wx09vlzu7qr6



ฝากติดตามเพจของเราด้วยนะค้า ^^
Where We Go


‘เขาช่องลม’ ดินแดนสีเขียวที่ซ่อนตัวอยู่หลังเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เป็นที่ๆไผ่อยากจะไปมากกตั้งแต่มีคนไปบุกเบิก แล้วก็มีรีวิวล่อตาล่อใจตามมาเต็มไปหมด แต่ช่วงนั้นยังเป็นมนุษย์เงินเดือน มีวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ตามคนทั่วไป แล้วตอนนั้นได้ข่าวว่าพอที่นี่ป๊อปปูล่าขึ้นมา คนก็เยอะมากกกก ทริปนี้เลยโดนพับเก็บไปโดยปริยาย 


จนตอนนี้เราสามารถเที่ยววันธรรมดาได้แล้ว แถมเขาช่องลมเพิ่งเปิดพอดี เราเลยได้ฤกษ์รื้อทริปเก่าเก็บนี้ขึ้นมาอีกครั้ง 

เรากะไปแบบเช้าเย็นกลับ 1 day trip เพราะแค่นครนายกนี่เอง ดู Google map แล้ว 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว 

รอบนี้เราหลอกล่อน้องไปกับเราได้อีก 2 คนด้วยนะ 555

wcb2rdwvg3l1

เรามีหาข้อมูลไว้นิดหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่หลายๆคนอ่านเร็วๆแล้วอยากรู้

- ค่าเรือเหมาลำที่ 1,500 บาท (สำหรับคนที่อยากไปแบบส่วนตัว)

- หรือเราจะรอคนอื่นแล้วแจมเรือกัน ค่าเรือก็จะตกคนละ 200 บาท (นั่งได้เที่ยวละ 8 คนค่ะ)

เรือให้บริการตั้งแต่ 7:00 - 17:00 น.ค่ะ

เขื่อนขุนด่านไม่เก็บค่าเข้าค่ะ ขับรถเข้าไปจอดได้เลย

อ้อ ตอนแรกเรากะจะไปกางเต๊นท์นอนที่เขื่อน เผื่อว่าจะได้ตื่นแล้วได้นั่งเรือรอบแรก แต่ว่า ที่นี่เค้าไม่ให้กางเต๊นท์นะค้า
แพลนกางเต๊นท์เราเลยตกไปค่ะ 555

การเตรียมตัวหลักๆของเราก่อนไปก็

- หารองเท้าที่พื้นยึดเกาะดีๆ และเปียกน้ำได้ เพราะเราต้องไปปีนป่ายโขดหิน และเดินป่าเล็กๆ

- เตรียมเสื้อกันฝน เพราะเราไปหน้าฝนเน้อ แล้วถ้ามันตกขึ้นมาเนี่ย ที่นี่เป็นที่โล่ง ไม่มีที่หลบฝนค่ะ (ที่หลบแดดก็เช่นกัน T^T)

เตรียมกันพอประมาณ และแล้วก็มาถึงเช้าวันเดินทาง เรานัดกันที่เขื่อนขุนด่าน 9:00 น. แต่! ไผ่ตื่นสายจ้าาา ปรากฎว่า

น้องแอม: [8:50 น.] ถึงแล้วค่าาา

เออะ...ตอนนั้นอิชั้นเพิ่งกำลังเข้าเขตนครนายก สรุปต้องให้น้องรอเกือบชั่วโมง พี่ขอโต๊ดดดด 

ดีที่ตรงที่จอดรถ แถวๆสันเขื่อนมีร้านกาแฟ น้องเลยไปนั่งรอตรงนั้นได้ 

พอถึงแล้วเราก็รีบพุ่งตรงไปหาน้องที่ร้านกาแฟ และก็พากันไปตรงจุดติดต่อขึ้นเรือที่อยู่ใกล้ๆกัน

ลูกไผ่: “4 คนค่ะ”

เจ้าหน้าที่: “เหมาลำไปเลยมั้ย 1,500 ถ้าเหมาเดี๋ยวเรือออกได้เลย หรือจะรอคนอื่น”

ลูกไผ่: “ถ้ารอนี่อีกนานมั้ยคะ”

เจ้าหน้าที่: “ตอนนี้ครบ 8 คนพอดี ออกได้เลย”

เอ้า! ออกได้เลยก็แจมสิค้าาาาา 555

พอติดต่อเรือเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราเดินไปขึ้นเรือได้เลย ค่าเรือยังไม่ต้องจ่ายตรงนี้นะ ไปจ่ายที่เรือได้เลยค่ะ

ทางไปลงเรือจะเป็นบันไดชันสูงชะลูดอย่างที่เห็นลิบๆในภาพค่ะ

tr8gjl5uidop

ระหว่างที่เราเดินลงไปก็สวนกับคนที่เดินกลับขึ้นมา ซึ่งเกือบทุกคนจะโอนครวญแล้วก็นั่งพักเป็นระยะๆระหว่างที่เดินขึ้นมา ตอนนั้นเราก็สงสัยว่า “นั่งพักบ่อยๆกลางแดดเปรี้ยงนี่เค้าไม่ร้อนกันเหรอ เพราะตอนนั้นแดดร้อนมากค่า!”

xprbs8832439

อ่ะ หันกลับไปดูทางที่เราเดินลงมาซักหน่อย วันนี้ฟ้าสวยมาก ใช่ค่ะ ฟ้าสวยมักจะพร้อมกับแดดเปรี้ยง และอากาศที่ร้อนเกิน 40 องศาของประเทศไทย ไม่มีวี่แววของฝนใดๆทั้งสิ้นจ้า โถ...เสื้อกันฝนที่เตรียมม๊าา

0p117pcxgsi4

ในที่สุดเราก็เดินลงมาถึงท่าเรือ ตอนแรกก็นึกว่าไผ่คิดไปเอง

ลูกไผ่: “ขาสั่นเลยอ่ะ”

น้องแอม: “จริงงงง”

อย่าได้ดูถูกบันไดสูงชันทางลงที่เราเพิ่งเดินลงมา ยังไม่ทันได้ไปไหน ขาก็สั่นแล้วจ้าาา

hfsrro2bbz1l

เรือเริ่มออกแล้ว ให้ดูบันไดอีกครั้ง อยากจะบอกว่าเตรียมตัวกับอิบันไดนี่ให้ดีค่ะ 55

wi5tbonlto71

พอเรือเริ่มแล่น ลมเริ่มประทะหน้า ความชิลล์ก็เริ่มมา ฟ้าสีฟ้า ต้นไม้สีเขียวข้างทางนี่สีมันสดชื่นจริงๆค่ะ

inx129sxtyjs

แล้วคุณลุงคนขับเรือก็พาเรามาจอดตรงเวิ้งน้ำที่นึง

คุณลุง: “พามาดูต้นน้ำครับ ตรงนี้น้ำจะไหลมาจากเขาใหญ่ ปีนี้น้ำน้อยมาก เรือเลยเข้าไปได้แค่นี้”

ตอนแรกเราก็งงๆ แล้วก็มาถึงบางอ้อว่า คือจริงๆทริปนั่งเรือตรงเขาช่องลมเนี่ย เค้าจะพาไปน้ำตกประมาณ​ 3-4 น้ำตก แต่ปีนี้น้ำน้อยมาก วันนี้เราเลยจะแวะได้แค่น้ำตกเดียวก็คือ ‘น้ำตกช่องลม’ เง้ออออ นี่อุตส่าห์เลือกมาหน้าฝนแล้วน้าาาา ทริปไม่วื้ด ไม่ใช่ไผ่ใช่ม๊ายยยย

คุณลุง: “ปะ เราไปเขาช่องลมกันเลยนะครับ”

j0b2e87uyedt

คุณลุงกลับเรือ แล้วเลี้ยวขวาไปจิ๊ดเดียว เราก็เห็นเรือจอดข้างหน้าลิบๆ ที่ทำให้รู้ว่า เราใกล้จะถึงทางขึ้นเขาช่องลมแล้ว 

ผู้ร่วมเดินทาง: “ให้เวลาเท่าไหร่คะ”

คุณลุง: “เต็มที่เลยครับ อยากเดินเท่าไหร่เดินเลย”

อ้าว ลุง 5555 ใช่แงะ เพราะมันเหลือแค่น้ำตกเดียวที่เราเดินได้ เต็มที่ไปเลยจร้าาาาา

แต่เรามากันหลายคน มันต้องมีเวลานัดแนะ เลยตกลงที่ 1 ชั่วโมง คือมาเจอกันที่เรือตอน 11:45 น

pfi7tmme55sf

แค่เดินขึ้นเรือเท่านั้นล่ะค่ะ ความร้อนก็พุ่งตรงเข้ามารายล้อมรอบตัว ทั้งร้อน ทั้งแดดกลางหัว ไม่มีที่หลบตามคำบอกเล่าโดยแท้ เดินไปนิดนึงเราก็เริ่มเจอกับธารน้ำตกเล็กๆค่ะ ซึ่งแค่เริ่มเราก็ต้องปีนป่ายโขดหินเล็กๆกันแล้วจ้า หลายๆคนที่มาก็หยุดถ่ายรูปตรงจุดนี้กันเยอะหน่อ

6keml47omdm8

จากธารน้ำตกนี้เราเริ่มต้องปีขึ้นไปทางเดินด้านบน เพื่อไปกันต่อ น้องแอมกับดรีม ผู้ถูกเราหลอกล่อมาได้นำหน้าไปก่อนแล้วด้านบนนู้น

4n7j6kmnxn23

พอปีนป่ายขึ้นไปแล้ว ก็จะเป็นทางเดิน ที่มีหญ้าขึ้นสูงอยู่ 2 ข้างทางยาวๆ ไปค่ะ

jee9as0r2ffy

ทริปนี้พี่ปุ่นเค้าเน้นถ่ายวีดีโอค่ะ เดี๋ยวรอติดตามเวอร์ชั่นวีดีโอ ฝีมือพี่ปุ่นในเพจเราได้เลย (ถึงว่ากลับมาดูเมมที่บ้าน รูปไผ่ไม่มีเลยยย T^T

tm355z7nvnf2

ภาพที่ได้มาก็จะมีวิวเขียวๆ และโขดหินสลับกันไป

yhzq6pqtfnwh

และจะมีลำธารให้เราปีนป่ายลงไปถ่ายรูปได้เป็นช่วงๆ

offc9phklaak

เดินไปได้ซักพัก จะเจอทางเดินที่ข้างทางเป็นดงผักบุ้งค่ะ (รึเปล่าหว่า 555) สวยอยู่ไม่ใช่หยอก ถ้ามันไม่ร้อนขนาดเน้!!! เดินมาถึงตอนนี้เริ่มหอบ และเริ่มรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วววววว คือทางเดินจนถึงตรงนี้มันยังไม่โหดมากค่ะ แต่ที่โหดน่ะ แดดค่ะแดด! 

ขอบอกว่ายังไงก็ต้องพกน้ำเข้ามานะคะ ซึ่งจริงๆพี่ปุ่นพกมาค่ะ แต่!

พี่ปุ่น: “เฮ้ย ขวดน้ำเราหายไปไหนอ่ะ!” สงสัยร่วงตรงที่ปีนๆแน่เลย

ใช่ค่ะ เราต้องเดินทางกลางแดด แบบไม่มีน้ำให้จิบซักหยด!

eyi3umfyzdnt

จากทุ่งผักบุ้งเมื่อกี้ จะเริ่มเข้าสู่ทางโหดแล้วค่ะ เริ่มจากเราเจอสะพานไม้ไผ่ ซึ่งอันนี้ยังเดินง่ายสบายๆ 

แต่! หลังจากนั้นจะเริ่มต้องไต่เชือกเดินเลาะโขดหิน ตั้งแต่ตรงนี้ไปเราเริ่มเก็บกล้องละค่ะ 

นอกจากจะเอาตัวเองให้รอดแล้ว ยังต้องเอากระเป๋ากล้องน้ำหนักเกือบ 3 โลที่แบกมาให้รอดด้วย! 

จากตรงที่ไต่เชือกจะมีทางให้ไต่หินลอดต้นไม้ และทางไต่เชือกระลอก 2 ซึ่งโหดกว่าเดิม 

อย่างที่บอกความโหดมันคูณ 10 เพราะอากาศที่ร้อนแทบจะเป็นลม และแล้วก็เริ่มเห็นน้องแอม และดรีมนั่งอยู่ไกลๆ ซึ่งตรงนั้นมีร่มไม้! โอ้ย น้ำตาแทบไหล

ดรีม: “เนี่ย พี่ เดินไปข้างหน้านี่อีกนิดเดียวก็ถึงน้ำตกแล้ว”

ลูกไผ่: “คนอื่นเค้าเข้าไปหมดแล้วเหรอ”

น้องแอม: “ไม่มีใครมาเลยพี่ไผ่ มีแค่เรานี่แหละ”

ลูกไผ่: “อ้าว!”

น้องแอม: “ตั้งแต่เดินมา หนูเจอ 2 คนที่เค้าเดินมาถึงแค่ตรงไต่เชือก แล้วเค้าบอกว่ามันชันไป ไม่ไปละ”

สรุปคือมีแค่เราที่บ้าเดินมาตรงนี้!

และสรุปก็คือมีแค่ดรีมที่บ้าพลัง แรงเหลือปีนเข้าไปในน้ำตกต่อ คือไอที่เดินไปข้างหน้าอีกนิดเดียวที่ดรีมบอกอ่ะ มันนิดเดียวจริงๆนะคะ แต่ทางน่ะ เป็นทางปีนขึ้นชันๆ โชคดีนะดรีม 555

r4ccwb2t6u2q

ขากลับนี่ไผ่ขนลุกทั้งตัวไปจนถึงขนหัวลุกเลยจ้า พี่ปุ่นบอกว่า มันเป็นสภาวะขาดน้ำ

พอเดินมาถึงเรือ เจอทุกคนนั่งรอกลุ่มเราอยู่ ไผ่นี่ยกมือไหว้ขอโทษใหญ่เลย งื้ออออ

แต่! ถึงเรือแล้ว อย่าคิดว่าจะรอดตายนะคะ ไอของที่โหดที่สุดกำลังรอเราอยู่

ใช่ค่ะ อิบันไดที่เราเดินลงมาตอนแรก ตอนนี้แทบอยากจะร้องไห้ รู้สึกแบบ เฮ้ย จะตายป่ะวะ ไอที่เคยสงสัยตรงขาลงมาว่าทำไมเค้านั่งพักกลางแดดกันเป็นพักๆนี่เข้าใจเลย ไผ่เดินขึ้นได้ทีละ 12-15 ขั้น ก็ทิ้งตัวนั่งลงที พอขึ้นไปถึงสุดบันไดนี่ไผ่รีบเดินจ้ำเข้าร้านกาแฟ สั่งทั้งน้ำปลา น้ำโค้ก น้ำแข็งเอามาให้หมด เฮ้ยยย...ค่อยรู้สึกว่ารอดตายแล้วจริงๆ

ใครที่กะจะมา ขอให้เตรียมเครื่องกันแดดมาให้พร้อมนะคะ เผื่อว่าฟลุ๊คเจอวันแดดเปรี้ยงแบบไม่ปราณีแบบไผ่

one day trip ของเราเวลายังเหลือ เดี๋ยวเรามาต่อของแถมนะคะ

อ่ะ ต่อไปเป็นช่วงแถม 1 day trip ของเราวันนี้ยังเหลือ


ด้วยความที่ดรีมอยากมาเล่นน้ำตกมากกก เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนพร้อม แต่ไม่ได้เล่นที่เขาช่องลม เพราะเวลาจำกัด

เราเลยให้น้องเลือกเลยว่าอยากไปน้ำตกไหน

สรุปแล้วดรีมเลือก ‘น้ำตกสาริกา’ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมาก ขับรถไปแพพๆก็ถึง

ที่น้ำตกสาริกานี้จะมีที่จอดรถของอุทยานอยู่นะคะ ซึ่งจอดฟรี

แต่ถ้าใครขี้เกียจเดิน อยากจอดใกล้ทางเข้าอีกนิด ตรงนั้นจะเป็นที่จอดรถเสียเงิน 40 บาท (ซึ่งไผ่ว่า มันก็ไม่ได้ไกล้กว่ากันไปซักเท่าไหร่)



เราจอดรถและแวะทางข้าวที่ร้านส้มตำ ‘ป้าติ๋ม’ จะบอกว่าใครชอบตำปูปลาร้าต้องห้ามพลาด

ปลาร้าที่นี่คือนัว เข้มข้นดีงามมาก และราคาถูกมาก เราทานกัน 4 คน หมดไปแค่ 350 บาทเองค่ะ



‘น้ำตกสาริกา’ จะมีค่าเข้าคนละ 40 บาทนะคะ


น้องแอม: “พี่ดรีมๆ”


ว่าแล้วน้องแอมก็สะกิดให้ดรีมดูป้ายที่แปะไว้ตรงทางเข้าว่า “ห้ามลงเล่นน้ำ”


555555 อดจ้า เก็บไว้ก่อนนะดรีมเสื้อผ้าที่เตรียมมา 


zpkb2wru7ia9

ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นที่บำบัดหลังจากเราผ่านความหฤโหดเมื่อเช้ามาจริงๆ

แค่ได้เอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ ใต้ร่มไม้หนาครึ้ม มีแสงลอดเล็กๆ ฟังเสียงแมลงและน้ำตกด้านหลัง เฮ้ยยย มันดีมากกกค่ะ

td1t120t9ooj

อีกอย่างที่นี่ปลาเยอะมากกก และมันชอบมาตอดจ้าาา

ใครที่ชอบสปาเท้านี่เลยค่ะ ตอดเยอะ ตอดแรง ตอดแบบไม่กลัวคน ตอดจนคนยอมแพ้

xf0991h66710

นั่งพักชิลล์ๆ กันพักใหญ่ เราก็ชวนกันเดินขึ้นไปน้ำตกด้านบน ซึ่งเป็นน้ำตกใหญ่ สวยมากค่ะ

แนะนำว่าถ้ามาต้องเดินขึ้นนะ เดินนิดเดียว ไม่ทันเหนื่อยเลย

m27rxc9slcmb

เหลือเวลาอีกนิด


ลูกไผ่: “ไปไหนต่อดีน้องแอม มีซุ้มไม้ไผ่ ที่วัดจุฬาภรณ์, ภูกระเหรี่ยง, ทุ่งนามุ้ย, อ่างเก็บน้ำทรายทอง”

ว่าแล้วก็เปิดรูปให้น้องดู

และที่สุดท้ายของวันนี้ก็จบที่ ‘ทุ่งนามุ้ย’ ที่ขับจากน้ำตก 15 นาทีก็ถึง

ที่นี่เค้าของความร่วมมือช่วยค่าทำนุบำรุงไม้ไผ่กันคนละ 10 บาท ตรงทางเข้าค่ะ

ที่นี่เค้าจะเป็นสะพานไม้ไผ่ ทอดผ่านทุ่งนา ซึ่งเอาจริงๆ ไม่ได้ใหญ่มากนะ แค่พอเดินชิลล์ๆไปอีกฝั่ง ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งก็จะมีร้านกาแฟให้นั่งพักจิบกาแฟ ดูทุ่งนายามเย็น

ckr4ogrtuwi7

เราเลือกร้านกาแฟปลายทาง เพราะเดินมาร้อนๆพอดี นั่งจิบกาแฟ นั่งชิงช้า รอแดดร่ม แล้วก็ชวนกันกลับกรุงเทพฯ

sflg19qc7wxf

จบ 1 day trip นครนายก ที่เที่ยวเต็มอิ่ม จุใจ ใช้แรงเกลี้ยงไปแบบเหนื่อย แต่ฟิน


เอาจริงๆ เหมือนโรคจิตเล็กๆ เวลาไปเที่ยวลำบากๆ ถึงตอนเที่ยวจะรู้สึกไม่ไหว เหนื่อย ร้อน จะตาย

แต่พอผ่านออกมาแล้วไผ่จะรู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าได้ประสบการณ์ดี 555

ความคิดเห็น