สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้เราจะไปพักผ่อนกันที่ปราจีนบุรี จังหวัดใกล้กรุงใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
แต่เราไม่ได้เข้าเมืองปราจีนบุรีกันนะ เพราะเราจะไปกันที่ อ.ศรีมหาโพธิ เพื่อไปพักที่
" Tawaravadee Resort, BW Signature Collection by Best Western "
โรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 304 แต่มีพื้นที่สีเขียวและร่มรื่นกว่า 120 ไร่
ก่อนอื่นอย่างที่เรารู้กันว่าช่วงนี้ยังคงมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 อยู่ ถึงแม้ว่าในบ้านเราจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่เราก็ยังคงต้องปฏิบัติตัวตามมาตรการผ่อนปรนกันอยู่ แล้ววันนี้เราก็จะไปเที่ยวกันแบบ new normal ไปดูกันว่าแต่ละสถานที่เค้ามีมาตรการการป้องกันยังไงกันบ้าง และพวกเราเองก็อย่าลืมใส่ mask ล้างมือกันบ่อยๆ นะ
เช้าวันเสาร์เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ออกจากบ้านขี่รถมาทางมีนบุรีแล้วไปต่อตามถนนหมายเลข 304 มาเรื่อยๆ แล้วจะเจอแยกที่จะเข้านิคม เราก็เลี้ยวเข้ามาไม่นานก็จะเจอกับทางเข้าโรงแรมที่มีอุโมงค์ต้นจามจุรีอยู่ เอาจริงแค่ทางเข้าก็ดูร่มรื่นแล้ว
ผ่านอุโมงค์ต้นไม้เข้ามาก็จะเจอทางแยก ให้เราตรงเข้าไปที่ป้อมรปภ. เพื่อเข้าสู่พื้นที่ของโรงแรม เพราะในพื้นที่นี้จะมีส่วนของหมู่บ้านและคอนโดอยู่ด้วย เราก็บอกพี่รปภ. ว่าเข้าไปพักที่โรงแรม เค้าก็จะให้เราแลกบัตรไว้ เสร็จแล้วเราก็ขี่รถเข้าไปข้างในจะมีป้ายโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ
ถึงแล้วที่พักของเราคืนนี้ ไปหาที่จอดรถกันก่อนดีกว่า
จอดรถเสร็จแล้วก็เข้าไปเช็คอินด้านในกันเลย แต่ก่อนเข้าไปเพื่อนๆ อย่าลืมสแกน ไทยชนะ QR code ด้วยนะ สแกนเสร็จก็ล้างมือด้วยล่ะ ทางโรงแรมเตรียมที่กดแอลกอฮอล์อัตโนมัติเพื่อลดการสัมผัสไว้ด้วย
เข้ามาด้านใน lobby ก็จะเห็นว่าพนักงานทุกคนใส่ Mask พร้อมกับถุงมือ ถือว่ามีการป้องกันอย่างดี เราเป็นลูกค้าเห็นแบบนี้ก็สบายใจ
ภายในโรงแรมมีการออกแบบสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและประวัติศาสตร์ในสมัยทวารวดี ซึ่งเราจะเห็นว่าด้านหลังเค้าเตอร์จะมีสัญลักษณ์อันใหญ่อยู่ นั่นก็คือสัญลักษณ์ที่อยู่บนเหรียญเงินตราในยุคทวารวดีนั่นเอง
ในส่วนของ lobby มีความกว้างขวางมาก เพดานสูง เป็นแบบไทยประยุกต์
เช็คอินเรียบร้อย กุญแจห้องก็ได้แล้ว เอาของขึ้นไปเก็บกันก่อนดีกว่าจะได้ลงมาเดินเล่นรอบๆ โรงแรมด้วย
ห้องของเราจะอยู่ด้านบนจะเดินขึ้นบันไดมาก็ได้ หรือใครที่ไม่สะดวกขึ้นบันไดทางโรงแรมก็มีลิฟต์ไว้บริการ
ลักษณะตัวอาคารแบบไทยประยุกต์ เป็นรูปตัว U
ตรงโถงทางเดินหน้าห้องพักจะมีสัญลักษณ์อีกแบบคือสัญลักษณ์บนเหรียญเงินตราอีกฝั่งนึง และเป็นโลโก้ของโรงแรม
เปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับเตียง King size ห้องมีขนาด 38 ตร.ม. ดูกว้างขวาง
อ้อ ... เราลืมบอกไปว่าห้องของเราเป็นแบบห้องดีลักซ์นะ
ทางโรงแรมมีคุกกี้ไว้ต้อนรับด้วย จะบอกว่าคุกกี้ทั้ง 3 แบบอร่อยมาก อยากจะขอเพิ่มเลย 😋😋😋
ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งทีวี ตู้เย็น มินิบาร์ต่างๆ พร้องกาต้มน้ำร้อน
ด้านข้างเตียงมีโซฟาเล็กๆ ไว้นั่งชมบรรยากาศด้านนอก
ระเบียงหลังห้องก็มีโต๊ะ เก้าอี้จัดไว้ให้ เผื่อว่าอยากออกมานั่งจิบกาแฟยามเช้า นั่งชมบรรยากาศเพราะด้านล่างมองออกไปจะเจอกับทะเลสาบขนาดใหญ่ พร้อมกับสวนสีเขียวมองแล้วสบายตา
กลับเข้ามาข้างในไปดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำมีขนาดกำลังดี ไม่ได้รู้สึกอึดอัด มีอ่างอาบน้ำ พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ไว้ให้ และไดร์เป่าผมด้วยนะ
ตรงปลายเตียงทางโรงแรมเค้าจัดอ่างแช่เท้าพร้อมเกลือสีชมพูไว้ให้ เป็นโปรโมชั่นช่วงนี้เลย
ส่วนวิธีทำสปาเท้าก็ไม่ยาก เราไปเตรียมน้ำอุ่น เสร็จแล้วก็ตักเกลือ 2 ช้อนใส่ลงไป แล้วก็เอาเท้าแช่น้ำได้เลย เดินทางมาเหนื่อยๆ ได้แช่เท้าก็สบายดีนะ
พักกันหายเหนื่อยก็ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วล่ะ เราจัดการสั่งอาหารมาทานที่ห้อง เรื่องความสะอาดหายห่วงเลย น้องพนักงานที่มาเสริฟอาหารมีการป้องกันดีมากใส่ mask ใส่ถุงมือพร้อม ส่วนอาหารนั้นก็ถูกห่อมาเป็นอย่างดี
เราสั่งกับข้าวเป็นผัดพริกอ่อนกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ ปอเปี๊ยะทอด พร้อมกับไก่ย่างครึ่งตัว กินยังไงให้หมดเนี่ย 2 คนเอง 😜😜
สุดท้ายก็กินจนเกลี้ยง อาหารเยอะแค่ไหนเราก็ไม่เกี่ยง อาหารอร่อย เราชอบแกงเขียวหวานไก่กันมากๆ
เสร็จแล้วเราไปเดินเล่นรอบๆ โรงแรมกันต่อ
ตรงลานกลางโรงแรมจะเป็นแปลงนาข้าวสาธิต จะปลูกไว้ทั้งปี ถ้าลูกค้าเข้ามาพอดีกับวันเก็บเกี่ยว ทางโรงแรมก็จะให้เราได้ลองเกี่ยวข้าวกันจริงๆ ด้วย หันกลับไปจะเจอเป็นม่านน้ำตกขนาดใหญ่
ถัดจากแปลงนา ก็จะเป็นสระว่ายน้ำขนาดกำลังดี เล่นน้ำไป ชมวิวทะเลสาบไปฟินๆ และมีสระเด็กแยกให้ด้วยนะ
เดินชมบริเวณโรงแรมเสร็จ ก็พลาดไม่ได้ที่จะไปหาคาเฟ่สวยๆ ถ่ายรูปอัพโซเชียล จิบกาแฟชิวๆ
จากการสอบถาม ทางโรงแรมแนะนำมาให้ไป Lanin ร้านกาแฟสไตล์อังกฤษ รสชาติกาแฟรสดี ขนมเค้กอร่อยๆเพียบไปหมด
หลังจากนั่งเล่นร้านกาแฟอยู่พักใหญ่ๆ เพราะเราเข้าร้านมาแปปเดียวฝนก็ตกแบบกระหน่ำเลย รอฝนหยุดก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ได้ยินมาว่ามีร้านอาหารแนะนำ ริมบ้านชานเมือง อาหารแนะนำปลาช่อนลุยสวน แต่เสียดายวันนั้นคนเยอะมาก อดกินเลย เลยสั่งยำผักหวาน กับแกงคั่วหอยขมมากินแทน รสชาติดีเลยทีเดียว
กินข้าวเสร็จ ก็มีอารมณ์อยากเดินตลาดเล่นย่อยอาหารสักหน่อย แถวๆ โรงแรมมีตลาดนัดให้เดินเล่นหาของกินเล่นยามค่ำคืนพอหอมปากหอมคอ
ปล. ตลาดนัดเป็นกึ่งตลาดสดด้วย จริงๆ แล้วเหมาะสำหรับพนักงานโรงงานที่พักอาศัยอยู่แถวนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็ไปได้เหมือนกัน
กลับมาที่โรงแรมก่อนขึ้นห้องขอเก็บบรรยากาศโรงแรมยามค่ำคืนมาฝากสักหน่อย
ถ่ายรูปเสร็จก็เข้าห้องไปแช่น้ำอุุ่นๆ สักนิดจะได้นอนหลับสบาย ฝันดีนะเจอกันตอนเช้า
อรุณสวัสดิยามเช้า ตื่นมาก็หิวเลย พวกเราลงมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร ช่วง New normal แบบนี้ทางโรงแรมจะมีเป็นเซ็ตอาหารเช้าให้เลือก มีหลายแบบทั้งไทย อเมริกัน ญี่ปุ่น สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบเลย เราเลือกทานเป็นแบบไทย กับญี่ปุ่น แต่ถ้าสถานการณ์ปกติทางโรงแรมจะจัดเป็นบุฟเฟต์ให้นะ
ก่อนเข้าไปก็อย่าลืมล้างมือกันด้วยนะ
อาหารก็จะมาเป็นเซ็ตแบบนี้ จะมีจานหลัก และผลไม้ พร้อมกับน้ำดื่ม
อิ่มแล้วก็ได้เวลาไปเก็บของกลับเข้ากรุงเทพกันแล้ว
ก่อนกลับต้องผ่านอุโมงค์ต้นไม้อีกรอบ จะไม่แวะถ่ายรูปเลยก็น่าเสียดาย เลยจัดสักหน่อย
โรงแรมทวารวดี รีสอร์ทนี้ เป็นทั้งที่พักผ่อนที่ดีสงบสบาย อีกทั้งยังเป็นเหมือนปอดของนิคมอุตสาหกรรม 304 และเป็นเหมือนโอเอซิสในโซนนี้
สำหรับใครที่สนใจเข้าพัก ติดต่อจองได้ที่ http://tawaravadeehotel.com/th
ครั้งนี้เป็นการท่องเที่ยวที่เป็นแบบ New Normal ทางโรงแรมปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ยังมีการรักษาระยะห่างทางสังคม(Social Distancing) เราจึงสบายใจได้ถึงความสะอาดปลอดภัยต่อการติดเชื้อ Covid-19 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยว่าให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน
การเที่ยวแบบ New Normal ก็ไม่ได้ทำให้การเที่ยวเปลี่ยนไป หรือไม่สนุกเลย เพียงแค่เราต้องนึกถึงส่วนรวมมากขึ้นนิดนึง ป้องกันทั้งตัวเองและผู้อื่น
อาจจะดูจริงจังไปหน่อยในรีวิวนี้ แต่เราเป็นห่วงทุกคนจะไม่ได้ไปเที่ยวกับเรา ช่วงนี้เปิดให้เที่ยว เราก็ต้องเที่ยวอย่างปลอดภัยที่สุดนะ รอบหน้าเราจะไปเที่ยวไหนต่อ ติดตามเรา Once-a-month นะ
เที่ยวแบบเรา : Once-a-month
วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 13.44 น.