สวัสดีค่าท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราก็จะพาทุกท่านไปกินไปเที่ยวแบบไทย เที่ยวง่าย ๆ ที่อยุธยา                  ตามไปดูกันเลยค่า

เราเริ่มออกเดินทางตอน 11 โมงแล้ว ท้องก็รู้สึกหิว อยากกินอะไรที่รสชาติจัดจ้านกิน เราเลยรีบบึ่งรถไปที่ ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเก่าที่อยู่มามากกว่า 40 ปีแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เดินทางมาถึง ร้านอยู่ด้านหน้าองค์การโทรศัพท์พระนครศรีอยุธยา ติดริมถนนเลยค่ะ เรามาถึงช่วงเที่ยงพอดีทางร้านคนค่อนข้างเยอะ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 

เมื่อมาถึงร้านได้โต๊ะเรียบร้อย เราก็สั่งก๋วยเตี๋ยวกันเลย ทางร้านมีทั้งเนื้อเเละหมู ก๋วยเตี๋ยวเนื้อชามละ 20 ก๋วยเตี๋ยวหมูชามละ 15  เวลาสั่งแนะนำให้สั่งมาทีเดียวนะคะ เพราะถ้าสั่งเพิ่มอาจต้องรอคิว เพราะที่ร้านคนเยอะมากเลย ส่วนเกี๊ยวทอดกับแคปหมูก็เดินไปหยิบเองได้เลยค่ะ 

จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กอยู่ที่ความเผ็ดเข้มข้นสไตล์ก๋วยเตี๋ยวเรือแท้ ๆ  รสชาติจัดจ้านอร่อยโดยไม่ต้องปรุง และที่ชอบเป็นพิเศษเลยคือเส้นเล็ก เส้นเล็กของทางร้านมีความเหนียวนุ่มอร่อยมาก ถ้าใครมาขอแนะนำให้สั่งเส้นเล็กเลยนะคะ แล้วก็อย่าลืมกินคู่กับเกี๊ยวทอดด้วยน้าอร่อยเข้ากันมาก ๆ เลย กินอิ่มแล้วเราก็เรียกมาคิดเงินเลย ค่าเสียหายทั้งหมด 170 บาท เพียงเท่านั้น อิ่มอร่อยคุ้มค่ามาก ๆ เลย     

หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเราก็ไปเดินย่อยกันต่อที่ วัดมหาธาตุ เป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา อยู่ห่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กไม่ถึง 1 กิโลเมตร เปิดให้เข้าทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-16.30   มีค่าบริการด้วยนะคะ คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ก่อนเข้าชมวัดแต่งกายให้เรียบร้อยกันด้วยน้า 

บริเวณรอบ ๆ วัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ซากพระปรางค์ประธาน เจดีย์แปดเหลี่ยม วิหารที่ฐานชุกชี วิหารเล็ก ซากพระพุทธรูป 


และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาวัดมหาธาตุ คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้ โดยเศียรพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป เป็นศิลปะอยุธยา วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดกันว่าเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พลาดไม่ได้ที่จะมาถ่ายรูปเลยเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันเลยนะคะ

หลังจากที่เราเดินเที่ยวรอบวัดเสร็จอากาศร้อน ๆ ก็อยากหาคาเฟ่นั่ง เราจึงเลือกไปกันที่ อยุธยารีทรีต คาเฟ่เรือนไทยริมสระบัว ขับรถมาเพียง 15 นาทีก็ถึง ที่นี่ไม่ได้มีแค่คาเฟ่แต่ยังมีรีสอร์ทสไตล์เรือนไทยริมทุ่งนาให้บริการอีกด้วย 

ทางร้านมีการตกแต่งแบบสไตล์ไทย มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปควรจะมาที่นี่เลย เพราะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นมุมเปลริมน้ำ มุมโต๊ะนั่งแบบไทย เรือโบราณในสระบัว ได้รูปสวย ๆ กลับกันไปเยอะแน่ ๆ ค่ะ

ทางร้านมีอาหารไทย อาหารแบบตะวันตก ทั้งคาวและหวาน อาหารจะตกแต่งมาในสไตล์แบบไทย ในส่วนของเครื่องดื่มมีให้เลือกมากมายทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ 

ที่โต๊ะจะมีกระดาษให้เลือกเมนู เราก็สแกน QR Code ที่แปะที่โต๊ะแล้วก็เลือกดูหน้าตาของแต่ละเมนูได้เลยค่ะ เมื่อเลือกเมนูเสร็จก็ให้พนักงานได้เลย ตอนที่เราไปยังค่อนข้างอิ่มอยู่เลยว่าจะสั่งแค่ของหวานกับน้ำแต่เห็นมีเมนูหลนปูของโปรดก็เลยสั่งมากินเล่น ๆ ด้วย อิอิ

อาหารมาถึงแล้วค่า น่ากินมาก ๆ เลย เมนูที่เราสั่งก็มี เบอรีทีสมูทตี้ ออแกนิกชาเย็น บลูเบอรี่พาย นิวยอร์คชีสเค้ก และหลนปูของเรานั่นเอง

 อาหารที่เราสั่งมาไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะคะรสชาติก็ดีด้วย หลนปูมีรสชาติค่อนข้างออกหวานสไตล์แบบไทย ๆ ทานคู่กับพริกสดผักสดแล้วเข้ากันสุด ๆ ไปเลย เค้กที่เราสั่งมาทั้ง 2 ชิ้นก็อร่อยมาก ๆ เลย รสชาติกำลังดีไม่หวานมากเกินไป ทางร้านไม่ได้มีแต่ขนมเค้กนะคะแต่ยังมีขนมไทยเช่น ตะโก้ ข้าวต้มมัด ขนมต้ม อีกด้วย และสำหรับเมนูเครื่องดื่มทางเราชอบมากเป็นพิเศษเลยค่ะ อากาศร้อน ๆ แบบนี้ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมากเลย ค่าเสียหายทั้งหมดก็เพียง 550 เท่านั้นเองค่ะ อ้อ และที่นี่สามารถใช้คนละครึ่งจ่ายช่วยจ่ายได้ด้วยนะคะ  


หลังจากกินเสร็จแล้วก็ต้องไม่พลาดขึ้นที่จะไปชมและถ่ายรูปด้านบนเรือนไทยซึ่งเปิดให้เข้าพักกันด้วยค่ะ 

และสำหรับคนที่ชอบการนวดที่นี่ก็ยังมีบริการนวดฝ่าเท้าไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ 

ก่อนกลับเราก็เดินผ่านโซนสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าที่เข้ามาพัก เราก็ไม่พลาดที่ต้องมาแชะภาพสักหน่อย น่ารักมาก ๆ เลย สำหรับใครที่ชื่นชอบอยากมาทานอาหารอร่อย ๆ หรืออยากมาพักรีสอร์ทสไตล์เรือนไทย ต้องไม่พลาดที่จะมาอยุธยารีทรีตเลยค่ะ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 

สำหรับใครที่มีเวลาไม่มากแต่อยากไปเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ชิวๆ แนะนำให้มาที่อยุธยาเลยค่ะ เพราะจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบไทย ๆ แถมเดินทางง่าย ๆ ใกล้กรุงเทพเลย และวันนี้เราก็ขอตัวลาไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าว่าจะพาไปกินไปเที่ยวที่ไหนกันอีก สำหรับวันนี้ สวัสดีค่าาาาาาาาา 

Praewpan Buangam

 วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.58 น.

ความคิดเห็น