ครั้งแรกกับการรีวิวที่นี่สวัสดีค่า^^
ทริปนี้ เกิดจากได้ดูสารคดีของ TPBS ชุด มหัศจรรย์พันธุ์ลึก (The Sea Wanderers) ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=BZcq0nBa_ew
ได้ดูแล้วหัวใจพองโตมาก อยากไปเจอฉลามวาฬมากๆ จากที่ไม่ค่อยอินอะไรมากกับโลกใต้ทะเล ไม่ชอบดำน้ำ เป็นมนุษย์เวียนหัว นั่งเรือก็เมา แม้แต่ Snorkle ก็ยังเมาค่ะ แต่พอดูสารคดีชุดนี้ โอ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ สวยมากกกกก ลำดับเรื่องดีมากกก ได้ความรู้แบบเพลิดเพลินมากกกๆๆๆๆๆ คุณปาล์ม ชลณัฏฐ์ โกยกุล พิธีกร น่ารัก คุณมีน คุณเอ้ ทีมงานใต้น้ำ "digitalay" ของ TPBS ก็น่ารักมากๆ และเก่งมากๆๆๆๆ ก.ไก่ล้านตัว มืออาชีพมากๆๆๆ ผลงานสารคดีชุดนี้ ผลงานภาพใต้น้ำ เทียบระดับอินเตอร์ได้เลยค่ะ หากมีใครรู้จักทีมงานฝากบอกด้วยนะคะ ปลื้มแรง ปลื้มจริงจังมาก ขอบคุณที่ทำให้คนไม่ชอบดำน้ำได้มีโอกาสเห็นโลกสวยๆแบบนั้น โดยไม่ต้องดำเองค่ะ อิอิ
เวิ่นเว้อมาก เริ่มเรื่องเลยดีกว่านะคะ อิอิ
เริ่มจากการวางแผน สำรวจเที่ยวบิน แผนที่ และเวลานะคะ ก็ตามรูปเลยค่ะ ได้ยินว่าเมื่อก่อนสายการบิน Cebu Pacific มีเที่ยวบินตรง BKK-CEB แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ต้องไปต่อเครื่องที่มะนิลาค่ะ
จขกท ต้องการฟิกเวลาขากลับเลยต้องยอมจ่าย คอสไม่โลวของ Philippine Airlines ค่ะ ราคาตั๋วที่ได้เลยไม่ค่อยประหยัดนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่จัดสรรเวลาได้ จะมีตั๋วโปร ตั๋วโลวคอสเยอะอยู่นะคะ ^^
ราคาตั๋วทีพวกเราจองได้
Cebu Pacific BKK-MNL-CEB = 5,243 บาท
Air Asia TAG-MNL **อันนี้ฟลุ๊คได้โปร 499 บวก add on นู่นนี่ก็ = 933 บาท
Philippine Airlines MNL-BKK = 8,568 บาท
Total ไป-กลับ 14,744 บาทค่ะ
ขาไป ลงที่สนามบิน Cebu ค่ะ ส่วนขากลับๆจาก สนามบิน Tagbilaran เนื่องจากใกล้ที่พักที่เราอยู่คืนสุดท้ายค่ะ
สัญญานอินเตอร์เน็ต จขกท ซื้อแพคเกจโรมมิ่ง AIS ค่ะ ที่นั่นเป็น Globe Telecom โดยรวมสัญญานดีค่ะ จะมีที่โรงแรมที่ Oslob ที่ไม่ค่อยเวิร์ค นอกนั้น แม้แต่กลางทะเลยัง live ได้เฉยเลย
ปลั๊กไฟเหมือนเมืองไทย กำลังไฟ 220 เท่ากัน ไม่ต้องห่วงในจุดนี้ค่ะ^^
ค่าเงิน เอาเงิน PHPx0.77=THB ค่ะ (rate นี้ช่วงเมษา2559นะคะ)
สถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเซบู และบริเวณใกล้เคียงเยอะมาก ที่เด่นๆก็เป็นโบราณสถาน มีจุดน้ำดำหลายจุดค่ะ (ถ้าใครชอบดำน้ำลึก ที่นี่คงจะเป็นอีกที่ๆธรรมชาติยังค่อนข้างสมบูรณ์ สวยงามค่ะ จขกทหาข้อมูลพบว่าสัตว์หายากใต้ทะเล เช่น ม้าน้ำแคระ ก็มีให้ชมในแถบนี้นะคะ)
จุดดำน้ำที่น่าสนใจก็มี เกาะ Olango, เกาะ Malapascua, เกาะ Bantayan, เกาะ Capitancillo, เกาะ Mactan, เกาะ Kansantik , เกาะ Pescador และอื่นๆอีกมากมาย
สถานที่มีโบราณสถานหลายที่ เช่น ป้อมปราการซานเปโดร (Fort San Pedro), อนุเสาวรีย์ Parian , 1730 Jesuit House และอีกที่ Algre Guitar Factory อันนี้เป็นโรงงานทำกีต้าร์ค่ะ
เนื่องจากเวลาน้อย 4 วัน 3 คืน แถมอยู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เลยได้โปรแกรมแบบประหยัดเวลา แต่ไม่ประหยัดเงินสักเท่าไหร่ค่ะ ^^" แต่ในรีวิวนี้ จขกทได้ลงรายละเอียดบางอย่างที่หาข้อมูลได้ เผื่อสำหรับผู้ที่มีเวลาเหลือ ไม่เร่งรีบมาก และต้องการประหยัดขึ้นมาหน่อยจะได้มีตัวเลือกนะคะ
แผนที่การเดินทางเส้นจุดปะสีแดงเป็นเส้นทางการเดินทางของกรุ๊ป จขกทค่ะ จุดมาร์คอื่นๆ คือที่ๆ น่าสนใจหลายที่แต่บางที่ต้องจำใจต้องตัดทิ้งเพราะเวลาไม่พอค่ะ (แผนที่ทำคร่าวๆให้พอเห็นภาพนะคะมาร์คอาจจะคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย)
ส่วนโปรแกรมทัวร์ จขกท ทำ itinerary แจกเพื่อนจริงจังมากตามรูป 555 สงสัยจะว่างมากไปค่ะ 555
ทุกอย่างพร้อม ออกเดินทางกันเลยค่ะ (จขกท จะเล่าประสบการณ์ ความรู้สึก พร้อมทั้งสอดแทรกราคา และ contact ไปพร้อมๆกันนะคะ ส่วนตารางสรุปค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ตอนท้ายค่ะ ..เอิ่ม..ออกตัวนิดนึงค่ะ รูปไม่ค่อยงามนะคะ ดูที่ข้อมูลแล้วกันนะคะ แห่ะๆ ตั้งใจเที่ยวเลยค่ะทริปนี้ จดจ่อกับการเที่ยวมากกว่าการถ่ายรูปค่ะ^^)
กทม-มะนิลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ช.ม. ค่ะ เมื่อเครื่องใกล้จะถึงมะนิลา มองลงไปในเมือง บ้านเรือนเป็นแบบนี้เกือบทั้งหมดเลยค่ะ เซอร์ไพร้เล็กน้อยค่ะ หุหุ
สนามบินมะลิลาแออัด ไม่แน่ใจว่าแออัดตลอดๆ หรือเป็นบางช่วง แต่ที่ไปเจอทั้งเที่ยวไปเที่ยวกลับ ที่นั่งน้อย แย่งกันนั่ง ไม่ค่อยมีร้านอาหาร หน้าเกทอากาศร้อนเหมือนแอร์ไม่ทำงาน และไฟล์ จขกท ดีเลย์ทั้งสองขา เซ็งมากเลยค่ะ แห่ะๆ
บินต่อสักพักด้านล่างจะมีหมู่เกาะสวยงาม สำหรับจขกท ไม่เคยเห็นแบบนี้ค่ะ รูปร่างแปลกตาชอบค่ะ
บินช่วงเย็นๆฟ้าสวยค่ะ ใกล้ๆถึงเห็นเกาะและภูเขาสูงลอยอยู่บนฟ้า...คำว่าภูเขาสูงเสียดฟ้าเป็นแบบนี้นี่เอง ^^
สักพักเริ่มมืด ตาก็เริ่มหรี่และหลับค่ะ แห่ะๆ
บินจากมะนิลาถึงเซบู ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆเองค่ะ ..อ้อ...ที่ฟิลิปปินส์เร็วกว่าบ้านเรานะคะ 1 ชั่วโมงค่ะ ^^
เริ่มทัวร์นะบัดนี้ แห่ะๆ
วันแรก // 12 เมษายน
Airport transfer รถจากสนามบินเซบูไป Oslob จขกท ตัดสินใจไม่จองล่วงหน้าค่ะ เพื่อดูสถานการณ์ (แล้วไฟล์ก็ดีเลย์จริงๆ) ถ้าไม่เหนื่อยเกินไปตั้งใจจะใช้รถบัสประจำทาง ได้ยินว่าดีขนาดมี Free Wifi บนรถค่ะ
รถบัสประจำทาง ราคาถูก แต่ต้องเดินทางไปขึ้นรถที่ Southern Bus Terminal รถมีวิ่งตั้งแต่ 03:00 ถึง 21:00 ค่ะ โรงแรมเน้นว่าให้ขึ้นบริษัทที่รถสีเหลือง ราคาที่หาข้อมูลมา 150 php ต่อคนค่ะ แต่ว่าต้องนั่งแท๊กซี่จากสนามบินไปนะคะ ค่าแท๊กซี่ไป Southern Bus Terminal 300php ต่อคัน
ตารางเวลารถบัสดูได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ (ดูอันที่ไป Oslob นะคะ)
http://www.cebu.gov.ph/cebu-south-bus-terminal-bus-schedules/
สรุปแล้วพวกเราตัดสินใจเหมารถตู้ค่ะ เพราะไปถึงค่ำแล้ว หลังจากรับกระเป๋าจะเห็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พวกเราไปสอบถาม เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ติดต่อกับคนดิวรถตู้ ที่ยืนอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์ เป็นรถ Toyota Commuter ธรรมดาๆค่ะ รถที่เค๊าจัดมาให้กลุ่มเรา สภาพดีไม่เก่า แต่ก็ไม่ถึงกับใหม่ค่ะ สะอาดดีค่ะ ราคาไม่ต่างจากที่หาข้อมูลมา ราคาค่ารถตู้ 5,000 php (ต่อแล้วจาก 5,500 php) จัดเลยค่ะ ไม่รอช้า อิอิ
ข้อมูลราคา Airport Transfer จขกท เทียบมาจากเวปนี้ค่ะ (ดูที่ปลายทางเป็น Oslob นะคะ)
http://www.cebuairporttransfer.com/
ราคารถดูที่ดูไว้ก่อนมา
ก่อนขึ้นรถ เราซื้ออาหารที่ร้าน "Jollibee" ยืนรอกระเป๋าจะเห็นร้านตั้งตระหง่านก่อนทางออกค่ะ เป็นฟาสต์ฟู๊ตที่นั่น อร่อยยยยยยมากกกกกกกกค่ะ พวกเราจัดบนรถคนละกล่อง อร่อยทุกอย่างจริงๆค่ะ ร้านแบบนี้ค่ะ (ยืมรูปจากอินเตอร์เนตในรูปไม่ใช่สาขาที่สนามบินนะคะ)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ในเมืองรถค่อนข้างติดมากๆ พอๆกับกรุงเทพเลยค่ะ แต่ถนนแย่กว่ามากรถเยอะจริงๆทั้งมอร์เตอร์ไซด์ และรถยนต์ ก่อนมาสงสัยว่าเราจะเดินทางข้ามเกาะ Mactan มา Cebu ได้ยังไง ....พอไปเห็น สะพานข้ามเกาะใหญ่มากๆค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมืดแล้ว จขกท ขอยืมรูปจากเวปนี้มาให้ดูนะคะ
https://allkindsofawesome.ninja/2011/09/09/scenes-from-aeroplane-windows/
พอหลุดเมืองมาได้ ถนนจะเป็นถนนเลนส์สวนกัน ซ้ายจะเลียบหาด สลับกับหมู่บ้าน พอใกล้ถึงจะมีป่าเขาคล้ายๆถนนในเกาะช้างค่ะ ไม่มีรูปอีกเพราะมืดจริงๆ ^^"
คนขับรถเหยียบเต็มที่ ขับได้น่ากลัวสุดๆ มากที่สุดที่เคยนั่งรถมา 5555 พี่แกแซงแบบไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แซงรถบรรทุกสี่คันรวดช่วงทางโค้ง แซงเส้นทึบ แซงทุกสิ่ง ขับเร็วเหมือนขับหนีตำรวจ 5555
คนที่นี่น่าจะนอนดึก สามทุ่มข้างทางก็ยังเล่นกีฬากันอยู่เลยค่ะ ตลอดทางจะมีสนามบาส และมีคนเชียร์ด้วยนะคะ คนเดินข้างทางก็เยอะจริงๆ ขับๆอยู่ มีเด็กๆแกล้งกระโดดเข้ามาในถนน แกล้งกันแรงจริงๆ รถบีบแตรหักหลบกันสนั่น พวกเรานี่กรี๊ดลายที 5555 ในที่สุดก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ (ที่สั่นคลอนมาตลอดทาง)
รู้สึกโล่งใจที่ถึงได้ ตอนจ่ายค่ารถ ยังจะมาถาม "ขากลับฉันมารับไม๊" ...เอิ่มมมม ก็พิจรณาเอานะจ๊ะ ...
คืนแรกที่ Oslob จขกท จองที่ Downsouth 118 beach
ถึงโรงแรม เราก็จองทัวร์กับไกด์ที่โรงแรมค่ะ เป็นทัวร์ไฮไลต์ของทริปนี้ ว่ายน้ำกับฉลามวาฬค่ะ ราคาเฉพาะค่ารถ และไกด์ คิดราคา 250php ต่อคนค่ะ ส่วนตั๋วไกด์ให้ไปจ่ายเองที่หน้างานค่ะ
(ทัวร์นี้แนะนำให้รีบออกแต่เช้า เพราะถ้าสายๆจะคนเยอะมากค่ะเพราะเขาจำกัดจำนวนด้วย จำกัดเวลาด้วยค่ะ)
Downsouth 118 beach Resort ห้องสะอาด น่ารัก ใหม่ ติดทะเล แต่ไม่มีหาดค่ะ ราคาโดนใจ ห้อง Double (ห้องพักคู่) คืนละ 1,673 บาท ค่ะ
จองที่พักผ่าน Booking.com ค่ะ จองแล้วเปลี่ยนอยู่หลายรอบ เพราะตอนวางแผนเปลี่ยนเส้นทางไปมาหลายครั้งค่ะ
หากจะให้ติก็มี เซอร์วิสที่นี่จะคล้ายๆ อพาร์ตเม้นค่ะ พนักงานบ้านๆ ซื่อๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่ค่ะ ในห้องมีพวกแชมพูสบู่ผ้าเช็ดตัวปกติทั่วไปค่ะ แต่ไม่มีมินิบาร์ ไม่มีตู้เย็นในห้อง ไม่แถมน้ำดื่ม ไม่มีอาหารเช้า แต่พวกเราทราบข้อมูลพวกนี้ก่อนมาแล้วค่ะ เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่บาร์ของโรงแรม มีของใช้จำเป็นบางอย่างขายค่ะ มีบะหมี่กึ่งสำเร็จ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว จขกท ลองสั่ง nissin รส spicy อร่อยมากๆค่ะ ถ้วยละ 75 php เป็นถ้วยไซด์ใหญ่นะคะ ราคาน้ำเปล่าน้ำขวดเล็ก ประมาณ 600 มล โรงแรมนี้ ขวดละ 20 php เบียร์กระป๋องละ 50 php
หลังจากซัดมาม่าอิ่มแล้วก็พักผ่อนค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ห้องพักสะอาด เพราะใหม่มากๆ ยังมีกลิ่นสีอยู่นิดๆ
ส่วนโรงแรมอื่นๆในละแวกเดียวกันที่น่าสนใจก็มีดังนี้ค่ะ
Oslob Seafari Resort*
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 2,122 บาท ต่อห้อง ต่อคืน รีสอร์ทนี้มีห้องสำหรับครอบครัวด้วยนะคะ อยู่ได้ 7 คนราคาประมาณ 7,000บาท ต่อห้อง ต่อคืน
ที่นี่ดีโลเคชั่นอยู่ใกล้ๆที่ดูฉลามวาฬมากๆค่ะ อาจจะพลุกพล่านหน่อย และห้องก็เก่านิดๆแนวรีสอร์ทเก่าต่างจังหวัดค่ะ
Eden Resort*
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องถูกสุด 3 พันบาทต้นๆ ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
อันนี้มีรีวิวของคนไทยบอกว่าดีมาก เลยอยากจอง แต่เต็มตลอดค่ะ
Voda Krasna Resort & Restaurant*
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 3 พันบาทปลายๆ ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
โรงแรมนี้นี้ดูจากรีวิวและรูปภาพในเวป ดูดีมากค่ะ มีหาดด้วยค่ะ ค่ะ พอเช็คแล้ว Downsouth ใกล้กว่า เลยตัดออกค่ะ
Fantasy Lodge * อันนี้อยากพักมากที่สุดเพราะในรูปวิวทิวทัศน์งดงามยิ่งนักค่ะ
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 1 พันบาทปลายๆ ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ ราคาดีงาม
โรงแรมนี้ ดูจากรีวิว และรูปภาพในเวป ดีงามมากๆเลยค่ะ แต่ระยะทางไกลเลยออกไปอีกพอสมควร เวลาจำกัด เลยจำใจ ตัดออกเช่นกันค่ะ
รูปนี้จาก Tripadvisor ค่ะ ถ้าได้ไปอีกจะพักที่นี่ค่ะ^^
วันที่ 2 // 13 เมษายน - ทริปฉลามวาฬ และ ข้ามไปเกาะ Panglao
ปิ๊ง เช้าแล้วค่ะ รีบตื่นมาตีห้า ระหว่างรออาบน้ำก็ออกมาถ่ายรูปซักนิดค่ะ วิวหน้าห้องดีงามค่ะ ที่นี่เช้าเร็วมากค่ะ ตีห้านิดๆพระอาทิตย์ยิ้มแล้ว ^^
ห้องพักคล้ายๆห้องเช่ามีระเบียงแชร์กัน มีแค่สองชั้นเท่านั้นค่ะ จากรูปนี้ตัวห้องพักของโรงแรมคือตึกด้านซ้ายค่ะ
ซูมอีกนิด
ที่บอกว่าโรงแรมไม่มีหน้าหาดก็คือแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศในโรงแรม คือ ก็มีความคิ๊วท์อยู่ประมาณนึงค่ะ 555
อันนี้ที่นั่งซัดมาม่าเมื่อตอนกลางคืนค่ะ
ช่วงเช้าวันนี้นี้มีเหตุสะเทือนขวัญเล็กน้อยค่ะ
ไกด์นัดพวกเรา 06:30 ค่ะ พวกเราพร้อมมาก แต่จะ 07:00 น. แล้วไกด์ยังไม่มา เริ่มนอยด์แล้วค่ะ เลยไปกดดันให้พนักงานที่เคาน์เตอร์โรงแรมโทรตาม พนักงานต่อสายให้คุย ตอนนั้นโมโหมาก โมโหที่เขาผิดนัด
เลยบอกไปว่า คุณจะมาไหม ถ้าไม่มาก็พูด!! ฉันจะหารถไปเอง (ตอนพูดนี่ยังไม่รู้นะคะว่ารถหาได้จากไหน ฮาาาา) ไกด์ตอบมาเสียงจ๋อยมากๆ ฉันกำลังจะไป รออีก 10 นาทีนะ พร้อมทั้งพูดทิ้งท้าย วันนี้ไม่มีฉลามวาฬมาเลย........ได้ยินเช่นนั้น สะตั๊น 15 วิ ค่ะ ...... เฮ่ยยยยยยย หูฝาดป่ะวะ เอ๊ะ หรือ no shark << หรือ >>no charge (หรือมาสายเลยจะไม่คิดตังค์วะ หื๊ออใจดีปานนั้นนน?) ชั้นฟังผิดๆๆๆๆๆ ถามให้ชัวร์ซิ....
จขกท : อะไรนะะะะ ไม่มีฉลามวาฬ ยูอย่ามาล้อเล่น ..จิงๆ หรอ!!!??
ไกด์ : จริง มาตัวนึง ไปแล้ว...(เสียงจ๋อยมาก)
จขกท : ทำไมอ่ะ
ไกด์ : ไม่รู้เหมือนกัน มา 1 ตัว มาแล้ว ไปแแล้ว นักท่องเที่ยวค้างอยู่ที่นี่เต็มเลย อดกันหมด ศูนย์ปิดขายตั๋วแล้ว....
เฮ่ยยยยยยย บร้าาา จริงหรอออ อร้ายยยยยย โนววววววว ฝันใช่ม้ายยยยย ตั้งสติแล้วตอบไกด์ โอเคยูรีบมาก่อนแล้วกันนะ อีก 10 นาทีใช่มั้ย
โอยยยยยย เป็นจั๋งได๋กันน้อพี่วาฬ ......วอนท้องทะเล ขอบฟ้าแสนไกล บอกพี่ปลาาาวาฬได้ไหม ยังคอย ยยยยยยยยยยยยยย
โลกมืด หูดับ ปากแห้ง ต้องบอกเพื่อนๆ ถึงสิ่งที่ได้ยินมา ....... เป็นไปได้ไง ที่นี่เขาใช้คำว่า “การันตี" ว่าเจอพี่ๆเค๊าแน่นอนนี่นา แงงงงงงงงงงง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.......
.............
...................
พวกเราเฟลมาก ตอนนั้นไม่รู้จริงไหม แต่เฟลมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ สักครู่ไกด์ก็มาพร้อมกับนักท่องเที่ยวสองคน สรุปที่ไกด์มาช้าเพราะ นักท่องเที่ยวสองคนนี้ยังไม่อยากกลับ อยากรอเผื่อฉลามวาฬจะกลับมา
ถามไกด์ว่ารู้สาเหตุไหม ไกด์ตอบว่าไม่รู้เลยจริงๆ เพราะนี่คือครั้งแรกที่ Oslob ที่ไม่มีปลามารับทานเบรคฟัส เสียงไกด์ดังก้องในหูเป็นเสียงแอคโคล่ “วันนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีปลามา อา อา อา อา"
(ช่วงบ่ายๆเย็นๆเราก็ได้ข่าวเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นค่ะ พวกเราสันนิษฐานว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้นี่เองที่ทำให้ระบบในทะเลปั่นป่วน)
แล้วพวกเราจะโชคร้ายขนาดนั้นหรอ “ม๊ายยยยยยยยยยยยยย อ้ายๆๆๆๆ" (เสียงแอคโคล่ตอบ)
พวกเราแทบร้องไห้ ปรึกษากันว่าเอาไงดี เราจะแคนเซิ่ลห้องที่เกาะ Panglao แล้วรอที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยไปใหม่ หรือจะอะไรยังไง แต่เรือก็เหมาไว้แล้ว ราคาค่อนข้างสูง ห้องที่เกาะก็ต้องโดนชาร์ท หลังจากปรึกษากัน เราลงความเห็นว่า ถ้าวันนี้ไม่มีปลาจริงๆ วันรุ่งขึ้นจะยอมเหมาเรือกลับมาอีกครั้งตอนเช้า แล้วสรุปวันนี้จะไปรอน้องปลาที่ศูนย์ หาข้าวเช้ากินแถวนั้น รอคอยความหวัง ....
เราขึ้นรถที่ไกด์เอามารับ เป็นกะบะมีแคปค่ะ บางส่วนต้องนั่งกะบะหลัง ไม่มีปัญหาค่ะ โค้งๆ ขึ้นๆลงๆเขา แค่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว (ประมาณ 10 นาที )
เมื่อถึงศูนย์ ไกด์พาเราไปนั่งที่ร้านอาหารริมหาด มีร้านติดๆกันหลายร้าน ร้านค้าเหมือนร้านค้าตามหาดที่เมืองไทยค่ะ อารมณ์แนวๆสมุย ไม่มีร่ม ไม่มีเตียงนะคะ 55 อากาศดี ทะเลส๊วยยยสวย ทรายขาวจั๊วๆ
วิวหน้าร้านอาหารแบบนี้ค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปร้านอาหารมาเลยค่ะ ออกแนวร้านริมหาดเหมือนบ้านเรา โอเพ่นแอร์มีสองชั้นค่ะ) เรือท้องถิ่นที่มีขายาวๆออกไปเหมือนแมงมุมนั่นเรียกว่า Banga Boat คนไทยชอบเรียก เรือแมงมุมค่ะ ^^
ในขณะที่รออาหาร ไกด์มาบอกเราว่า พี่วาฬมาแล้ว แต่มาน้อยนะจ๊ะ มาแค่ 3 ตัว แล้วก็เป็นตัวเล็ก ไม่ใช่บอส 55 (จากปกติที่เคยพีคสุดมาถึง 12 ตัวค่ะ) เหมือนเสียงสวรรค์บอกไม่ถูกว่าดีใจแค่ไหน ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ ไกด์ขอเก็บเงินเพื่อไปต่อคิวซื้อตั๋วตามขั้นตอน
ราคาตั๋วสำหรับ Snorkel คนละ 1000 php ถ้าไม่มีไกด์มา เราต้องต่อคิวเอง แล้วนักท่องเที่ยวก็เยอะมากๆๆๆๆๆค่ะ เพราะอั้นมาจากเหตุการณ์เมื่อเช้า พอสายๆเลยแออัดเพิ่มขึ้นๆๆ ดีที่มีไกด์ช่วยต่อคิวให้ค่ะ
ที่ร้านอาหารชั้นบนวิวบรรยากาศดี อากาศร้อนแต่ไม่ร้อนเท่าที่เมืองไทยค่ะ ส่วนราคาอาหาร เราสั่งอาหารเช้าเป็นชุดๆละ 195 php อย่างอื่นก็มี เช่น ข้าวหมูย่าง (อาหารท้องถิ่น) ชุดละ 135 php อร่อยดีค่ะ แล้วก็จานใหญ่พอสมควร ราคาก็แพงเฉกเช่นสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป สถานที่ค่อนข้างพลุกพล่าน อาจเป็นเพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาคอยพี่ปลาวาฬจำนวนมากกกกกก
จานนี้หมูย่างค่ะ หน้าตาแบบนี้เหมือนจะเหนียว แต่ว่าอร่อย นุ่มนะคะ เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ
อีกจานคล้ายๆหมูหวานค่ะ อร่อยดีค่ะ ส่วนอาหารเช้าไม่มีรูปค่ะ หน้าตาเหมือนกันทุกที่แห่ะๆ
สักครู่ใหญ่ๆ ไกด์เดินหน้าจ๋อยกลับมาอีกแล้ว บอกที่ศูนย์หยุดขายตั๋วแล้ว แท่นนนนนน !!! อยากจะกรี๊ด
"ต้องบอกว่าที่ฟิลิปปินส์ จะเน้นเรื่องปริมาณนักท่องเที่ยวค่ะ เขาจะจำกัดคนเข้าชม ไม่ใช่ทุกคนที่ไปจะได้ชมค่ะ โดยจำกัดจำนวนคนในแต่ละรอบ และจำกัดรอบในแต่ละวัน เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่และของสัตว์น้ำ มีการให้ WWF เข้ามาดูแลเรื่องระบบนิเวศ โดยจัดการอย่างเป็นระบบ อย่างฉลามวาฬนี่จะมีการนับจำนวน ทำให้ทราบว่าทุกๆปีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย
แล้ว พี่ปลาฉลามวาฬทุกตัวมีชื่อนะคะ เอ ..แล้วเค๊าทราบได้ยังไงว่าตัวไหนเป็นตัวไหน นักนิเวศน์วิทยาก็จะถ่ายรูปจุดๆที่ข้างลำตัวเอาไว้ แล้วก็บันทึกไว้ (จุดที่ข้างลำตัวของปลาจะเป็นอัตลักษณ์ค่ะเหมือนลายนิ้วมือของมนุษย์)
ด้วยระบบอนุรักษ์ต่างๆ ทำให้ทุกอย่างที่ประเทศนี้ยังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ชาวประมงส่วนใหญ่ก็มีจิตสำนึก รู้จักวิธีหาสัตว์น้ำแบบยั่งยืน ได้รับความรู้ที่ถูกต้อง โดยการการสนับสนุนจากรัฐบาลค่ะ ไม่เหมือนบ้านเรา บางที่รับคนไม่อั้นจน ถึงขั้นพังไปแล้วหลายที่ (พอๆๆๆๆอย่าขึ้นๆๆๆ ฮึ๊บๆๆๆๆๆ)"
........
ภาพกรุณาตัดกลับมาที่ไกด์ค่ะ หน้าจ๋อยมากๆ พอๆกับพวกเราเลยค่ะ ทำไงดี
รูปหน้าไกด์ค่ะ แอบถ่ายมา คาดว่าแกคงเครียดเหมือนกันค่ะ แกอุตส่าห์ต่อคิวให้นานมาก เรามีแอบไปดูเป็นระยะๆนะคะ ไกด์ยืนต่อคิวจริงๆ ต่อนานมากๆ สงสารมากนะ แต่ขอสงสารตัวเองก่อนเหอะเรา หึ!!!
ไกด์ก็พยายามหาทางออกให้ค่ะ บอกพวกเราว่า ถ้ายูอยากดูจริงๆ แบบไม่รอคิว มีทางเดียวต้องดำ Scuba เอิ่มมมมม อิมพอสสิเบิ้นนนนนป่ะยูววว จะดำได้ยังง๊ายย พวกเราไม่มี license ไม่เคย Scuba แค่หน้ากากดำน้ำตื้นโง่ๆพวกเรายังสำลัก ปั๊ดโถ๊!!! ไกด์บอกยูลองคุยก่อน แล้วก็พาพาไปคุยต่อรองกับ Dive Master เองค่ะ
สรุปคำตอบคือลงได้ แต่เราต้องจ้าง DM 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 2 คน เพื่อดูแลความปลอดภัย สนนราคาแรก คือหารกันแล้ว 3,500 php ต่อคน จขกท ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าราคานี้ คือโดนตีหัวไหม (แต่ก็แอบคิดว่าใช่ค่ะเรทที่อ่านมาในเน็ต scuba คนละ 1500php) แต่นาทีนั้นคือนักท่องเที่ยวคิวล้นมาก ไม่ยอมก็อดแน่ๆ เพราะถ้าพวกเราปฏิเสธมีกรุ๊ปอื่นมารอจ่ออยู่แล้ว ซึ่งเราปลอบใจกันเองว่า ก็เพราะพวกเราไม่มี license ไงแกรเลยแพงกว่าปกติ...แล้วถ้าไม่ดูวันนี้ จะต้องมาพรุ่งนี้งบบานปลายหนักกว่านี้นะ 555 เอาที่สบายใจ...ตกลงเลยค่ะ
ก่อนตอบรับพวกเราต่อราคาค่ะ ต่อยากต่อเย็นมากค่ะ ชะนีสู้กับ DM ผ้อจายค่ะ ในที่สุดชะนีชนะค่ะ ลดไปคนละ 200 เหลือคนละ 3,300 php ก็ยังดีวะ พวกเราเลยได้ Scuba ครั้งแรกในเชียเวี๊ยต แบบ งงๆ วิ้งๆ หวาดๆ กลัวๆ
หลังจากจ่ายเงินเสร็จสรรพ DM ก็เอาชุดมาให้เปลี่ยนค่ะ สภาพพวกเรา กระท่อนกระแท่น สะเงาะสะแงะ มาก เพราะทุกคนใส่ชุดธรรมดา เสื้อปกติ ขาสั้นแบบลงทะเลกันมา แล้วต้องมาสวม wetsuit ทับ wetsuit บางชุดขาดๆด้วย ฮ่าๆ เค๊าไม่ให้เลือกง่ะ นักดำน้ำอาชีพมาเห็นท่าทางพวกเราก็คงขำกลิ้ง โดยเฉพาะตอนมีแท๊งแล้วมันหนักมาก หลายครั้งแอบเห็น DM มองหน้ากันแล้วอมยิ้มด้วย ฮ่าๆๆๆ
จากนั้น DM ก็แนะนำ DM ของแต่ละคู่ ต่อด้วยสอนพวกเราฝึกหายใจ สอนวิธีปฏิบัติตัวใต้น้ำ สอนภาษามือ สอนวิธีรับมือกับความกดอากาศใต้น้ำ บอกถึงกฏข้อบังคับต่างๆ ใช้เวลาตรงชายหาด ประมาณ 10 นาทีค่ะ และสอนในน้ำอีก 10 นาที ตบท้ายด้วยประโยคที่บอกว่า....
“ลงไปแล้วพวกคุณไม่ต้องตื่นตระหนกนะ สำคัญมากๆ ปล่อยตัวปล่อยใจตามสบาย สิ่งที่คุณต้องทำ คุณแค่หายใจให้ถูกเท่านั้น DM ของคุณจะทำหน้าที่จูงคุณไปเอง ย้ำอีกครั้งคุณไม่ต้องทำอะไรแค่หายใจเท่านั้น ถ้าทนไม่ไหวอยากขึ้น คุณสามารถขึ้นได้ทุกเวลา ถึงจะลงไปแค่ 5 นาทีอยากขึ้นก็ขึ้นได้เลย แต่... ต้องระลึกไว้เสมอนะว่าคุณได้เสียตังไปแล้ว 1 ชั่วโมงนี้ ใช้เวลาให้คุ้มค่า เพราะฉันจะไม่คืนเงินไม่ว่ากรณีใดๆนะ ฮาาาาาาาา หวังว่าทุกคนจะสนุกกับทริปนี้ ว่าแล้วก็จูงเราไปจริงๆ แทบไม่ต้องว่ายเอง ฮ่าๆๆๆ
กฏเหล็กหลักๆของการมาดูปลาที่นี่ ค่ะ
- ห้ามทากันแดดหรือโลชั่นใดๆ
- ห้ามใช้แฟลซในการถ่ายรูปใต้น้ำ
- ห้ามให้อาหารสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด คนที่ให้แพลงตอนสัตว์น้ำได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วจึงสามารถให้ได้
- ห้ามเข้าใกล้พี่วาฬ ในระยะ 4 เมตร
- ห้ามกระโดดน้ำ หรือตีน้ำค่ะ กรุณาอยู่ในความสงบว่างั้น อิอิ
- ห้ามทิ้งสิ่งใดๆลงในทะเลเพราะพี่วาฬสูบทุกอย่างเข้าปากค่ะ พี่วาฬอาจเป็นอันตรายได้
คนนี้ค่ะ พี่โกลเด้น DM ตัวจี๊ด
จากนั้นก็เอาแทงค์มาใส่ให้พวกเราค่ะ โอยยยยหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก หนักเกินคาด ไหล่แทบทรุด แล้วก็ให้เดินลงค่ะ จุดนี้ลำบากมากหินก็ลื่น หนักก็หนัก สภาพเดินไปจูงมือกันแน่น เหมือนอาม่าเดินช้าๆกลัวล้ม ฮ่าๆ
สอนในน้ำครูใครครูมันก่อนลงดำจริงค่ะ เรือเป็นแถวๆตรงนี้คือตรงที่เค๊าให้แพลงตอนปลาฉลามวาฬค่ะ ออกจากฝั่งไปนิดเดียว
รูปใต้น้ำนี่เพื่อนถ่ายให้ค่ะ จขกท ไม่มีกล้อง เพื่อนช่างเป็นผู้เสียสละ เพราะต้องคอยดูทุกคนว่าอยู่ตรงไหนจะได้ถ่ายรูปให้ครบทุกคน
อยากบอกว่าตัวเองยังไม่รู้เลยค่ะว่ากำลังดำไปทิศไหน ถ้าเป็นคนถือกล้องต้องแย่แน่ๆ
DM จูงไปจริงๆค่ะ จูงสองคน แทบไม่ต้องว่ายเอง 5555
เราต้องเริ่มดำไปจากบริเวณฝั่งเลยนะคะ เค๊าไม่ได้เอาเรือออกไปส่งค่ะ เพราะแค่ประมาณ 200 เมตรเอง (ทีแรกคิดว่าเค๊าจะเอาเรือไปส่ง ง่อเนาะ 555) ระหว่างดำน้ำออกไปนี้ตื่นเต้นมากค่ะ ดำลงไปแล้วไม่รู้ว่าพี่ฉลามจะตัวใหญ่แค่ไหน แล้วจะอยู่ตรงไหน แล้วเราจะเห็นยังไง จะดำไปเจอจังหวะปากพี่แกสูบเราเข้าท้องรึปล่าว (นี่ก็เว่อ55)
คือมันไม่เหมือน Snorkel ที่บางครั้งเราแอบบมองบนผิวน้ำก่อนว่าปลาอยู่ตรงไหนแล้วดำลงไป แต่นี่คือดำไปแล้วไม่รู้จะเจอปลาตอนไหน และแล้วก็เจอค่ะ .......เป็นประสบการณ์ที่พูดยาก มันเป็น The must trip จริงๆค่ะ ในชีวิตนึง ตื่นเต้นนนนน
ว๊ายยๆๆๆ เจอแล้วๆๆๆ พอเจอตัวเป็นๆ พี่แกจะลอยช้าๆกินอย่างเดียวไม่เหลียวแลใคร ดูใจดี น่ารักมากกกกกกกกกก ก่อนมา กลัวนะคะ ปลาอะไรเหมือนซัคเกอร์ยักษ์แถมมีจุดๆ ก่อนมานี่ยังคิดว่าจะลงหรือไม่ลงดีกลัวๆกล้าๆ อยากจะบอกว่าตัวจริงหล่อมากกกกกกก กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ เผลอกรี๊ดในน้ำอุ่ยยยน้ำเข้า ขึ้นมาหายใจแพ๊พ ลงต่อ แฮ่ๆ
เราใกล็กันมากค่ะ
เวลาอยู่ใต้น้ำ เผลอยกมือกดไลค์ใต้น้ำไม่ได้นะคะ กดไลค์ปุ๊บ DM พาขึ้นนะคะ มันคือสัญญานมือขอขึ้นผิวน้ำค่ะ พวกเรากดไปหลายทีด้วยความเคยชิน ครูคงเพลีย 555555555
การที่ให้อาหารฉลามวาฬที่ Oslob แบบนี้ จขกท เองก็เลือกข้างไม่ถูกนะคะ ว่าจะอยู่ข้างควรทำ หรือไม่ควรทำ เพราะขนาดนักนิเวศน์วิทยาเองยังแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งว่าไม่ควรทำเพราะจะเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ ทำลายระบบการหาอาหารของปลา ที่ควรต้องหาเองตามธรรมชาติ
อีกฝ่ายเห็นว่า ดีแล้วเพราะยังไงพี่แกก็ต้องไปหาอาหารเองอยู่ดี ที่ให้แค่นี้ก็ไม่พอต่อความต้องการของพี่เบิ้มเค๊าหรอก อย่างน้อยพี่ๆเค๊าจะได้อาศัยอยู่บริเวณนี้ โซนปลอดภัย ไม่ว่ายไปแถบทะเลจีนแล้วถูกจับกินเป็นอาหารค่ะ
เข้าข้างไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า ฉันต้องไปก่อนเขาจะยกเลิกสิ่งนี้ 5555
****จขกท ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อความเรื่องความปลอดภัยนะคะ *****
บทความนี้ถูกเขียนลงบอร์ดสาธารณะ จขกท จึงอยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ที่สนใจอ่าน จึงไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกฏการดำน้ำเพิ่มเติม พบว่า การ Scuba แบบไม่มีใบอนุญาตนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะคะ และอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อค่ะ
ทั้งนี้ก่อนที่นักดำน้ำจะสามารถ ทำการดำน้ำ หรือเรียนดำน้ำได้ จะต้องมีการทดสอบหลายอย่าง มีการฝึกหลายขั้นตอน รวมถึงจะต้องตรวจสุขภาพและมีใบรับรองแพทย์ก่อน จึงจะสามารถลงแบบนี้ได้ ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า จขกท และเพื่อนๆไม่มีความรู้เลยสักนิดเดียว ตั้งใจมา snorkel กันจริงๆ เมื่อตอนที่ตัดสินใจลงไม่ลง ได้ย้ำถาม DM ที่เป็นคนฟิลิปปินส์หลายรอบ ก็ให้ข้อมูลว่าลงได้แต่ต้องจ้าง DM มาประกบ ประกอบกับน้ำไม่ลึกมาก เพราะออกจากฝั่งไปนิดเดียวค่ะ พวกเราเลยหลงเชื่อ และกล้าลงค่ะ
เอาเป็นว่า แนะนำให้ snorkel สำหรับคนที่ยังไม่ได้เรียนนะคะ ส่วนคนที่อยาก scuba ลงเรียนสักคอร์ส ก่อนไปเพื่อความปลอดภัยนะคะ ^^
จบทัวร์ฉลามวาฬแบบฟินเฟ่อร์ เราก็กลับมาอาบน้ำที่โรงแรมเพื่อเตรียมนั่งเรือข้ามไปเกาะ Panglao ค่ะ ระหว่างนั่งรถกลับมาเห็นเรือที่จองไว้ ลอยลำอยู่กลางทะเลโดดเด่นเป็นสง่ามาก เรือสวยงามกว่าที่เราคิดค่ะ วั้ยยยๆๆๆตื่นเต้น
พอกลับถึงรีสอร์ทเราก็เจอกัปตันเอาเรือเล็กมารอเราอยู่ที่ท่าเรือของรีสอร์ท แกมาเร็วมากค่ะ มาก่อนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว เราเลยบอกแกว่าพวกเราขออาบน้ำ เก็บข้าวของ15 นาที อากาศร้อนมากแดดจ้า แต่กัปตันก็รออยู่ตรงนั้น พวกเรารีบๆทำธุระเสร็จแล้วก็นั่งเรือเล็กไปขึ้นเรือใหญ่ค่ะ ประมาณ 3 เที่ยว เห็นแบบนี้จอดอยู่ไกลเพอสมควรนะคะ
น้ำใสมากกกกถึงมากที่สุด อยากจะโดด แต่รีบไปดีกั่ว อิอิ
พอขึ้นเรือ กัปตันก็แนะนำตัวกัปตันเองและลูกเรืออีกสองคน พร้อมกับบอกระยะเวลาว่าจะใช้กี่ชั่วโมงค่ะ
บนเรือสบายมากจริงๆค่ะ เรือใหญ่พอสมควร มีห้องน้ำในเรือ แพลนเดิมเราจะไปตลาดก่อน เพื่อตุนของกินมากินบนเรือ แต่เหตุที่เกิดทำเอาเสียเวลาไปเยอะค่ะ บนเรือไม่มีอะไรเลย จะมีก็แต่ขนมขบเคี้ยวที่เพื่อนเตรียมมา.. เลยได้แต่นั่งๆนอนๆกันไป แฮ่
ตอนหาข้อมูลเรือ Speedboat หายากมากๆเลยค่ะ อ่านรีวิวก็ไม่ค่อยเจอ ที่เจอข้อมูลก็น้อยมาก บางครั้งเป็นข้อมูลเก่าหลายปีแล้ว ถามโรงแรมๆ ก็บอกไม่มีค่ะ มีแต่เรือ Banga แล้วไปเจอรีวิวนึงที่ฝรั่งเขียนลงเวป Tripadvisor ว่าได้นั่งเรือ local ที่เป็นเรือ Banga ออกจาก Panglao ไปดูฉลามวาฬที่ Oslob เกิดเหตุการณ์น่ากลัว เรือพัง ลอยอยู่กลางทะเลหลายชั่วโมง ก็เริ่มนอยด์มากขึ้นค่ะ...
แต่ในที่สุดก็เจอบริษัทนี้ ชื่อ Dream of Cebu เวปนี้ค่ะ http://dreamofcebu.com/ เป็นบริษัทที่มีเรือยอร์ชให้เช่า สามารถเช่าเพื่อไปเกาะต่างๆเป็น Day Trip ได้ค่ะ ตอบเมล์เร็ว ติดต่อง่าย มีแฟนเพจด้วยค่ะ เชิ้ชเพจพิมพ์คำว่า Dream of Cebu เจอเลยค่ะ เรือดีงามมากๆค่ะ ฟินมากกก ราคารับส่งอย่างเดียวไม่แวะไหน จาก Oslob ไป Panglao 20,000 php ค่ะ (เที่ยวเดียวสองชั่วโมง ถ้าแวะเที่ยวเกาะ Sumilon คิดเพิ่ม 8,000php) เราคิดว่าแพงนะคะ แต่ไม่มีตัวเลือกค่ะ ถามสมาชิกทุกคนโอเค เลยจองไปค่ะ พอทางเรือส่ง invoice มา เราก็มัดจำไปครึ่งนึงใช้วิธีโอนผ่านธนาคารค่ะ (เสียค่าโอนตั้ง 800 แน่ะ แฮ่) โอนไปแล้วก็ตื่นเต้นนะคะ จะโดนโกงไหมน๊อ แต่ก็ไม่มีค่ะ เรากลัวไปเอง
***แต่ต้องบอกว่าที่จองไว้ตอนแรกเป็นลำนี้นะคะ เป็นเรือเล็กกว่าที่มารับจริง capacity ได้ประมาณ 7-8 คน พอใกล้วันทาง Dream of Cebu ก็ส่งเมล์มาแจ้งว่าจะอัพเกรดให้เป็นลำที่มารับนี้ซึ่งใหญ่กว่ามาก (น่าจะเป็นเพราะเรือมาส่งกรุ๊ปอื่นอยู่แล้ว) ฟลุ๊คเลยค่ะ
นอกจากเรือแบบนี้ ทาง Dream of Cebu ยังมีเรืออีกหลายลำนะคะ ที่เห็นโปรโมตล่าสุดเป็นลำนี้ ไว้จัดปาร์ตี้บนเรือค่ะ
ใครเป็นเซเลป จัดเลยนะคะ อย่าไปรอ ฮี่ๆ
การเดินทางมาเกาะนี้ ไม่จำเป็นต้องเหมาเรือแบบจขกทก็ได้ค่ะ เดินทางแบบธรรมดา สามารถนั่งเฟอร์รี่มาได้ แต่ต้องนั่งรถกลับขึ้นไปที่ Cebu เพื่อนั่งเรือค่ะ ระยะเวลาจาก Cebu มาที่ท่าเรือ Tagbilaran ก็ประมาณ สองชั่วโมงกว่าๆค่ะ
เวปเช็คตารางเดินเรือปกติแบบไม่เหมา ต้นทางจาก Cebu ไป Tagbilaran ได้ที่เวปนี้ค่ะ
http://bohollifetours.com/getting-to-tagbilaran-bohol.html/หลังจาก นั่งๆนอนๆ เดินเล่นบ้างกรุบกริบ จนสองชั่วโมงผ่านไปก็ถึงค่ะ จอดหน้าโรงแรมเลย นั่งเรือเล็กเข้าฝั่งอีกเช่นกัน น้ำใสมากๆอีก มองลงไปเห็นปลาดาวตัวเล็กตัวใหญ่เต็มเลย (ในรูปไม่เห็นชัด และไม่สวย เท่ามองเห็นด้วยตาตัวเองนะคะ )
ปลาดาวที่พบมากที่นี่เป็นแบบนี้ค่ะ มีหลายสี มีตุ่มแหลมๆด้านบน น่าร๊ากกกกก
รูปน้องปลาดาวชัดๆดูในนี้นะคะ (จริงๆไม่ควรจับแหละให้เค๊าอยู่ตามธรรมชาติดีกว่าค่ะ) แต่ในเวปนี้ไม่ใช่รูปของ จขกท นะคะ หุหุ >> http://fresh-trip.com/wp-content/uploads/2012/02/Protoreaster_nodosus_6.jpg
พอถึงโรงแรมก็เช็คอินค่ะ นั่งปุ๊บเสริฟเวลคัมดริ้งพร้อมผ้าเย็นเชี๊ยบ แหม่ คุณเอ้ย มันชื๊นนใจ เสร็จสรรพเอาสิ่งนี้มาคล้องคอเป็นสิริมงคล ม่ายช่ายยยย เป็นของต้อนรับ คล้ายๆมาเมืองไทยก็คล้องมาลัย ประมาณนั้นค่ะ น่ารักจุง
เกาะนี้ชื่อเกาะ Panglao เป็นเกาะติ่งๆทางใต้ของเกาะ Bohol โรงแรม The Bellevue Resort นี้อยู่ปลายสุดติ่งของเกาะอีกที [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สุดติ่งจริงๆค่ะ http://www.thebellevuebohol.com/wp-content/uploads/sites/873/2016/03/3.jpg มีหาดส่วนตัวที่ส่วนตัวจริงๆเลยค่ะ ทรายสวยไม่ถึงกับขาว นวลๆนิดๆ ทรายนุ่ม น้ำใส แต่ในน้ำลึกลงไปนิดนึ่งมีสาหร่ายค่ะ สาหร่ายทะเลนุ่มๆเหมือนปูหญ้าอยู่ใต้น้ำ บรรยากาศดีมากกกกกๆๆๆๆ หาดดีมากกกกกก ห้องดีงามและกว้างมากเหมือนจะอยู่ได้ห้าคน (แต่เค๊าให้ไม่เกิน 3 นะคะ ) อาหารดีมากกกกก กอ ไก่ ล้านตัว พนักงานดีมากกกกกก กอ ไก่ สองล้านตัว ยามค่ำคืนไม่เงียบเหงา มีวงแจ๊สสดๆ มาขับกล่อม เพลิดเพลินเจริญอาหาร เจริญตา เจริญใจค่ะ
The Bellevue Resort
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยเช่นกันค่ะ
แต่ จขกท จองตรงกับทางโรงแรมค่ะเพราะมีโปรน่าสนใจ
- ห้องเพื่อน จขกท ซื้อแพคเกจแบบเหมา 3 วัน 2 คืน ราคาห้อง Deluxe Seaview (สำหรับสองคน) ราคา 19723.40 php ราคารวมภาษีและเซอร์วิสชาร์ทแล้วค่ะ
- ส่วนห้อง จขกท ซื้อแพคเกจแบบเหมา 3 วัน 2 คืน ราคาห้อง Deluxe Seaview (สำหรับสามคน) ราคา 24,124 php ราคารวมภาษีและเซอร์วิสชาร์ทแล้วค่ะ
ราคานี้รวมอาหารเช้า รถรับส่งจากสนามบิน หรือจากท่าเรือก็ได้, รวมคายัค 30 นาทีต่อห้อง อุปกรณ์ดำน้ำตื้นเท่าที่ในโรงแรมมี (ปกติคิดค่าเช่าเพิ่ม) facility ของโรงแรมเป็นมาตรฐานตามระดับโรงแรม 4-5 ดาวทั่วไปค่ะ (ส่วนตัว จขกท ให้ 4 ดาวค่ะ)
โรงแรมอยู่ฝั่ง Doljo Beachหาดค่อนข้างสงบ ไม่เห็นร้านค้าริมหาดเลยค่ะ
http://www.thebellevuebohol.com/
ห้องนี้ triple room ค่ะ ได้ 2 ควีนเบด + เสริมเตียงเล็กค่ะ
บรรยากาศทั่วๆไปมองจากระเบียงห้องพัก
ตอนกลางคืนค่ะ สระว่ายน้ำจะเปลี่ยนสี (แสงไฟ) ไปเรื่อยๆค่ะ มี แดง เขียว น้ำเงิน ม่วง
ตกดึกแม่บ้านเอาขนมมาให้ถึงห้องค่ะ แหม่เอาอกเอาใจกันซะจริงเชียว แต่หนูไม่กล้าลองค่าา แฮ่!
ไลน์อาหารเช้าค่ะ
จานนี้อาหารขึ้นชื่อค่ะ อร่อยทุกที่ที่ลองเลยค่ะ หมูย่างอีแล้ว อิอิ
แถมข้อมูลโรงแรมอื่นๆที่น่าสนใจบนเกาะ Panglao ค่ะ
Dumaluan Beach Resort
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 1649 บาท ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
เป็นโรงแรมกลางๆไม่ถูกไม่แพง ห้องพักเหมือนโรงแรม 2-3 ดาวทั่วไปค่ะ ตอนแรกจะเลือกที่นี่ แต่ดูรีวิวนักท่องเที่ยวหลายคนบ่นเรื่องหาดมีตะกอนสีดำๆ เป็นสาหร่ายที่ตายแล้ว หลังจากที่ปรึกษากับสมาชิกๆ ขอโรงแรมดีหน่อย เพื่อความปลอดภัยเลยเปลี่ยนค่ะ
เวปไซด์ของโรงแรม http://alonatropicalbeachresort.com/
Momo Beach Escape
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 4,910 php ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
โรงแรมน่ารักมากๆ น่าพัก ราคามิตรภาพ แต่ที่ไม่เลือกเพราะเห็นหาดในรูปดูไม่ค่อยกว้างค่ะ แอบเรื่องมาก ^^"
http://www.momobeachhouse.com/
South Palms Resort
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 5,326 บาท ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
โรงแรมนี้อยู่ฝั่ง Alona Beach ซึ่งเป็นฝั่งที่ผู้คนพลุกพล่านค่ะ แต่จากรูปในเวปไซด์ หรือรีวิวต่างๆ หน้าหาดของโรงแรมเองไม่ได้พลุกพล่านค่ะ
ตัวโรงแรมหรูหราน่าพัก ราคาแพงค่ะ ห้องเท่าที่ส่องในเวปเป็นสไตล์ รีสอร์ท ไม่สูง ห้องราคาต่ำสุดที่ไม่ติดหน้าหาด เราเลยตัดไปค่ะ
เวปไซด์ของโรงแรม http://www.southpalmsresort.com/
Henan Resort Alona Beach
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 5,569 บาท ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
โรงแรมนี้อยู่ฝั่ง Alona Beach เช่นกันค่ะ แต่จากรูปในเวปไซด์ หรือรีวิวต่างๆ หน้าหาดของโรงแรมเองไม่ได้พลุกพล่านเหมือนกันค่ะ
เป็นสไตล์โรงแรม เป็นตึกไม่สูงมากแต่เต็มตลอดเลยค่ะ จองไม่ได้เลยช่วงนั้น เลยตัดไปค่ะ
เวปไซด์ของโรงแรม http://henann.com/bohol/henannalonabeach/
โรงแรมบนเกาะนี้เยอะมากๆค่ะ จขกท คิดว่าถึงไปแบบ Backpack แล้ว Walk in ก็น่าจะรอดค่ะ
นอกจากพักบนเกาะ Panglao จขกทยังเสียดายที่พักอีกที่ๆไม่ได้เลือกคือที่นี่ค่ะ
Bluewater Summon Island Resort
จองกับเวปไซด์ agoda หรือ booking.com ได้เลยค่ะ
ราคาห้องที่ถูกสุด 9,179 บาท ต่อห้อง ต่อคืนค่ะ
(มีพักเต้นท์ด้วยนะคะ แต่ก็ราคาสูงเหมือนกัน 6119 บาท ต่อเต้นท์ ต่อคืนค่ะ)
โรงแรมนี้อยู่บนเกาะ Sumilon ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆที่มีชายหาดสวยงาม ทรายสีขาว มีรีสอร์ทอยู่ที่เดียว ใกล้ๆกับที่ดูฉลามวาฬมากค่ะ แต่เวลาจำกัดด้วยต้องกลับไฟล์เช้าเราเดินทางทางเรืออาจจะไม่สะดวก เลยจำใจตัดไปค่ะ
ตัวโรงแรมดูธรรมดา แต่คิดว่าเพราะ location ทำให้ราคาแพงค่ะ ห้องพักที่เห็นในเวปไซด์ เป็นแบบธรรมดาเป็นสไตล์ รีสอร์ท ทั่วๆไปค่ะแต่วิวสวยมาก
http://www.bluewatersumilon.com.ph/
วันที่ 3 // 14 เมษายน - ทริป Bohol ChocolateHills และแม่น้ำ Loboc
เช้านี้ เป็นทัวร์เกาะ Bohol จขกท จองเช่าเหมารถตู้แบบเต็มวันพร้อมคนขับ แล้วจ่ายค่าเข้าต่างๆเอง ราคาเช่ารถตู้ถูกมากๆๆๆๆ ค่ะ 2500php เองค่ะ คนขับ+ไกด์เป็นคนๆเดียวกัน ชื่อคุณ Biegy นิสัยดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ข้อมูลดีมากๆ friendly มากๆ พวกเราประทับใจเลยทิปไปงามๆค่ะ
จองรถพร้อมคนขับแบบนี้ได้ที่ http://boholrentacar.com/ จขกทติดต่อพนักงานชื่อคุณ Ramil ทางเมล์ [email protected] ค่ะ ตอบเร็วค่ะ บริการดีมาก
รถที่มารับเป็นรถแบบนี้ค่ะ ^^
แวะซื้อน้ำที่ร้านขายของชำแพ๊พค่ะ
ที่แรกที่แวะชม
The Tarsier Sanctuary ไปดูน้องทาร์เซียร์ค่ะ คล้ายๆนางอาย แต่ตัวเล็กนิดเดียว ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ลิงที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกค่ะ ไกด์เล่าว่า ตอนกลางวันเซื่องซึม แต่ตอนกลางคืนกระโดดได้ไกลมาก บางตัวโดดไกลได้ถึง 3 เมตรกันเลยทีเดียว น่ารักดีค่ะ สถานที่สะอาดนะคะ เหมือนเค๊าจับน้องลิงมาไว้บนกิ่งที่เค๊าเชตไว้ แล้วให้เราเดินตามทาง น้องก็เกาะอยู่ตรงกิ่งนู้นกิ่งนี้บ้าง ระยะทางสั้นๆค่ะ ไม่ได้เดินไกล ก็มีข้อปฏิบิตินิดหน่อย เช่น ห้ามใช้แฟลซ ห้ามเสียงดัง ฯลฯ ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 20 นาทีได้ค่ะ
ซื้อตั๋วก่อนน
จากนั้นไกด็พาพวกเราไปสะพานแขวนที่ทำจากไม้ไผ่สานแห่ง Tigbao พวกเราไม่ได้ลง ไกด์บอกว่าฝนตกสะพานลื่นค่ะ
เห็นน้ำตกใกล้ๆสะพาน น้ำเขียวเชียว สวยงามเลยขอแวะค่ะ
แล้วก็ต่อ Chocolate Hills ค่ะ อันนี้นับว่าเป็น Highlight อีกที่ของทริป แต่บอกตรงๆว่ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะบนจุดชมวิวปิดปรับปรุงเนื่องจากมีแผ่นดินไหวทำให้เขาทรุดตัว จุดชมวิวก็พังต้องซ่อมค่ะ และแผ่นดินไหวนี้ยังทำให้ภูเขาเกือบทั้งหมดทรุดไปด้วย ความสวยงามความมอลังการก็เลยลดลงค่ะ แต่ก็นับว่าเป็นที่ที่สวยแปลกตาอีกที่ที่เคยเห็นค่ะ อากาศร้อนค่ะ (แต่บ้านเราร้อนกว่าแน่นอน ชนะ!!)
บริเวณที่จอดรถ เราต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกนิดนึงค่ะ
ข้างบนกั้นไม่ให้เข้า บริเวณจุดยืนชมวิวกำลังซ่อมบำรุงค่ะ
ปรากฏว่า พอลงมา วิวตรงที่จอดรถดีงามกว่าอีกค่ะ
ระหว่างทางที่ออกมาจาก Chocolate Hills คุณ Biegy จอดให้ถ่ายรูปกับมุมมหาชน เป็น Man-made Forest แห่งเมือง Bilar ค่ะ ต้นไม้พวกนี้คือต้นมะฮอกกานี ปลูกเพื่อป้องกันดินถล่ม ป้องกันแผ่นดินสไลด์ เมื่อต้นไม้โตขึ้นมาเค๊าก็เอาไปใช้ประโยชน์ได้ค่ะ ไกด์เล่าว่านำไปทำกีต้าร์ แหม่ คนฟิลิปปินส์มีดนตรีในสายเลือดจริงๆค่ะ ไปไหนๆก็เจอแต่คนฮัมเพลงจริงๆนะคะ ^^
ได้เวลาอาหารพอดี ไกด์พาเรามาจุดล่องเรือแม่น้ำ Loboc พร้อมทานอาหารบนเรือ อันนี้บรรยากาศดีมากๆค่ะ มีดนตรีสดขับกล่อมเป็นโฟล์คซองเพลงสากลเก่าๆ น้ำในแม่น้ำสีขียวมรกตแบบว่าเขียวสวยสะใจจริงๆค่ะ เรือมีลักษณะเหมือนแพเมืองกาญค่ะ แตกต่างตรงบรรยากาศ ที่นี่จะเป็นสวนมะพร้าวสลับๆกันไปกับป่ากก แต่อาหารบนเรือแย่ค่ะ มีสะเต๊ะหมูแห้งๆที่ทานแล้วต้องถามกันว่าหมูหรอ? ไก่ทอดชืดๆ ปลาทอดชืดๆ ไม่อร่อยเลย 55555 ราคาคนละ 442php คุ้มตรงบรรยากาศค่ะ
เรือใช้เรือเล็กดันเอาค่ะ ไม่ได้ลากเหมือนบ้านเรา
อาหารบนเรือเป็นบุฟเฟต์ค่ะ (อาหารควรปรับปรุงอย่างแรงค่ะ )
บรรยากาศข้างทางชิวมากค่ะ
ล่องมาสักพักก็จอดที่ลานกิจกรรมแห่งหนึ่งที่เขา set up ไว้ มีคนแต่งตัวแบบคนป่า เค๊าจะเลี้ยงพวกอีกัวน่า และสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆ ให้เราถ่ายรูปด้วย (เก็บเงินค่ะแล้วแต่จะให้) ก็ดีนะคะ แปลกๆดี 555
ช่วยเค๊าซื้อมะพร้าว 1 ลูกค่ะ 50php มะพร้าวเปรี้ยวซ่าค่ะ ....รู้สึกพลาดอย่างแรงงง ดูสายตานางสิ หึ !!!!! 5555
จากนั้นเรือก็ล่องกลับมาจุดเดิม พวกเราก็ กลับโรงแรมค่ะ จุดอื่นๆที่น่าสนใจมีอีกนะคะ เช่น Baclayon Church, Dano Adventure Park (สถานที่เล่น zip line), ATV แต่พวกเราไม่ได้แวะเพราะ ฝนตกเลยปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ
Zip Line นี่ก่อนมาตั้งใจว่าจะเล่นกันค่ะ แต่เจอรถตู้ขามาเข้าไป พวกเราคิดว่าไม่น่ามีอะไรเสียวกว่านั้นแล้วค่ะ 55555
กลับถึงโรงแรม พวกเราก็สนุกสนานกับการ Snorkel ฮือฮากับปลาดาวหลายสีตัวน้อยตัวใหญ่ มากมายที่ชายฝั่งหน้าโรงแรม พายคายัค เล่นน้ำในสระกันจนค่ำ แล้วก็ทานอาหารเย็นที่โรงแรม จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนค่ะ
อาหารที่โรงแรมนี้ถือว่าแพงค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย ทานกันในนี้ สนนราคาจานนึงก็ประมาณ 300php ค่ะ แต่ได้จานใหญ่พอสมควรอิ่มจุกค่ะ
โรงแรมมีรถไปส่ง Alona Beach ค่ะ ถ้าอยากจะไปเที่ยวหรือไปทานข้าวที่ร้านอาหารธรรมดาก็ไปได้ค่ะ
รุ่งขึ้นโรงแรมจัดรถไปส่งที่สนามบิน Tagbilaran ห่างจากโรงแรมประมาณ 20-30 นาที รถไม่ติดค่ะ
มาถึงถิ่นไม่พูดถึงพี่คนนี้ไม่ได้เลยค่ะ เจอกันตลอดทางเลยค่ะพี่ปาเกียว (เจอรูปนะคะ ติดอยู่ทุกที่จริงๆ)
ถึงสนามบิน Tagbilaran (TAG) ถึงกับสะตั๊น สภาพแอร์พอร์ตเหมือน บขส.เก่าๆค่ะ 55555 ใครที่ใช้สนามบินนี้ ควรมาถึงแต่เนิ่นๆนะคะ ตอนเช็คอิน คนเยอะมากกกกก แออัดมาก แก่งแย่งชิงดีมากกกกก
ที่นี่ต้องจ่าย Airport Tag นะคะ คนละ 100php อย่าเพิ่งใช้เงินหมดค่ะ กันเอาไว้เลยค่ะ ^^
อันนี้รูปบริเวณหน้าเกทค่ะ ประตูกระจกนั่นแหละค่ะ เกท
ก่อนเครื่องขึ้นมีดนตรีมาขับกล่อมอีกแล้ว บร๊ะ!!! ฉดชื่น เป็นโฟลคซองโดยผู้พิการทางสายตาค่ะ ชิวๆสบายๆ น่ารักดีค่ะ
ประกาศขึ้นเครื่องค่ะ คิวคืออะไรไม่มีใครแคร์เลย
นี่ค่ะ อาคารสนามบิน เท่านี้จริงๆค่ะ
มาถึงสนามบินมะนิลา อาคาร domestic แยกกับอาคาร Inter นะคะ ถ้าจองตั๋วต้องเผื่อเวลาหน่อยนะคะ อย่าจองไฟล์ที่กระชั้นชิดมากค่ะ
การเดินทางแบบ จขกท เป็นตัวอย่างสำหรับผู้มีเวลาน้อยนะคะ หากมีเวลามากๆ สามารถจองตั๋วเครื่องบินแบบโลวคอสได้ พักที่เกาะ Mactan สัก 1 คืน
มีโรงแรมที่เล็งไว้เหมือนกันค่ะ
Moevenpick Hotel Mactan Island Cebu (คืนละประมาณ 4,000บาทต่อห้อง) ที่นี่บรรยากาศดี มีร้านอาหารที่สวยสวยมากๆติดอันดับของเกาะค่ะ
ประหยัดหน่อยแนะนำเป็น
Eloisa Royal Suites (คืนละประมาณ 2,000บาทต่อห้อง) ค่ะ โรงแรมนี้ขึ้นชื่อว่าอาหารอร่อย อยู่ใกล้ๆสนามบินเซบู ใกล้โรบินสัน ห้องพักดี สะอาด ใหม่ค่ะ
เช้ามาไปดำน้ำตื้นที่ Nalusuan Island ทานข้าวเย็น อีกวันข้ามไปเที่ยว Bohol จากนั้นค่อย เดินทางต่อไป Oslob พักที่ Oslob ยาวๆแล้วซื้อทัวร์ดำน้ำ ซื้อทัวร์เที่ยวเกาะต่างๆเอา ก็น่าจะเวิร์คและคุมงบได้ค่ะ ^^
ตารางค่าใช้จ่ายแบบคิดรวมแล้วหารของกลุ่ม จขกท ค่ะ แต่งบบานปลายนะคะ แห่ะๆ
หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมสอบถามได้เลยนะคะ ถ้า จขกท ทราบข้อมูลยินดีตอบมากๆค่ะ ^^
จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามมาจนจบนะคะ หวังว่ารีวิวนี้คงมีประโยขน์สำหรับผู้สนใจนะคะ
บ๊ายบายฟิลิปปินส์ ประทับใจค่ะ
ปล.เดี๋ยวจะมาแก้คำผิดนะคะ ขออภัยถ้ามีหลงไปค่ะ**** *****
Disaster Girl
วันพฤหัสที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.35 น.