สวัสดีครับ พอดีพึ่งเริ่มฝึกเขียนรีวิว ออกตัวก่อนว่าเขียนไม่เก่งนะครับ ไอเดียเริ่มจากการนั่งอ่านรีวิวไปเรื่อยๆในเพจของ Pantip เลยอยากลองเขียนดูบ้าง
เลยจัดการหาข้อมูล สมัคร Pantip และส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยง่ายในการเขียนหน่อย ผิดพลาดประการใดเพื่อนๆพี่ๆน้องๆแนะนำผมด้วยนะครับ

....................................................................................

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า คือเรามีแพลนอยากไปเที่ยวกับแฟน 2 คน ที่อ่างขางกับบ้านระเบียงดาว เราจะพักที่อ่างขาง(ม่อนสน) 2 คืน บ้านระเบียงดาว 1 คืน อีกคืนเราจะมาชิลในตัวเมืองเชียงใหม่ เราจะไปแบบไม่มีรถยนต์กัน เริ่มจากจองตั๋วเครื่องบินAirAsia เดินทางเวลาประมาณ 06.30 วันที่ 5 มกราคม 2560

เย้!!เรามาถึงสนามบินก่อนกำหนด รอไรหละครับเช็คอินก่อนเลย คิวยาวพอสมควร ต้องเผื่อเวลาในการเช็คอินประมาณชั่วโมงด้วยนะครับ


จุดเช็คอิน AirAsia

ได้เวลาเดินทางแล้วววววววว

วิวข้างๆช่างงดงามเหลือเกิน

เรามาถึงสนามบินเชียงใหม่ ประมาณ 07.45 น. จากนั้นนั่งรถสองแถวแดงไปสถานีขนส่งช้างเผือกกันต่อเลย ค่าโดยสาร คนละ 20 บาท
พอมาถึงมีวิธีการเดินทาง 2 ทางคือ รถเมล์ส้ม เชียงใหม่-ท่าตอน และรถตู้ เชียงใหม่-ท่าตอน บอกคนขับว่าลงหน้าวัดหาดสำราญ

ถ้าชอบชิลๆชมวิว แนะนำให้นั่งรถเมล์ส้มเลย (ราคา 70 บาท/คน)

แต่ชอบเร็วๆและทำเวลาได้แนะนำรถตู้ครับ (ราคา 150 บาท/คน)

เมื่อเดินทางถึงวัดหาดสำราญ ให้หารถสองแถว ปกติต้องรอคนเต็มประมาณ 10 คน ตกคนละ 50-60 บาท และถ้าไปกันเยอะช่วยๆกันแชร์หลายๆคนก็จะถูก

ผมตั้งใจจะไปกางเต๊นท์ที่ม่อนสน ผมเลยบอกคนขับบอกจอดลงม่อนสนให้ด้วย!!!! เมื่อถึงที่พักจัดการเช่าเต๊นท์ เครื่องนอนเรียบร้อย ผมเลือกที่ใกล้จุดชมวิวม่อนสนเลย จะได้ชมทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด วิวสวยมาก วันแรกที่ไปโชคร้ายหน่อย ฟ้าปิดตลอดทั้งวัน
วันที่1 (5 มกราคม 2560)

วันที่2 (6 มกราคม 2560) โชคดีมากมีทะเลหมอกมาให้เชยชมสมกับที่รอคอย

วิวหน้าเต๊นท์ที่พัก สวยไหมหละ

จุดชมวิวม่อนสน

จุดชมวิวม่อนสน

สมกับการรอคอย

ที่ลานกางเต๊นท์ม่อนสน มีร้านอาหารเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นจิ้มจุ่ม หมูกระทะ ไข่ปิ้ง เลือกตามสบายเลยครับ

อาหารที่นี่ราคาไม่แพงครับ

เอาละสิ!!!! มาถึงอ่างขางไม่ขึ้นไปโครงการหลวงได้ยังไง เอ๊ะ...แต่เราไม่มีรถ เราจะไปยังไง ไม่ยากครับ โบกรถสิครับ 555 ผมไปโครงการหลวงมา 2 วันเดินยังไม่หมดเลย โบกไปโบกกลับ อากาศหนาวมาก

โบกรถไม่ยากอย่างที่คิด

และแล้วก็มาถึงโครงการหลวงดอยอ่างขาง

บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ

ดอกกระหล่ำ ดอกใหญ่ น่ากินทีเดียวเชียว

สวนพฤกษศาสตร์

หมู่บ้านม้า ตั้งอยู่ภายในโครงการหลวง

*ที่โครงการหลวงอ่างขาง ส่วนมากเป็นซากุระไต้หวัน ซึ่งน่าจะเป็นที่เดียวในประเทศไทย ที่มีซากุระ...ส่วนพญาเสือโคร่งมีบ้าง แต่ก็แทบจะแยกกันไม่ออก ... จนท โครงการฯฝากบอกมา


ซากุระไต้หวัน เบ่งบาน รอให้เชยชม

ซากุระไต้หวันสวยมาก

เส้นทางสายซากุระไต้หวัน

สวน๘๐ กับซากุระไต้หวัน

สวน๘๐

หมอกลงหนา มองไม่เห็นทาง เวลาประมาณ 16.30 น.

ระหว่างทางเดิน นี่ไง!!!! สวนบ๊วย ที่เค้านิยมมาถ่ายพรเวทกัน

ผักที่นี่สดๆน่ากินซะตรงนั้นเลย 555

มาถึงอ่างขาง ต้องมาชิมขนมและกาแฟของโครงการหลวง อร่อยมากๆ

.............................................................................................

เอาหละหมดเวลาที่อ่างขาง...ซะแล้ว เราไปต่อที่บ้านระเบียงดาวกันต่อ ผมลงมาจากดอยอ่างข่างด้วยวิธีเดิมคือโบกรถลงมาครับมาลงหน้าวัดหาดสำราญที่เดิมตอนที่มาเลยครับ จากนั้นนั่งรถเมล์ส้มหน้าวัดมา บขส.เชียงดาว

วัดหาดสำราญ-บขส.เชียงดาว 40 บาท/คน

*ก่อนไปบ้านระเบียงดาว แนะนำโทรจองกันก่อน เรื่องของสัญญาณโทรศัพท์นั้นไม่ต้องพูดถึง แทบไม่มี โทรติดยากมาก หมั่นโทรวันละหลายๆรอบนะครับ เพื่อระเบียงดาวแล้วไม่ลดละความพยายาม555 สู้ๆนะครับทุกคน อ่อควรจองล่วงหน้าสักเดือน-2เดือนนะ มิฉะนั้นจะพลาด

พอมาถึง บขส.ผมก็โทหาคนขับรถที่ทางบ้านระเบียงดาวจัดมารับ ลุงชื่อลุงหมานกับลุงแก้ว ท่านใดต้องการติดต่อขอเบอร์ได้ที่ผมนะครับ โทรให้มารับ-ส่งได้ครับ ตกคนละ 70 บาท/คน เต็มไม่เต็มก็วิ่งตลอดครับ เราวิ่งลัดเลาะเขาไปตามทางเรื่อยๆทางลาดชันมากครับ

และแล้วผมกับแฟนก็มาถึงบ้านระเบียงดาว เดินทางประมาณ 40 นาที
วิวข้างหน้าสวยมาก
วันที่ 3 (7 มกราคม 2560)

ข้างหน้าคือดอยหลวงเชียงดาว

มุมมหาชน ใครมาต้องถ่ายมุมนี้

ข้างบนนี้มีร้านค้าอยู่ มีทั้งกาแฟ เครื่องดื่มทุกชนิด รวมทั้งเบียร์เย็นๆ อุดหนุนกันได้ครับ

พอถึงผมกับแฟนก็เช็คอิน และแม่บ้านพาไปยังที่พัก(ที่นี่มีแต่ชาวเขานะครับ)

ที่พักสำหรับคืนนี้ วิวสวยงามตามท้องเรื่อง

ที่นี่มีอาหารให้บริการ เช้าเย็นนะครับ เลือกได้ว่าจะทานที่ริมระเบียงส่วนกลางหรือทานหน้าที่พักก็ได้ ผมกับแฟนเลือกทานอาหารเย็นที่ริมระเบียง ฟินเลยครับงานนี้

อาหารเย็นจะมี ผัดผัก ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืด และน้ำพริกผักลวก

น้ำพริกเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลย

ส่วนอาหารเช้าผมเลือกทานหน้าที่พักกับแฟน เมนูข้าวต้ม ถ้าทานไม่อิ่มเดินไปขอเติมได้ครับ มีโอวัลตินซอง กาแฟ ชาร้อนมาบริการ รับรองว่าฟินสุดๆ

ขันโตกท่ามกลางสายหมอก

เรามาดูบรรยากาศยามเช้าที่บ้านระเบียงดาวกัน

ผมกับแฟนลงมาจากบ้านระเบียงดาว ระหว่างทางแอบแวะ ถ้ำเชียงดาวกับโป่งน้ำร้อน ชิลไปอีก

ถ้ำเชียงดาว

เราเดินทางมาถึง บขส.เชียงดาว เพื่อรอรถเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ผมกับแฟนนั้งรถเมล์ส้ม (รถตู้เต็ม) คนแน่นมาก ผมยืนมาจาก บขส.เชียงดาวถึง สถานีขนส่งช้างเผือก เมื่อยขากันเลยทีเดียว

วันที่ 4 (8 มกราคม 2560) พอถึงตัวเมืองเชียงใหม่เราก็หาที่พักทันที คืนนี้เรานอนสบายเลย ออกมาเดินถนนคนเดินเชียงใหม่ เช้าวันรุ่งขึ้นเราเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบเมืองและขี่ขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ มาทุกครั้งผมไม่ลืมที่จะไปไหว้ครูบาศรีวิชัยและพระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่


อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

เส้นทางขี่ขี้นดอยไม่ยากครับ สบายๆทางราดยางตลอดเส้นทาง แต่ทางชันครับ ขับขี่ด้วยความระมัดระวังครับ ใช้ความเร็วไม่มากครับ
วันที่ 5 (9 มกราคม 2560)


Scoopy i เพื่อนเดินทางตลอดเส้นทางเมืองเชียงใหม่

ประมาณ 20 นาที จากตีนดอยเราก็ถึง วัดพระธาตุดอยสุเทพ แวะสักการะก่อนกลับ กทม.

วัดพระธาตุดอยสุเทพ

จุดชมวิวบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ

เดินทางกลับ กลับสายการบินAirAsia ถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 00.30 น.

AirAsia ใครๆก็บินได้

เพื่อนๆพี่ๆน้อง ที่มีความฝัน ขอให้ทำความฝันให้สำเร็จนะครับ ผมจะรออ่านรีวิวสมาชิกที่มีความฝันเช่นกันครับ














































ไปเที่ยวไหนดี (paiteawnaidee)

 วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.32 น.

ความคิดเห็น