ออกเดินทาง ทริปนี้จะพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ และใช้ชีวิตกันแบบช้าๆ ที่ แม่กำปอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่กลางป่าใหญ่ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร จึงทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี สำหรับช่วงเวลาที่เราออกเดินทางเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ที่ 18-23 องศา เท่านั้น

ตามที่เกริ่นไว้แล้วว่าทริปนี้ของเราจะเดินทางด้วยรถสาธารณะ เพราะฉะนั้นเราต้องวางแผนกันดี ๆ สักหน่อย เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบิน ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้า แล้วรีบเหมารถ taxi ในราคา 150 บาท ไปที่จุดจอดรถตู้ไปแม่กำปอง อยู่ที่ตลาดวโรรส (กาดหลวง)โดยเราจองเที่ยวรถรอบ 09.30 น. ไว้ เพื่อความชัวร์แนะนำให้เพื่อนๆ จองตั๋วรถไว้ล่วงหน้านะครับ จะได้ไม่พลาดการเดินทาง สำหรับช่องทางการจองรถตู้จะจองผ่านทาง Facebook นะครับ ส่วนราคา 150 บาท/เที่ยว

Facebook  รถตู้ชียงใหม่-หมู่บ้านแม่กำปอง

https://web.facebook.com/Van.Hotsprings

รอบรถเชียงใหม่ – แม่กำปอง

07.40 น.

09.30 น.

11.40 น.

14.30 น.

รอบรถแม่กำปอง – เชียงใหม่

09.20 น.

11.20 น.

13.20 น.

16.00 น.

สำหรับการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่นี่ถนนดีครับและไม่ค่อยคดเคี้ยวเท่าไร ใครที่เมารถไม่ต้องกังวลสามารถมาได้ครับ โดยรถจะไปจอดที่ศูนย์การเรียนรู้แม่กำปองซึ่งอยู่กลางหมู่บ้าน แล้วค่อยเดินไปที่พักครับ

และในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านแม่กำปอง ซึ่งก็เป็นเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ความรู้สึกแรกหลังจากลงมาจากรถคือ สัมผัสได้ถึงความเย็น จากนี้เราต้องเดินไปที่โฮมสเตย์เพื่อเช็คอินครับ สำหรับคืนแรกเราจะพักกันในหมู่บ้านครับ โดยเราเลือกพักกันที่ บ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน เราเลือกพักที่นี่เพราะอยู่ใกล้ร้านอาหาร และเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน

แต่ถ้าจะให้เราแนะนำที่พักในหมู่บ้านเราแนะนำเป็น บ้านป้อหลวง แม่หลวง น่าจะสงบเงียบและบรรยากาศดีกว่าบ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง มาก ๆ ส่วนราคาลองถามไปที่เพจ FB เลยนะครับ

Facebook : บ้านป้อหลวง แม่หลวง 

https://web.facebook.com/BaanPorLuangMaeLuangmaekampong

ที่พักส่วนใหญ่ของที่นี่จะติดริมลำธาร แต่จะมีความเป็นส่วนตัวมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโลเคชั่น ถ้าอยากอยู่ใกล้แหล่งของกินก็พักแถวๆ ร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop แต่ถ้าชอบความเงียบสงบก็เลยวัดไปหน่อยครับ

หลังจากที่เช็คอินห้องพัก และพักจนหายเหนื่อยต่อไปเราจะไปกินข้าวเที่ยงโดยเรากินกันที่ร้านไส้อั่วแม่นิ่ม เมนูของที่นี่ก็จะมี ใส้อั่ว ปีกไก่ทอด หมูทอด ลาบหมูคั่ว ผักเชียงดาผัดไข่ ขนมจีนน้ำเงี๊ยว ต้มแซ่บซี่โครงหมู และส้มตำ

อิ่มแล้วต้องเดินย่อยนะครับ ต่อไปเราจะเดินไปจิบกาแฟกันที่ร้านระเบียงวิวนะครับเพื่อชมวิวของหมู่บ้าน ซึ่งวิวนี้เป็นวิวที่เราเห็นบ่อยๆ ตามหน้า Facebook เพราะใครที่มาแม่กำปองจะต้องมาที่นี่ทุกคน

เดินกันต่ออีกนิด เราเลือกที่จะเดินไปที่น้ำตกแม่กำปอง ซึ่งจะมีทางลัดเดินตามลำธารไปเรื่อยๆ ซึ่งเส้นทางนี้จะไม่ชันเท่ากับเส้นทางหลัก ใช้เวลาเดินไม่นานประมาณ 15 นาที น้ำตกมีความสวยงาม เราอยู่ที่นี่สักพัก ถ่ายรูปนั่งชิวสักพักแล้วเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน ระหว่างทางมีดอกไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปด้วย และเราก็ได้เจอกับดอกแม่กำปอง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน


สำหรับอาหารเย็นของวันนี้เราฝากท้องกันที่ร้านค้าเล็กๆ เราเลือกที่จะซื้ออาหารกลับไปกินที่ที่พัก อาหารเรามีข้าวโพด มันเผา ใส้อั่ว ส้มตำ อร่อยมากๆ ความฟิน คือ กินของร้อนๆ กับอากาศเย็นๆ

สำหรับวันแรกก็ประมาณนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ เจอกันวันพรุ่งนี้ครับ

วันที่สอง เราตื่นกันปกติไม่เช้ามาก ไม่สายมาก แล้วไปกินอาหารเช้าของโฮมสเตย์ที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยเราต้องไปกินกันที่ ร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop สำหรับอาหารเช้า คือ ข้าวต้ม กับกาแฟ 1 แก้ว อิ่มแล้วก็ออกไปถ่ายรูปที่ด้านหน้าร้านที่เป็นจุดเช็คอินของทุกคนที่มาแม่กำปองต้องมาถ่ายรูปกันที่นี่ แต่ลืมบอกไปที่นี่เข้ามีเจ้าถื่นนะครับ เป็นน้องหมาที่พยายามจะเข้าเฟรมถ่ายรูปกับทุกคน

จุดเช็คอินแม่กำปองกาแฟของร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop เราว่าเฉยๆ เราเลยไปจิบกาแฟกันต่อที่ ร้าน Ylife ไว้ลาย ซึ่งเป็นร้านของที่พักบ้านอิงดอย แม่กำปอง เราว่ากาแฟของที่นี่รสชาติดี แุถมปลูกเมล็ดกาแฟและคั่วเมล็ดเองอีกด้วย เราเลยซื้อเมล็ดกาแฟติดมือกลับมาด้วย ราคาไม่ถูกมากๆ 200 กรัม ราคา 120 บาท กาแฟอาราบิกา คั่วกลาง

ต่อจากนี้เราจะไปเที่ยววัดกัน ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวของแม่กำปอง โบสถ์ของที่นี่สร้างมาจากไม้ และด้วยความที่ที่นี่หนาวเย็นตลอดปี และมีความชื่นมากทำให้หลังคาของที่นี่จะมีมอสขึ้น มีความสวยงามไปอีกแบบ และที่นี่ยังมีโบสถ์กลางน้ำอีกด้วย

หลังจากอิ่มบุญไหว้พระขอพรเสร็จแล้วเราก็เดินกลับไปที่พักเพื่อเก็บของและเช็คเอ๊าซ์ เพราะเราจะย้ายที่พักกันครับ

เช็คเอ๊าซ์เรียบร้อยแล้วเราก็มาเติมพลังกันก่อน สำหรับมื้อเที่ยงของวันนี้เราจะกินอาหารกันที่ ร้านข้าวซอยกลอยใจ โดยเมนูเด็ดของที่นี่คือข้าวซอยนั่นเอง

กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว เราเดินมาที่ศูนย์การเรียนรู้แม่กำปองเพื่อเรียกรถไปที่ที่พักของคืนนี้ ค่ารถ 60 บาท ที่พักอยู่ก่อนถึงหมูบ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร จริงๆ สามารถเดินไปได้แต่ด้วยทางที่ค่อนข้างชัน และมีรถขึ้นลงตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจเรียกรถไปที่พักแทน

คืนนี้เราจะพักกันที่บ้านพักริมลำธาร นอนฟังเสียงน้ำไหลชิวๆ กับที่พักที่มีชื่อว่า บ้านพักริมน้ำใบเฟิร์น แม่กำปอง เจ้าของหน้ารักใจดี ลืมบอกไปว่าแถวนี้ไม่มีร้านอาหารนะ เพราะฉะนั้นให้เพื่อนๆ เตรียมอาหารเย็นให้เรียบร้อย แต่ถ้าใครขี้เกียจหาซื้อของที่โฮมสเตย์ก็มีมาม่าจำหน่ายนะครับ มีขนม มีเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นราคาปกติไม่ใด้ชาร์จ

เช็คอินและได้ห้องพักเรียบร้อย กิจกรรมต่อไป คือ นั่งโง่ๆ ริมลำธาร ง่ายๆ คือ ไม่ต้องทำอะไรแค่นั่งเฉยๆ ก็ฟินแล้วเพราะบรรยากาศของที่นี่ดีมากๆ เหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่ง แบบนี้ที่เข้าเรียกว่าธรรมชาติบำบัด และได้ชาร์จแบตอย่างเต็มที่

สำหรับอาหารมื้อเย็นเราได้เตรียมข้าวซอยไก่สำเร็จรูปที่มาในแบบคัพ เพิ่งเคยกินครั้งแรกอร่อยดี สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์

วันที่สาม สวัสดีตอนเช้า สำหรับอาหารของเช้านี้คือข้าวต้มเหมือนกับที่พักแรก แต่เพิ่มเติม คือ มีไข่ และมีขนมปังให้ด้วย สามารถปิ้งทานได้เลย อิ่มแล้วก็พักตามอัธยาสัยต่อ นั่งเล่น นั่งชิว และวันนี้จะลงไปเช็คความเย็นของน้ำ

เวลาแห่งความสุขหมดเร็วมากๆ เราเช็คเอ็าซ์โฮมสเตย์ตอนเที่ยง แล้วรถของโฮมสเตย์ก็มาส่งเราที่ตัวหมู่บ้านแม่กำปอง

สำหรับมื้อเที่ยงของวันนี้ฝากท้องกันที่ร้านแม่กำปองป้ายแดง เมนูที่กิน คอหมูย่าง ปีกไก่ทอด และส้มตำ รสชาติใช้ได้

เรายังพอมีเวลาเหลือก่อนที่จะเดินทางกลับ เราจะไปจิบกาแฟกันที่ ร้านปิรันย่า coffee ร้านนี้เป็นร้านที่กาแฟดีที่สุดของแม่กำปอง เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ในซอย แต่คุณภาพของกาแฟไม่เล็กเหมือนขนาดร้านนะครับ เพราะกาแฟที่นี่เค้าปลูกเอง คั่วเอง ความคลุมมคุณภาพทุกขั้นตอนจนได้เมล็ดการแฟที่มีคุณภาพ และที่สำคัญที่นี่มี กาแฟไซฟ่อน และกาแฟกริปให้บริการด้วย ครับ

ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับเชียงใหม่แล้วเรากลับรถรอบ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย และต้องเดินทางกลับกรุงเทพต่อ โดยเครื่องบินเวลา เครื่องออก คือ 18.45

ทริปนี้เป็นทริปที่ชอบมากๆ ได้ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ได้กินอาหารอร่อย ได้จิบกาแฟรสชาติดี ถ้ามีโอกาสออกเดินทางจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน ขอบคุณเพื่อนๆ ที่อ่านจนจบนะครับ ฝากเพื่อนๆ กด Like FB แฟนเพจออกเดินทางด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ


ฝากเพื่อนๆ กด like และกด แชร์ ด้วยนะครับ 

" แล้วเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน "

Facebook : https://www.facebook.com/okdentang

Youturb : https://bit.ly/34xGVya

IG : https://www.instagram.com/okdentang

Twitter : https://twitter.com/okdentang

https://www.okdentang.com


 

ออกเดินทาง

 วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 00.13 น.

ความคิดเห็น