เกาะเต่า เกาะที่ใครหลายคนได้ยินชื่อและรู้จักเป็นอย่างดี เเต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ซึ่งเราก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น จริงๆ เราตั้งใจที่จะไปเกาะเต่ามานานตั้งเเต่ปีที่เเล้ว เเต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที ตอนต้นปีเราเลยจองคอร์สเรียนดำน้ำกับ Ban's Diving ไว้ เพราะมีพี่ที่รู้จักเป็นครูสอนที่นี่ เลยอยากจะไปเป็นสาวดำน้ำ คิดภาพว่าชั้นจะได้ว่ายน้ำข้างๆน้องจุด ฉลามวาฬแบบสวยๆ ช่วงเดือนเมษา เเต่ดันต้องอยู่บ้านไหว้น้ำชากับเจ้าที่เเทน พอต้นเดือนปลดล็อคปุ๊บ ก็รีบลากแฟนพุ่งมาที่นี่ปั๊บ อยู่เกาะแบบ 7 วัน 6 คืนเเน่นๆ 

ข้อดีของการมาเที่ยวหลังโควิดคือ ที่พักบนเกาะลดถูกมาก คนก็ไม่เยอะ ไม่ต้องกลัวเเน่น เที่ยวแบบNew Normal เรามั่นใจว่าเราเที่ยวได้ปลอดภัยเเน่นอน เเค่พกหน้ากาก พกเจลล้างมือติดตัวตลอด ไปถึงเกาะก็วัดไข้ กรอกข้อมูลว่าไปพักที่ไหน ทางเกาะเต่าเองคือมีมาตรการอย่างดี

Day 1 ตอนนั้นขาไปต้องนั่งเครื่องบินมาลงสุราษฎร์ฯ เพราะชุมพรยังไม่เปิด เลยต้องจำใจนั่งเรือกว่า5ชั่วโมงจ้า จากสนามบินก็นั่งรถไปที่ท่าเรือตาปี ตอนนั้นมีเเต่เรือลมพระยาที่ให้บริการ ก็โทรเช็คจองที่นั่งไว้ล่วงหน้าก่อน พอมาถึงที่ท่าเรือค่อยจ่าย ตอนซื้อตั๋วจ่ายเงินเราต้องแสกนลงทะเบียนไว้ด้วยว่าไปพักที่ไหนบนเกาะเต่า เที่ยวแบบ New normal อ่ะเนอะ วัดไข้ก่อนขึ้นเรือ ใส่หน้ากากตลอด เป็นเรือสปีดโบ้ทด้วยจ่ะ นั่งกระเเทกคลื่นน้ำสาดกันไป ออก 11 โมง ถึงเกาะประมาณ 4 โมงได้ อยากบอกว่าถ้าไปทางชุมพรได้ ก็ไปจากชุมพรเถอะ จริงๆ เพราะทางนี้เหนื่อยมาก พอลงเรือมาก็ต้องโชว์กับเจ้าหน้าที่ว่าเราลงทะเบียนเเล้วนะก่อนไปที่พัก ตรวจเหมือนด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินเลย


ถึงเกาะเเล้วเราก็ต้องพักก๊อนนน คืนเเรกกับคืนที่สองพักที่ Blue Tao Hotel ที่พักสร้างใหม่ ติดทะเลบนหาดทรายรี ตอนนั้นลดเหลือคืนละประมาณ 2,000-2,500 บาทเท่านั้นแล้วเเต่ห้อง ห้องด้านล่างจะมีที่นั่งตาข่ายยื่นออกไปนั่งชมวิว ส่วนห้องด้านบนจะเป็นระเบียงธรรมดา

พอตอนเย็นหายเหนื่อยเเล้วก็ออกมาเดินเล่นรับลมทะเลชิวๆ ที่หาดทรายรี ปกติหาดนี้จะคนเยอะมาก เเต่ช่วงนั้นมีเเต่คนที่อยู่บนเกาะ บรรยากาศดีเงียบสงบมากจ้า คนก็พาน้องหมาออกมาเดินเล่น เห็นเเล้วเอ็นดู

Day 2 เติมพลังมื้อเช้ากันที่ The Factory cafe  เป็นร้านVegan มีเมนู Acai Bowl ด้วย จริงๆ อยากกินอโวคาโด เเต่หมดอดกิน


วันนี้เป็นวันเเรกที่เริ่มเรียนดำน้ำ เเต่ก่อนเรียนเราก็ต้องไปเที่ยวก่อนจะได้มีกำลังใจเรียน
ช่วงสายๆ ประมาณ 11 โมง ก็เลยไปตะลุยเกาะนางยวนก่อนจะเที่ยวเกาะเต่าเลย พึ่งมาถึงยังมีเเรงเที่ยวได้เยอะ เรานั่งเรือไปคนละ 200 บาท พอถึงเกาะจ่ายค่าขึ้นเกาะคนละ 20 บาท มองไปที่หาดคือเเทบไม่มีคนเลยจ้าาา เหมือนได้เกาะส่วนตัว มีฝรั่งอยู่ไม่ถึงสิบคน มันเริ่ด!

แนะนำว่าพอไปถึงให้เดินขึ้นไปจุดชมวิวก่อน เพราะมันร้อนและเหนื่อยมาก 

พอเดินๆ ปีนๆ ขึ้นไปถึงตรงหินนี่คือเเดดเปรี้ยง พร้อมไหม้ เเต่วิวคือคุ้มอ่ะ เดินขึ้นไปเถอะ มุมหากินที่คนเค้าถ่ายกันคือนั่งที่หิน นี่ก็อ่ะลองนั่ง ไม่ถึง 1 วิแกเอ้ยย ลุกเด้งทันทีโดยอัตโนมัติ หินร้อนมากเเม่!! ละใส่ขาสั้นด้วย เราก็เลยแก้ปัญหาด้วยการเอาของเอากระเป๋าอะไรไปวางตรงตำแหน่งที่เราจะนั่งละก็ไปยืนถ่ายรูปมุมอื่นไปก่อนค่ะ จบ 

ระหว่างถ่ายรูปอยู่ดีๆ มีผู้ฝรั่งคนนึงปีนขึ้นมา มองลงไปที่เท้าคือไม่ใส่รองเท้าด้วย ปีนขึ้นมาเท้าเปล่าอ้ะ ละก็ก้าวเท้าเปล่านั้นปีนหินขึ้นไปสูงกว่าชั้นอีก ยืนอึ้งไปเลย สุดยอดมาก 

พอเดินลงก็มาพักสั่งข้าวเที่ยงกิน กระเพรา ข้าวผัดว่ากันไป พักเสร็จก็เดินไปอีกฝั่ง เอาหน้ากากกับฟินที่เเบกมาลงไปดำSnorkeling เเค่ว่ายตรงหาดประมาณเอวก็เจอปลานกแก้วเยอะมากเเล้ว ปะการังสีสันสดใส ปลาเล็กปลาน้อยอุดมสมบูรณ์มาก ธรรมชาติคงได้พักช่วงที่เกาะไม่มีคน ฟื้นฟูให้เราได้ชมสิ่งสวยงามพอเสร็จเเล้วก็ข้ามกลับมา ช่วงเย็นก็มาเริ่มเรียนทฤษฎี ดูวีดีโอกันก่อน และก็จะมีหนังสือมาคนละเล่ม ให้รู้จักอุปกรณ์ สกิลต่างๆ เรียนสบายๆไม่ยาก

Day 3 ช่วงเช่าเราเรียนทฤษฎีในหนังสือ วันนี้ขอครูเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนกันที่ Baan Talay คาเฟ่และร้านอาหารใหม่  ที่มีจุดชิววิวหลักล้านมองเห็นทั้งอ่าวลึก นั่งรับลมเย็นๆ บรรยากาศทีมากๆ แดดมาก็ไม่ร้อนเลย

มื้อเที่ยงเรามาฝากท้องที่ร้านข้าวหน้าเป็ด 995 ดั๊ก อร่อยสมคำร่ำลือ น้ำจิ้มเด็ดจิง ให้เยอะด้วย มาเเล้วต้องกินจริงๆ

พอช่วงบ่ายก็เรียนปฏิบัติ กลับมาลงสระกันต่อ อันดับเเรกต้องสอบว่ายน้ำ โชว์ครูว่าเรามีพื้นฐานการว่ายนะ พอเวลาเรียนจะมีครูพี่เอกซ์เป็นคนสอน เรากับแฟนเป็นบัดดี้กัน ละก็จะมีครูผู้ช่วยประกบ ในสระคือเรียนการฝึกใช้อุปกรณ์จริง ลองหายใจกับอุปกรณ์ ฝึกเคลียร์หู อันนี้สำคัญต้องทำตลอดเพื่อลดความกด และก็ทำสกิลต่างๆ อย่างเช่น ช่วยเพื่อน เคลียร์หน้ากาก (เหมือนจะไม่ง่ายเเต่ก็ไม่ยาก)


หลังเรียนเสร็จตอนเย็นก็ไปเดินเล่นบนหาดทรายรีอีก ครั้งนี้เดินไปเรื่อยๆ จนถึง Lotus bar รู้ว่าร้านไม่เปิด เเต่เดินไปเพื่อดูต้นมะพร้าวที่ยื่นออกมาริมหาด

ริมหาดจะมีจุดที่เค้าเล่น Skimboard กันด้วย เลยนั่งดูเค้าเล่นกัน มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ฝึกเล่นกัน จริงๆ มีให้เรียนด้วยนะ สาวๆ ก็มาหัดเล่นได้เหมือนพี่คนนี้

เจ้าตัวนี้เป็นน้องหมาประจำหาดที่จะคอยจ้องหาปูหาหอยอยู่ตลอด เจอทุกวันก็จ้องทุกวัน

มื้อเย็นวันนี้ไปฝากท้องที่ร้าน Hippo Burger Bistro เบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดบนเกาะเต่า เมนู Hungry Hippo คือเริ่ด ไก่ทอดก็อร่อย

ลืมไป วันนี้เราย้ายมานอนห้อง Suite ที่ Ban's Diving resort เพราะเรียนดำน้ำลงสระที่นี่จะได้สะดวก อยู่ที่หาดทรายรีใกล้กับที่เดิมเลย ห้องกว้างนอนสบาย ส่วนใหญ่คนที่เรียนดำน้ำก็จะนอนที่พักของโรงเรียนเพราะมันสะดวกทุกอย่าง

Day 4 ดำน้ำไดฟ์เเรกในชีวิต ลงทะเลจริงกับความลึกประมาณ 12 เมตร ตื่นเต้นมากจ้าเเม่ ตรงนี้ขอเล่าเยอะหน่อย เราต้องตื่นเเต่เช้าประมาณ8โมงเอาอุปกรณ์ นั่งเรือเล็กออกไปต่อเรือใหญ่ บนเรือจะมีถังวางไว้ ก็จะเเบ่งโซนกัน เพราะมีไปหลายกลุ่ม ครูก็จะสอนอีกครั้งและก็ให้เราลองใส่อุปกรณ์กับถังอะไรเอง

พอถึงจุดดำน้ำที่ Mango Bay ครูกระโดดลงน้ำไปก่อน เราทำใจอยู่นานกว่าจะกล้ากระโดดลงจากเรือ เเต่พอลงไปลอยตัวบนผิวน้ำ ทำใจให้สบายมันก็ปกติละแก ครูให้เราอยู่ข้างหน้า ละก็ให้บัดดี้ ซึ่งก็คือแฟนเราตามหลัง และครูผู้ช่วยอยู่หลังสุด

พอเริ่มครูพี่เอกซ์ก็บอกให้ปล่อยลมค่อยๆ ไต่เชือกลงไปพร้อมกับเคลียร์หูตลอด ลงไปได้ไม่กี่เมตรเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นก็ได้เกิดขึ้น เพราะเรามีลืมไปหายใจทางจมูก และรู้สึกว่ามันเเสบจมูก เหมือนหน้ากากหลวมน้ำเข้า เลยทำสัญลักษณ์มือบอกครูว่าไม่โอเคละก็ชี้ไปที่หน้ากากประมาน2รอบได้ ครูก็เลยให้เรากับบัดดี้ไต่เชือกขึ้นมาผิวน้ำก่อน พอปรับหน้ากากเสร็จโอเคละก็ค่อยๆ ไต่ลงไปใหม่อีกรอบ 

เราคนเเรกเหมือนเดิม ก็ไต่ไปถึงพื้นทะเลละ แอบหันไปมองบัดดี้ อยู่ดีๆ บัดดี้ชั้นก็เรียกครูพี่เอกซ์พร้อมทำสัญลักษณ์มือไม่โอเค พี่แกก็คงถามว่าเป็นอะไรอยู่ซักแปป นางก็ชี้นิ้วขึ้นอย่างเดียว พี่เอกซ์เลยพาขึ้นไปผิวน้ำ ละให้ชั้นรออยู่ข้างล่างกับครูผู้ช่วย รอได้สักพักพี่เอกซ์ก็กลับลงมาพร้อมบอกไปกันต่อ เเต่ไร้วี่เเววบัดดี้ สรุปก็คือบัดดี้เทจ่ะ เทกลางทะเลแบบไม่บอกไม่กล่าว ให้ชั้นดำต่อคนเดียว ทำสกิลคนเดียว จนจบไดฟ์ 


พอไดฟ์2 ให้ลองลงอีกรอบก็ไม่รอดขอขึ้นอีกค่ะ ชั้นยังคงต้องดำคนเดียวต่อ ไดฟ์นี้เจอน้องกระเบนแอบหลับอยู่ในบ้านด้วย ขึ้นเรือมาก็ถามละคุยกัน สรุปก็คือ ในน้ำไม่ใช่ทางของนาง พร้อมบอกคติประจำใจ ไม่ไหว...อย่าฝืน ได้ยินคำนี้เเล้วจบค่ะ เเต่เราก็ไม่บังคับแหละ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใจ พอกลับมาฝั่งก็เอาข้อสอบมาทำเทสกันต่อ


Day 5 วันนี้ตื่นเช้าไปดำอีก 2 ไดฟ์ เเต่ละไดฟ์ก้จะไม่เหมือนกับวันก่อน วันนี้ลึกประมาณ 18 เมตร เเน่นอนว่าก็มาดำคนเดียว บัดดี้นอนอยู่ห้องจ่ะ พอเป็นวันที่ 2 เลยปรับตัวได้เยอะขึ้นและรู้สึกว่าดำได้แบบชิวๆเลย คงเป็นเพราะได้หน้ากากดีที่พี่เอกซ์ให้ยืมด้วย เลยไม่ต้องเคลียร์หน้ากากบ่อย 

วันนี้ดำแล้วเจอเจ้าเต่า เจ้าปลาวัว เจ้าปลาสาก หรือที่เรียกว่า Barracuda มาเป็นฝูงเลย เห็นเเล้วหิวทันที เพิ่งจะกินไปเมื่อวันก่อนอร่อยมาก เสียดาย ไม่ได้เจอน้องจุด ดวงไม่เคยมีกับเค้าจิงๆ เดี๋ยวต้องมาแก้ตัวใหม่

สรุปก็ได้เป็นสาวดำน้ำ จบคอร์ส Open Water สวยๆ ชั้นดำน้ำเป็นเเล้ววว เย่ สำหรับคนที่เรียนไม่จบจ่ายเเค่ครึ่งนึง เเล้วกลับมาเรียนต่อได้เมื่อใจพร้อมนะ 

วันนี้เราย้ายไปนอน Pool Villa บ้านส่วนตัวมีสระว่ายน้ำพร้อมวิวอลังการที่ Cape Shark Villas แนะนำให้ซื้อของซื้อขนมติดไปเยอะๆ เพราะมีครัวให้ทำอาหารกินเอง เหมาะไปกับแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวมาก


Day 6
เป็นเช้าที่ได้ตื่นสาย นอนสบายมาก ตื่นมาทำอาหารเช้ากินกันเอง เสร็จเเล้วก็ติดรถโรงเเรมไปลงที่หาดเทียน เพื่อจะไปดำSnorkeling เค้าบอกว่าหาดนี้มีลุงเต่าตัวใหญ่เจ้าประจำอยู่บริเวณนี้ช่วงเช้ากับเย็น เราก็อยากไปเจอ เเต่พอเดินลงไปถึงที่หาดปรากฏว่าน้ำลงเยอะมาก พยายามจะดำออกไปเเต่มันตื้นและมีพวกปะการังกับปลิงทะเลอยู่เยอะ ไม่รอดจ้า สุดท้ายก้นั่งเล่นชิวๆ อยู่ที่หาด ถ่ายรูปกับต้นเทียนเก๋ๆ กันไปแทน


พอเช็คเอาท์จาก Cape Shark Villas ก็ย้ายไปนอนที่ Simple Life Cliff View Resort วันนี้เราจะลองเช่ามอเตอร์ไซค์ขับกันเองกับแฟน หลายวันที่ผ่านมาไปไหนก็ครูพี่เอกซ์พาไปตลอด วันนี้เลยจะลองพึ่งตัวเอง บนเกาะมีร้านให้เช่ามอเตอไซค์เยอะ เราเช่าข้างๆ โรงเเรมเลย สภาพใหม่อยู่ ร้านคิดวันละ 150 บาท ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่เช่า555 เล่าก่อนว่าเราอ่ะ เคยขี่สมัยนานมาเเล้ว เลยไม่ค่อยชัวเท่าไหร่ว่า เเต่แฟนคือขี่ไม่เป็นเลย พอเช่ามาก็ลองสลับกันขี่วนๆ อยู่ตรงลานหน้าโรงเเรมกันก่อน อ่ะพอคิดว่าได้ละก็เลยว่าจะขี่ไปจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ ให้แฟนเป็นคนขี่เราซ้อน ปรากฏยังไม่ทันได้ออกจากเเถวโรงเเรมก็คือมอเตอร์ไซค์คว่ำจ้าา!! ลืมถ่ายรูปใดๆ คือจะบิดขึ้นเนินเเต่บิดไม่เเรงพอเลยไหลแล้วก็ทับเท้าชั้นในที่สุด เนินมันก็ค่อนข้างชันอยู่แหละ ดีไม่ได้ขี่เร็ว เท้าเลยบวมนิดๆ หน่อยๆ ส่วนแฟนที่เป็นคนขี่คือไม่เป็นอะไรเลยยยย สุดท้ายก็คือต้องโทรหาพี่เอ็กซ์ให้ช่วยพาไปเเทน  

พอถึงเราก็เดินขึ้นจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ เดินๆปีนๆ ไม่ค่อยยาก ขนาดชุดลุ่มล่ามแบบเราก็ขึ้นมาได้ เราจะเห็นวิวเกาะเต่าแบบแบ่งครึ่งๆ สองฝั่งเลย ตอนเดินลงก็เเวะมุมต้นมะพร้าวถ่ายรูปกันหน่อย ใครจะเดินลงไปที่หาด Freedom Beach กันต่อก็ได้นะ นั่งพักให้หายเหนื่อยชิวๆ

มาจุดชมวิว Two Viewpoint กันต่อ ขอเตือนว่าคนขี่มอเตอร์ไซค์มาที่นี่ต้องแข็งแกร่งนะ ไม่งั้นไม่รอด เพราะขึ้นเขามาทางจะเป็นดินแดงๆ ลื่นๆ ล้มมานักต่อนักเเล้ว ที่นี่เดินขึ้นตรงๆ ไม่ยาก พอถึงเเล้วเดินลอดช่องหินมาก็จะเห็นวิวเกาะเต่ากับน้ำทะเลกว้างแบบpanoramaมาก ถ้ามาตอนพระอาทิตย์ตกจะโคตรสวยเลยแหละ

ขอบคุณพี่เอกซ์ที่ช่วยดูเเลพวกเราตลอดทริป

Day 7 วันนี้ต้องกลับเเล้ว แง ตื่นเช้าเช็คเอาท์ไปท่าเรือ แนะนำให้จองเรือกับโรงเเรมไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะเรือมีรอบเดียว ตอน 10:15 น. ถึงฝั่งประมาณ 11:45 น. พอได้บัตรเสร็จ ก็รีบเดินไปแวะกินมื้อเช้าที่ Coconut Monkey เป็นร้านveganนะ เเต่ก็จะมี set breakfast ที่มีไส้กรอก มีไข่อยู่ เสร็จเเล้วก็ขึ้นเรือกลับ เเล้วพบกันใหม่นะ เกาะเต่า 

สำหรับเรา เกาะเต่าเป็นเกาะที่ทำให้เราได้เปิดโลกและประสบการณ์หลายอย่างมากมายเลย เราเชื่อว่าใครหลายคนอยากลองเรียนดำน้ำ เเต่บางคนอาจจะยังไม่กล้า กลัวอันตราย อยากบอกว่า ขอเเค่ไปลองก่อน...สักครั้งในชีวิต ที่เราจะได้สัมผัสโลกใต้น้ำ เราคุณจะหลงรักโลกใต้น้ำแบบเรา
ไปค่ะ ชอบไม่ชอบไม่ว่ากัน ดูบัดดี้ของเราเป็นตัวอย่างได้

ใครอ่านมาจนถึงตรงนี้เราขอมอบรางวัลคนไทยที่อ่านเกิน 7 บรรทัดให้เลย5555 ขอบคุณที่สนใจการเดินทางของเรา หวังว่าอ่านเเล้วจะทำให้อยากออกเดินทางอีกครั้งนะ

สุดท้ายขอแอบฝากเพจเราไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน้า >> We Go Girls

We Go Girls

 วันพฤหัสที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 20.15 น.

ความคิดเห็น