"แม่กำปอง ได้ลองแล้วจะรัก" ใครว่าไปแม่กำปองไม่รู้จะทำอะไร ตามมานี่เลยเด้อ!!!!!!!!

........................................................................................................................................................

การเที่ยวคนเดียวไม่น่ากลัวอย่างที่คิด กลัวอย่างเดียวคือ ผ ผ ผ ผ ผี ฮั่นแน่ไม่มีหรอกเชื่อเราสิ

เที่ยวคนเดียวแบบ Move On หรือจะมากลุ่มแก๊งเพื่อนก็สนุกนะ ไม่เชื่อลอง 

เริ่มต้นเดินทางโดยใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย สาย “อุตรวิถี" เป็นแบบรถไฟนอนนั่นเอง สิ่งที่เคยคิดไว้ว่ารถไฟต้องเดินทางลำบาก ไม่สะดวกสะบาย พอเห็นของจริงแล้ว โคตรดียยยยยยยย์ บอกเลย สะอาด เงียบ พื้นที่ส่วนตัวมาก "ได้ลองแล้วจะรัก"

บรรยากาศภายในตู้รถไฟ สาย “อุตรวิถี ” แอร์ชุ่มฉ่ำมาก

บริการน้ำฟรีของการทางรถไฟแห่งประเทศไทย ก็มีนะเออ เอาเส้....... ไม่เหมือนที่คิดไว้ใช่ไหมล้าาาาา

มาคนเดียวเวลาถ่ายรูปก็จะหามุมยากนิดนึง  เป็นไงเหมือนมากับเพื่อนแล้วให้เพื่อนถ่ายให้ไหม พอได้ป่ะ ขอเแอ๊คก่อนนะ มุมเผลอก็มา 55555

12 ชั่วโมงผ่านไป ถึงเชียงใหม่สักที (สถานีรถไฟเชียงใหม่ เจ้าาาาาาาา)

พอถึงเชียงใหม่อันดับแรกแนะนำให้ไปเช่า รถเครื่อง(รถมอเตอร์ไซค์) เราแนะนำเช่าที่นี่เลย Bikkychiangmai รถใหม่ พร้อมบริการที่ประทับใจ จะได้สะดวกในการไปไหนมาไหน เพราะนั่งรถแดงแต่ละที่ก็แพงอยู่เหมือนกันนะ

เริ่มเดินทางไปหมู่บ้านแม่กำปองกันเถอะ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ไม่ไกลนะ หรือว่าวิวข้างทางสวยก็ไม่รุ ทำให้ลืมระยะทางข้างหน้าเลย

แว๊นมาได้สักพัก เจอป่ายเขียนบอกว่าทางไป น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด ไหนๆมาแล้วขอแวะไปดูโหน่ยยย.....เงียบมาก เอ๊ะหรือว่าวันที่เราไปเป็นวันธรรมดา คนไม่นิยมมาเที่ยวกันนะ

สักพักใหญ่แว๊นไปเจอทางแยก ไปร้านกาแฟบนต้นไม้ TheGiant Chiangmai Thailand กับทางไปหมู่บ้านแม่กำปอง เลยลองโทรเขคกับทางโฮมสเตย์ที่ติดต่อไว้ บอกว่า เชคอินได้บ่าย 2 แต่เรามาถึงต่อน 11 โมง เลยตัดสินใจไปนั่งรอที่ The Giant Chiangmai Thailand หรือร้านกาแฟบนต้นไม้ก่อน

เส้นทางค่อนข้างชันและชันมาก สองข้างทางมาพร้อมหุบเหว ทางแคบ ขับด้วยความระมัดระวัง ถ้าไม่มั่นใจจอดรถตรงหมู่บ้านตรงทางขึ้นมีรถชาวบ้านให้บริการ

*ช่วงขาลงพยายามอย่ากดเบรคค้าง เพราะจะไหม้ได้ แนะนำให้ค่อยๆผ่อนแรง ทางลงควรระวังกว่าทางขึ้น*

มาถึงบริเวณร้าน ก็หาที่นั่งได้ตามสะดวก เพราะที่นั่งเยอะ เลือกเลย มุมไหน สวย วิวไหนสวย ก็เชคอินกันไป

บ่าย 2 ก็เชคอินเข้าที่พักดีกว่า จากร้านกาแฟบนต้นไม้ ถึง หมู่บ้านแม่กำปอง ไม่ไกลกันมาก ประมาณ 9 โล เราเลือกพักที่ ฮิมดอยโฮมสเตย์ ที่นี่โอเค เลยนะ ราคาไม่แพงบรรยากาศดียยยยย์ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ริมลำธาร พังเสียงน้ำไหลตลอดทั้งวัน โคตรฟิน

เปิดประตูเข้ามา วิวข้างหน้าอย่างว้าววววววว อยากกระโดดลงนอนใจจะขาด มีระเบียงออกไปรับลม ได้ฟิว ดีย์โคตร เหมาะกับการนั่งจิบน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ 555555

ที่พักของเรามีห้องใต้หลังคาด้วย อย่างเฟี้ยว แต่มาคนเดียวนะ แต่จองห้องแบบเหมือนมากันเป็น 10  นอนเหงาๆไปเด้อ แต่สวยมากชอบๆ

หน้าห้องพักก็อย่าง ART

อาหารเย็น ของที่พักจัดให้แบบเบิ้มๆ ไม่อิ่มก็เติมกันเอาเองเด้อ แต่ละอย่างอร่อยมากนะ

ให้ทาย..........................กินคนเดียวหมดไหม

{ม่ายหมดดดดดดดดดดด}

และนี่คืออาหารเช้าจ้า ข้าวต้ม กับซาลาเปา บวกกาแฟร้อนๆ นั่งฟังเสียงน้ำไหลบ่อยอยากหยุดเวลาไว้แบบนี้จัง ไม่อยากกลับเลย

"ร้านแมวดอยแกลเลอรี่"

เป็นร้านของฝากแฮนเมคสไตส์ อาท อาท ส่วนมากจะเกี่ยวกับแมว ทาสแมวน่าจะถูกใจร้านนี้ มีทั้งโปสการ์ด พวงกุญแจ เสื้อ หมอน และอื่นๆอีกมากมาย

Landmark ที่ใครมาต้องมาถ่ายรูปกับที่นี่ ถ้าไม่ถ่ายถือว่ามาไม่ถึงแม่กำปอง ที่นี่เป็นทั้งที่พักและคาฟ่ร้านกาแฟด้วย ที่นี่คือ

"บ้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง"

วิวจาก "ระเบียงวิว แม่กำปอง"

ที่นี่เป็นทั้งที่พักโฮมสเตย์และร้านกาแฟด้วยนะ

"ระเบียงวิว แม่กำปอง"

ฝนตกขอแวะในร้านขายของชำในหมู่บ้านแม่กำปองก่อน  อยากเดินกลางสายฝนเหมือนพระเอกมิวสิคอยู่หรอก แต่มาคนเดียวไงแก ไม่มีใครถ่ายรูปให้ชั้น

เช้าแล้วไปดูสายหมอก กับพระอาทิตย์ขึ้นกัน ที่นี่มีชื่อว่า "กิ่วฝิ่น" เป็นพื้นที่รอยต่อ 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่กับลำปาง

โชคไม่ดี เมื่อคืนฝนตก ท้องฟ้าเลยปิด เห็นพระอาทิตย์แค่นิดเดียว เสียดายจัง

เช้านี้ ณ กิ่วฝิ่น

น้ำตกแม่กำปอง

ผ่านไปไวมาก 1 วัน กับ 1 คืนที่นี่

สายแล้วเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า เตรียมกลับเข้าเมืองเชียงใหม่กันเต๊อะเจ้าาาาา ลาแล้วแม่กำปอง
แล้วเราจะมาพบกันใหม่

สวัสดี.....