ทริปเมืองเพชรของเรา ไปมาตั้งแต่เดือนมีนาคมค่ะ
จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจไปดูผีเสื้อหรอกค่ะ เสาร์อาทิตย์นั้นแค่จะไปเที่ยวสวนตาล และจะไปทะเลแถวชะอำ
แต่ทีนี้คืนวันศุกร์เห็นเพจของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโพสบอกว่า ผีเสื้อเริ่มมากันแล้ว
ก็เลยเปลี่ยนใจ ไม่ไปทะเลหละ ไปดูผีเสื้อแก่งกระจานดีกว่า
อันดับแรกสุด เราแวะสวนตาลก่อนค่ะ แล้วก็เข้าที่พัก ซึ่งก็โทรจองเอาตอนเดินทางหละค่ะ
ค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว ยังไงก็คงมีที่ว่างให้เรานอนแหละ
วันรุ่งขึ้นถึงเข้าไปส่องผีเสื้อกัน
ตามมาเลยค่ะ
@ สวนตาลลุงถนอม
"พอแดดร่มลมชายสบายจิต
เที่ยวชมทิศทุ่งทางกลางวิถี
ทั่วประเทศเขตแคว้นแดนพริบพรี
เหมือนจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล
ที่พวกทำน้ำโตนดประโยชน์ทรัพย์
มีดสำหรับเหน็บข้างอย่างทหาร
พะองยาวก้าวตีนปีนทะยาน
กระบอกตาลแขวนกันคนละพวง..."
#นิราศเมืองเพชร #สุนทรภู่
.......................................................
เอาหละ ไปเที่ยวกันเถอะ
เรารู้จักที่นี่จากเพจการท่องเที่ยวเพจไหนสักแห่งจำไม่ได้หละค่ะ
ก็คิดว่า เออ เราไปเมืองเพชรมาหลายรอบ ไม่เห็นเคยไปที่นี่เลย
ว่าแล้วก็จัดเถอะ
สวนตาลลุงถนอม อยู่ที่ บ้านลาด เพชรบุรี เดินทางง่ายใกล้กรุงเทพฯ
**ลุงถนอมเป็นอดีตกำนัน ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด
เป็นเจ้าของสวนตาลที่ ณ ปัจจุบันนี้ น่าจะเป็นสวนใหญ่แห่งเดียวที่เหลืออยู่
สวนตาลแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 10 ไร่ สวนตาลลุงถนอมเป็นแหล่งเรียนรู้และอนุรักษ์ภูมิปัญญา
ไว้ให้คนรุ่นหลังได้มองเห็นคุณค่า**
**ข้อมูลจากกูเกิลค่ะ
ขอบอกว่า ร่มรื่นและสวยงามมากค่ะ
ในสวนตาลจะมีโรงทำน้ำตาลสด มีพื้นที่ให้นั่งเล่นเดินเล่น
ลมพัดเย็นฉ่ำมากกกก ก็แปลกใจ ในสวนตาลอากาศไหลเวียนดี๊ดี
ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน สดชื่นมากมาย
เราได้เจอลุงถนอมนะคะ แต่ไม่ได้คุยอะไรกันพอดีแกรีบไปไหนไม่รู้
แต่ก็ได้คุยกับลูกชายแก ซึ่งน่าจะเป็นคนดูแลกิจการสวนตาล
ลูกชายลุงต้อนรับขับสู้ดีมากกกกก อัธยาศัยดีโคตร ๆ
ใครไปใครมา ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
ถามไถ่อะไรก็เต็มใจบอกเล่าทุกเรื่องราว
ชวนเราปีนเก็บน้ำตาลอีกแน่ะ
แหม...เสียดายถ้าแต่งตัวรัดกุมหน่อย
เราก็คงปีนหละ 5555
อยากให้ทุกคนไปเยี่ยมชมนะคะ
คือ สิ่งนี้เป็นวิถีชาวบ้าน ซึ่งนับวันก็มีน้อยลงทุกทีแล้ว
ไปดูการปีนตาล การต้มน้ำตาลสด ไปดูวิถีชุมชน
สวนตาลเปิดทุกวันนะคะ ไปเยี่ยมชมได้ฟรี
มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากตาล ก็อุดหนุนกันหน่อยเนอะ
ของสด ๆ จากต้นกันเลย รับรองไม่มีปลอมปน
การเดินทางนั้น ง่ายดายค่ะ
จาก กทม. ก็ตรงไปเพชรบุรี ถึงแถว ๆ ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด
ก็จะมีที่กลับรถใต้สะพาน ลอดใต้สะพานก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย
เลาะริมคลองไปเรื่อย ๆ ผ่านวัดถ้ำรงค์
ช่วงนี้ขับรถระวังหน่อยนะคะ ลิงเยอะ
ก็ขับไปอีกหน่อย เจอสะพานไม้ในรูปทางขวามือ
เราก็เลี้ยวซ้ายค่ะ ถึงสวนตาลเลี้ยวเข้าไปโลด
หรือ....
ถ้าไปเป็นหมู่คณะ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ
ก็สอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำรงค์
โทร. 0 3249 1467 หรือ ติดต่อโดยตรงที่ลุงถนอม ภู่เงิน โทร. 0 3244 0355 และ 08 7800 7716
นั่นหละค่ะ ลุงถนอม ขี่มอไซด์ลิบ ๆ อยู่นั่น
มาว่ากันด้วยเรื่องที่พักค่ะ
ออกจากสวนตาลก็เย็นมากแล้ว ก็เข้าที่พักกันเลย
เราโทรจองระหว่างเดินทางค่ะ มั่นใจมากว่าไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว ยังไงก็ว่าง
เราเคยมาแถวแก่งกระจานบ่อย ไม่เคยจองที่ไหนล่วงหน้า ก็มีว่างให้ได้นอนทุกที่นะคะ
ครั้งนี้ เราลอง วิมานน้ำรีสอร์ทค่ะ
วิมานน้ำ อยู่ริมลำน้ำเพชรบุรี
ว่ากันตามจริง ในส่วนของห้องพักก็ธรรมดาแหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
ที่พิเศษคือบรรยากาศรอบ ๆ คือดีงามสำหรับเรานะ
บริเวณค่อนข้างกว้างขวาง ต้นไม้ ดอกไม้เยอะ เงียบสงบ ไร้สิ่งรบกวน
ห้องพักที่โซนริมน้ำนี่คือ นอนมองสายน้ำจากเตียงกันเลย
โซนนี้เรียกว่าห้องช้างแดง มี 7 หลัง
คือ ช้างแดง 1-7 แนะนำช้างแดง 4 หรือ 5 นะ วิวแจ่มสุด
เราได้ช้างแดง 5 ค่ะ สงสัยเหมือนกันทำไมตั้งชื่อแปลก ๆ หว่า แต่ก็ไม่ได้ถาม 555
โซนอื่น ๆ จะอยู่ในสวน ราคาก็แตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ 1,800
ห้องโซนช้างแดง อยู่ที่ 2,200
ถ้าพูดถึงเฉพาะในห้องพักเนี่ย มันก็ไม่ค่อยคุ้มราคาหรอก
ภายในห้องมีแค่สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน
คือ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น น้ำดื่มสองขวด แค่นั้นแหละ
แต่อย่างที่บอก ถ้าไปเสพบรรยากาศน่ะ คุ้มค่ะ
เพราะบรรยากาศดีมากกกกกก น้ำไหลเย็นใสสะอาด
เหมาะกับการลงไปแช่เล่นเป็นอย่างมาก
ที่พักมีชูชีพ มีเรือแคนู ช่วงเย็น ๆ เล่นน้ำ สดชื่นดี
อ้อ มีจักรยานให้ปั่นเล่นด้วย
มาว่ากันที่เรื่องอาหารบ้าง
ที่นี่ค่อนข้างไกลแสงสี ฉะนั้นเราก็ฝากท้องไว้ที่ครัวรีสอร์ทแหละค่ะ
มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อร่อยมากกกก ราคาไม่แพง
เรากินกันง่าย ๆ เบา ๆ จะได้นอนสบาย แค่ปลานิล ต้มจืด ไข่เจียว พอหละ
ปลานิลทอดตัวเบ้อเร่อ เนื้อหวานสดมาก
พ่อครัวเขาบอกมันเป็นปลานิลเขื่อน ไม่ใช่ปลานิลเลี้ยง
อาหารเช้าก็มีข้าวต้มเครื่อง กับเซตไข่ดาว แฮม ไส้กรอก
เครื่องดื่ม ขนมปัง ผลไม้ ก็จัดการเองกันตามสะดวก
ข้าวต้มเครื่อง อร่อยอีกหละ
อาหารเช้าค่อนข้างน้อย ไม่รู้เป็นเพราะลูกค้าน้อยหรือเปล่านะคะ
วันที่เราไป มีลูกค้า 2-3 ห้องเองมั้ง
โดยรวมสำหรับเรานะคะ เราว่าโอเค
อากาศดีมาก ลมพัดตลอดเวลา
นกเยอะมาก เสียงนกเจื้อยแจ้วตลอด
เจอนกแปลก ๆ เยอะนะ แต่เราถ่ายมาไม่ทันแฮะ
นี่เราไม่ถนัดในการถ่ายรูปเคลื่อนไหว หรือเราใช้กล้องไม่เป็นกันแน่นะ เฮ้ออออ
สรุป เราชอบที่นี่ค่ะ
จริง ๆ เราก็ชอบทุกที่ ที่เราไปหละนะ 555
ใครอยากไปพักผ่อน เล่นน้ำ กิน นอน
ก็ลองดูเนอะ แต่ยังไงก็เช็คดี ๆ ก่อนนะว่าไม่มีกรุ๊ปสัมนาอะไร
(ย่านนี้มีกรุ๊ปมาสัมนา / จัดกิจกรรมสันทนาการค่อนข้างเยอะ)
เพราะถ้าคุณโชคร้ายเจอกรุ๊ปมาสัมนาเข้าให้ละก็
ความเงียบสงบที่แสวงหาก็จบลงโดยพลัน
เช้ารุ่งขึ้นหลังจากมื้อเช้า เราก็ไปส่องผีเสื้อกันค่ะ
ณ แคมป์บ้านกร่าง
ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ที่บ้านกร่าง เราจะเห็นเจ้าพวกนี้เต็มเลย น่ารักกกก
ฤดูกาลผีเสื้อของที่นี่ จริง ๆ แล้วเริ่มช่วงเมษาไปจนถึงมิถุนา
แต่ปีนี้สงสัยหน้าร้อนจะมาเร็ว ผีเสื้อเลยมาเร็วเหมือนกัน
ที่แคมป์บ้านกร่างนี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องจุดชมผีเสื้อมานานหละ เพราะมันเยอะมากกก
เราเคยได้ยินมาว่า ช่วงที่เยอะจริงๆนี่เรียกว่าบินกันให้ลานตาไปหมด
เจ้าหน้าที่บอกว่า นี่เพิ่งเริ่มมากัน ยังไม่เยอะเท่าไหร่
อื้อหือ ขนาดยังไม่เยอะเรายังแทบคลั่ง ถ้าเยอะนี่ เราคงเสียสติไปเลยมั้ง
เพราะเท่าที่เห็นนี่มันเยอะมากนะสำหรับเรา บินรอบ ๆ ตัวยุ่บยับไปหมด
ยิ่งตามโป่งนะ มาเกาะกันเป็นกลุ่ม โอ้ยยย เยอะ บอกเลย
คือตามลำธารช่วงนี้น้ำแห้ง มันมีดินโป่ง มีความเค็ม ผีเสื้อชอบ มันพากันมากินดินโป่ง
เรางี้อยากล้มตัวลงไปนอนกลางดงผีเสื้อจริง ๆ สุด ๆ
อยากให้ไปดูกันจัง มันสวยมากจริง ๆ
นี่เราก็ว่าจะกลับอีกรอบ อยากรู้ที่เขาบอกเมษามันเยอะกว่านี้น่ะ
มันจะเยอะขนาดไหน
มาว่ากันที่การเดินทาง
ถ้าจากกรุงเทพฯ เมื่อถึง อ.ท่ายาง
แยกเข้าทางหลวง หมายเลข 3499 ไปอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ก็ไปจ่ายค่าตั๋วเข้าอุทยานคนละ 100 บาท รถยนต์ทั่วไป 30 บาท
(หรือถ้ามาจากเส้นทางอื่น ก็ตรงไปบ้านกร่างได้เลยค่ะ ไปจ่ายค่าเข้าได้ที่แคมป์เลย)
จากนั้นต่อด้วยเส้นทางภายในอุทยานฯ ตามป้ายบอกไปเรื่อยๆ
จนถึงแคมป์บ้านกร่าง จากแค้มป์บ้านกร่างไปถึงเขาพะเนินทุ่ง
ก็มีผีเสื้อตลอดเส้นทางหละ ส่วนใหญ่ก็เยอะตามลำธาร
เพราะมันพากันมากินโป่ง
จริง ๆ เราอยากแนะนำให้ขึ้นพะเนินทุ่งนะคะ เช้ามาก็ดูทะเลหมอก สาย ๆ ก็ลงมาดูผีเสื้อ
แต่เราอ่ะประเภทหนักไม่เอา เบาไม่สู้ ตื่นแต่เช้ามืดไม่ไหว
ครั้นจะขึ้นไปกางเตนท์นอนบนพะเนินทุ่งเลยก็นะ
เราค่อนข้างติดความสบายเรื่องที่พัก เฮ้ออ ต้องแก้ไขนิสัยนี้ด่วนเลย
กว่าจะออกจากที่พักก็สายโด่ แถมแวะไปเรื่อย
จะขึ้นไปถึงพะเนินทุ่งก็คงไม่มีหมอกเหลือหละ
เลยเอาแค่ดูผีเสื้อก็พอ
เวลาที่เหมาะสมกับการดูผีเสื้อ คือ 8 โมงเช้าถึงราว ๆ 10 โมง
จริง ๆ ก็ดูได้ทั้งวันแหละค่ะ แต่ช่วงเช้าถึงสาย ๆ ผีเสื้อจะมาเกาะนิ่งๆ กางปีกผึ่งแดดกัน
ไปเที่ยวกันเถอะค่ะทุกคน
เมษา พฤษภา นี่หละ ที่เขาร่ำลือกันว่า เยอะสุด
จบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้
ไว้จะมารีวิวใหม่ค่ะ ขอบพระคุณที่เข้าเยี่ยมชมกันนะคะ
Paramee Na Prasri
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.24 น.