ขึ้นเขาเล็กน้อยที่ ถ้ำพระยานคร

ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด

ในปี พ.ศ. 2505 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศกฎกระทรวง ฉบับที่ 100 กำหนดพื้นที่ป่าเขาสามร้อยยอดพื้นที่ประมาณ 99.50 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นป่าสงวนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช 2481 ก่อน ซึ่งเหตุผลของการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเพราะมีพันธุ์ไม้ที่มีค่าขึ้นอย่างหนาแน่นมาก เช่น ไม้จันทน์ มะค่า มะเกลือ แสมสาร และทิวทัศน์ที่สวยงามที่ควรสงวนไว้ ต่อมาพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 61.28 ตารางกิโลเมตร ได้ถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 83 ตอนที่ 53 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2509 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรก

พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ตอนล่างสุดของภาคกลาง มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย จะยกมาหนึ่งที่ คือ ถ้ำพระยานคร

ถ้ำพระยานครเป็นถ้ำที่มีห้องโถงขนาดใหญ่ ด้านในมีพลับพลาทรงจตุรมุข ชื่อว่า พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์สร้างในรัชสมัยรัชการ ที่.๕ และพระมหากษัตริย์ของไทยเราก็เสด็จประพาสมาแล้วหลายพระองค์...
ใครอยากไปขึ้นถ้ำนี้มีวิธีการเดินทางอยู่สองแบบ 1.เดินและต้องเดินขึ้นเขาถึงสองครั้ง 2.แบบนั่งเรืออ้อมเขาลูกแรก แล้วก็เดินขึ้นเขาลูกสองเหมือนกัน

1.เดินขึ้นเขาประมาณสองกิโลเมตร 2.ไม่เดิน แต่ไปนั่งเรือ นั่งอ้อมเขาลูกแรกไปขึ้นชายหาดแหลมศาลา ค่าเรือ600ต่อลำนั่งได้หกคน ที่นี้พอจะขึ้นถ้ำ ก็ขึ้นเขาอีกที ตามเส้นสีดำ

เราใช้วิธีการเดินดีกว่า น่าจะมันส์กว่า และก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรด้วย

แรกๆก็ยังสดอยู่

ชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ

วิวทะเลก็เหมาะดี

ใกล้จะถึงทางลงของเข้าลูกแรกแล้ว

ที่ทำการอุทยานบริเวณหาดแหลมศาลานี้ พื้นที่ตรงนี้มีบ้านพัก มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร ห้องน้ำ ที่กางเต้นท์ มีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแล สามารถกางเต้นท์นอนพักค้างแรมได้

เส้นทางที่จะมุ่งสู่ถ้ำพระยานคร

บ่อพระยานคร ขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ในครั้งที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯโดยทางเรือ ซึ่งได้นำเรือเข้ามาหลบพายุในบริเวณหาดแหลมศาลาเป็นเวลาหลายวัน ชาวบ้านเรียกบ่อนี้ว่าบ่อพระนคร

ขึ้นมาได้หน่อยเดียว ร้องขอน้ำ

ถึงห้องโถงภายในถ้ำที่มี พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ กระทบแสงแดดยามสายในทุกๆวันมาตั้งแต่ พ.ศ.2433

สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลัง โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง

ถ้ำพระยานครสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ที่แนะนำต้องเป็นช่วงฤดูหนาว ช่วงธันวาคมถึงมกราคม

และต้องไปให้ถึงถ้ำช่วงประมาณ 10.00 น. แสงจะส่องกระทบพลับพลา สวยงามยิ่งนัก

อันนี้ไปเที่ยงแล้ว

ภายใน บริเวณผนังถ้ำ มีพระปรมาภิไธยย่อ ของพระมหากษัตร์ยไทยที่เสด็จพระราชดำเนินเยือน

รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมื่อคราว รศ.108.109 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ๑๐๘ ไว้ที่หน้าผาในถ้ำ
รัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสเมื่อคราว พ.ศ. 2469 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร. ณ ผนังถ้ำด้านตะวันตกของพลับพลา
รัชกาลที่ 9 เสด็จประพาสเป็นการส่วนพระองค์ พ.ศ. 2501

ต้นซุ้มรอดคู่ พอลอดแล้วจะรอด

กลับลงมาจากถ้ำมานั่งที่ป้ายที่เดิม ที่เพิ่มเติมคือ หมดแรง!!

เดินกลับทางเดิม

มีรถฉุกเฉินไว้พร้อมบริการให้นักท่องเที่ยวได้อุ่นใจ

จบภารกิจสำหรับทริปนี้

ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ให้ได้ไปเยี่ยมชมอยู่เสมอสำหรับที่นี่ "ถ้ำพระยานคร" นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างชาติ ยังคงสู้กับความเหนื่อยเดินขึ้นเขาไปชมสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าเราได้สร้างเอาไว้ ไม่ลองมาเยี่ยมชมที่นี่กันบ้างหรือครับ มาแล้วมารอดต้นซุ้มรอดคู่ด้วยนะ แวะมากางเต้นท์นอนสัก1คืน2วัน หรือไปกลับก็ยังดี ให้ชาวบ้านแถวนี้เขามีแรงใจในการค้าขายกันหน่อย เที่ยวไทยนี่แหละสดวกและประหยัดดี ไปเที่ยวกันมั้ยล่ะ