ก็เข้าเรื่องเลยอย่ารอช้า

เราซื้อเป็นแพคเกจ ๒ วัน ๑ คืน ราคา ๕,๘๐๐ บาทต่อคน

๒ คนก็ ๑๑,๖๐๐ สำหรับห้องพักแบบมินิพูลวิลล่า ทรอปิคัลสไตล์


จริง ๆ อยากได้ดีลักษณ์วิลล่านะคะ (ราคาถูกกว่าด้วย)

เพราะอยากได้วิวคลอง ดูจากในเวปมันสวยมาก

แต่มันเต็ม เต็มยาวราว ๆ สามชาติเศษ เราเลยบอกพนักงานรับจองว่า

เร็วที่สุดที่พอจะว่างสักห้องในช่วงเสาร์อาทิตย์ไหนก็จัดมาเลยค่ะ

ก็ได้มินิพูลวิลล่ามา ได้วันหลังจากโทรจองเกือบ ๆ สองเดือนเลย

ทริปนี้เราเดินทางเมื่อ ๒๖-๒๗ มีนาคมที่ผ่านมาค่ะ



มาเริ่มกันที่การเดินทาง


แพคเกจ ๒ วัน ๑ คืน เริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมศอกค่ะ

เวลานัดหมายคือ ๑๐ โมงเช้า เลทไม่ได้นะคะ ถ้าคุณเลทก็หาเรือไปเอง


การเดินทางมาท่าเรือแหลมศอก ไม่ยากค่ะ

มาถึงตัวเมืองตราดแล้วก็มีป้ายบอกเป็นระยะ ท่าเรือห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒๔ กิโล



ที่ท่าเรือ ไปถึงแจ้งชื่อที่จองไว้ เอากระเป๋าลง


จากตรงนี้เราจะได้เจอกระเป๋าเราอีกครั้งก็ที่ห้องพักเลยค่ะ

ฉะนั้นมีอะไรต้องใช้ระหว่างเดินทางก็เอาออกมาก่อน

ที่สำนักงานระหว่างรอเรือมีชากาแฟ ให้ดื่มตลอดนะคะ บริการตัวเองได้เลย

เรือที่มารับเป็น สปีทโบ๊ท รับลูกค้าของกัปตันฮุกและโรงแรมในเครือ


คือ ปีเตอร์แพน ทิงเกอร์เบล เวนดี้เดอะพูล



เรือมีชูชีพพร้อม ทุกคนต้องใส่ ไม่งั้นโดนดุนะเออ


ระยะเวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง มากน้อยกว่านั้นแล้วแต่คลื่นลม

เมื่อถึงท่าเรือกัปตันฮุก พนักงานมารอต้อนรับพร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ


และเชิญทานมื้อเที่ยง เดี๋ยวเรื่องอาหาร จะรวบยอดในความคิดเห็นนะคะ



จากนั้นพนักงานจะแจ้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่รวมอยู่ในแพคเกจ

เช่น การพาไปดำน้ำดูปะการังที่หมู่เกาะรัง พายเรือคายัค ไรงี้

จริง ๆ ถ้าน้ำไม่แล้งเขาพาไปเที่ยวน้ำตกด้วยนะ

แต่ช่วงนี้น้ำตกไม่มีน้ำ เลยไม่ได้ไปค่ะ



ป.ล. มีค่าที่จอดรถ ๕๐ บาทต่อวันค่ะห้องพัก

วิวดีทุกห้องนะเท่าที่เราแอบไปส่อง ๆ มา

ราคาแตกต่างกันเล็กน้อง สามสี่ร้อยไรงี้ค่ะ



เราได้พูลวิลล่าหมายเลข 3

ห้องอยู่บนเขา หันหน้าออกอ่าวยายกี๋ วิวดี๊ดี


มีสระน้ำหน้าห้อง(ว่ายน้ำไม่เป็นได้แค่แช่ขา)



วิวหน้าห้อง


เย็นย่ำนั่งดูพระอาทิตย์ตกจากหน้าห้องได้เลยนะคะ


มาดูในห้องพักกันบ้าง


จริง ๆ เหมือนพักได้ ๔ คน(รึปล่าวนะ) แต่นอน ๒ คนก็กำลังดีแหละ

ในห้องไม่มีตู้เย็น ทีวี นะคะ บอกก่อน

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีหรอก เราว่าที่นี่กิจกรรมน่าสนใจเยอะ

ไม่มีเวลาดูทีวีหรอกมั้งคะ

ระบบไฟฟ้าที่นี่มีใช้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง


แต่แอร์ใช้ได้แค่ ๕ โมงเย็น ถึง ๙ โมงเช้าเท่านั้น

เพราะเป็นระบบปั่นไฟจ้า

แต่ไม่ต้องกลัวร้อน ที่นี่ต้นไม้เยอะมาก ลมพัดดี๊ดี

และเขาก็มีพัดลมตัวใหญ่ให้นะ ร้อนก็เปิดพัดลมเอาค่ะ

ในห้องพัก มีร่มให้ด้วย มีกระติกน้ำร้อน

ชากาแฟ น้ำดื่มมีให้หลายขวดเลย



ห้องน้ำกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน

มีเครื่องอาบน้ำให้ครบ ครีมอาบน้ำห๊อมหอม

มาดูรอบ ๆ บริเวณกันบ้าง



สระว่ายน้ำ โซนทานอาหาร และอื่น ๆ



ไม่มีคน เพราะเขาพากันไปดำน้ำหมดแล้ว เหลือแต่เราที่ไม่ไป

กิจกรรม



นอกจากไปดูปะการังแล้วก็อย่างที่บอก

พายเรือคายัคเล่น ฟรีทุกรายการตลอดทริป

เราน่ะพายไม่เป็น


เลยขอให้สต๊าฟช่วยพายพาไปล่องคลองยายกี๋

ในคลองบรรยากาศดี๊ดี สวยงามมาก


แถวนี้เราว่าอุดมสมบูรณ์อยู่มากเลย

ผ่านบ้านมะกอก แอบเล็งไว้ ถ้าทำใจได้กับการเมาเรือเมื่อไหร่จะมาเกาะกูดอีก


และจะพักบ้านมะกอกนี่แหละค่ะ ชอบ สวย

ในแพคเกจมีพาไปดูหิ่งห้อยด้วยนะคะ แต่อาจเป็นบางฤดูกาลหรือเปล่า ไม่แน่ใจ


เพราะเราไม่ได้ไปค่ะ และก็ลืมถามด้วยหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมต่าง ๆ แล้วพักผ่อนเล็กน้อย

ก็จะเป็นมื้ออาหารค่ำ เริ่มประมาณ 6 โมงเย็น

เดี๋ยวจะรีวิวเป็นลำดับต่อไป



หลังมื้อค่ำ จะมีโชว์ควงไฟค่ะ

เริ่มประมาณ ๒ ทุ่ม ก็จับจองที่นั่งที่ยืนกันได้เลย

ดูโชว์แล้วก็หยอดกล่องทิปเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ เขาหน่อยเนอะ

ประมาณนี้แหละค่ะ


จากนั้นก็เป็นเวลาพักผ่อนเนอะเอาหละ มาดูเรื่องอาหารกัน



ทริปเรา สองวันหนึ่งคืนจะได้อาหาร ๕ มื้อ คือ

มื้อเที่ยงวันแรก อาหารว่างวันแรก มื้อค่ำ มื้อเช้า และเที่ยงวันที่สองก่อนกลับ



เมื่อเราเดินทางถึงรีสอร์ทจะมีพนักงานมายืนรอต้อนรับที่ท่าน้ำ

พร้อมเวลคัมดริ๊ง จากนั้นก็เรียนเชิญทานมื้อเที่ยงกันเลย

ข้าวของกระป๋งกระเป๋าไม่ต้องห่วงนะคะ พนักงานเขาจัดการเอาไปไว้ที่ห้องให้เอง

เราเดินตัวปลิวหาของกินได้เลย



มื้อแรก

เป็นบุฟเฟต์ อาหารหลากสิ่งหลายอย่าง

เน้นไปทางทะเล แต่ก็มีหมูเห็ดเป็ดไก่

น้ำพริกผักสด ต้ม ผัด ทอด แกง มีหมด

มีก๋วยเตี๋ยวทะเลด้วย หมึกเป็นหมึก กุ้งเป็นกุ้ง ชามโต ๆ



แต่ก๋วยเตี๋ยวจืดไปนิดนึง

ระหว่างทานอาหาร


พนักงานจะมาแจ้งกิจกรรมในแพคเกจให้ทราบว่าเวลาไหนมีอะไรบ้าง

เราก็รับทราบกันไป แต่ก็ไม่ได้สนใจกิจกรรมอะไร



เราแค่มาพัก มากิน ฟิน ๆ เท่านั้น เสร็จมื้อเที่ยง ก็เข้าห้องพักผ่อน



บ่าย ๆ สำหรับคนสนใจกิจกรรมก็ไปดำน้ำดูปะการังกัน

เราก็พักผ่อน รอเวลาอาหารว่างช่วงบ่ายสาม



อาหารว่าง



นี่ไม่ได้ซ้ำกันนะคะ แล้วแต่ว่าเราจะเจอเมนูอะไร

บางวันเป็นส้มตำ ไก่ย่าง ลาภ น้ำตก อะไรก็ว่าไป (เห็นจากในเพจของรีสอร์ท)


เราเจอก๋วยเตี๋ยวญวน ปากหม้อญวน แอบเสียดายไม่มีส้มตำในวันนั้น

ขนมหวานก็มีหลายสิ่งอย่างให้เลือก แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปโซนขนมมานะคะ ลืม แหะ ๆ



ไอติมทรงเครื่องนี่ตักกินได้แทบตลอดเวลา

เครื่องดื่ม ชา กาแฟ ขนมปัง แยม นม

น้ำดื่ม น้ำสมุนไพร มีให้ตลอด ไม่อั้น

มื้อค่ำ



มื้อค่ำเริ่มหกโมงกว่า ๆ

มีปิ้งย่างทะเล และ หมู เนื้อ ไก่ ประมาณนี้



เราลงมาก็เดินไปนั่งโต๊ะได้เลย

อาหารจานหลัก พนักงานจะยกมาเสริฟ

เมนูที่เราได้วันนั้นนะคะ ทอดมัน ปลากะพงทอดตัวใหญ่เบิ้มเริ่ม ต้มยำทะเลน้ำใส

ปูเผาหรือนึ่งหว่าไม่แน่ใจมัวแต่ก้มหน้ากิน



ในส่วนของปิ้งย่าง บาร์บิคิว เราก็ไปส่องดูว่าเราต้องการอะไรไม่ต้องการอะไร


(ถ้าไม่บอกเขาก็ยกมาให้ทั้งหมด)

ส่องแล้วก็กลับมานั่งโต๊ะ เดี๋ยวเขาจะจัดใส่จานสวยงามมาเสริฟ


ส่วนนี้เติมได้ตลอด กุ้ง หอย หมึก ฯลฯ

เหนื่อยจะกินมากค่ะ ณ จุดนี้

อะไรหมดเรียกบอกพนักงานเลย


จริง ๆ ไม่ทันหมดหรอก แค่พร่องก็เข้ามาถามหละค่ะ

พี่คะ เติมหอยมั้ยค่ะ เอาหมึกเพิ่ม กุ้งเพิ่มมั้ยคะ (จนอยากจะบอกว่า น้องพอเหอะ พี่ไม่ไหวแล้ววว )



เศษกุ้งปูที่เราแกะ พนักงานก็เดินวนมาเก็บตลอดเวลา

คือ บริการดีงามมาก ๆ ค่ะ ยอมรับเลย เขาเทรนพนักงานมาดี



ท้าย ๆ มื้อค่ำ ก็มีของหวาน ขนม ผลไม้ แล้วแต่ว่าวันนั้นจะเป็นเมนูอะไร

เราได้สิ่งนี้ เรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่ก็อร่อยดี


จบมื้อค่ำ อิ่มจนอืด อีโนสิคะ รออะไร



อาหารในวันรุ่งขึ้น

มื้อเช้า



มีทั้ง ABF สลัด ข้าวต้มทะเล ข้าวต้มกุ๊ย

ข้าวสวย กับข้าว ผัด ทอด แกง

โจ๊กก็มี ฯลฯ บรรยายไม่หมด ถ่ายรูปไม่ไหว เยอะเกิ๊น



จบมื้อเช้า พักผ่อน สักสิบเอ็ดโมง ลงมาเช็คเอาท์


ก็ได้เวลามื้อเที่ยงก่อนกลับอีกมื้อนึง



มื้อเที่ยง

เมนูไม่ซ้ำกับวันก่อนนะคะ วันกลับมีผัดไทยด้วย

และอื่น ๆ อีกมากมายตามเคย

ขอบอกว่า ที่นี่เขาไม่ปล่อยให้เราท้องว่างเลย


เดี๋ยวกิน ๆ กินจนเครียดค่ะ



มาว่ากันเรื่องรสชาติ

อันนี้ก็คงแล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมันเนอะ แต่ลิ้นเรา เราว่าอร่อยนะคะ

หลายอย่างอร่อยมากทีเดียวการเดินทางกลับ

เรือจะมารับประมาณบ่ายโมง หลังจากทานมื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้ว

พนักงานจะส่งลูกค้าขึ้นเรือ มีการมายืนเรียงแถวบ๊ายบายด้วย น่ารักดี



อันนี้ยืนส่งลูกค้ารอบเช้าค่ะ (แพคเกจ ๓ วัน ๒ คืน)

ถามถึงความประทับใจ เราประทับใจมากค่ะ


ที่พัก อาหาร การบริการ สำหรับเรา โอเคมาก

เสียอย่างเดียว เราเมาเรือหนักมาก ขากลับเจอคลื่นลมหนักกว่าขาไป

กว่าจะถึงฝั่ง เราแทบขาดใจส่งท้าย

เนื่องจากว่า แพคเกจ ๒ วัน ๑ คืนนั้นต้องขึ้นเรือรอบเช้า คือ ๑๐ โมงตรงเป๊ะ

เราไม่อยากออกจาก กทม.แต่เช้ามืด และก็กลัวเจอรถติดอาจจะไปไม่ทัน

จึงเลือกออกเดินทางเย็นวันศุกร์ และได้หาที่พักค้างคืนใกล้ ๆ ท่าเรือก่อน ๑ คืน



เราพักที่ อาณาเลแหลมศอกค่ะ ราคา ๙๐๐ บาทรวมอาหารเช้า

ที่พักโอเคดีค่ะ เหมาะสำหรับพักผ่อนรอเดินทางต่อ

มีสระว่ายน้ำหน้าห้องเลยค่ะ



แนะนำไว้เผื่อใครมองหาการเดินทางแบบเรา

ใกล้ท่าเรือของกัปตันฮุกมาก คือเดินไปก็ได้เลยค่ะ



และอันนี้รีวิวเผื่อไว้


สำหรับคนที่อาจไปถึงตราดตอนมืด ๆ อย่างเราแล้วหิว

ร้านข้าวต้มอินเตอร์ แนะนำเลย เราว่าอร่อยเลยแหละ



เราก็ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก่อนเลยนะคะ

แค่ไปถึงตราดมืด และหิวมาก

ผ่านเข้าตัวเมืองเจอร้านนี้อยู่ซ้ายมือ เลยแวะ

ไม่รู้ชื่อร้านด้วยซ้ำ มาอ่านป้ายตอนกินเสร็จหละ

อร่อยอ่ะ อร่อยมากเลยยยยยย (หรือเพราะหิวมากหว่า)

ถ่ายรูปมาหน่อยเดียวนะ หิว กินเหลือแต่ซาก

เอาแค่ที่ถ่ายทันละกัน คือของเขาอร่อยทุกอย่างที่สั่งมาเลยค่ะ

แต่ อาจจะช้าหน่อยนะ ขนาดว่าคนน้อย ยังรอตั้งนาน

ฮี่ ๆ กินหมดแล้ว ทันถ่ายมาแค่นี้

เอาหละค่ะ จบกระทู้รีวิวแต่เพียงเท่านี้


ข้อสรุปสำหรับเรา เราชอบกัปตันฮุกค่ะ จะไม่ชอบก็ประการเดียวคือ น้ำหนักขึ้นค่ะ



อ้อ เกือบลืมบอก กัปตันฮุก ไม่มีหน้าหาดนะคะ

โลเคชั่นอยู่ฝั่งเชิงเขา จะไม่มีชายหาด แต่มีหาดฝั่งตรงข้ามใกล้กันนิดเดียว

ว่ายน้ำข้ามไปก็ได้ หรือจะพายคายัคไป



มีเนินทรายตรงหน้าห้องพักฝั่งคลอง

น้ำลงก็เดินข้ามเอาได้นะ เห็นหลายคนเดินข้ามกันไปมาช่วงน้ำลง



ขอบคุณทุกท่านทีแวะเข้ามาดูค่ะ

Paramee Na Prasri

 วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.25 น.

ความคิดเห็น