เชื่อไหมว่า ความหลงใหลเพียงอย่างหนึ่ง ทำให้เราออกเดินทางไกลได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
เพียงเพื่อที่จะได้เห็นและสัมผัสกับสิ่งสิ่งนั้น ด้วยตาและหัวใจของเราเอง
และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเดินทางมาไกลถึง ชุมชนสนวนนอก จ. บุรีรัมย์
ดินแดนแห่งผ้าไหม สิ่งที่เราหลงใหล ชื่นชอบ สะสม
ถึงขั้นเรียกเราว่า Silk Lover ได้อย่างเต็มปาก
วันแรกของทริป เราเดินทางมาถึงสนามบินบุรีรัมย์ในช่วงก่อนเที่ยง
พอดีกับมื้อกลางวัน จึงเลือกไปฝากท้องกันที่ร้านอาหารเป็ดย่างคูเมือง
ร้านตำรับดังของชาวบุรีรัมย์ที่มาถึงต้องมาลองชิมให้ได้ เมื่อท้องอิ่ม พร้อมเที่ยว
เราเดินทางกันต่อ จากตัวเมืองบุรีรัมย์เดินทางไปยังชุมชนบ้านสนวนนอก ใช้เวลาราว ๆ 40 นาที ก็มาถึง
พวกเราได้รับการต้อนรับจากชาวชุมชนด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพอันอบอุ่น
ได้ลองชิมขนมตดหมาที่พ่อ ๆ แม่ ๆ ชาวชุมชนเตรียมไว้ให้ แม้ชื่อจะชวนขมวดคิ้ว
แต่รสชาติดีใช้ได้ สำหรับขนมพื้นบ้านของชุมชนสนวนนอก
ชุมชนสนวนนอก เป็นหมู่บ้านแห่งผ้าไหม ซ่อนตัวอยู่ ใน อ. ห้วยราช
แห่งดินแดนปราสาทหินบุรีรัมย์ ชาวบ้านที่นี่ยังคงใช้ชีวิตตามแบบฉบับดั้งเดิม
ถักทอสานต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันงดงามของเส้นทางสายผ้าไหมของชาวอีสานใต้
ผ้าไหมลายเอกลักษณ์ของชุมชนสนวนนอก ถูกกล่าวขานในเรื่องความประณีตงดงามมากที่สุดแห่ง
หนึ่ง ทำให้เราต้องมาเห็นกับตาตัวเองให้ได้ กับ “ผ้าไหมลายหางกระรอก”
ผ้าไหมฝีมือระดับตำนานที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น
ชมและสัมผัสผ้าไหมกันไปแล้ว ถึงเวลาสัมผัสความไวแสงกับบ้าง
กับ “รถกระสวยอวกาศ” พาหนะสุดเฟี้ยวประจำชุมชน
พาเราซิ่งเที่ยวชมวิถีชาวบ้าน ผ่านบ้านไหน ก็ยิ้มทักทาย โบกมือต้อนรับ อุ่นใจได้จริง ๆ
จากนั้นช่วงบ่ายแก่ ๆ พวกเราตื่นเต้นอีกครั้ง กับกิจกรรม “Thai Silk Full Circle”
เราได้ไปชมกระบวนการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมอย่างพิถีพิถันเริ่มตั้งแต่การสาวไหม
ฟอกไหมด้วยความประณีต ไปจนถึงขั้นตอนการทอผ้าจนกลายมาเป็นผืนผ้าไหมสวยงามอย่างที่เห็น
และต่อด้วยกิจกรรม “Made in สนวนนอก” เหล่าแม่ ๆ ผู้สร้างสรรค์ผลงานผ้าทอจากทุกบ้านในชุมชนมานำเสนอผลงานผ้าไหมให้เราได้ชมได้สัมผัส หลายผืนถูกใจเราและเพื่อนร่วมทริป อดไม่ได้ที่ต้องเป็นเจ้าของสักผืน มาถึงแหล่งผลิต
ทั้งยังได้เจอกับคนทอผ้าไหมตัวจริงเสียงจริงอีกด้วย ไม่ใช่จะมีโอกาสแบบนี้ง่าย ๆ
จึงไม่ควรพลาดเลือกผืนผ้าไหมที่ถูกใจติดมือกลับมาด้วย
และปิดท้ายวันด้วยมื้อค่ำ อีสานพาแลง เมนูอาหารอีสานรสแซ่บ ที่อิ่มหนำกันถ้วนหน้า
กับเมนูสูตรเฉพาะชุมชนสนวนนอก อย่างแกงกล้วย ต้มหม่อน รับประทานไปชมไป
กับการแสดงพื้นบ้านจากชาวชุมชน อิ่ม อร่อย ประทับใจไปพร้อม ๆ กัน
ก่อนแยกย้ายกลับที่พัก นอนพักเอาแรงไว้เที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้
วันที่สองเริ่มต้นขึ้น วันนี้ต่างจากทุกวัน เพราะพวกเราได้แต่งตัวสวยงามด้วยผ้าไหมแบบจัดเต็ม
เพื่อออกไปตักบาตรรับบุญ ชมวิวท้องนา สูดอากาศยามเช้าเต็ม ๆ ปอด
พอรับประทานมื้อเช้าอิ่มท้อง ก็เตรียมตัวไปต่อ
ที่ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มทอผ้าไหมบ้านสนวนนอก เดินชม เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในชุมชน
ก่อนบอกลาเหล่าแม่ ๆ พ่อ ๆ ชาวชุมชนสนวนนอก เพื่อออกเดินทางไปที่
ถาวรฟาร์ม ฟาร์มเมล่อนเมืองช้าง จ. สุรินทร์
มาถึงถาวรฟาร์มทันมื้อเที่ยงพอดี ที่นี่นอกจากอาหารรสเด็ดกลางฟาร์มเมล่อนแล้ว
เรายังเพลิดเพลินไปกับเมนูเมล่อนสด ๆ ส่งตรงจากทุ่งกุลา
อิ่มอร่อยทั้งคาวและหวานแบบจัดเต็มมาก ๆ
ก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามบินบุรีรัมย์เพื่อกลับสู่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จบทริปอย่างประทับใจ
และแน่นอนว่า Silk Lover อย่างเรา จะยังคิดถึงชุมชนสนวนนอกนี้อยู่เสมอ
และถ้าวันไหนที่คิดถึงมาก ๆ เราจะกลับไปเยี่ยมชมความงามของผ้าไหมและวิถีชีวิตของผู้คนชุมชนสนวนนอกอย่างไม่รีรอ
แล้วเจอกันใหม่อีกครั้งนะ ชุมชนสนวนนอก บุรีรัมย์
Thistrips
วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 17.19 น.