หลังจากรีวิวของกินมาหลายร้านจนแทบจะจนสมชื่อเพจนั้น ณ โอกาสนี้ ขอเสียงปรบมือดัง ๆ ต้อนรับให้กับ Sponsored Review แรกของ "กิน จน จน" ค่าาาา กี๊สสสส น้ำตาจะไหล นี่สินะหนทางสู่การเป็น Blogger ชื่อดัง 55555555 โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นการรีวิวโรงแรมที่พักครั้งแรกของเราเลยค่ะ ซึ่งโรงแรมที่เราจะมาแนะนำในวันนี้มีชื่อว่า "บ้าน แสน ฝาง" (Baan Saen Fang) จังหวัดเชียงใหม่ค่า

          เพื่อให้ผู้อ่านทุกคน "เก็ท" กับสิ่งที่เรากำลังจะมาเล่าให้ฟัง เราจะขอเล่าตั้งแต่แรกสุดเลยนะคะว่าเราเจออะไรมา แล้วรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เจอ แม้จะเป็น Sponsored Review แต่ทุกสิ่งที่เรากำลังจะมารีวิว เกิดจากความรู้สึกจริงที่เราได้มาสัมผัสเองค่ะ ทุกคนจะได้รู้สึกเหมือนว่าได้มาเจอด้วยตัวเองเลยเนาะ


         โรงแรม บ้าน แสน ฝาง เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่แถว ๆ ถนนท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตอนแรกเราไม่เคยรู้จักโรงแรมนี้มาก่อน แม้แต่แฟนเราที่เป็นคนเชียงใหม่ก็ไม่เคยได้ยินชื่อ หลังจากที่หาข้อมูลละเจอรูปที่พัก เห็นคร่าว ๆ ว่าตกแต่งสไตล์ Boutique Lanna คือสวยเลยนะคะ แต่เพราะตกแต่งสวยแบบนั้นก็เลยยิ่งแปลกใจ ว่าที่พักที่ตกแต่งได้แบบนี้ ไปซ่อนอยู่ตรงไหนของท่าแพ เพราะโซนท่าแพเท่าที่เคยเห็น มีแต่โรงแรมที่พักที่เป็นตึกสูง ไม่ก็เป็นที่พักแบบห้องแถว ตกแต่งแบบที่ทุกคนก็คงนึกภาพออก เพราะอย่างนั้นเราก็เลยแปลกใจอย่างที่บอก และก็ยิ่งรู้สึกอยากเห็นว่า ตกแต่งแบบนั้นอยู่โซนแถวนั้น ของจริงจะเป็นยังไง 55555

          เราขับรถมาตามพิกัด Google Map เลยค่ะ ถนนที่จะเข้าไปยังโรงแรมจะเป็นถนนแบบ one-way ที่เชื่อมจากคูเมืองเข้ากาดหลวง แล้วก็เลี้ยวเข้าแยกซอยเล็กๆ ขวามืออีกที ซึ่งซอยเล็กมากกก ละก็เป็นซอย one-way อีกแล้ว เราขับมาครั้งแรก เลยซอยค่ะ 555555 ต้องวนมาใหม่อีกรอบ เถียงกับแฟนแบบ เห้ย
ใช่เหรอ? ซอยนี้เหรอ? ซอยนี้น่ะนะ? คือมันเป็นแค่ซอยเชื่อมถนนเส้นที่ไปกาดหลวง กับถนนท่าแพ ยิ่งแปลกใจเข้าไปอีกว่ามีที่พักแบบนี้ในซอยนี้ได้ยังไง เดี๋ยวท้ายรีวิวเราจะแปะลิงค์ Google Map ให้นะคะ แล้วเดินทางตาม Map เลยค่ะ เดินทางไม่ยากเลยแต่อธิบายยากค่ะ 5555555

          มาถึงหน้าโรงแรมแบบงงๆ ขับมาเจอปุปถามกันกับแฟน ถึงละเหรอ นี่เหรอ ใช่เหรอ นี่ไงเธอป้ายชื่อ เออใช่จริงด้วย 55555 

          First Impression ที่เห็นคือเป็นสิ่งก่อสร้างหน้ากว้าง 1 คูหา ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน แล้วข้าง ๆ เป็นรั้วอิฐฉาบปูนที่มีชื่อโรงแรม รั้วดูเก่าจนแอบคิดว่า หรือทางโรงแรมตั้งใจจะแต่งให้รั้วเก่าแบบนี้ เป็นสไตล์รึเปล่า แต่แบบนี้เท่นะเราว่า 5555 บนรั้วอิฐเป็นรั้วพุ่มไม้สีเขียวเข้ม มองข้ามรั้วไปมีเรือนไม้ทรงไทย จากด้านนอกมองข้ามรั้วไปกะเอาว่ามี 4-5 หลัง 

ทางเข้าโรงแรมค่ะ

ด้านหน้าโรงแรมในตอนกลางคืน จะเปิดไฟแบบนี้ค่ะ

เข้ามาด้านในเป็น Lobby มีที่นั่งรับแขก

          หลังจากเช็คอินเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ทางโรงแรมจะให้เราเลือกอาหารเช้าเลยค่ะ ซึ่งทางโรงแรมจะนำมาเสิร์ฟถึงห้องในวันรุ่งขึ้นเลย ก็จะมีหลายเมนูให้เลือก เช่น ชุด omelette ข้าวต้ม ขนมปังไข่ดาว ประมาณนั้น เลือกได้คนละ 1 ชุดนะคะ

          เลี้ยวจาก Lobby เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ภายในโรงแรม ด้านในสวยมากกก บอกตามตรงว่า เห็นโรงแรมจากด้านนอก ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร แต่ด้านในสวยมากเลย ทางเดินเป็นหินประดับ มีต้นไม้ แล้วก็สระว่ายน้ำด้านบน หลายคนถ้าเคยได้พักรีสอร์ทใหญ่ ๆ ดี ๆ มา เห็นแล้วอาจจะรู้สึกธรรมดา แต่ลองคิดดูว่า ในซอยแคบ ๆ แถวท่าแพ แล้วพื้นที่โรงแรมแค่นี้ จะสามารถแต่งให้เป็นสวนแบบนี้ได้ เราว่ามันว้าวมากเลยนะ

สวนภายในโรงแรมค่ะ

          Villa แต่ละหลังจะตกแต่งเป็นเรือนไม้มีใต้ถุน ดูดีมากเลยค่ะ ทั้งโรงแรมจะมี Villa อยู่ 4 หลัง จำนวนห้องพักทั้งหมด 6 ห้อง (Villa 2 ห้อง จำนวน 2 หลัง, Villa 1 ห้อง อีกจำนวน 2 หลัง)

สระว่ายน้ำของโรงแรมค่า ถึงจะไม่ใหญ่แต่น้ำใสมาก แต่ด้วยความที่เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการหลังช่วงโควิด ก็เลยยังไม่ได้เอาผ้าคลุมออกค่ะ 55555

มองจากฝั่งทางออกโรงแรมไปทางด้านหลัง จะเห็นหลังคาวัดด้วยค่ะ

ไหนลองแต่งรูปสีโทนนี้ ง่อววว ขลังป้ะล่ะ 555555555

ทางขึ้นไปสระว่ายน้ำค่ะ

          ด้านบนของสระว่ายน้ำ จะมีบาร์เล็ก ๆ สำหรับดื่มหรือกินอาหารด้วยค่ะ แต่ช่วงนี้โซนนี้ปิดอยู่ค่ะ
อันที่จริงทางโรงแรมจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้ถึงห้องเลย ไม่ต้องขึ้นมาถึงตรงนี้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าลูกค้าท่านไหนจะ request ด้านบนนี้ก็ได้ค่ะ

          จากนั้นมาสำรวจ Villa กันค่ะ ห้องพักแต่ละห้องจะมีพื้นที่ระเบียงด้านหน้าห้อง ไว้สำหรับนั่งเล่น และกินอาหารเช้า บางหลังก็จะมีโซฟาสำหรับนั่งเล่นด้วย บางหลังอาจจะมีแค่โต๊ะกินข้าว ซึ่งแต่ละหลังจะมีพื้นที่ระเบียงและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างกันนิดหน่อยค่ะ

ห้องที่เราได้เข้าพักในครั้งนี้คือห้อง 102 ค่ะ

เห็นเป็น Villa ทรงไทย แต่ทุกห้องของโรงแรมเป็นระบบคีย์การ์ดนะจ๊ะ

          ห้อง 102 ที่เราพักจะมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ เราสามารถใช้ห้องกินข้าวร่วมกับห้อง 101 ได้ค่ะ ภายในห้อง 102 จะมีประตูที่เชื่อมมาห้องกินข้าวนี้ ถ้าใครมาเที่ยวเป็นกลุ่มแล้วพักสองห้องนี้ด้วยกันก็จะสบายเลยค่ะ 

          แต่ถ้าสมมติว่าเรามาพักห้องนี้ห้องเดียว แล้วห้อง 101 มีแขกท่านอื่นพักอยู่ เราคงเกรงใจที่จะใช้
ห้องนี้ค่ะ เพราะจริง ๆ ห้องกินข้าวนี้เป็นพื้นที่ของห้อง 101 ค่ะ 55555


          มาถึงพื้นที่ในตัวห้องพัก ถือว่าเป็นส่วนที่เราถูกใจมากที่สุดเลยของโรงแรมนี้ค่ะ เพราะว่าห้องสวยมากกกกก กว้างแบบใช้ได้เลย ตกแต่งสวยสมกับคำว่า Boutique Lanna และมี Facilities ครบทุกอย่างเราที่เราจะนึกออกเลยค่ะ


            การตกแต่งในห้องจะเป็นแนว ๆ ล้านนาย้อนยุคนิดหน่อย เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดทำจากไม้ ภายในห้องมีพัดลมให้ด้วย ทั้งพัดลมเพดานและพัดลมตั้งพื้น แต่มีเครื่องปรับอากาศนะ (ก็เดาว่าพัดลมเพดาน คงติดไว้เพื่อให้เข้ากันกับบรรยากาศห้องค่ะ) แล้วก็มีโคมไฟประดับที่ข้างเตียงและมุมห้องด้วยค่ะ


          ในส่วนของเตียง ทางโรงแรมจะมีผ้าคลุมทับผ้าห่มให้อีกชั้นหนึ่งค่ะ เตียงนุ่มมาก ขอนำเสนอเตียงเลย คือเราไม่เคยเจอความนุ่มแบบนี้ เคยเจอโรงแรมที่เตียงนุ่มมาก นอนแล้วบุ๋มลงไปเลย ซึ่งเตียงแบบนี้ข้อเสียคืออาจทำให้ปวดหลังตอนตื่น แต่เตียงที่นี่ เป็นเตียงนุ่มและเด้ง ไม่มีปวดหลังเลยค่ะ สบายมากๆๆๆ

 
          ด้านบนของเตียงจะมีมุ้งประดับ ให้ความรุ้สึกเหมือนเรือนล้านนาสมัยก่อน พอเราปลดมุ้งลงมาให้คลุมเตียง ภาพที่ได้ก็คือ ทาดาาา!! เหมือนกับห้องนอนในเรื่องบุพเพสันนิวาสยังไงยังงั้นเลย เรียกดิชั้นว่าแม่นางการะเกดสิคะ 555555555

 
         นอกจากนี้ภายในห้อง มี Facilities ครบทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกออกเลยค่ะ ทั้งชุดคลุมอาบน้ำ (เผื่ออยากจะไปว่ายน้ำที่สระ) รองเท้าใส่เดินในห้อง ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ มีครบ น้ำดื่มและชากาแฟฟรีค่ะ แต่บรรดาน้ำกระป๋องในตู้เย็นคิดเงินนะจ๊ะ


          ห้องน้ำที่นี่จะแบ่งโซนห้องน้ำและห้องอาบน้ำออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา แยกกันชัดเจนเลยค่ะ เข้าประตูห้องน้ำมาแล้วจะเจออ่างล้างหน้า เลี้ยวขวาเป็นชักโครก เลี้ยวซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ มีฝักบัว Rain Shower นะคุณณณณ


          และในตอนเช้าอาหารเช้าก็มาเสิร์ฟแล้วค่าา ดูดีมากเลยยย มีผลไม้ให้ในเซ็ตด้วย โดยทางโรงแรมจะยกมาเสิร์ฟถึงห้องตามเวลาที่เราแจ้งไว้ตอนเช็คอินค่ะ อย่างเราพักห้อง 102 ซึ่งติดกับห้องกินข้าว โรงแรมก็จะมาเสิร์ฟที่ห้องกินข้าวค่ะ


          สรุปว่า เราถูกใจโรงแรมนี้มากกกกก พูดตรง ๆ ว่าตอนที่ขับรถมาถึง เห็นโรงแรมจากด้านนอกเราไม่คิดเลยว่า ข้างในจะขนาดนี้ ความประทับใจค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจาก Lobby ได้เจอบริการดี ๆ พนักงานพูดจาดีมาก เลี้ยวมาในพื้นที่หน้า Villa สวยมาก ตกแต่งได้สวยและน่าสนใจมากทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่จำกัด สระว่ายน้ำสวยและดูสะอาดตา ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงไม่ได้สักแต่ว่ามี ตัว Villa ที่สวยแบบไทย ๆ และมีความเป็นส่วนตัว แยกเป็นหลัง ๆ เหนือสิ่งอื่นใด ห้องพักสวยมากกกก พร้อม Facilities ที่ครบครัน อย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ

          ข้อดีของโรงแรมนี้คือ

1. สวยมากกก ถ้าใครที่อยากพักโรงแรมหรือสัมผัสบรรยากาศแบบเมืองเหนือ แนวล้านนา ในราคาที่ไม่แพงเลย แนะนำจริง ๆ ค่ะ เรากล้ารับประกันว่า ชาวต่างชาติจะต้องชอบที่นี่มาก ๆ แล้วคนไทยเองก็คงไม่ได้เจอบรรยากาศที่ออกแนวล้านนานขนาดนี้ในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ แน่ ๆ รับรองว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีแน่นอน

2. ใกล้ถนนคนเดินท่าแพมาก ๆ ออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายออกจากซอย ก็เข้าสู่ถนนท่าแพเลยค่ะ สามารถเดินไปเที่ยววัด เที่ยวร้านกาแฟ และท่าแพคูเมืองได้เลย

3. ห้องพักสวยงาม พร้อม Facilities ครบครัน ในราคาที่ "ไม่แพงเลยยยย" แกกกก ไม่แพงจริง ๆ จากห้องพักที่เห็นอะ ราคาปกติที่นี่น่าจะอยู่ช่วง 2 พันบาทต้น ๆ แล้วทางโรงแรมก็จะมีโปรโมชั่นอยู่เรื่อย ๆ ยิ่งช่วงนี้เพิ่งกลับมาเปิดบริการหลังโควิด ก็จะถูกเป็นพิเศษ ช่วงนี้เหมือนจะคืนละพันกว่าบาทเอง แต่ถึงไม่มีโปรโมชั่น ก็คู่ควรแก่การลองมาพักจริง ๆ

3. บริการดีมากๆๆๆ พนักงานพูดจาสุภาพ และตั้งใจให้บริการจริง ๆ 

          แต่ด้วยความที่เรารีวิวอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้นขออนุญาตพูดถึงข้อเสียของโรงแรมนี้บ้าง

1. ภายนอกโรงแรมมีความขลัง มีความเท่ Minimal Lanna ก็จริง แต่ถือว่าค่อนข้างธรรมดา และไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ตัว Lobby เองก็ธรรมดา ไม่ได้ตกแต่งอะไร อาจจะเพราะโรงแรมเล็กและพื้นที่น้อยด้วยแหละค่ะ แต่ทั้งหมดนี้ชดเชยได้เพราะสวนกับห้องพักสวยค่ะ

2. มีที่จอดรถที่จอดเต็มที่ได้แค่ 2 คัน และเราไม่รู้ด้วยว่ามีที่จอดบริเวณอื่นมั้ย ลืมถามทางโรงแรม 55555 ถ้าเค้ามีที่จอดใกล้ ๆ อีกก็แล้วไป ข้อเสียข้อนี้ก็จะหายไป แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็จะลำบากสำหรับคนขับรถมาเองเหมือนกัน

3. งงซอยมากค่ะ 555555 เพราะว่าเส้นทางโซนถนนท่าแพและกาดหลวง ซึ่งเป็นทางมาโรงแรมนี้ เป็นถนน one-way ทำให้ถ้าเข้าซอยผิดต้องวนไปเริ่มใหม่เลย แต่ถ้าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแดง หรือ Grab Car สามารถจอดหน้าปากซอยฝั่งถนนท่าแพแล้วเดินเข้ามานิดเดียว ง่ายกว่าเยอะ


          สังเกตได้ว่า ข้อเสียไม่เยอะเลยนะ ซึ่งสามารถแก้ได้ง่าย ๆ เลยด้วยการใช้รถสาธารณะ แนะนำจริง ๆ สำหรับใครที่จะมาเที่ยวเชียงใหม่ แล้วอยากได้ที่พักสไตล์ล้านนาในราคาไม่แพง ต้องลองซักครั้งกับโรงแรม
"บ้านแสนฝาง" ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ใกล้ถนนท่าแพ ประทับใจทั้งห้องพักและที่เที่ยวใกล้โรงแรมแน่นอน

          สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณสำหรับที่พักดี ๆ โรงแรม "บ้าน แสน ฝาง" สาบานเลยว่าไปแล้วชอบมากจริง ๆ อนาคตจะแนะนำคนรู้จักที่จะไปเที่ยวเชียงใหม่ให้ลองไปพักแน่นอนค่ะ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับรีวิวต่อไปของ "กิน จน จน" ซึ่งตอนนี้จะเพิ่ม content ที่ไม่ใช่แค่เรื่องกินนะคะ ฝากติดตามกันด้วยน้าา สำหรับรีวิวนี้ ลาไปด้วยบันทึกวิดีโอของโรงแรมบ้านแสนฝางค่า แต่ถ้าดูละตาลายก็ย้อนขึ้นไปดูรูปแทนละกันค่ะ 555555555

Location โรงแรม : https://goo.gl/maps/nfDeSYKaWy...

พิกัด ตำบล ช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300

Website  : https://baansaenfang.com/ เข้าไปจองได้เลยค่ะ

กินจนจน : Poor Eater

 วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18.11 น.

ความคิดเห็น