หน้าร้อนนี้ไปไหน ถ้าไม่น้ำตกก็ทะเล อ่อ...ลืมแนะนำตัวเลยครับ สวัสดีครับ ผม Adventrures Rider ครับ กลับมาในรีวิวนี้เป็นรีวิวที่2 แล้วครับ วันนี้มาเที่ยวทะเลกันบ้าง เนื่องด้วยพี่เชน ประธานเพจ ลิงพาเที่ยว ได้จัดทริปจะไปเขาคิฏกุชกัน ลาพักร้อน ลางานกันไปแล้วด้วย แต่สุดท้ายวันเปิดเขาดันเลื่อน พวกเราจึงเปลี่ยวมาที่เกาะเสม็ดแทน การเดินทาง ใน 2 วัน 1 คืนของพวกเราจะเป็นอย่างไรนั้น

มาติดตามกันครับ.........


พวกเราออกเดินทางจากลพบุรี โดยรถตู้ตอนตี1 กว่าๆครับมาถึงที่บ้านเพ ระยอง ก็ตี5 กว่าๆ มาถึงเช้าไปมั้ยเนี่ย555 ซึ่งท่าเรือยังไม่เปิดบริการครับ จึงต้องมานั่งคอยกันที่ปั้มน้ำมันครับ พลางหาขนม นม เนย รองท้องแทนอาหารเช้าไปพลาง นั่งชิวกันไปสักพัก ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้วครับ




หาดสวนสนตอนเข้า 6 โมงกว่าๆเงียบสงบจนวังเวง เมื่อคืนผ่านมาน่ากลัวมากครับ แต่ดูแล้วสายๆคนน่าจะเยอะครับ ตอนที่รถขับผ่านมองเห็นหมอกจางๆในทะเล ไม่แน่ใจว่านี่ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่าทะเลหมอกรึเปล่าคับ..



เดินทางมาถึงตลาดบ้านเพ ก็เกือบจะ7 โมงเช้าครับพวกเราจึงหาอาหารเช้ามาใส่ท้องและเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าบริเวณท่าเรือกันครับ

บรรยากาศยามเช้า ทะเล ผมว่ามันมีมนต์สเหน่ของมันอยู่ในตัว


ทานอาหารเช้ากันครับ...

ฟ้าเปิดแล้วครับ หลังจากที่เราทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันต่อครับ


การเดินทางที่จะข้ามไปยังเกาะเสม็ดนั้น พวกเราเลือกใช้บริการของท่าเรือนวลทิพย์ครับ ซึ่งค่าโดยสารจะคิดเป็นราคารวมทั้งขาไปและขากลับ 100 บาท ครับ ซึ่งเรือเที่ยวแรกจะออก8 โมงเช้าครับและเที่ยวสุดท้าย 6 โมงเย็น ถ้าจะให้ดีควรเดินทางก่อนเที่ยวสุดท้ายน่าจะดีครับ เพราะเที่ยวสุดท้ายคนอาจจะเยอะมาก


ถามว่าตื่นเต้นมั้ย ตอบเลยว่าตื่นเต้นครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ขึ้นเรือข้ามไปเที่ยวเกาะ แล้วอีกอย่างผมว่ายน้ำไม่เป็น555


ที่ท่าเรือนวลทิพย์จะมีมุมให้เราได้เซลฟี่ถ่ายรูปกัน ว่าแล้วพวกเราก็จัดกันซะเลยครับ ว่าครั้งหนึ่งได้เคยมาใช้บริการ


บรรยากาศเช้าๆบริเวณท่าเรือนวลทิพย์

พี่เต๋ามือกล้องของเรามุมนี้หล่อเลยครับ..^-^



ถึงเวลา 8.00น. จะเป็นเรือเที่ยวแรกที่ข้ามไปยังเกาะเสม็ด.

ว่าแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางครับ...Go ไปเกาะช้าง...เอ้ยเกาะเสม็ดกัน

พี่เชนประธานเพจลิงพาเที่ยว ทำหน้าเหมือนจะเมาเรือ


มองเห็นตลาดบ้านเพ อยู่ไกลๆ

มองเห็นเกาะเสม็ดแล้วครับ...


เร็วมากๆครับเรือสปีดโบ๊สจากการที่สอบถามราคา คนละ200 บาท ไปกลับ400 บาท แพงเกิรเราไม่ไปนะ


เดินทางมาเกือบ45 นาทีเราก็มาถึงตัวเกาะเสม็ดแล้วครับ มองเห็นนางผีเสื้อสมุทยืนอยู่

เป็นอีกมุมถ้าเดินทางมาถึงเกาะเสม็ดแล้ว..ต้องถ้ายรูปเซลฟี่คู่กับนางผีเสื้อสมุท ถ้าไม่ได้เซลฟี่แสดงว่ามาไม่ถึงเกาะเสม็ด

เมื่อเดินขึ้นมาก่อนที่เราจะเข้าเกาะ จะต้องเสียค่าทำเนียมหรือค่าเหยียบเกาะคนละ 20 บาทครับ เป็นค่าบำรุงรักษาเกาะครับ


อีกหนึ่งมุมที่ห้ามพลาดเลย มุมนี้จากที่ผมได้ศึกษามาจากหลายๆรีวิว และหลายๆโพสครับมุมนี้ พระอภัยมณีเป่าปี่หน้าเซเว่น

แต่เอ๋....ทำไมถึงมานั่งเป่าปี่อยู่หน้าเซเว่น..

พี่เชนกำลังเก็บข้อมูลครับ


ส่วนผมก็ยังยืน งง ว่าพระอภัยมาเป่าปี่อะไรตรงนี้..

จากนั้นเราก็เดินทางมาึงที่พักที่เราได้จองไว้ครับ เราเลือกที่นี่ครับ มอสแมนเฮ้า ห้อง 2 คนคืนละ 1200 บาท ห้อง 4 คน 2000 มีเครื่องทำน้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็น และwifi ไว้ให้บริการ อยู่ด้านหน้าอุทยานครับ ที่สำคัญ ใกล้กับเซเว่น และมีรถมอไซค์ให้เช่าไว้บริการด้วยครับครับ

ต่างคนต่างหมดสภาพเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน สลบกันเป็นรายๆไป อาจารย์แหลมนอนหมดสภาพ


ก็หลังจากที่ปล่อยๆให้เพื่อนๆได้พักผ่อนกัน ผม พี่เชน พี่เต๋า จึงเช่ามอไซค์ ซึ่งราคาที่เกาะนี้จะคิดกันอยู่ที่ราคาวันละ 300 บาท แต่ถ้าเช่า 1 ชั่วโมงราคา 100 บาท ผมแนะนำให้เช่า 1 วันไปเลยครับ จะคุ้มกว่า ที่สำคัญได้น้ำมันเต็มถังด้วยครับ ว่าแล้วก็ไปแว๊นกันครับชมบรรยากาศรอบเกาะครับ

ว่าแล้วก็เริ่มออกสำรวจหาดต่างๆ กันครับ

หาดแรกที่ใกล้ที่สุด หาดทรายแก้วครับ


ที่หาดนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะมากๆ ครับ ชายหาดที่นี่สะอาดน่าเล่นมากๆครับ จากที่สังเกตุดูจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก ผมนี่ สปีค ฟุดฟิดฟอไฟ..ไม่ถูกเลยครับ5555

ส่วนมากที่นี่ชาวต่างชาติจะเยอะครับ ผมมาช่วงวันหยุดด้วย ถ้าวัน ธรรมดาน่าจะน้อยกว่านี้ครับ และเนื่องด้วยกันวันวาเลนไทล์ วันแห่งความรัก นักท่องเที่ยวคู่รักนี่เยอะมาก...ส่วนผมคนโสดก็ยืนมองต่อไป...หวังเล็กๆคงจะเจอกับเค้าบ้างล่ะนะ



ว่าแล้วก็ไปสำรวจหาดต่อไปครับ มาถึงหาดที่2 อ่าวพร้าว ที่นี่บรรยากาศจะเงียบสงบดูเป็นส่วนตัว นักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยเยอะครับที่เห็นก็มีสาวแหม่ม นอนอาบแดดอยู่2-3 คน



ใกล้เวลา 11.00 น ผมจึงรีบเดินทาง กลับไปยังที่พักครับ เพราะใกล้ถึงเวลาที่เราจะไปดำน้ำดูปะการัง ซึ่งพวกเราซื้อทัวร์ไว้กับที่พักคนละ 600 บาท ดำน้ำ6 เกาะ ราคานี้รวมอาหารกลางวันและผลไม้แบบบุฟเฟ่ครับ ดำน้ำเป็นยังไงไม่รู้ แต่ที่รู้ๆผมว่ายน้ำไม่เป็น...แต่พี่เชนบอกมาแล้วต้องดำน้ำด้วย....ถ้าไม่ดำก็นอนเฝ้าห้อง...ทำไงได้ผมเลยลองดูสักตั้งว่าจะเป็นยังไงประสบการณ์ชีวิตครับ

เดินทางมาถึงเกาะแรกครับ เกาะถ้ำค้างคาว ครับ ตรงจุดนี้จะเป็นจุดแรกของทริปนี้ครับ จากการสอบถามคนขับเรือ ตรงนี้น้ำลึกประมาณ 2-4 เมตร ครับ ที่สำคัญต้องระมัดระวังหอยเม่นครับ แค่ผมเห็นน้ำและความลึกก็หวิวแล้ว แต่ดีหน่อย ที่เค้ามีเสื้อชูชีพให้ใส่ไม่งั้นคงแย่...ว่าแล้วก็รวบรวมประสบการณ์ทั้งหมดแล้วกระโดดลงไป

กระโดดลงไปรอบแรก ได้เรื่องเลยครับ น้ำเค้าสน๊อค เค็มปิด บ้วนออกแทบไม่ทันกว่าจะตั้งหลักได้ก็ประมาณ 4 -5 รอบ เพราะว่ายน้ำไม่เป็นแล้วก็ไม่เคยใส่สน๊อคดำน้ำแต่อย่างว่าครับ ประสบการณ์ชีวิตเน้นๆ พอตั้งลำได้แล้วทีนี้ก็เพลินสิครับ


ในรูปนี้ไม่มีผมนะครับเพราะไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน 5555


ดำน้ำ 40 นาที เราก็เดินทางมาที่เกาะกุฏี เพื่อทานอาหารกลางวันแล้วพักผ่อนกันครับ ต่างคนต่างเพลีย ผมนี้แทบหลับ เพราะตังแต่มายังไม่ได้พักกับเค้าเลย ห่วงแต่เที่ยว เลยอาศัยเวลานี้พักผ่อนไปพลางครับ

ดูจากสภาพไม่ต่าฃจากลูกหมาตกน้ำเลย


ท่านข้าวอิ่มแล้ว นอนเล่นสักพัก ก็มาเล่นน้ำกันต่อ...ดูจากสีหน้าพลังเริ่มกลับมาแล้วครับ พร้อมลุย


ผมกั้งและนาจเล่นน้ำกันอย่างเมามันส์ครับ

จากที่สังเกตุ หาดที่นี่จะเป็นทรายและหินครับ ครัวจะวังหินบาดให้ดีผมโดนมาเองกับตัวแต่ดีครับที่ไม่เป็นอะไรมาก





ดำน้ำกันไปหลายเกาะครับ... เกาถ้ำค้างคาว เกาะกุฏี แล้วก็มาถึงเกาะขาม ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกลวยที่เราเห็นด้านหน้าเราคือ เกาะกลวยครับ ถ้าจะข้ามไปต้องดำน้ำข้ามไปครับ

น้ำใสมากครับ..และที่สำคัญตรงนี้น้ำตื้นมากๆ เหมาะแก่การฝึกดำน้ำมากๆ ผมหัดดำน้ำอยู่ตรงนี้พักใหญ๋ๆ เกาะหน้าจะได้ไม่หลาด

ฝึกซ้อมเต็มที่


แช่น้ำที่เกาะขาม และเกาะกลวย แล้วก็ออกเดินทางกันต่อไปยังเกาะปลายตีน ครับ แต่เราไม่ได้แวะ เพราะมีนักท่องเที่ยวเมาเรือ บวกกับเวลาเกือบจะเย็นแล้วเราจึงรีบไปยังเกาะถัดไป จากที่คนขับเรือเล่าให้ฟังนะครับ เกาะนี้ที่ชื่อว่าเกาะปลายตีน เพราะเป็นปลายตีน ของนางผีเสื้อสมุทร ที่มาสิ้นใจ และนอนตายตรงนี้ ต้องดูจากภาพมุมสูงครับ จะดูคล้ายนางยัง นอนอยู่ และตรงนี้ก็คือปลายตีนของนางผีเสื้อสมุทรคับ


และแล้วก็เดินทางมาถีงเกาะสุดท้ายของทริปนี้ครับเกาะนี้ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ ของทริปนี้เลยครับ เพราะอะไรเราไปดูกันครับ..



ซึ่งที่นี่น้ำใสมากๆผมได้มาเยือนที่นี่เป็นครั้งแรก แวปเเรกที่ได้เห็นตื่นเต้นมากครับ เพราตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นทะเลที่น้ำสีฟ้าจริงๆแบบนี้ปกติ จะเคยเห็นแต่ในรูปภาพเท่านั้น พอเรือจอบปุ๊บผมลงคนแรก มันเหมือนกับสถานที่ๆตามหามานาน

ที่สำคัญ ปลาที่นี่คุ้นเคยกับคนมากๆครับ เค้าเรียกปลาเสือรึเปล่า ลายมันเหมือนเสือ มากๆ

เล่นน้ำสักผมลมเริ่มพัดมา รู้สึกหนาวได้ทันที ผมจึงขอขึ้นมาพักก่อน และอีกอย่างเริ่มที่จะหิวแล้วครับ


ส่วนในภาพที่เห็น ต่างคนต่างหิว เลยแย่งปลากินซะงั้น เคี้ยวกันง่วนเลย ดูแล้วคงไม่น่าจะให้ปลาแล้วล่ะนะ

ให้อาหารปลาสักพักคนเริ่มหิว.....เลยแย่งปลากินซะเลย..ง่ำๆ ปลาไม่ต้องกินแล้วคนกินซะเองเลย

มองไปรอบๆ ชมบรรยากาศรอบเกาะแอบไปเห็นสาวชาวเกาหลี....น่ารักมากๆครับเหมือนดาราเลย ผมนี่สะดุดในความน่ารักของเธอเลยครับ อยากจะเข้าไปทักทายเหมือนกันครับ แต่ดันพูดไม่เป็น555


เวลาแห่งความสุขมันมักผ่านไปไวครับ ถึงเวลลาที่ต้องกลับที่พักกันแล้วครับ ว่าแล้วก็ขอเก็บบรรยากาศ รอบๆก่อนครับ ครั้งหนึ่งในความทรงจำ กับสถานที่ๆไม่อยากลืม ถ้าเป็นไปได้ก็อยากมาเล่นกับปลาที่นี่ทุกวัน...


ท้องฟ้าสีคราม น้ำทะเลสีฟ้า ความทรงจำที่ไม่อยากลืม


กลับก่อนนะครับ....ลาก่อน เจ้าปลาเสือ เดี๋ยวครั้งหน้าจะกลับมาเล่นด้วยใหม่แล้วรอบหน้ามากินขนมด้วยกันอีกน๊าา

เซลฟี่ก่อนกลับครับ ปกติบริเวณด้านนี้เรือจะจอดให้ดำน้ำรอดถ้ำครับ แต่ช่วงที่ผมไปนั้นน้ำลงครับ และหอยเม้นเยอะครับ เลยไม่ได้ดำน้ำรอดเกาะทะลุ เลยทำได้แค่เก็บภาพไว้ดูว่าครั้งนีงว่าเราก็เคยมาที่นี่


เดินทางกลับมาเกือบ5 โมงเย็นดูสภาพแต่ละคนครับ เหนื่อยแต่สนุกครับ ประสบการณ์ชีวิตล้วนๆ

เข้าที่พักอาบน้ำพักผ่อนเพราะคืนนี้เรามีนัดกันที่ร้านพลอยทะเลครับ เดี๋ยวเราจะไปดูโชว์ควงกระบองไฟกันครับ แต่ตอนนี้ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า และหามื้อเย็นยัดลงท้องก่อนครับ ไม่ไหวแล้วครับ เพลียเหลือเกิน



หลังจากที่ อาบน้ำพักผ่อน หามื้อเย็นทานกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มาเดินดูบรรยากาศริมหาดทรายแก้วยามค่ำคืนกันครับ ที่นี่ร้านอาหารจะเป็นแนวผับเปิด เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชิวกัน และนอกจากจะมีการแสดงดนตรีสดแล้ว ยังมีดชว์ควงกระบองไฟ ซึ่งเป็นไฮไลต์ ของที่นี่ยามค่ำคืนด้วยครับ


ดนตรีสดแต่ละร้านนี้...ระดับเทพกันทั้งนั้นครับ..บรรยากาศก็ฟินเวอร์ เกือบๆฟลูมูนปาร์ตี้เลยก็ว่าได้


โชว์เริ่มแล้วครับ.. คนที่ดูใกล้ๆผมละเสียวแทน


เริ่มต่อตัวแล้วครับ...


บอกได้คำเดียว...ว่าสุดยอดมากครับ อันนี้ถือว่าเด็ดสุด..ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็น..อลังงานงานสร้างมากๆ




สำหรับค่ำคืนนี้คงต้องทิ้งท้ายไว้ที่ภาพนี้ครับ ขอตัวไปพักผ่อนก่อนครับ เพราะพรุ่งนี้ผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นของเกาะ เสม็ดครับ...





เช้าของวันที่สองของการเดินทาง..ผมตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะมาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น บริเวณท้ายหาดท้ายแก้วจะมีจุดชมวิวอยู่ครับ ซึ่งผม พี่เชน พี่เต๋าเดินหากันสักพักใหญ่ เดินไปสุดหายทรายแก้วจะมีทางเดินเล็กๆเดินขึ้นมา ณ จุดนี้ครับ


รอเก็บแสงแรกของวันแห่งความรัก 14 กุมภา วันแห่งความรัก แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหงาๆ


ตอนแรกผมคิดว่าพี่เชนจะกระโดดลงไป แต่ที่ไหนได้แกยืนรับลม...เอ๊ะหรือว่าเอาพุงโต้ลมเล่นอยู่นะ5555


แสงแรกกำลังมาครับ วันนี้รอนานหน่อยเนื่องฟ้าฟ้าปิด มีเมฆเข้ามาบังเป็นจำนวนมาก


มาแล้วครับแสงแรกของวันแห่งความรัก ผมได้แต่อธิฐานในใจ ขอให้เจอรักแท้กับคนอื่นกับเค้าบ้างสักครั้งเถอะนะ

รูปนี้สามเซลฟี่ในตำนาน....ครับถ้าสามคนนี้อยู่ที่ไหนย่อมมีการเซลฟี่เกิดขึ้น...


จากนั้นพวกเราก็กลับที่พักครับ ระหว่างทางก็แวะซื้อหมูปิ้งนมสดไม้ละ 10 บาท หน้าอุทยาน มาเป็นมื้อเช้าครับ ทานอาหารเช้ากันเสร็จสัพ เราก็ออกเดินทางสำรวจหาดต่างๆของเกาะเสม็ดครับ เรามีเวลาถึงแค่ 11.00น เพราะเราต้องเช็คเอาท์ ออกตอนเที่ยง แล้วก็ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับกันอีกครับ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย


อ่าวไผ่ เป็นอ่าวแรกที่เรามาสำรวจกัน เพราะเป็นอ่าวที่ใกล้กับที่พักเราครับ แต่ที่นี้จะไม่มีหาดทรายมีแต่ ก้อนหิน ที่สำคัญ ลื่น และต้องระวังล้มหัวฟาดพื้นด้วยครับ

ผมเริ่มถ่ายทำบรรทึกการเดินทางและเก็บบรรยากาศโดยรอบครับ


กำลังเก็บคลิบไปตัดต่อบรรทึกการเดินทางของพวกเราเอาไว้ลง youtube


เนื่องจากเวลามีจำกัดพวกเราจึงรีบออกเดินทางกันต่อครับ

อ่าวทับทิม เป็นอ่าวที่สองที่เราขับรถมาสักพักแล้วจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวเข้าไป พวกเราจึงเข้าไปสำรวจครับ ที่นี่เกาะจะมีนักท่องเที่ยวเหมือนกันแต่ก็จะไม่เยอะมากเหมือนหาดทรายแก้ว


แม่ลูกชาวต่างชาติ





ไม่มัวรอช้าครับไปกันต่อ


อ่าววงเดือน อ่าวนี้จะมีลักษณะโค้งคล้ายกับ วงเดือน จึงมีชื่อเรียกว่าอ่าววงเดือน อ่าวนี้น่าเล่นมากครับ เพราะจะมีหาดทรายที่เรียบ และน้ำใส คนไม่พลุกพล่านมากนัก

ผมเลยเก็บบรรยากาศของอ่าวนี้ไว้ดูครับ ที่สำคัญที่นี่น่าจะเป็นหนึ่งใน Unseen thailand


จากนั้ก็ไปกันต่อ แต่ยิ่งไปเลื่อยๆทางยิ่งชันโค้งคตเคี้ยว แต่ถ้าค่อยๆขับก็ไม่เป็นไรครับ ปลอดภัยไว้ก่อน


จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกเกาะเสม็ด จุดนี้จากการที่สอบถามเจ้าของที่พักบอกว่าเป็นจุด ที่ดูพระอาทิตย์ตกสวยที่สุด ของเกาะเสม็ด แต่เสียดายเนื่องจากพวกเราเพลียกันมากเมื่อวาน จึงไม่ได้มาดูพระอาทิตย์ตก เลยได้แค่มาถ่ายรูปเก็บวิวสวยๆแทน

มองเห็นทะเลไกลสุดตา


มองเห็นอุทยานเขาแหลมหญ้าจากตรงนี้



จากนั้นพวกเราก็ขับรถกันมาจนสุดหาย ก็จะเจอกับอ่าว ปะการัง ครับ จะมีที่ทำการอุทยานและมีลานกางเต้นครับ แต่ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวมากางนอน


อ่าวปะการัง ที่นี่ไม่มีชายหาดครับ ลักษณะคล้ายกับแหลมกรุงเทพ ที่มีโขดหินยื่นออกไป ตรงจุกนี้จะเป็นจุดสำหรับไว้ดำน้ำดูปะการังของเกาะเสม็ดครับ


อ่าวลุงดำ และสุดท้ายและท้ายสุด ของทริปนี้ อ่าวลุงดำ เป็นอ่าวที่มีสะพานไม้ยื่นไปในทะเล ถ้าเป็นตอนเย็นบรรยากาศคงจะโรแมนติกมากครับ

มองเห็นคู่รักเดินออกไปที่สะพานไม้

พี่เชนขึ้นไปรับลมชมบรรยากาศ เอาพุงปะทะลมเล่น

ส่วนผมก็ลงไปเล่นน้ำคลายร้อนครับ


ส่วนที่งานก็หลบร้อนใต้ต้นไม้กับแดดตอนสาย อันร้อนแรง


นี่คงเป็นภาพแห่งความประทับใจในทริปนี้ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับ ถ้ามีโอกาศต้อมาอีกแน่ๆ เสม็ดเสร็จทุกราย สำหรับคำว่า เสร็จ ในที่นี้คงน่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งถ้ามาที่นี่คงจะเสร็จสัพกลับไปแล้วอยากมาอีก หรือบางคน อาจจะเสร็จอยากอื่นด้วย อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ55555 เอาเป็นว่าคงต้องถึงเวลาเดินทางกลับแล้วสินะ



เดินทางกลับแล้วครับ แพ็คของเรียบร้อยเตรียมกลับเข้าฝั่ง...ละเน้อ


มอนแมนเฮ้า ถ้าใครกำลังมองหาที่พักบนเกาะเสม็ด ผมแนะนำให้เลยว่าที่นี่เจ๋งครับ มีบริการให้ครบเลย ที่สำคัญราคาไม่แพงและเจ้าของใจดีด้วยครับ ว่าแล้วก็ได้เวลาเช็คเอาท์ครับ


ระหว่างเดินทางกลับเราก็เก็บภาพบนเกาะไปเลื่อยเพื่อบันทึกการเดินทางครับ


ผู้คนต่างชาติ ต่างสารทิศ มาเที่ยวกันก่อนที่จะเข้าช่วงฤดูร้อน



ลาก่อนเกาะเสม็ดเสร็จทุกราย แล้วเราจะกลับมาเสร็จไปด้วยกันอีก

เรือโดยสารแบบที่พวกเรานั่งครับ


มองเห็ชายฝั่งแล้วครับ แล้วพบกันอีกครับ กับพวกเราแก๊งลิงพาเที่ยวในทริปต่อไปครับ ทริปนี้ผมและทุกคนสนุกมากและเหนื่อยมาก ได้รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะกลับมาด้วยครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันครับ


ขอบคุณที่ติดตามการเดินทางของพวกเรานะครับ อ่านรีวิวแล้วก็อย่าลืม กดถูกใจเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วยนะครับ

#ลิงพาเที่ยว MTT RIDER


สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ค่ารถตู้ 5500 บาท หาร 7 คน คนละ 786 บาท

ค่าเรือไปเกาะเสม็ด 100 บาท ไป/กลับ

ค่าที่พัก (มอสแมนเฮ้าส์) 1200 หาร 2 คนละ 600 บาท

ค่าทริป ดำน้ำ 600 บาท

ค่าเหยียบเกาะ 20 บาท

ค่ากิน (อาหารตามสั่ง ) มื้อละ 100 บาท 3 มื้อ 300 บาท

ถ้าเน้นประหยัดมื้อเช้า หมูปิ้งหน้าอุทยานไม้ละ 10 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2556 บาท


เพจของพวกเราลิงพาเที่ยวครับ MTT RIDER

บันทึกการเดินทางของพวกเราครับ ในนี้มีรูปถ่ายใต้น้ำตอนพวกเราดำน้ำด้วยครับ อย่าลืมรับชมนะครับ


Adventurers Rider

 วันพฤหัสที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 23.22 น.

ความคิดเห็น