![](/f/34697/5f7899506c0f16461c27603a.jpg)
เรื่องมันมีอยู่ว่าอยากไปเขาหลวง สุโขทัย แต่ไม่ได้ออกกำลังกายมาแรมปี คนอื่นยังไปได้ เราก็ต้องไปได้สิ คำพูดปลอบใจตัวเอง 555+ อย่างที่รู้กัน เขาหลวงขึ้นชื่นเรื่องของความโหด ระยะทางแค่ 3.7 กม. แต่ทางขึ้นชัน45-90องศาตลอดทาง บอกก่อนเลย เราไม่ใช่สายขึ้นเขา เคยไปมาที่เดียวคือภูกระดึงปีที่แล้ว ร่างกายไม่ต้องพูดถึงไม่ได้เตรียมพร้อม แต่อยากไปใจๆไว้ก่อน 555
เชื่อว่าหลายคนอยากไปพิชิตเขาหลวงสักครั้ง แต่กลัวขึ้นไม่ถึง แต่จากประสบการณ์ที่เราไปมา เขาหลวงเหนื่อยจริง เจ็บจริง แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอก เราขึ้นแบบเรื่อยๆไม่รีบ เหนื่อยก็พัก ฟังเสียงร่างกายตัวเอง คนไม่ออกกำลังกายมานานแบบเราใช้เวลาขึ้น 4 ชั่วโมง ขาลง 3.5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าขาลงทรมานกว่า พร้อมอุทานไปว่า นี่ตูขึ้นมาได้ยังไง !!!ชันขนาดนี้ 5555 วิวด้านบนไม่ต้องพูดถึง สุดบรรยาย สมกับที่แบกร่างกาย เดินขาลากไปจนถึงยอดเขา
เขาหลวงตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
สูงจากระดับน้ำทะเล 1200 เมตร
อุทยานเปิด 05.30 น. เริ่มเดินขึ้นเขา 07.00น.- 14.00น.
จุดเช็คอินบนเขาหลวง (ระยะทางจากจุดกางเต็นท์)
- เขาพระเจดีย์ 750 เมตร
- เขาภูกา 2200 เมตร
- เขาพระแม่ย่า 980 เมตร <ชมพระอาทิตย์ตก>
- ผานารายณ์ 400 เมตร <ชมพระอาทิตย์ขึ้น>
- ผาชมปรง 400 เมตร
ทั้งหมดนี้ สามารถเดินเป็นวงกลมได้และเที่ยวครบทุกจุดภายใน 2 วัน 1 คืน
**สิ่งอำนวยความสะดวก**
- มีเต็นท์และเครื่องนอนให้เช่ายกเว้นหมอน
- มีเตาแก๊ส หม้อ จาน ช้อน ให้เช่า
- มีข้าวไข่เจียวขาย
- มีร้านค้าสวัสดิการบนเขาหลวง หลักๆจะมี เครื่องดื่ม น้ำดื่มขวดเล็ก เป๊บซี่ มาม่า ไข่ ขนม
เปิด 07.30 น.-20.30 น.
- ไฟปั่นเป็นเวลา ช่วงเย็นถึง 4 ทุ่ม
- มีห้องน้ำแยกชายหญิง มีหลายห้อง (น้ำมีพอใช้)
- มีน้ำร้อนฟรี บริการช่วงเช้ากับเย็น
ข้อแนะนำ/สิ่งที่ควรเตรียมไป
1.ต้องจองผ่านแอพ Q ล่วงหน้าได้ 15 วัน(จำกัดวันละ200)
2.เตรียมน้ำไปให้พอ ระหว่างทางไม่มีน้ำให้เติม ไม่มีของขาย
3.ระหว่างทางเดินขึ้นยุงเยอะ เตรียมยาทาหรือสเปรย์ไปด้วย
4.ลูกอม หมากฝรั่ง หรือช็อกโกแลต เยลลี่ กินระหว่างเดินขึ้นช่วยได้ /แล้วก็ห่อข้าวไปกินมื้อกลางวัน
5.มือใหม่ ไม่ควรแบกของขึ้นเอง แนะนำจ้างลูกหาบ(ควรไปแต่เช้าลูกหาบมีน้อย)
6.ถ้าจะให้ดีฟิตร่างกายไปสักหน่อย จะได้ไม่เจ็บ
7.ใครติดโทรศัพท์พก Power Bank ไปสะดวกกว่า
8.ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ สเปรย์หรือยากินก็ได้
9.ไฟฉาย/เสื้อกันฝน/ ผ้าเช็ดตัว
10.สัญญาณโทรศัพท์ทุกค่าย ขาดๆหายๆ
11.เต็นท์และเครื่องนอนไม่ต้องจองออนไลน์ มาจองที่อุทยานได้เลย
13.รองเท้าควรเป็นรองเท้าดอกลึก ถ้าฝนตกจะลื่น
ค่าบริการ
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40
- ค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 30/คน/คืน
- ค่ามัดจำขยะ 200 บาท คืนตอนลง
- ค่าจ้างลูกหาบ กก.ละ 25
- เต็นท์ 2 คน 150/ เต็นท์ 3 คน 225/ เต็นท์ 6 คน 600 /ถุงนอน30/ผ้าห่ม 30 /แผ่นรองนอน20/เสื่อ 20/
เตาแก็สปิ๊กนิก 150/ น้ำดื่มขวดเล็ก โค้ก น้ำอัดลม มาม่า 35/ ไข่ 10
ทริปนี้เราเดินทางไปวันที่ 12 - 13 กันยายน 2563
สำหรับการเดินทาง
1.คนที่มีรถส่วนตัว สามารถขับรถไปจอดที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหงได้เลยครับ ด้านในมีที่จอดรถ หรือใครอยากจะไปนอนก่อนขึ้นสัก 1 คืน ที่อุทยานก็มีบ้านพักไว้รับลอง จองได้ที่เว็บไซด์อุทยานแห่งชาติ หรือใครสะดวกนอนเต็นท์ ก็ไปกางเต็นท์นอนรอก็ได้ มีห้องน้ำ มีร้านค้าไว้บริการ
2. คนที่ไม่มีรถส่วนตัว จากที่หาข้อมูลมา ให้นั่งรถทัวร์จากหมอชิต รอบประมาณ 22.00 น. ให้ลงที่เซเว่นคีรีมาศ แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์วินไปที่อุทยาน เที่ยวละ ประมาณ 160 บาท อย่าลืมขอเบอร์ไว้ด้วยนะเผื่อขากลับโทรให้วินมารับ หรือถ้าใครไปเป็นกลุ่มให้ไปลงที่บขส.แล้วเหมารถไปจะคุ้มกว่า
![](/f/34697/5f7899536c0f16461c276041.jpg)
ทริปนี้เราขับรถไปเองจากพิจิตร ไปนอนในเมืองก่อน 1 คืน แล้วตอนเช้ามืด ขับรถมาที่อุทยาน เราไปถึงประมาณ 6 โมงเช้าได้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนประมาณ 05.30 น.
มาถึงที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง เราจะเจอด่านเก็บค่าบริการก่อน จะมีการตรวจวัดไข้ ลงทะเบียนเช็คจากแอฟ QueQ ที่เราจองมา(จำกัดวันละ 200คน จองล่วงหน้าได้ 15 วัน) ซึ่งที่เราจองเจ้าหน้าที่ปริ๊นชื่อไว้แล้ว เราเพียงแค่บอกชื่อ ก็เป็นอันเรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท รถมอเตอร์ไซด์ 20 บาท
![](/f/34697/5f7899506c0f16461c27603b.jpg)
ขับรถเข้าไปด้านใน ไปทำการลงทะเบียน จองเต็นท์ จ่ายค่าพื้นที่กางเต็นท์สำหรับคนที่มีเต็นท์มาเอง แล้วก็จ่ายค่ามัดจำขยะ 200 บาท จะได้คืนตอนเรานำขยะกลับลงมา พอลงทะเบียน เลือกอุปกรณ์เครื่องนอนเสร็จจ่ายตัง จะได้ใบจองมา 1 ใบ ใบคิวเล็วๆ 1 ใบ แล้วนำจองใบ ไปยื่นด้านบนเพื่อรับอุปกรณ์เครื่องนอน ส่วนใครมีพาสสปอร์ตอุทยานก็สามารถปั้มตราตรงนี้ได้เลย
![](/f/34697/5f7899566c0f16461c276047.jpg)
ลงทะเบียนเสร็จปุ๊บ ให้มารอตรงศาลาลูกหาบ เค้าจะเรียกตามคิว ใบคิวเล็กๆที่เราได้ตอนลงทะเบียนมายื่น จากนั้นก็ทำการชั่งน้ำหนัก อาจจะมีการถ่ายรูปไว้ก็ได้ว่าคนไหนแบกของเรา จากนั้นเราก็เดินขึ้นได้เลย
![](/f/34697/5f7899516c0f16461c27603e.jpg)
วันที่เราไปเราได้คิวที่ 4 ลงทะเบียนเสร็จสับ เราเดินขึ้นประมาณ 7 โมงนิดๆ ของเราประมาณ 13 กิโล ถามว่าแบกขึ้นเองไหม สบายๆครับ
จ้างลูกหาบแบกสิครับ รออะไร 5555
![](/f/34697/5f7899506c0f16461c27603d.jpg)
ไปละครับ กระเป๋าเรา หนุ่มน้อยเป็นผู้แบกไป ใช้แรงงานเด็ก 555
![](/f/34697/5f7899536c0f16461c276040.jpg)
ส่วนเราพร้อมครับ ถ่ายรูปกับป้ายก่อนขึ้นซะหน่อย เดี๋ยวดูว่าสภาพก่อนขึ้น กับขึ้นถึงแล้วจะเป็นยังไง 555
![](/f/34697/5f7899506c0f16461c27603c.jpg)
ก่อนขึ้น ต้องพึ่งสิ่งศักสิทธิ์ก่อนหน่อย ขอพรพระแม่ย่ากันก่อน ให้เดินขึ้นเขาราบรื่นปลอดภัย
![](/f/34697/5f7899526c0f16461c27603f.jpg)
ก่อนจะเริ่มเราไปดูแผนที่ให้หนักใจเอ้ยชื่นใจกันก่อนดีกว่า 555 เผื่อจะได้วางแผน
จุดแรกคือประดู่ใหญ่ > ไปมออีหก> จุดชมวิว > ตะเคียนคู่ > น้ำดิบผามะหาด > ชานเบิกไพร > ไทรงาม > ถ้ำพระนารายณ์ > ถ้ำพระ > ถ้ำค้างคาว > ปล่องนางนาค > พระยาแล่นเรือ > ค่ายพักแรม จากจุดเริ่มต้นระยะทาง 3.7 กม.เองเนาะ
![](/f/34697/5f7899506c0f16461c276039.jpg)
ไปครับ ดูเวลา 07.09 น. เริ่มเดิน
ทางเดินช่วงแรก ชิวๆไปครับ เป็นทางราบเรียบ ไม่เห็นชันอย่างที่เค้าบอกกันเลย โถ่วววว
![](/f/34697/5f7899536c0f16461c276042.jpg)
ทางแบบนี้ สวนหลังบ้านชัดๆ ใครว่าชัน
![](/f/34697/5f7899546c0f16461c276043.jpg)
สักพัก โอโห การเดินทางของจริงได้เริ่มขึ้นแล้ว 555 แรกๆชั้นนิดๆ สักพัก 45 องศาไปเลยจ้า
![](/f/34697/5f7899546c0f16461c276044.jpg)
เดินมาได้ 15 นาที ขอพักก่อน 5555
![](/f/34697/5f7899566c0f16461c276048.jpg)
มาถึงจุดแรก จุดพักสมพง เดินมาเกือบชั่วโมง ระยะสะสมอยู่ที่ 825 เมตร 5555 โอ้โห นึกว่าเดินมาเป็นกิโล2กิโล
![](/f/34697/5f7899556c0f16461c276045.jpg)
ที่เห็นในรูปคือต้นสมพงครับ ต้นใหญ่มาก ข้างๆเป็นต้นมะค่าโมง
![](/f/34697/5f7899556c0f16461c276046.jpg)
ไปครับ เดินขึ้นกันต่อ น้ำดิบที่ให้เติมระหว่างทางช่วงนี้ไม่มีนะครับ เตรียมน้ำขึ้นไปกันให้พอน้า
![](/f/34697/5f7899576c0f16461c276049.jpg)
แหงนหน้ามองขึ้นไป โอ้โห ชันไรขนาดนั้นนนน บ่นไปงั้น เดินก้มหน้าแล้วไปต่อ
![](/f/34697/5f7899576c0f16461c27604a.jpg)
ในที่สุดก็เดินขึ้นมาถึง.... ประดู่ใหญ่ 1 กม. เดินมาตั้งไกล สภาพก็เป็นอย่างที่เห็น อยากจะนอนหลับไหลอยู่ตรงนี้ TT
![](/f/34697/5f7899586c0f16461c27604b.jpg)
ในที่สุดก็เดินขึ้นมาถึง.... ประดู่ใหญ่ 1 กม. เดินมาตั้งไกล สภาพก็เป็นอย่างที่เห็น อยากจะนอนหลับไหลอยู่ตรงนี้ TT
![](/f/34697/5f7899586c0f16461c27604c.jpg)
โชคดีหน่อยวันที่เราไป อากาศไม่ร้อน มีหมอกฟุ้งกระจายตลอด เลยทำให้การเดินขึ้นไม่ท้อเท่าไหร่
![](/f/34697/5f7899586c0f16461c27604d.jpg)
สภาพคนอยากมาครับ พักทุกจุด ตรงไหนนั่งได้ พักได้ พักก่อน 5555
![](/f/34697/5f7899596c0f16461c27604e.jpg)
มออีหก ระยะ 1400 เมตร พึ่งผ่านมาแค่ 2 จุด ระยะทางอีกยาวไกลเอ้าไปต่อครับ
![](/f/34697/5f7899596c0f16461c27604f.jpg)
ไม่เห็นทางเดินข้างหน้าแล้ว แต่ที่เห็นถึงความชัดเจนที่สุดนั่นก็คือ ความชันของระยะทาง 555 จะบอกว่า น้องทาก ไม่มีนะ
วันที่เราไปไม่เจอสักตัว ขนาดบรรยากาศชื้นมากๆ
![](/f/34697/5f7899606c0f16461c27605f.jpg)
จากมออีหก 300 เมตร เราก็มาถึงจุดพักชมวิว ระยะสะสมที่ 1600 เมตร ยังไม่ถึงครึ่งทางนะจ๊ะ 5555
จุดชมวิวแต่ไหนละวิว มองไม่เห็นอะไรเลย หมอกขาวไปหมด
![](/f/34697/5f7899596c0f16461c276050.jpg)
ดอกอะไรไม่รู้ สวยดีนะ
![](/f/34697/5f78995b6c0f16461c276054.jpg)
ไปต่อครับ จากจุดชมวิว 300 เมตร เราก็จะมาถึง ตะเคียนคู่ ระยะสะสมที่ 1900 เมตร ตรงนี้แหละฮะ ครึ่งทาง บริเวณนี้ก็จะมีแคร่ให้นั่งพักผ่อน
![](/f/34697/5f78995d6c0f16461c276057.jpg)
น้องมากับแม่ น้องเดินเก่งมาก แล้วน้องก็แซงเราไป 555
![](/f/34697/5f78995a6c0f16461c276051.jpg)
ไปครับ เราก็ไปต่อ
![](/f/34697/5f78995b6c0f16461c276053.jpg)
แล้วเราก็มาถึง น้ำดิบผามะหาด จุดเติมน้ำ ที่ไม่มีน้ำให้เติม แต่ว่ามีแคร่ให้นั่งพัก ระยะสะสมอยู่ที่ 2300 เมตร เวลาประมาณ 10 โมงเช้า เดินมาประมาณ 3 ชั่วโมง ได้ประมาณ 2.3 กม. 5555
![](/f/34697/5f78995b6c0f16461c276055.jpg)
ชานเบิกไพร ระยะสะสมที่ 2700 เมตร อีกแค่ 1 กม. เท่านั้น ทา
![](/f/34697/5f78995b6c0f16461c276052.jpg)
มาถึงไทรงาม ระยะสะสมที่ 3 กม. ใกล้แล้วโว้ย อีก700เมตร จะบอกว่าต้นไทรต้นนี้ งามสมชื่อจริงๆ ต้นใหญ่อลังการมากครับ
![](/f/34697/5f78995d6c0f16461c276058.jpg)
ไปต่อครับ ช่วงนี้ชันเอาเรื่องเลย
![](/f/34697/5f78995d6c0f16461c276056.jpg)
ปล่องนางนาค ระยะสะสมที่ 3.3 กม.
![](/f/34697/5f78995d6c0f16461c276059.jpg)
พระยาแล่นเรือ มาถึงจุดนี้ สบายใจได้เลย ใกล้ถึงแล้ว ระยะสะสมที่ 3.5 กม. อีกแค่ 200 เมตรเท่านั้นปล่องนางนาค ระยะสะสมที่ 3.3 กม.
![](/f/34697/5f78995e6c0f16461c27605a.jpg)
นึกว่าจะเดินขึ้นแบบสบายๆ หรอ เปล่าเลย ชันสุดเลยจุดนี้ แต่อีกแค่เอื้อมมือเท่านั้น รวบรวมพลังที่มี ฮึ๊บบบบ
![](/f/34697/5f78995f6c0f16461c27605c.jpg)
สุดท้ายเราก็ทำสำเร็จพาร่างกายขึ้นมาถึงจนได้ เย้ เราคือผู้พิชิต เขาหลวง ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 4 ชั่วโมง
ไม่เร็วแต่ก็ไม่ช้าจนเกินไป(มั้ง) 555 ขึ้น 07.09 น. ถึง ประมาณ 11 โมง ได้น
![](/f/34697/5f7899606c0f16461c27605e.jpg)
มาถึงก็นำใบจองไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วทำการเลือกเต็นท์ หยิบอุปกรณ์ เครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ถุงนอน เข้าเต็นท์ได้เลย คนที่นำเต็นท์มาเองก็เลือกพื้นที่ได้ตามสะดวกเลยครับ
วันที่เราขึ้นไปนี่หมอกฟุ้งตลอด บรรยากาศดีมาก
![](/f/34697/5f78995f6c0f16461c27605d.jpg)
ระหว่างรอกระเป๋า รอแล้วรอเล่ากระเป๋าก็ไม่มาสักที คนอื่นคิวหลังๆ มาถึงก่อน กระเป๋าของเรามาถึงบ่าย2ครึ่งได้ มีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย น้องคนที่แบกกระเป๋าเราเป็นมือใหม่ ปรากฏว่าแบกขึ้นมาไม่ไหว 555 ก็เลยมีพี่ลูกหาบไปช่วยแบกขึ้นมา รู้สึกผิดยังไงไม่รู้ ใช้แรงงานเด็ก 555
![](/f/34697/5f78995f6c0f16461c27605b.jpg)
บ่าย3โมง ได้เวลาเดินไปยังยอดเขาต่างๆกัน ก็เลยไปสอบถามเจ้าหน้าที่ ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่เขาพระแม่ย่า แล้วอยากไปครบทุกที่ พี่เค้าแนะนำมาว่าถ้าจะเดินไปให้ครบ แนะนำให้เดินเป็นวงกลม
โดยเริ่มจากทางเข้าตรงห้องน้ำ
จุดกางเต็นท์ ---> ยอดเขาเจดีย์ ---> ยอดเขาภูกา ---> ยอดเขาพระแม่ย่า ---> ลานจอดฮอ ---> จุดกางเต็นท์ ระยะทางรวมประมาณ 4 กม.
แนะนำว่าคนที่จะเดินแบบนี้ควรออกจากจุดกางเต็นท์ไม่เกิน 15.30 น. จะได้เดินแบบชิวๆถ่ายรูปไปด้วยไม่ต้องรีบ
![](/f/34697/5f7899606c0f16461c276060.jpg)
ทางเดินบนเขานึกว่าจะเดินชิลๆหรอ ไม่ครับ ยังต้องขึ้นอีก 555 ไหนก็มาแล้วยังไงก็ต้องลุยฮะ
![](/f/34697/5f7899616c0f16461c276061.jpg)
ใกล้แล้วครับ จุดแรกยอดเขาเจดีย์
![](/f/34697/5f7899646c0f16461c276069.jpg)
เย้ ถึงแล้ว ระยะทางจากจุดกางเต็นท์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระยะทางประมาณ 750 เมตร
![](/f/34697/5f7899616c0f16461c276062.jpg)
วิวทางฝั่งซ้ายก็จะไม่เห็นอะไรมาก
![](/f/34697/5f7899616c0f16461c276063.jpg)
แต่วิวทางฝั่งขวานี่ แจ่มมาก ต้องเก็บภาพกันซะหน่อยแล้ว จริงๆการเดินบนเขาหลวงนี่ ไม่ต้องกลัวหลงทางเลยนะ ทางเดินชัดเจน มีป้ายบอก อีกอย่างคือเพื่อนเดินเยอะเลยครับ
![](/f/34697/5f7899626c0f16461c276065.jpg)
วิวสวยมาก คนจะถ่ายรูปตรงหินด้านนี้กัน
![](/f/34697/5f7899626c0f16461c276064.jpg)
มองไปด้านโน้น จะเห็นยอดภูกา กับยอดเขาพระแม่ย่า
![](/f/34697/5f7899626c0f16461c276066.jpg)
ไปครับ เดินกันต่อไปยังจุดหมายต่อไป
![](/f/34697/5f7899636c0f16461c276068.jpg)
ตอนแรกก็ตัดสินใจว่าจะไปภูกาดีไหม เพราะทางขึ้นจากจุดกางเต็นท์มายอดเจดีย์ก็ค่อนข้างชัน ทำให้แอบท้อ หวั่นใจนิดหน่อย มาถึงตรงทางแยกมีกลุ่มพี่ๆที่เดินนำหน้ามา ถามว่าจะไปภูกาไหม ป้ายเขียนไว้ว่าอีก 1 กม. แต่ไหนๆก็มาละ ไปก็ไป เลยเดินเกาะกลุ่มไปกับพวกพี่ๆไป ลุยครับ 1000 เมตร
![](/f/34697/5f7899636c0f16461c276067.jpg)
ทางเดินไปภูกา ไม่ชันครับ เดินสบายๆ เลาะเขาไปเรื่อย ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีได้
![](/f/34697/5f7899646c0f16461c27606a.jpg)
อีกนิดเดียว ดอยดอยภูกาอยู่ข้างหน้า
![](/f/34697/5f7899656c0f16461c27606b.jpg)
ชอบตรงจุดนี้มากครับ เป็นลานกว้างๆ มีทุ่งหญ้า พริ้วไสวตามสายลม สวยเลยครับ
![](/f/34697/5f7899656c0f16461c27606c.jpg)
เดินมาเรื่อยๆ ใกล้ถึงจุดหมาย หมอกก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
![](/f/34697/5f7899666c0f16461c276070.jpg)
พอขึ้นมาถึงก็มองแทบไม่เห็นอะไร
![](/f/34697/5f7899656c0f16461c27606d.jpg)
จริงๆ เป็นยอดภูเขาที่มุมภ่ายรูปเยอะมากครับ เสียดายที่หมอกหนาทำให้มองไม่เห็นวิวอะไรเลย
![](/f/34697/5f7899666c0f16461c27606e.jpg)
ถ่ายรูปป้ายไว้ซะหน่อย ว่าเราก็เดินมาถึงยอดภูกา
![](/f/34697/5f7899666c0f16461c27606f.jpg)
เดินไปอีกฝั่งนึง มีเจดีย์ตั้งอยู่ด้วยครับ
![](/f/34697/5f7899676c0f16461c276071.jpg)
ฝั่งนี้ มุมสวยเลย ถ้าหมอกไม่บัง วิวด้านล่างต้องสวยมากแน่ๆเลย
![](/f/34697/5f7899676c0f16461c276072.jpg)
ไหนๆก็มาละ ถ่ายรูปไว้ซะหน่อย ถึงแม้จะไม่เห็นวิวอะไรก็ตาม 5555
![](/f/34697/5f7899676c0f16461c276073.jpg)
นั่งรอฟ้าเปิดอยู่พักใหญ่ ก็ไม่มีทีท่าว่าหมอกจะหายไป เลยตัดสินใจไปยอดเขาพระแม่ย่ากันต่อ
จากยอดภูกาไปยอดเขาพระแม่ย่า ต้องเดินกลับทางเดิม แล้วก็ไปเลี้ยวซ้ายตรงทางแยก ถ้าไปทางขวาจะไปยอดเขาเจดีย์ที่เราผ่านมา
![](/f/34697/5f7899686c0f16461c276074.jpg)
ระหว่างทางเดินกลับก็ไปสังเกตุเห็นลูกอะไรสักอย่าง รูปร่างหน้าตาคล้ายๆเงาะ ล่วงหล่นอยู่เต็มพื้น
![](/f/34697/5f7899696c0f16461c276075.jpg)
จุดหมายปลายทาง อยู่ตรงหน้า ยอดเขาพระแม่ย่า เหมือนใกล้ แต่เดินไกลจัง 555
![](/f/34697/5f78996a6c0f16461c276079.jpg)
ระหว่าทางเจอตรงไหนสวยๆก็แวะเก็บภาพไปเรื่อย 55
![](/f/34697/5f78996a6c0f16461c276077.jpg)
มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมากครับ แบกขาตั้งกล้องไปเองไม่ต้องรบกวนให้ใครถ่าย สบายใจไม่ต้องอายด้วย 555
![](/f/34697/5f78996a6c0f16461c276078.jpg)
พอเดินมาถึงตรงเขาพระแม่ย่า มองกลับไปจะเห็นยอดเขาเจดีย์
![](/f/34697/5f7899696c0f16461c276076.jpg)
ไปกันต่อครับ ยอดเขาพระแม่ย่าอยู่ตรงหน้า
![](/f/34697/5f78996a6c0f16461c27607a.jpg)
ด้านบน มองเห็นวิวรอบทิศเลยครับ
![](/f/34697/5f78996b6c0f16461c27607b.jpg)
รูปนี้เป็นหนึ่งในมุมที่เราชอบมากครับ
![](/f/34697/5f78996b6c0f16461c27607c.jpg)
ผู้คนก็มาจับจองพื้นที่เตรียมดูพระอาทิตย์ตก บ้างก็เดินถ่ายรูปเล่น จะบอกว่าเขาพระแม่ย่านี่สวยจริง มุมถ่ายรูปแจ่มมาก
![](/f/34697/5f78996c6c0f16461c27607d.jpg)
ถ่ายรูปคู่กับป้ายกันซะหน่อย ว่าเราสองคนก็สามารถเดินขึ้นมาถึงยอดเขาหลวงได้เหมือนกันนะเนี่ย โคตรเก่งไปเลย ชมตัวเอง5555 นี่ถือเป็นภูเขาที่2ที่มาด้วยกัน หลังจากเขาแรกคือภูกระดึง ตั้งใจไว้ว่าในทุกๆปี เราจะไปพิชิตยอดเขาด้วยกันปีละ 1 ลูก ทริปหน้าจะไปไหนดี ภูสอยดาวหรือดอยมะม่วงสามหมื่นดีน้า อิอิ
![](/f/34697/5f78996c6c0f16461c27607e.jpg)
มุมทางฝั่งพระอาทิตย์ตก แต่คาดว่าวันนี้ไม่น่าจะเห็น เพราะเมฆค่อนข้างเยอะ
![](/f/34697/5f78996c6c0f16461c27607f.jpg)
มุมไฮท์ของเขาพระแม่ย่า
![](/f/34697/5f78996d6c0f16461c276080.jpg)
ชอบมุมนี้มาก สวยสุดบรรยาย คนก็มักจะมาถ่ายรูปกันตรงจุดนี้ แล้วก็หาที่นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกัน
![](/f/34697/5f78996e6c0f16461c276082.jpg)
วิวอีกฝั่งนึงของยอดเขาพระแม่ย่า มองไปจะเห็นยอดเขานารายณ์
![](/f/34697/5f78996e6c0f16461c276081.jpg)
ถ่ายรูปจนพอใจ เราก็เดินกลับไปยังจุดกางเต็นท์ โดยไม่ได้รอพระอาทิตย์ตกดินเพราะคิดว่าไม่น่าจะเห็นแน่ๆ อีกอย่างกลัวว่าจะมืดด้วย ถ้าใครไปแล้วจะอยู่ถึงพระอาทิตย์ตกดินให้เตรียมไฟฉายไปด้วยนะ
![](/f/34697/5f78996e6c0f16461c276084.jpg)
ระหว่างทางเดินกลับ จะผ่านลานจอดเฮลีคอปเตอร์ด้วยนะ
![](/f/34697/5f78996f6c0f16461c276085.jpg)
กลับมาถึงเต็นท์ ก็จัดการเตรียมเตาแก๊สปิ๊กนิก ที่เช่ามาจากร้านค้าสวัสดิการ หมู ผักซื้อและน้ำจิ้มซื้อมาจากตลาด จัดการทำชาบูแบบง่ายๆ กินบนเขาหลวง
ไปเขาหลวงทั้งทีมันจะธรรมดาไม่ได้ 555 เรียกได้ว่าเป็น1ในชาบูมื้อนึงที่อร่อยสุดเลยก็ว่าได้
![](/f/34697/5f78996f6c0f16461c276086.jpg)
ยามเช้าตื่นตี5ครึ่งเพื่อไปดู ทะเลหมอกที่ผานารายณ์ ระยะทาง จากจุดกางเต็นท์ 400 เมตร มาถึงหมอกฟุ้งอีกแล้ว แล้วสีท้องฟ้าก็สีออกม่วงๆจริงๆนะ
![](/f/34697/5f78996e6c0f16461c276083.jpg)
จัดการจับจอง หาที่นั่งพักชมวิว เจอพี่เจ้าหน้าที่ เค้าบอกว่าให้นั่งรอสักพักนึงแล้วหมอกจะมา มาจริงๆครับ ไม่ถึง 2 นาที 5555 ต้องรีบถ่าย
![](/f/34697/5f7899706c0f16461c276087.jpg)
ถ่ายไปไม่ถึง 5 ภาพ หมอกหายไปแล้ว นั่งรอต่อไป
![](/f/34697/5f7899716c0f16461c276089.jpg)
มาอีกแล้วรอบที่ 2 พร้อมกับดวงอาทิตย์โผล่มานิดหน่อย
![](/f/34697/5f7899706c0f16461c276088.jpg)
รอบนี้มานานหน่อย เลยเดินเก็บภาพยาวๆ
![](/f/34697/5f7899716c0f16461c27608a.jpg)
ถ่ายรูปกับทะเลหมอกซะหน่อย ถึงแม้จะไม่ฟูอย่างที่เค้าเจอกันก็ตาม 555
![](/f/34697/5f7899726c0f16461c27608b.jpg)
ยอดเขานารายณ์ ถ้าไม่นับจุดไฮไลท์ มุมถ่ายรูปสวยๆก็เยอะเลย
![](/f/34697/5f7899726c0f16461c27608e.jpg)
ตรงจุดหินยื่นก็จะมีคนไปนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นกันเยอะมาก ก็จะถ่ายรูปแบบไม่ติดคนยากหน่อย
![](/f/34697/5f7899736c0f16461c27608f.jpg)
บรรยากาศดีเลยครับ ไม่หนาวมาก อากาศเย็นๆสบายๆ
![](/f/34697/5f7899726c0f16461c27608c.jpg)
น่าเสียดายที่หมอกมาไม่เต็มที่ บริเวณโขดหิน สามารถเดินลัดเลาะไปถ่ายรูปได้นะ แต่ก็เดินกันระมัดระวังหน่อย
![](/f/34697/5f7899726c0f16461c27608d.jpg)
สุดท้าย รออยู่พักใหญ่ จนกว่าคนจะเริ่มเบาบาง แล้วก็เผื่อหมอกจะมา แต่หมอกก็ยังฟุ้งกระจายอยู่ ไม่หายไปสักที เลยตัดสินใจไม่รอละ ตั้งกล้องแล้วถ่ายภาพมุมไฮไลท์ไปสักหน่อย แล้วก็เดินกลับเต็นท์ เก็บของลงเขาดีกว่า
![](/f/34697/5f7899746c0f16461c276090.jpg)
เตรียมพร้อม ลงเขา เวลาประมาณ 09.00 น. ดูสิว่าจะถึงกี่โมง ขาลงไม่จ้างลูกหาบด้วย เพราะอยากลองของ คิดว่าลงคงไม่น่ายากเท่าตอนขึ้น เลยตัดสินใจแบกลงเองซะเลย น้ำหนักก็น่าจะประมาณ 15 กก. เพราะใต้กระเป๋า ยัดขยะใส่ไปด้วย ไปครับลงเขากัน
![](/f/34697/5f7899756c0f16461c276092.jpg)
ตอนขึ้นนี่ รู้ว่านะว่าชัน แต่ก็คิดว่าไม่เท่าไหร่ พอตอนลงนี่ถึงรู้ว่าโคตรชัน มองลงไปนี่ นึกถึงตอนขึ้น ขึ้นมาได้ยังไงชันขนาดนี้ 5555 ขาลงคนอื่นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนเราจัดไป 3.5 ชั่วโมง มีใครเค้าเป็นแบบนี้บ้าง อย่าหาทำ 555 คิดว่าน่าจะลงผิดท่าด้วย เลยรู้สึกเจ็บๆ พักบ่อยมาก ถึงข้างล่างประมาณเที่ยงครึ่งได้ พอถึงปุ๊บ ฝนตกนักมาก รู้สึกโชคดีที่ลงมาถึงก่อน ไม่งั้นลื่นแน่ๆ
![](/f/34697/5f7899746c0f16461c276091.jpg)
เป็นอันจบทริป เขาหลวง สุโขทัย 2 วัน 1 คืน จากคนไม่ได้ได้ออกกำลังกาย มาแรมปี ก็สามารถพิชิตเขาหลวง สุโขทัยได้ แฮร่ แต่เราไม่แนะนำให้ทุกคนทำตามนะ ควรฟิตร่างกายไปสักหน่อย เพราะเรากลับมา เจ็บขาไป2วัน ทะเลาะกับบันไดแทบแย่ๆ 555 ก็อยากจะฝากรีวิวนี้ไว้ครับ เผื่อใครมีแพลนไปเขาหลวง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เตรียมอะไรไปบ้าง ก็ลองดูรีวิวนี้ไว้เป็นแนวทาง วางแพลนเที่ยว
หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน รูปเยอะหน่อยนะครับ ตั้งใจเก็บมาให้ได้มากที่สุด ถึงรีวิวนี้อาจจะไม่ได้ไปเจอทะเลหมอกจัดเต็ม พระอาทิตย์ตกสวยๆ แต่ก็เป็นทริปนึงในความทรงจำที่ประทับใจมากครับ ไว้มีโอกาสคงได้กลับไปเขาหลวงอีกแน่นอน ไว้เจอกันทริปหน้าครับ ^^
อยากเที่ยวก็เที่ยว
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 15.58 น.