หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ไปเยี่ยมชม กับ วัดอรุณกันแล้ว
เพื่อไม่เสียเวลาเที่ยววันเดียวแบบคุ้มค่า เราจะพาไปวัดต่อไป ก็คือ วัดพระนอน หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่อยู่ไม่ไกลจากวัดอรุณ เพียงเเค่เราขึ้นเรือ จากท่าเรือวัดอรุณ ข้ามไปฝั่งโน้น เพื่อที่จะไปกันต่อที่ วัดพระนอน
จะบอกว่า ค่าโดยสารข้ามไปฝั่งโน้น ถูกมากเลยแกรร เเค่ 4 บาทเอง คือถูกจริง
ระหว่างที่เราขึ้นเรือเพื่อที่จะข้ามฝั่งมานั้น ก็มีถ่ายรูปแม่น้ำสวย ๆ มานิสนึง บอกเลยบรรยากาศ ดีมากก ก็แอบมึน ๆ นิส ๆ เพราะครื่นจากแม่น้ำกระทบกับเรือ ก็โยกไปโยกมา แอบมึนนิสนึง........
หลังจากลงเรือมายังอีกฝั่งแล้ว ระหว่างทางเดิน จะมีร้านขายของทีระลึก อยู่ประมาณ 3 - 4 ร้านได้
แต่ก็มาสดุดตา ตรงนี้ คือแบบมันเป็นมุมหนึ่งอ่ะ ที่รู้สึกว่าน่าถ่ายรูปมาก ๆ เลยเเวะถ่ายรูปเก๋ ๆ สัก 2-3 รูป สวยดีนะ จากนั้นเพื่อไม่เสียเวลาเราก็มุ่งหน้าไปต่อ
ในที่สุดเราก็ถึงแล้ว วัดพระนอน
บอกเลยว่าสวยมาก ไหน ๆ ก็มาเที่ยวเเถวๆนี้แล้วอะเนาะ เราก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม ถามว่าร้อนไหม ร้อนมาก แนะนำพกร่มกันมาด้วยนะ ร้อนจริง ๆ แต่ก็คุ้มกับการได้ภาพสวย ๆ
ส่วนด้านในนั้น ไม่ต้องพูดถึง สวยงามที่เต็มไปด้วยจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวต่าง ๆ
ส่วนด้านนี้คุณป้า เก่งมากๆ คุณป้ากำลังแต่งเติมลวดลายบนฝาผนังแหละ มือต้องนิ่งและต้องใจเย็น ๆ เอามากๆเลย สวยจริง ๆ สวยมากกก ขอชื่นชมค่ะ
ด้านในนี้นอกจากจะมีลวดลายบนผนังแล้ว ก็ยังมี พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน นั้นเอง
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯและยังใหญ่ที่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยอีกด้วยนะ ส่วนใหญ่เท่าที่ศึกษาข้อมูลมา มักจะขอพรกันในเรื่องความรัก ใครที่อยากสมหวังในเรื่องความรัก ก็แวะขอพรกันได้
หลังจากที่กราบไหว้ขอพร กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปแลกเหรียญ กัน จะมีมุมที่เราสามารถแลกเหรียญเพื่อนำมาใส่ในบาตรด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิด บาตรที่เรานำเหรียญใส่นั้นจะมีทั้งหมดด้วยกัน 108 บาตร
เอาจริง ๆ นะ เที่ยววันเดียวเที่ยวให้คุ้ม ยังไม่หมดแค่นี้นะ ยังมีสถานที่ ที่น่าไปอีกมากมาย แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวไว้ว่าง ๆ จะมาใหม่
.......................................................................................................................................................................................................
Travelanywhere
วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 19.52 น.