e6s2rkg8c62d

" ดอยภูแว "

เป็นเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในพื้นที่ของ ต. ขุนน่าน อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. น่าน
มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร
เป็นดอยที่มีบริเวณของเขาทุ่งหญ้า ด้านบนมีหินผา มีจุดชมวิว 360 องศา
ระยะทางเดินประมาณ 8 กิโลเมตร
[ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 054-731623, 054-701000, 082-1941349 ]


ทริปนี้เกิดจากการรีเควสจากเพื่อนๆ ในกลุ่มของเราว่าอยากเดินป่าแล้ว จริงๆ ตอนแรกเราก็ดูกันไว้หลายที่ แต่สุดท้ายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนได้มาจบที่ดอยภูแว การมาเดินที่นี่เราต้องติดต่อขออนุญาตไปที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาก่อน [ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 054-731623, 054-701000, 082-1941349 ] แต่ของพวกเรามีแพลนจะขึ้นไปบริจาคของให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน จึงได้มีการชักชวนของคนพื้นที่ให้ลองเดินขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติ พวกเราเราไม่รอช้ารีบตอบตกลงในทันที ซึ่งสมาชิกของเราในทริปนี้มีทั้งหมด 16 คน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ ในกลุ่มที่คุ้นหน้าคาตากันอยู่แล้ว ส่วนบางคนมาจากเพื่อนของเพื่อนอีกที


ออกเดินทาง 

วันที่เราเดินทางเป็นช่วงวันหยุดยาว 10-13 ธันวาคม 63 พวกเรานัดกันตอนเย็นของวันที่ 9 หลังเลิกงานที่ปตท. สนามเป้าและเดินทางด้วยรถตู้เช่นเคย ออกจากปตท. ประมาณ 20.00 น. มุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน ด้วยระยะทางเกือบ 800 กิโลเมตร คืนนี้ขอไปพักผ่อนเอาแรงกันก่อน เจอกันตอนเช้าที่น่านเลยนะ 👋🏻


จังหวัดน่าน

เช้าแล้วที่ " น่าน " ตื่นขึ้นมาก็เจอหมอกขาวโพลนและอากาศหนาวเลย เราแวะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันกันในปั๊มน้ำมันที่ปัว ก่อนที่จะไปหาอะไรกินตอนเช้าที่ตลาดสดปัว

o8mho3eo0zvw
x65dikgj0196

หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถมาอีกนิดก็จะถึงตลาดสดปัว พวกเราก็แยกย้ายไปหาอะไรกินกัน อาหารเช้าที่นี่ก็จะมีพวกโจ๊ก ข้าวเหนียวหมูย่าง ไส้อั่ว ขนมจีนน้ำเงี้ยว แล้วก็เครื่องดื่มร้อนๆ

t9vhkmp6ufzb
bcyz701engk7

เราซื้อไส้อั่ว + ข้าวเหนียวมากิน อร่อยมาก แล้วก็มีน้ำพริกมะเขือเทศต้องลองแล้วจะติดใจ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา ( ข้าวเหนียวนี่ห่อใบตองมานะ มี 10 บาท 20 บาท ใครกินคนเดียวให้ซื้อ 10 บาทพอนะ เพราะมันเยอะมาก )

grffys8osaw7

กินอิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางหลังจากนี้ก็จะคดไปเคี้ยวมา ต้องรีบเปิดวาร์ปก่อนที่จะเมารถ แต่เราก็จะโดนปลุกจากพี่คนขับเพื่อแวะถ่ายรูปข้างทาง เอ้า .. แวะก็แวะ

z1htx2y76zqh
nd3qvy7jwfig
4obm9ufs2koa

ถ่ายรูปเสร็จก็ขึ้นรถเดินทางต่อ อีกพักใหญ่ๆ กว่าจะถึงจุดหมายของเรา


ดอยภูแว

11.30 น. ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงกันสักที พอเรามาถึงก็มีชาวบ้านออกมารอรับ พวกเราต้องขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระจากรถตู้ขึ้นรถกระบะเพื่อไปยังหมู่บ้านอีกที

l5yvqy5ymkcy

น้องผู้หญิงคนนี้คือ " น้อย " คนที่เราติดต่อไว้ เป็นคนในพื้นที่ และน้องเค้าจะดูแลพวกเราตลอดทริปภูแวนี้

lb8oc7xllirh

โดดขึ้นรถกันหมดแล้วก็ลุยกันเลย 16 คนกับรถ 1 คัน ผู้หญิง 5 คนนั่งข้างหน้า ส่วนผู้ชายยืนในกระบะพร้อมกระเป๋า

zuksyx5kibio

ทางที่จะขึ้นไปยังหมู่บ้านก็จะเป็นทางลูกรังดินแดง เนินชันๆทุรักทุเรพอสมควร ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็ถึงหมู่บ้าน

95z89hqbi4hi
6evcznqjnfvl
zobahf3kqgli
skqpgpa1ym3s
dobsswlmp2ql

สะบักสะบอมไปกับทางหลุมบ่อ เล่นเอาไส้จะมากองรวมกัน ดีนะที่ระยะทางมันไม่ได้ไกลมากนัก

11.50 น. บ้านปู่ดู่ ถึงแล้วก็ขนของลง เอาของที่เตรียมมามอบให้ชาวบ้าน แล้วก็นั่งพักสักนิดก่อนที่จะขึ้นเป้ เพื่อเดินเท้าเข้าไปยังดอยภูแว

frf335c3kquh
deczx73pifoz
8u7lzct83b6e
96f4g9jmcgk8

12.10 น. ระยะทางที่เราต้องเดินจากหมู่บ้านก็ 6 กิโลเมตรโดยประมาณ เส้นทางจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นทุ่งหญ้า ป่าข้าวโพด ช่วงหลังเราถึงจะเดินในป่าจนถึงยอดดอย ( เพื่อนๆ คนไหนที่มาจากอุทยานก็จะมาเจอกันที่จุดนี้ ที่หมู่บ้านมีอาหาร น้ำดื่มเย็นๆ ไว้บริการ ) ส่วนพวกเรานั่งรถมาก็ล่นระยะทางไปได้ถึง 2 กิโลเมตร

i2nyyjle2x14
p9gf7j0eqho8
fcgvyogsoo5c


เส้นทางจะทะลุหมู่บ้านไปก่อน น้อยบอกว่า ให้เดินตรงไปอย่างเดียว ห้ามเลี้ยว ตอนแรกจะงงๆ ได้เดินเห็นเส้นทางจะเข้าใจเอง

เดินพ้นหมู่บ้านไปก็จะเจอกับทุ่งหญ้าและป่าข้าวโพด บอกเลยว่าช่วงแรกนี้โคตรวัดใจเลย เพราะมันร้อนเอามากๆ ไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเลย บางจุดถึงจะมีร่มเงาจากภูเขาพอให้หลบร้อนได้บ้าง

i2n7ti7o8kqp
b8x01fcdidrw
3ynme0isdm69
f32txebqrijz
tswz3tnpm56w
t5t8mz02hqmc
ughhojp6pks9
navqgkia610z
w34qvi1tnyqh
7h7wybrnzm3s

13.00 น. เดินกันมาได้ชั่วโมงนึงก็เริ่มหิว ประจวบเหมาะกับมีร่มเขาพอดี พวกเราก็พากันวางเป้แล้วนั่งกินข้าว มื้อกลางวันเป็นข้าวห่อ โดยที่น้อยชาวทำไว้แล้วห่อมาให้กินระหว่างทาง เราลืมบอกไปว่าทริปนี้เราไม่ได้ทำอาหารกินเองนะ เราใช้บริการของน้อยเนี่ยแหละตั้งแต่ข้าวกลางวันมื้อนี้ จนถึงกลางวันอีกวัน รวมเป็น 4 มื้อ

ozqdqyqedvc0
8m7ctfqbyr9d

ระหว่างกินข้าวก็จะมีลูกหาบแว๊นมอเตอร์ไซค์แบกของขึ้นมา

jq2jkn7fdvmk

แล้วก็เดินกันต่อ ทางก็เหมือนเดิม ร้อนเหมือนเดิม ก็เลาะไปตามไหล่เขาป่าข้าวโพด ขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป

27mqwligb2mc
8pncs3arp376
fq53nc0w87d9

หลังจากที่ฝ่าดงข้าวโพดมาก็มาเจอกับโซนที่เป็นต้นหญ้าสูงๆ

yy04evdtox09
nsmptkzllh5b

14.00 น. เดินเข้ามาเรื่อยๆ จะมาเจอกับจุดสิ้นสุดทางรถ เราต้องข้ามรั้วเพื่อเดินเส้นทางในป่ากันแล้ว รู้สึกดีใจที่จะเดินในร่มแล้ว

ตรงจุดนี้เองที่ลูกหาบจะต้องสละมอเตอร์ไซค์แล้วแบกของเดินขึ้นไปเหมือนกับเรา

5pgim93winjr

พอได้ข้ามรั้วนั้นมาก็เหมือนมาเจอโลกอีกใบ จะบอกว่าดีมันก็ดี ดีที่มันไม่ต้องเดินกลางแดดร้อนๆ แต่มันก็ไม่ค่อยจะดีตรงที่ทางมันชันจังว้า !!!!

ทางเดินก็เป็นดินแห้ง ชื้นสลับกันไป บางจุดเป็นฝุ่นเลย เหมาะกับการลื่นนักแล trekking pole สำคัญมากนะเพื่อนๆ เป็นอุปกรณ์ที่ควรมีไว้ติดตัว

vyey6bhnt0vu
hwuqk8p4vgt2

บางจุดชั้นมาก บางจุดชั้นน้อย แต่ก็ยังพอมีทางราบไว้ให้พักขาบ้าง

ym8qyn9zrnbo
xtzid0653y02
3jmx4clkkuvg

14.42 น. ต้นไม้ใหญ่อยู่กลางทางเลย

gh6vruaou6sz
35s7qc8miylt
tu9bhqew10np
dra97occjn5p
bh4flxdwi7kf
f021u7nbsh7x
kstf71pvu1rh

เดินมาชันๆ เหนื่อยๆ แต่พอมองออกไปข้างทาง เอ้อ ... สวยแล้วโว้ย

wqdtft1ygcg3
ofpxu3ozeyx4

ทางเดินบางช่วงจะเป็นหินแตกๆ ก้อนเล็กๆ

0sfdp85fwhoh

ระหว่างที่เราเดินๆ มาจะเห็นมีลูกอะไรไม่รู้อยู่ที่พื้น สีม่วงๆ สวยดีนะ

gvbme9qu3x2h

15.32 น. ขอนไม้ใหญ่ ที่พักขาของเรา คิดในใจเมื่อไหร่จะถึงสักทีน้า

b8bytfj0fsu5
tv6kg00z76eh
3545e0cduo9x
dnhc9qu1vmn1

15.48 น. ก้มหน้าก้มตาเดินต่อ แล้วก็มาถึงต้นปรงรูปร่างหน้าตาประหลาด ที่เป็นเอกลักษณ์ของเส้นทางเดินนี้

57d77ly8cj86
hiagddwx3ogl
by6c7jvzdqvx
bie0fq3f8s8l
hazgmbowo0nu
tuaati0vlt8c
k037zlh7znjm

ในรีวิวที่เราหาข้อมูลมาเค้าบอกว่าเมื่อไหร่ที่เห็นต้นไม้ประหลาดนี้ก็แสดงว่าใกล้จะถึงแล้ว แต่จริงๆ แล้วเราเดินกันอีกพักใหญ่ๆ เลย … คุณหลอกดาว …

xe3kcceyjwsn

เดินเลาะเขามาเรื่อยๆ ก็มาเจอกับกองหินอันใหญ่ จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นยอดเขาบ้างแล้ว

e2u07mav782l

 น้อย คนนำทางของเรามายืนรอรับพวกเรา เพราะมันมีทางแยกอยู่ กลัวพวกเราจะหลงทาง

cxzlus1slbkh

16.20 น. เห็นยอดแล้วพวกเรา มีกำลังใจในการเดินต่อ

0ykoiseay3lj

เดินข้ามรั้วไม้กันอีกสักรอบ จากจุดนี้ก็เหลืออีกนิดเดียวจริงๆ แล้ว แต่ ๆ ๆ ๆ ทางชันโคตร

8iy9r5jvq0ks
jb7vzrghcpu6
o0fx9gg6mpd9
zeu1bu61ljoa

17.00 น. ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงสักที ลานกางเต็นท์ของเรา เนินก่อนถึงนี่ทำเอาเพื่อนเราตะคริวจะขึ้นกันเลย พวกเราทยอยกันหาจุดเหมาะๆ ในการกางเต็นท์ แต่อยู่บนเขาอ่ะเนาะจะเอาพื้นที่เรียบๆ ประดุจนอนบนเตียงอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้ แค่มีที่กางก็ดีแล้วเอาจริง

pvdgxb09z5hu
b3kmiqd05u60

กางเต็นท์ตัวเองเสร็จก็มากางทาร์ปไว้นั่งกินข้าวกันต่อ แสงอาทิตย์ก็เริ่มทอง ทาร์ปก็ต้องกาง รูปก็ต้องถ่าย ทำมันทั้งสองอย่างพร้อมกันเลยแล้วกัน 555

rb87vosg82e6
yfg7ue674ywc
2kekrd1kr36l
irlmojobsarc
z1rby6ae4ud9
7tzzv15rd2i2
52xc2qy29623

แล้วแสงอาทิตย์ก็จากเราไป มีความหนาวเข้ามาแทน อากาศเย็นลงเรื่อยๆ

กับข้าวของเราก็เสร็จพร้อมเสิฟแล้ว มื้อเย็นนี้เป็นเมนูหมูลั๊วะ เป็นสูตรของชาวบ้านที่นี่ แล้วก็มีปีกไก่ทอด ยำไส้กรอก พร้อมกับข้าวสวย

dv5pt76bts16
0jyy4feq0uy8
hnn79903jv15
4416ufl1w0hc
9bkegyqvpm9s

กินข้าวเสร็จก็นั่งเล่นกันสักพัก แล้วก็ทยอยกันเข้านอน อากาศข้างบนนี้หนาวมาก

คืนนี้ฝันดี ราตรีสวัสดิ


🎵… เช้าแล้วยังอยู่ในที่นอน … 🎵 ประโยคนี้คือใช่มาก เพื่อนในกลุ่มเราตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันบนยอด ส่วนเรานั้นขอนอนซุกตัวในถุงนอนต่อแล้วกัน ดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้าเต็นท์เนี่ยแหละ เดี๋ยวเอารูปของเพื่อนๆ มาแปะไว้ให้ตอนท้ายนะ

อากาศเมื่อคืนหนาวมากดูเทอร์โมมิเตอร์ตอนเช้ายัง 9 องศา แสดงว่าเมื่คืนต้องหนาวกว่านี้ อัดเครื่องกันหนาวเต็มที่ ให้นอนได้อุ่นที่สุด

06.40 น. แสงแดดตอนเช้าเป็นอะไรที่เราต้องการมาก เราอยากได้ความอบอุ่นจากแสงแดด

5iu0ddp2ay89
3hudo91nhwsr
llwldf73losh
c2g6z5w7o35b
xa3ym0ssjdw4
h228lbhh9wm5

ตื่นมาดูแสงเช้าสวยๆ ต้มน้ำจิบกาแฟยามเช้า

3zchblbn1lnq
b6srl432lane
c467dtb19l70

เช้านี้นอกจากจะนั่งกินกาแฟกันแล้ว เราก็ยังมีข้าวต้มหมูร้อนๆ ด้วย บนยอดจะไม่มีน้ำดื่มเราให้ลูกหาบไปกรอกน้ำมาให้ พอดีเราเอาที่กรองน้ำไปใช้กรองอีกที จะได้ดื่มได้อย่างสบายใจ

กินอิ่มแล้วก็ทยอยกันเก็บของ รีบลงไปก่อนที่จะแดดจะแรงไปมากกว่านี้

09.30 น. ลาแล้วดอยภูแว ก่อนเดินลงขอถ่ายกับยอดสักรูป มุมนี้หลายคนบอกเหมือนที่ดอยหลวงเชียงดาวเลย

z6am3pfs3uuf

ถ่ายรูปเสร็จก็เริ่มเดินกัน

1i2s9dldvz36
29q5sov7b3k7
36dqjaz7z0be

เดินมาสักพักก็มาเจอกับผู้ประสบภัย เกิดเหตุรองเท้าปากอ้า ต้องทำการซ่อมให้เดินได้ก่อน

i1daj94evhsx
dz1l7d8nzmqc
t81n72mshzei

11.00 น. เดินออกจากป่าได้ ก็เข้าสู่ดงข้าวโพด เส้นทางเดิมเหมือนที่เรามาเมื่อวาน รีบเดินกันดีกว่าร้อน ☀️

47ubduxmzxcr
nksq528penx4
j5bugmze6xqh
hpu2la60dc7v

เราใช้เวลาเดินลงประมาณ 2 ชั่วโมงแต่เป็นการเดินที่ทรมานเข่ามากเลย เดินมาถึงหมู่บ้านก็กินมื้อกลางวัน ข้าวเหนียวหมูทอด ที่น้อยเตรียมไว้ให้ กินเสร็จก็รอรถกระบะมารับลงไปขึ้นรถตู้ข้างล่าง แล้วก็เดินทางไปอีกที่นึง แต่ขอเอาไปเขียนเป็น Ep. แยกอีกอันนะ

แปะลิ้งค์ไปอ่านกันต่อไปเลย ตะลุย " บ้านมณีพฤกษ์ " | น่าน Ep.2


สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับการมาดอยภูแว แห่งนี้กันก่อน

  • ค่ารถกระบะ 4*4 ขึ้นหมู่บ้าน ไป-กลับ : 1,600 บาท
  • ค่าลูกหาบ : คนละ 1,200 บาท
  • ค่าคนนำทาง : 800 บาท
  • ค่าอาหาร ( 4 มื้อ ตั้งแต่วันเดินขึ้น - กลางวัน เย็น เช้า , วันเดินลง - กลางวัน ) สำหรับ 16 คน : 5,088
    • มื้อกลางวัน ทั้ง 2 มื้อ เป็นข้าวห่อ คนละ 59 บาท / มื้อเย็น + เช้า คนละ 200 บาท
  • ค่ารถตู้ ( คิดวันละ 2,000 บาท น้ำมันต่างหาก )

การเตรียมตัวมาเดินดอยภูแว

  • อุปกรณ์กันแดด : หมวก , ผ้าบลัฟ , ปลอกแขนหรือเสื้อแขนยาว
  • น้ำ : ภูแวเป็นเขาที่ไม่ได้มีแหล่งน้ำอยู่ด้าบน เราต้องเตรียมน้ำดื่มไปให้เพียงพอ แต่ระหว่างทางก่อนข้ามรั้วเข้าป่าก็จะมีท่อน้ำที่น่าจะเป็นน้ำประปาภูเขา เราสามารถเติมน้ำได้จากจุดนี้ ถ้ามีเครื่องกรองน้ำก็จะดีขึ้นไปอีก
  • เต็นท์ : เราต้องเตรียมมาเอง ไม่มีให้เช่านะจ๊ะ
  • Trekking pole : ช่วยทุนแรงเราได้เยอะ ทั้งขาขึ้น และขาลง
  • ไฟส่องสว่าง : อย่างน้อยควรมีไฟฉายคาดหัว เพื่อเวลาที่เดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หรือไปเข้าห้องน้ำกลางคืนจะได้มองเห็น
  • อุปกรณ์กันหนาว : อากาศข้างบนหนาวเหน็บ(~10 องศา)เครื่องกันหนาวต้องพร้อม เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ฮีทเทค จะเพิ่มนอกจากนี้ก็ขนไปเลยนะ
  • อาหาร : เตรียมขึ้นไปทำกันเอง
  • ห้องน้ำ : ไม่มีห้องน้ำ เข้าป่าล้วนๆ เดินระวังด้วยนะเผื่อไปเหยียบกับดักอารยธรรมของเพื่อนด้วย
  • สัญญาณโทรศัพท์ : ค่ายแดง + เขียว ใช้งานได้สบาย

รูปบนยอดถ่ายจากพรานโบ้

e56ldf3xwa7u
inbywoi9pq6v
fvsgprhmzq5r
ความคิดเห็น