ในอำเภอเมืองกาญจนบุรี มีโรงแรมที่พักให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ราคาประหยัดจนถึงราคาสูง แต่โรงแรมส่วนใหญ่จะอยู่ติดริมแม่น้ำแคว เน้นวิวแม่น้ำ แต่วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับอีก 1 ที่พักที่ไม่ติดแม่น้ำแต่วิวดีมากๆ Inchantreedoopool
โรงแรม Inchantreedoopool หรือ อินจันทรีดูภู ตั้งอยู่ในริมถนนอินเดีย ซึ่งเชื่อมระหว่างถนนแสงชูโตและถนนแม่น้ำแคว ทำให้สามารถเข้าที่พักได้จากทั้ง 2 ฝั่ง สะดวกมากๆ
ถนนอินเดียซึ่งจริงๆน่าจะเป็นซอยมากกว่าเพราะค่อนข้างเล็ก เข้ามาได้เกือบจะกลางซอยก็จะเห็นอาคารโรงแรมส่วนที่จอดรถจะอยู่ฝั่งตรงข้ามจอดรถได้ประมาณเกือบ 20 คัน
จอดรถเสร็จเดินข้ามถนนก็เจออาคารโรงแรม ตัวโรงแรมประกอบไปด้วย 2 อาคารด้านหน้าเป็นอาคารแบบชิโนโปรตุกีสออกย้อยยุค กับอาคารด้านหลังที่เป็นแบบ loft เน้นความธรรมชาติของวัสดุ เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ด้านหน้าเป็นคาเฟ่ที่ดูย้อยยุคตั้งแต่ป้ายร้านเลย ถึงจะไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถมานั่งจิบชากาแฟได้ บรรยากาศด้านหน้าร่มรื่นดีทีเดียว
เข้ามาส่วนต้อนรับซึ่งก็เชื่อมต่อจากส่วนคาเฟ่ จะเข้าจากด้านหน้าเลยหรือจะเข้าจากคาเฟ่ก็ได้ ด้านในพื้นที่ต้อนรับตกแต่งแบบเก่าผสมใหม่ได้อย่างลงตัว ด้านหนึ่งเป็นที่นั่งคอยที่ด้านหลังเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้ได้แสงธรรมชาติและความร่มรื่นของต้นไม้ด้านนอก เพดานตกแต่งด้วยไม้ไผ่สวยงามมาก ช่องทางเดินที่อยู่ด้านในสุดเป็นตัวเชื่อมระหว่างความเก่ากับความใหม่ของทั้ง 2 อาคาร
อาคารห้องพักสูง 5 ชั้นไม่มีลิฟท์บริการ เดินขึ้นเดินลงอาจจะเมื่อยๆหน่อย การตกแต่งเน้นความดิบของวัสดุเช่นปูนเปลือยและท่อนไม้ไ่ผ่ ซึ่งถ้าเช้าวันใหนแดดดีๆ ท่อนไม้ไผ่นี้จะทำให้เกิดเงาที่เป็นลวดลายสวยงามด้านหน้าห้อง แต่วันที่ผมไปฟ้าครึ้มอดครับผม
เข้ามาในห้องพัก ยังตกแต่งแบบ loft เน้นความดิบของวัสดุเหมือนภาพรวมของอาคาร ห้องใหญ่มากและตกแต่งสวยงามมากถ้าเทียบกับราคา 1500 บาท/คืน ในช่วงที่ผมไปพัก(ปลายเดือน พ.ค.) ในห้องพักเน้นความเรียบง่าย ห้องเลยจะดูโล่งๆ แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบถ้วน
ด้านในสุดของห้องเป็นกระจกบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้อย่างดี แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เป็นวิวอยู่ด้านนอก ตรงระเบียงมีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนฟังเสียงนกได้ครับ
WIFI ของที่นี่อาจจะไม่ถึงกับแรงปรู้ดปราดดู Netflix ระดับ full HD อาจจะไม่ค่อยไหว แต่ถ้าใช้งาน social media ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆครบถ้วนเช่น ตู้เซฟ ตู้เย็น ขนมเครื่องดื่มก็มีให้พร้อม
ห้องน้ำอยู่ด้านหน้าของห้อง ขนาดพอประมาณ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานในห้องครบถ้วน พื้นที่อาบน้ำติดกับห้องพัก เป็นบานกระจกบานใหญ่มองเห็นที่นอนได้ แต่ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นก็ปิดมู่ลี่ได้
เดินขึ้นมาที่ชั้น 5 ขาลากเล็กน้อยจะเจอห้องพูล และมีพื้นที่นั่งเล่นดูวิวได้ จากชั้น 5 เห็นวิวได้ไกลพอสมควร
เสียดายว่าตอนที่ไปถึง ฝนชุดใหญ่กำลังตั้งเค้ามาอดเล่นน้ำเลย นี่คือที่มาของชื่อโรงแรม Inchantreedoopool หรือ อินจันทรีดูภู ซึ่งเป็นการประกอบกันของ อินจันทรีหรือต้นอินจันที่อยู่ในพื้นที่ของโรงแรมกับคำว่า doo pool แปลว่าดูสระว่ายน้ำ ไปพ้องเสียงกับคำว่า ดูภู หรือ ดูภูเขา
วิวจากสระว่ายน้ำของที่นี่มองได้ไกลเห็นฝนตั้งเค้ามา และเห็นภูเขาที่ไกลออกไป ถ้าวันใหนแดดดีๆ ฟ้าใสๆ วิวบนนี้สวยไม่แพ้ใครแน่นอน
สระว่ายน้ำขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก ผมว่าน่าจะเน้นแช่น้ำดูวิวมากกว่าการว่ายน้ำออกกำลังกายเป็นเรื่องเป็นราว
ลงมาที่ชั้นล่าง เป็นคาเฟ่ที่มีมุมให้เลือกนั่งได้หลายมุม ทั้งแบบกึ่งกลางแจ้งและห้องปรับอากาศด้านใน การตกแต่งยังเน้นความดิบบวกกับเฟอร์นิเจอร์ย้อยยุค ทำให้ดูอบอุ่นสบายๆ ด้านหลังเป็นแนวต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้เพิ่มสีเขียวทำให้กำแพงอิฐไม่โล่งจนเกินไป
ซุ้มกาแฟแบบย้อนยุค มีภาพเก่าๆและของเก่าๆวางไว้หลายชิ้น สั่งกาแฟนั่งทานได้ตามสบายครับ
อาหารเช้าของที่นี่จะเลือกไว้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน มี 3 แบบคือ ปิ่นโต style, Asian style, Western style ผมเลือกแบบปิ่นโตซึ่งเป็น signature ของที่นี่ แฟนเลือก Asian
เครื่องดื่มมาเป็นเถา ทีเด็ดอยู่ที่ชาไทยที่มาพร้อมกับช้อนนำความร้อน ซึ่งใครเคยกินชาหรือกาแฟแบบย้อยยุคจะรู้ว่าช้อนที่แช่มาในแก้วแบบนี้อย่าจับเชียว สะดุ้งเอาง่ายๆ
อาหารเช้าแบบ Asian เป็นข้าวต้ม ไข่เค็ม กุนเชียง และปาท่องโก๋ ส่วนแบบปิ่นโตเปิดมาเจอข้าวหมูทอด ไข่เจียว ต้มจืดและปาท่องโก๋ กินหมดนี่ก็อิ่มยาวอยู่นะครับ
ถ้าเบื่อที่พักริมแม่น้ำแคว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาที่นี่ มานั่งแช่น้ำดูวิวภูเขา สัมผัสการออกแบบอาคารแบบผสมผสานระหว่างความคลาสสิคกับความทันสมัย มุมถ่ายรูปเยอะมากสำหรับคนชอบถ่ายรูป โดยภาพรวมถ้าเทียบกับราคาที่ได้ถือว่าถูกมากครับ
Pratuneung
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.15 น.