณ 10 km สำหรับวันนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทางราบ

- วันที่ 2 แคมป์แม่เรวา - คลอง 1 - คลอง 2 แคมป์ตีนดอย

สำหรับการเดินวันนี้เป็นทางชันล้วนๆ 8 km หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันสำหรับการเดินขึ้นเขาพร้อมกับน้ำหนักของเเป้แบบหนักของเรา เป็นการเดินตั้งแต่เช้าจึงถึงแคมป์ประมาณ บ่ายแก่ๆเลยทีเดียว ตอนเย็นก็เดินไปดูพระอาทิตย์ตกบนยอดโมโกจูอีก 1 km

วันนี้เดินประมาณ 10 km แต่มันช่างแตกต่างจากเมื่อวานจริงๆ

- วันที่ 3 พระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขา - แคมป์ตีนดอย - แคมป์แม่เรวา - (แคมป์แม่กระสา)

ตื่นเช้ามาเราก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและรีบกลับมาเก็บของเพื่อเดินลง โดยทีมเราตั้งเป้าว่าจะลงไปพักที่แคมป์แม่กระสาเลย จึงทำให้ต้องทำเวลาเหมือนกัน ไม่งั้นเย็นหรือมืดจะทำให้เดินลำบากรวมทั้งมีสัตว์ป่า ค่อนข้างอันตราย จึงยิงยาวประมาณ 12-13 km เลย เจ็บทางเอาเรื่อง ตอนลงก็คิดว่าตัวเองขึ้นไปได้ไงทางชันมาก 55

** วันนี้กลุ่มไหนไม่อยากรีบมากก็พักที่แคมป์แม่เรวาก่อนก็ได้นะ

- วันที่ 4 (แคมป์แม่เรวา) - แคมป์แม่กระสา - อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

วันนี้เราก็ชิวๆเพราะมารอแคมป์ที่แม่กระสา รอขึ้นรถกลับอย่างเดียว ถึงอุทยานประมาณเที่ยงๆ

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

เป็นอุทยานที่มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดที่ทางอุทยานและเจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลรักษาไว้ ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คงเป็นเสือ ที่มีจำนวนมากติดอันดับต้นๆของประเทศเลยและมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ถือเป็นจุดชี้วัดความอุดสมบรูณ์ของธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

ใจจริงๆก็อยากเห็นเสือในป่าสักครั้ง แต่อีกใจก็ไม่อยากเห็นเหมือนกัน 5555 แปลกๆนะ แต่ทริปนี้ขากลับเราได้เห็นซากกระทิงที่เสือได้ล่าเอาไว้ ถึงจะไม่ได้เห็นตัวเป็นๆ แต่เท่านี้ก็ดีแล้ว ฮ่าๆ

เตรียมของกัน อยู่หลายวันของก็จะเยอะหน่อย

สิ่งนึงที่ยากสำหรับทริปนี้ก็คือเรื่องอาหารที่ต้องเตรียมนี่แหละ ถ้าไม่ได้มากับพี่ๆในกลุ่มที่มีประสบการณ์ รวมทั้งโชคดีมากมีพี่เซฟประจำกลุ่มอยู่ 1 คน ชีวิตการเดินป่านี่อิ่มทุกมื้อจริงๆ 55555 ไม่เคยขาดสักมื้อจริงๆ

วันที่ 1 มื้อค่ำ วันที่ 2 3 มื้อ วันที่ 3 3 มื้อ วันที่ 4 มื้อเช้า

ทั้งหมด 8 มื้อ

สมาชิกทุกคนต้องผ่านการปฐมนิเทศในห้องประชุมอุทานแห่งชาติแม่วงก์ พี่เจ้าหน้าที่ก็จะพูดเกี่ยวกับประวัติของอุทยานต่างๆ ชี้แจ้งในเรื่องต่างๆ รวมถึงตรวจสอบสภาพร่างกายโดยสอบถาม และความพร้อมของแต่ละกลุ่ม รวมทั้งข้อควรระวังต่างๆ ต้องเชื่อพี่เจ้าหน้าท่ทุกท่านนะ เพราะว่าหากเป็นอะไรขึ้นมาระหว่างเดินเขาจะค่อนข้างลำบากและอันตรายเพราะระยะทางค่อนข้างไกล

ข้าวหมูกระเทียม ตอนเข้า วันที่ 1

นั่งรถอีแต๊กขนาดใหญ่เข้าไปที่แคมป์แม่กระสาระยะทาง 16 km ที่นั่งก็จะอบอุ่นกันแบบนี้ฮ่าๆ

ระหว่างทางก็จะมีทางชันบ้าง ทางลงบ้าง ก็ต้องลงไปขยับร่างกายกันหน่อย

แคมป์แม่กระสา อีกกลุ่มรถเร็วมากมาถึงก่อน

ตะกร้าที่แบกของของพี่ลูกหาบ

เริ่มเดินทางที่แคมป์แม่กระสา - แคมป์แม่เรวา

พี่เจ้าหน้าที่ที่ค่อยดูแลกลุ่มเรา

ตัดภาพมาที่น้ำตกแม่เรวาเลย ในภาพอาจดูเล็ก แต่น้ำตกจริงๆใหญ่เหมือนกันนะ แต่ตอนที่ไปเป็นฤดูหนาวจึงไม่ค่อยอยากลงน้ำเท่าไหร่ 555 มันหนาว

หินเรือใบ ยอดเขาโมโกจู

ตัดภาพมาที่หินเรือใบเลยนะ ระหว่างทางเดินอย่างเดียวไม่ได้สนใจอะไรเลยทางมันโหดอยู่ 55 ก็นะเรามาที่นี้เพื่อหินเรือใบก้อนนี้เลย ตอนแรกที่อยากเริ่มเดินเขาก็เพราะเห็นภาพที่โมโกจูนี้แหละ ทำให้อยากเดินเขามันถือเป็นจุดหมายนึงที่ต้องมาสักครั้งให้wfhเลยจริงๆ ด้วยระยะทางการเดินและความยากในการจอง ทำให้ยิ่งอยากมา สุดท้ายก็ได้มา จุดหมายก็สำคัญแหละ แต่ที่เราชอบก็คงเป็นระยะทางที่เรามานี้แหละ  

น่าเสียดายที่ตอนที่ไปเรายังถ่ายรูปดาวไม่เป็นทำให้ไม่ได้ซ้อนรูปหรือศึกษาเวลาที่ถูกมาจึงทำได้แค่เท่านี้ อีกอย่างข้างบนมืดมากเดินก็ระหว่างๆหน่อยนะ กล้องเกือบลงไปข้างล่างแล้วด้วย !! อันตรายจริงๆ

แล้วหลังจากนี้ผมจะไปเขาไหน ติดตามได้ที่ ไปเองก็ได้ - The Onism Journey

ปีนี้เคยไปแล้วหรือจองได้ปีนี้ บอกกันด้วยนะประสบการ์ณจองไปที่เขาโมโกจู

ไปเองก็ได้ - the onism journey

 วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 21.43 น.

ความคิดเห็น