หยุดวันพ่อที่ผ่านมา เด็กจิ๋วมีนัดกับแก๊งค์เพื่อนอนุบาลสองไปเที่ยวเชียงคานกันค่ะ
คราวนี้เราพักที่รีสอร์ทของคุณปู่ของเพื่อนเด็กจิ๋ว ชื่อว่าเชียงคานฮิลล์
ทีแรกเราไม่ได้คาดว่าวิวหน้าที่พักจะสวยแบบนี้... ก็พอจะทราบว่าอยู่ริมแม่น้ำโขง
แต่นี่คือแก่งคุดคู้อยู่ข้างหน้าเราเลย วิวงามมากๆ
งานนี้เราไม่ได้ทำการบ้านกันไปเลยว่าจะเที่ยวที่ไหนในเชียงคานบ้าง เพราะถือว่ามีเพื่อนเป็นเจ้าถิ่น
กิจกรรมที่ได้ทำก็มีเยอะมาก นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกกลางแม่น้ำโขง เดินถนนคนเดิน ตักบาตรข้าวเหนียว และที่เด็ดสุดก็คือชมทะเลหมอกที่ภูทอก (วันที่เราขึ้นภูทอก ฟ้าเป็นใจ หมอกงามมากๆ)
พร้อมแล้วไปตะลุยเชียงคานกับแก๊งค์อนุบาลสองของเด็กจิ๋วกันค่ะ
เด็กจิ๋วออกเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่อายุ 5 เดือนนะคะ ชมเรื่องราวการเดินทางของเด็กจิ๋วได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/DekJewChillOut
http://www.dekjewstory.blogspot.com/
https://www.youtube.com/user/DekJewChillOutเราออกเดินทางด้วยน้องนกแต่เช้ามืด ขาไปเราไปลงที่อุดรธานี เนื่องจากอยากจะแวะไปชมบัวแดงที่หนองหาน กุมภวาปีกันก่อน
ที่หนองหานกุมภวาปีวันนั้นคนค่อนข้างเยอะ เพราะว่าเป็นวันหยุดยาว
เราเหมาเรือ 1 ลำราคา 300 บาท เป็นแบบรอบใกล้ คือปกติจะมีรอบวิ่งไประยะใกล้ กับระยะไกล
เราพยายามจะเอาแบบระยะไกล แต่เนื่องจากเป็นเทศกาล คนเยอะ เรือจะวิ่งระยะใกล้เท่านั้น เพราะกลัววนกลับมาช้า คนจะรอนาน
ซื้อตั๋วแล้วลงเรือกันค่ะ
เรือวิ่งมาได้แป๊บนึง ก็เริ่มเห็นดอกบัวแดงบานสะพรั่งเต็มน้ำ
เรือแล่นผ่านจุดที่เราคิดว่าบัวแน่นสุด โค้งน้ำสวยสุด เป็นแบบทะเลบัวแดงมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา
เราเห็นมีเรือลำอื่นจอดบริเวณนั้นให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน แต่...เรือเราไม่จอด
ก็เข้าใจว่าเดี๋ยวตอนกลับออกมาคงแวะอีกที (หารู้ไม่ว่าเรือไม่ย้อนกลับทางเดิม เค้าวิ่งเป็นวงอ่ะ TT)
เรือมาจอดให้เราตรงจุดนี้แป๊บนึง แล้วก็วิ่งกลับ
จบแล้วค่ะทะเลบัวแดง ทำไมมันสั้นจังเลยอ่า...ใช้เวลา 15-20 นาทีในการล่องเรือ สั้นไปมั้ยอ่าคะ
พอกลับขึ้นมาเจ้าหน้าที่ประกาศว่าคนเยอะ เป็นเทศกาล เรือต้องรีบวนกลับมารับคน
ถ้าอยากชมแบบเต็มที่ให้มาวันธรรมดา หรือไม่ใช่เทศกาล
มันถูกเหรอคะ อันนี้เราว่าเค้าอยากได้รอบเยอะมากกว่ามั้ย มันไม่ยุติธรรมกับนักท่องเที่ยว
อย่างพวกเราอุตส่าห์นั่งเครื่องไปลงอุดรธานีเพื่อทุ่งบัวแดง แล้วนั่งรถต่อไปเชียงคานอีก 3 ชั่วโมง แทนที่จะไปลงที่เมืองเลย
เศร้ามากๆอ่ะค่ะ...ปะป๊าเด็กจิ๋วบอกว่า เอาไว้จะกลับมาใหม่นะบัวแดง จะมาตอนไม่ใช่เทศกาลหยุดยาว ตามคำแนะนำของพี่เค้านั่งรถกัน 3 ชั่วโมงก็มาถึงแล้วค่ะ เชียงคานฮิลล์รีสอร์ท
อยู่หน้าแกงคุดคู้ แม่น้ำโขงเลย
อันนี้บ้านที่เรานอน (H2 กับ H3) ติดริมน้ำ วิวงามสุดๆ
หน้าห้องพัก มีสนามเล็กๆ เด็กๆ วิ่งเล่นเก็บลูกสน เก็บใบไม้เล่นกัน ผู้ใหญ่นั่งชิลล์มองวิว เม้าท์มอยกันไป
มาดูในห้องพักบ้าง
นอนชมวิวแม่น้ำโขงได้สบายๆ
ก่อนมา เราเข้าใจว่าจะมาเที่ยวรีสอร์ทของคุณปู่ของเพื่อนเด็กจิ๋วที่เชียงคาน
เคยเปิดรูปดูบ้าง คิดว่าเป็นรีสอร์ทเล็กๆ ของครอบครัว
แต่ผิดคาด เพราะที่นี่กว้างขวางพอสมควร มีสนามกว้างๆ ปลูกดอกไม้สวยๆ วิวก็งาม มีห้องพักกว่า 80 ห้อง หลาย type มากๆ
แถมแขกเยอะและเต็มมากๆ (โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอย่างที่เรามากัน) และยังมีร้านอาหารของรีสอร์ทที่แน่นแทบจะทุกช่วงเวลาเลย
ห้องพักแบบต่างๆ ของที่นี่ มีทั้งแบบที่เป็นบ้านหลังๆ แบบที่เราพัก และแบบอาคาร 2 ชั้นที่มีหลายๆห้อง
หลังริมสุดติดแม่น้ำ เป็นห้องของคุณปู่ เจ้าของเชียงคานฮิลล์
คุณปู่มาใช้ชีวิตหลังเกษียณอยู่ที่นี่ ถึงแม้จะมีลูกๆมาช่วยดูแลกิจการ แต่คุณปู่ก็ยังไม่วางมือจากการดูแลรีสอร์ท เราจะเห็นคุณปู่ปั่นจักรยานไปมาในรีสอร์ท คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ
เห็นอย่างนี้ ทำให้ปะป๊าเด็กจิ๋วอยากจะมีรีสอร์ทเล็กๆ ในที่สวยๆ เอาไว้มาใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างคุณปู่บ้าง
เชียงคานฮิลล์สร้างมาประมาณ 20 ปีแล้ว คุณปู่กับคุณย่า เริ่มทำกันขึ้นมาจากเล็กๆ จนตอนนี้ วันที่คุณย่าไม่อยู่แล้ว ประสบความสำเร็จขนาดนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของครอบครัวจริงๆ
เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ของรีสอร์ทจากคุณพ่อของเพื่อนเด็กจิ๋วด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะเป็นชื่อรีสอร์ทที่คุณย่าตั้ง ต้นไม้ที่คุณย่าปลูกตั้งแต่เล็กๆ จนวันนี้เป็นต้นไม้ใหญ่ หรือเมนูต่างๆที่คุณย่าคิดขึ้นมาเอง และยังคงเป็นเมนูที่ขายดีมาจนปัจจุบัน
ความจริงๆหลายๆ สถานที่ที่เราไปเที่ยว ก็คงมีเรื่องราวดีๆแบบนี้ แต่เราไม่ได้รับรู้เท่านั้นเอง เผอิญที่นี่เราได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ทำให้อิน และรักที่นี่ไปด้วยเลย (ไปร่วมภูมิใจกับเค้าด้วย)
อย่างสนามหญ้าข้างๆบ้านที่เราพัก นอกจากเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันแล้ว ยังมีอะไรให้เด็กๆ ได้เล่นเพลิดเพลินสนุกสนานด้วย
เจ้าแมลงต่างๆเหล่านี้ คุณย่าก็เป็นคนคิดให้มีขึ้นมา คุณย่าเห็นจากในหนังสือเมืองนอกซักเล่ม แล้วเอามาประยุกต์ให้เข้ากับที่นี่ แทนที่จะเป็นเครื่องเล่นเด็กหน้าตาปกติทั่วไป ก็ทำเป็นแมลง ให้เด็กๆได้ห้อยโหนปีนป่าย น่ารักมากๆ เด็กๆ ก็ชอบ
ตอนเย็นๆ เราไปนั่งเรือล่องแก่งคุดคู้เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกกัน
ต้นๆธันวา อากาศยังไม่หนาวเท่าไหร่ มีลมเย็นๆพัดมา กำลังสบายๆ เลย
พระอาทิตย์กำลังจะตก อีกด้านนึงพระจันทร์ก็ขึ้นมาแล้ว
จบจากล่องเรือ เราก็กลับมาทานอาหารเย็นกันที่ครัวนุชา ร้านอาหารของเชียงคานฮิลล์ รีสอร์ท
นั่งโต๊ะริมน้ำ บรรยากาศดีมากๆ
มาดูกันว่ามื้อนี้มีอะไรบ้าง ขอบอกว่าอร่อยทุกๆอย่าง
เริ่มจากกุ้งแพ เมนูเด็ดของเชียงคาน เป็นกุ้งฝอยแม่น้ำ ทานกับน้ำจิ้มอาจาด อร่อยจริงๆ อันนี้เด็กๆชอบกันมากๆ
ทอดมันกุ้ง สูตรเฉพาะของที่นี่ ทานกับแป้งห่อ (เหมือนแป้งแหนมเนือง) และผักสด จะออกแนวๆ อาหารญวนค่ะ
ยำล่องแก่ง design by คุณย่าค่ะเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน
อื่นๆ ก็อร่อยทุกๆอย่างค่ะ รสชาติจัดจ้าน ถูกใจปะป๊าเด็กจิ๋วมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ลาบเป็ด ผัดเห็ดหอมสด ยำแหนม (เป็นแหนมที่ทางร้านทำเอง) ต้มยำปลาคัง ปลาคังผัดเผ็ด ปลาทอดกรอบมากๆ อิ่มกันพุงกางเลยค่ะ
อิ่มอาหารเย็นแล้ว เราก็พาเด็กๆ ไปเดินย่อยกันที่ถนนคนเดินเชียงคาน
เดินมาเจออันนี้ก่อนเลยค่ะ รำวง เด็กๆ ชอบกันมาก ไปร่วมทำบุญและรำวงกับคุณย่าคุณยายกันด้วย
คนเยอะเหมือนกันค่ะ แต่เราว่าไม่เท่าปาย ตอนเราไปปาย ไม่ใช่หยุดยาว คนแน่น แออัดกว่านี้ค่ะ
มีของขายเยอะแยะค่ะ ทั้งของกิน และของที่ระลึก
เด็กสามคนนี้มาเปิดหมวก น่ารักดีค่ะ เค้าจะแข็งไว้แบบนี้ พอหยอดตังค์ในหมวก ก็เต้นยิกๆเลย เหมือนหยอดตังค์ไขลานตุ๊กตาอ่ะค่ะ
บรรยากาศแบบ Retro ของเชียงคาน
เดินๆกันยังไม่สุดถนน เราก็กลับค่ะ เพราะเด็กๆเริ่มไม่ไหวแล้ว เดินทางมาจากกรุงเทพแต่เช้ามืด ก็เลยขอกลับที่พัก เอาแรง พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามือมาใส่บาตรกันอีกค่ะเช้าวันนี้เราตื่นแต่เช้ามืด เตรียมตัวไปใส่บาตรกัน
ระหว่างรอรถมารับ ก็ถ่ายรูปรีสอร์ทยามเช้ามืดมากันซะหน่อย
ออกจากรีสอร์ทราวๆ ตีห้าครึ่ง เพื่อไปใส่บาตรข้าวเหนียวกันที่ถนนคนเดิน ที่เดียวกับที่เราไปเดินเล่นมาเมื่อคืน
เราสั่งจองชุดใส่บาตรพร้อมเสื่อกันเอาไว้ที่ชุดละ 60 บาท
พระเริ่มออกมาบิณฑบาตรกันตั้งแต่ยังไม่สว่างดี
นั่งรอใส่บาตร เด็กๆสนุกสนาน ตื่นเต้นกันมาก
ปกติไม่เคยพาเด็กจิ๋วใส่บาตรตอนเช้าเลย (แค่ไปให้ทัน รร ในแต่ละวันนี่ก็จะแย่แล้วค่ะ )
จำนวนพระที่ออกมารับบาตรมีไม่มาก นานๆจะเดินมาองค์นึง หรือ 2-3 องค์
ทีแรกนึกว่าจะเหมือนที่เวียงจันทน์ คือพระเดินมาเป็นทิวแถว (ไม่เคยไปนะคะ เห็นในรูป)
พอเห็นพระมาก็ดีใจกันใหญ่ เตรียมปั้นข้าวเหนียวกลมๆไว้ใส่บาตร
ด้วยความที่ปริมาณคนมาใส่บาตรเยอะกว่าจำนวนพระที่ออกมารับบาตรมากๆ
พระต้องคอยเทของในบาตรออกใส่รถเข็นที่เด็กวัดจะเข็นตามมา หน้าตาแบบนี้
ได้แต่สงสัยว่า ข้าวเหนียวที่ปั้นๆ ใส่บาตรลงไป ปะปนกับของต่างๆ ในรถเข็นแบบนี้ พระท่านไม่น่าจะฉันท์ได้แล้วนะ
ระหว่างที่พวกเรากำลังใส่บาตรอยู่ ปะป๊าก็แว้บไปด้านหลังร้านที่เรานั่งใส่บาตรกัน
ด้านหลังของอาคารบนถนนคนเดินฝั่งนี้ติดแม่น้ำโขง มีหมอก กับแสงเช้าสวยๆ งามมากๆ
เรากลับมาถึงรีสอร์ทก็ยังเช้าอยู่มาก ทันแสงเช้าสวยๆที่แก่งคุดคู้ หน้าที่พักเราเลย
อันนี้บ้านที่เราพัก แค่เปิดประตูห้องออกมาก็เจอวิวนี้แล้วค่ะ
เช้านี้เราทานอาหารเช้ากันที่ครัวนุชาเหมือนเดิม วิวตอนเช้าตรงนี้ สวยจริง
อาหารเช้าริมน้ำ กับวิวงามๆ อากาศดีๆ เด็กๆมีความสุขกันมากๆ
อาหารเช้าที่นี่ถูกใจเรามากมีทั้งไข่กระทะ ข้าวเส้น (คล้ายๆก๋วยจั๊บญวน) ข้าวต้ม ข้าวจี่ และกะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลาที่อร่อยล้ำมากๆ
ปกติเด็กจิ๋วไม่กินผักเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ยังกินข้าวราดกะหล่ำฉ่าน้ำปลาจนหมดจานเลย
(ไม่มีรูปผักกะหล่ำเลย )
อิ่มข้าวเช้าแล้ว มาเดินถ่ายรูปเล่นกันค่ะ
โปรแกรมวันนี้ เราจะไปเที่ยววัดพระพุทธบาทภูควายเงินกันค่ะ
วัดนี้อยู่บนเขาเตี้ยๆ และเป็นวัดที่มีกระต่ายเยอะมากๆค่ะ เยอะแบบเกลื่อนกลาดเลยจริงๆ เด็กๆ ไปให้อาหารกระต่ายกันสนุกสนาน
คือที่นี่ไม่ได้ขังกรงกระต่าย แต่ปล่อยให้อยู่กันตามใจชอบ บางทีกระต่ายก็แอบมานอนใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่วัดต้องคอยเอาไม้ยาวๆมาเขี่ยไล่ เพราะกลัวรถจะทับกระต่ายเข้า เราว่าถ้าช่วงรถเยอะๆ น่ากลัวทับมากๆเลย ไม่รู้เคยมีทับตายบ้างมั้ย หวาดเสียวจริงๆ
(แต่ไหงรูปที่ปะป๊าถ่ายมา ไม่มีกระต่ายเลยซักรูป)
เที่ยววัดเสร็จแล้ว กลับมาเล่นน้ำที่รีสอร์ทต่อ
ที่เชียงคานมีขายพุทรานมสดเยอะมาก เด็กจิ๋วลองชิมแล้ว พบว่าตัวเองชอบกินพุทรานี่มาก เลยกินซะเยอะเลยค่ะ
ข้างสระว่ายน้ำ มีสนามเด็กเล่นด้วยค่ะ
อาหารกลางวัน เราฝากท้องที่ครัวนุชากันอีกแล้ว
เรียกได้ว่ากินที่นี่ทุกมื้อตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เลย
มื้อนี้เราสั่งง่ายๆ จำพวก ไก่ย่างส้มตำ ปลาเผา ปลาลวก อร่อยทุกอย่างอีกแล้ว
ส้มตำไม่พริกไม่กระเทียมของแม่เด็กจิ๋วค่ะ เลยหน้าตาซีดๆไปหน่อย ความจริงส้มตำปกติของที่นี่ก็หน้าตาปกตินะคะ ไม่แบบนี้ค่ะ
ช่วงที่เราไป เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์สว่างดวงกลมโต ทรงกลดสวยงามมาก
ดูพระจันทร์เสร็จแล้ว มาเดินเล่นรอบๆรีสอร์ทยามค่ำคืนกันบ้างนะคะ
ตรงนี้เป็นด้านหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ เข้ามาจะเจอครัวนุชาอยู่ซ้าย และสำนักงานอันนี้อยู่ขวา
ห้องพักแบบต่างๆ เปิดไฟสว่างไสว เห็นเงียบๆ แบบนี้ คนพักเต็มนะคะวันหยุดยาวแบบนี้
เช้าวันที่สอง เราจะขึ้นภูทอกกัน...
ภูทอกเป็นอีกเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เราอยากมาเที่ยวเชียงคาน
เราเพิ่งมารู้จักทะเลหมอกภูทอกเมื่อไม่นานมานี้ และพบว่าที่สวยๆแบบนี้ มันไปง่ายมากๆ นั่งรถขึ้นไป เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว
รถตู้มาส่งเราที่ตีนภู เราต้องซื้อคูปองขึ้นรถสองแถวเพื่อต่อมายังยอดภู ซื้อเสร็จได้ขึ้นรถปั๊บ นั่งรถแป๊บเดียวก็ขึ้นมาถึงแล้ว
ยังมืดตึ๊ดตื๋ออยู่เลย แต่คนเยอะมากบนภู รูปนี้ ยังเห็นพระจันทร์อยู่เลย
มองทะลุหมอกลงปเห็นแนวแสงไฟของเมืองเชียงคานด้านล่าง
แรกเห็นทะเลหมอกภูทอกของจริง หลงรักเลย สวยมากจริงๆ
และนับว่าเราโชคดีด้วย ที่ตัดสินใจมาภูทอกวันนี้ เพราะถ้าเป็นวันก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีหมอกสวยแบบนี้ให้เห็น (เพราะคนที่พักที่เดียวกับเรา ขึ้นมาก่อนหน้าเรา 1 วัน ไม่ได้วิวแบบนี้เลย)
พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้ามาแล้ว
ฟ้าสวย หมอกแน่น แสงสวยมากๆ
เช้านี้นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ตอนนั่งรถขึ้นมาไม่เท่าไหร่ แต่ตอนต่อแถวลงนี่สิ แถวยาวแทบจะวนรอบภูเขาเลย
แสงเช้านี้สวยงามจริงๆ ตอนคัดรูปมาลงรีวิว ยากมากๆ ไม่อยากตัดออกเลย
เห็นหมอกหนาๆ แบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่าที่ยอดภูจะหนาวนะคะ พวกเราขนใส่เสื้อหนาวกันมาเต็มพิกัดมากๆ
พอแสงมา ก็ต้องถอดออกมาหอบไว้ เรียกว่าอากาศสบายๆ แบบไม่ต้องใส่เสื้อกันหนาวก็ได้ค่ะ
เริ่มสว่างก็ยังสวย หมอกยังไม่ยอมจางหายเลย
เราอยู่ถ่ายรูปกันนานๆมากๆ จนคนเริ่มบางตาแล้ว แต่หมอกก็ยังแน่นๆอยู่เลย
กลับลงมาจากภูทอกด้วยความประทับใจจริงๆลงจากภูทอก เราแวะตลาดเช้าเพื่อซื้อปลาท่องโก๋ยัดไส้ ของขึ้นชื่อของที่นี่
เด็กๆ ซื้อไข่นกกระทาต้ม มานั่งปอกเปลือกหม่ำกันอย่างเอร็ดอร่อย
กลับเข้ามาถึงรีสอร์ทสายๆ บรรยากาศแก่งคุดคู้เช้านี้เป็นแบบนี้ มัวๆหมอกๆ สวยไปอีกแบบ
ก่อนลาจากเชียงคาน เราไปแวะถ่ายรูป และกินกาแฟกันที่ Grandma's Garden ใกล้ๆที่พักเราค่ะ
ที่นี่มีมุมน่ารักๆ ให้ถ่ายรูปเพียบๆค่ะ ถึงแม้แดดจะร้อนมากๆ แต่เด็กๆ ก็ไม่กลัวค่ะ วิ่งเล่นกันไปทั่ว ปะป๊าก็วิ่งตามถ่ายรูปอย่างไม่รู้จักเหนื่อย
ส่วนแม่ขอเฝ้าดูอยู่ห่างๆ (ในร่ม) แล้วกันนะคะ
ขากลับ เรานั่งน้องนกจากสนามบินเมืองเลย
ลาจากเชียงคานมาด้วยความประทับใจจริงๆ ขอบคุณครอบครัวเพื่อนเด็กจิ๋ว ที่ช่วยดูแลพวกเราเป็นอย่างดี
น่าอิจฉาครอบครัวนี้จริงๆที่มีรีสอร์ทสวยๆ เป็นบ้านที่สองแบบนี้ แล้วเราจะกลับไปเยี่ยมใหม่นะเชียงคาน
เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ พบกันใหม่รีวิวหน้า
ขอบคุณที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกันนะคะ
Dek Jew Chill Out
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.55 น.