สวัสดีครับ
ผมไปเที่ยวเกาะกูดมาเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เองครับ ซึ่งเป็นการมาเที่ยวทะเลตราดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปีที่แล้วได้ไปสัมผัสทะเลของเกาะหมากที่อยู่ใกล้ๆ กันมาแล้ว
ซึ่งการมาเที่ยวครั้งนี้ผมเจาะจงมาที่เกาะกูด เพื่อพักผ่อนสบายๆ ไม่มีกิจกรรมอะไรทางทะเลทั้งสิ้นนะครับ และรีสอร์ทที่ผมเลือกในการมาพักผ่อนครั้งนี้คือ The Beach Natural ครับ
มาเที่ยวชมกันครับว่าในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ระหว่างทริปพักผ่อนสั้นๆ ของผมนี้ได้เจอความสวยงามอะไรบ้างในรีสอร์ทบนเกาะกูดแห่งนี้ครับ
เดินทางสู่เกาะกูด
เนื่องจากผมไม่ได้ขับรถไปเองจึงต้องพึ่งบริการ รถ+เรือ จากกรุงเทพฯ ไปเกาะกูดกับบริษัทบุญศิริอีกครั้ง (ปีที่แล้วตอนไปเกาะหมากก็ใช้บริการเจ้านี้)
ออกเดินทางจากออฟฟิศของบุญศิริ บริเวณถนนข้าวสารตอนตีห้าครึ่ง ซึ่งในวันที่ผมไปเป็นรถบัสให้บริการ แล้วไปต่อเรือที่ท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด ไปลงที่ท่าเรืออ่าวสลัดบนเกาะกูด ก่อนนั่งรถสองแถวมายัง The Beach Natural ซึ่งกว่าจะถึงรีสอร์ทก็บ่ายโมงกว่าๆ แล้วครับ
เมื่อเดินทางมาถึงก็จัดการเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท แล้วกินอาหารกลางวันก่อนเลย ซึ่งก็กินที่ห้องอาหารของรีสอร์ทนี่ล่ะครับ
ทางเดินเข้ามาในรีสอร์ท
ทานอาหารกันก่อนครับ
ผมจองห้องพักที่รีสอร์ทไว้แบบ Partial Seaview ครับ ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ใกล้ๆ Lobby และห้องอาหารเลย แต่ไม่ติดทะเลนะครับ
ห้องพักที่นี่สวยดีครับ แอร์เย็นสบาย ดังนั้นหลังจากกินข้าวมาอิ่มๆ ประกอบกับเดินทางมาเหนื่อยๆ เลยขอนอนหลับพักผ่อนก่อน แล้วเย็นๆ ค่อยออกเดินเที่ยวริมหาดกัน
อ่อ...โทรทัศน์มีในห้อง แต่ไม่สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ได้นะครับ ใครต้องการดูโทรทัศน์ก็ต้องไปยืมแผ่น DVD จากตรง Lobby มาดู หรือเตรียมมาเองนะครับ (มีเครื่องเล่นให้)
ห้องพักของผมในครั้งนี้
บรรยากาศภายในห้องพักครับ
หลังจากพักผ่อนกันเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นกันบ้างล่ะครับ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงมามากแล้วครับ
บรรยากาศหน้าห้องพักของผม
มีสะพานเล็กๆ อยู่ที่หน้าห้อง
แล้วผมก็ได้สัมผัสกับหาดทรายหน้ารีสอร์ทบนเกาะกูดจนได้ The Beach Natural ตั้งอยู่ที่อ่าวบางเบ้าทางทิศตะวันตกของเกาะกูดนะครับ ดังนั้นช่วงเย็นๆ แบบนี้ก็เป็นบรรยากาศเหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกดินกันจริงๆ
ศาลาริมหาดที่เราสามารถนั่งกินลมชมวิวแบบสบายๆ ได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน
หรือใครอยากมานั่งเก้าอี้ชมวิวแทนก็ได้
ช่วงเวลาที่ผมโปรดปรานมากที่สุดในการมาเที่ยวทะเลทริปนี้ คือช่วงเวลาช่วงก่อนและช่วงพระอาทิตย์ตกนี่ล่ะครับ
แม้ในช่วงเวลาดังกล่าวเราจะไม่ได้เห็นสีฟ้าใสของน้ำทะเลและท้องฟ้า แต่เราก็จะได้บรรยากาศที่แสนจะคลาสสิคแบบนี้มาแทน เรามาชมบรรยากาศช่วงเวลาดีๆ ก่อนไปทานอาหารค่ำกันครับ
โขดหินที่ดูธรรมดามากในช่วงกลางวัน แต่กลับดูสวยน่าสนใจในช่วงเย็นๆ
(มีรีสอร์ทอยู่ใกล้ๆ กัน 3-4 รีสอร์ทบริเวณนี้ครับ เดินเที่ยวถึงกันได้เลย)
ปีที่แล้วผมไปเจอสะพานไม้ที่แสนจะมีเสน่ห์ ถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อที่ เกาะหมากโคโค่เคป
ปีนี้ผมมาเที่ยวเกาะกูดในท้องทะเลตราดเหมือนกัน เจอสะพานไม้แห่งนึงหน้า Siam Beach Resort ที่มีเสน่ห์น่าเดินมาถ่าย รูปมากๆ ครับ ซึ่งสะพานไม้แห่งนี้ช่วงเย็นๆ จะมีเรือลำใหญ่ๆ มาจอด ทำให้น่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย
สะพานไม้หน้า Siam Beach Resort ที่ผมคิดว่ามันมีเสน่ห์ดึงดูดให้มาถ่ายรูปมากที่สุดในบริเวณนี้ครับ
บรรดาเรือที่มาจอดเทียบท่ากันในช่วงเย็นๆ ทำให้ได้บรรยากาศอีกแบบ มากกว่าสะพานไม้ธรรมดา
ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกนั้น ใครเคยเฝ้ามองดูจริงๆ จะรู้ว่าเวลามันผ่านไปรวดเร็วมากๆ
วันนี้เมฆอาจเยอะไปหน่อย แต่เราก็ไม่ผิดหวังกับภาพพระอาทิตย์ตกที่เฝ้ารอมาตลอดวันครับ
พระอาทิตย์แอบหลบไปหลังเมฆชั่วคราว
จังหวะเจอแสงสวยๆ ฟ้าสวยๆ แบบนี้ ชอบมากจริงๆ
มองย้อนกลับไปที่รีสอร์ท ห้องอาหารเปิดไฟเรียกร้องให้ไปกินอาหารค่ำกันแล้วครับ
จริงๆ อาหารทุกมื้อผมก็ฝากท้องไว้ที่ The Beach Natural ที่ผมพักอยู่นั่นล่ะครับ
ทริปนี้ผมไม่ได้ซื้อเป็น Package มานะครับ จองเฉพาะห้องอย่างเดียวล้วนๆ ดังนั้นอาหารก็เลือกสั่งเอง จ่ายเองครับ
อาหารมื้อนี้เราสั่งกันมา 3 อย่าง ซึ่งอาหารที่รีสอร์ทอร่อยมากครับ ถูกปากทุกมื้อเลย
ช่วงเช้าที่ผมตื่นมาเจอฝนตกครับ คาดว่าน่าจะตกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ดังนั้นผมเลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรในตอนเช้า ออกมากินข้าวเช้านองรีสอร์ทแล้วมานอนเล่นในศาลาริมทะเล แต่พอช่วงสายๆ หน่อย ฝนหยุดตกแล้วฟ้าก็ใสในทันที โชคดีมากๆ ที่ได้เจออากาศดีๆ แบบนี้ครับ
ศาลาพักผ่อนริมทะเลที่ผมมานอนเล่นรอฝนหยุดตก แล้วฟ้าใสทันทีครับ
นอกจากฟ้าใสแล้ว ทะเลยังใสอีกด้วยนะครับ
มาชมบรรยากาศบนสะพานไม้หน้ารีสอร์ทกันบ้างนะครับ
ฟ้าใส ทะเลสวย น่ากระโดดน้ำเล่นจริงๆ
ที่นี่เค้ามี Aquatium จากธรรมชาติให้ชมฝูงปลาด้านล่างกันด้วย
เดินไปนิดเดียวก็ถึง To The Sea Resort แล้วล่ะครับ เพราะระหว่างสองรีสอร์ทนี้มีกำแพงติดกัน และหาดก็ติดกันด้วย
เลยมีโอกาสได้ถ่ายรูปด้านหน้า To The Sea มานิดหน่อยครับ
บรรยากาศภายใน To The Sea Resort
หลังจากเดินถ่ายรูปจนพอใจแล้วผมก็เดินกลับมาที่ The Beach Natural Resort เพื่อมาพักกินอาหารกลางวันครับ
พอดีผมสั่งอาหารจานเดียวง่ายๆ มากิน เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา ดังนั้นมาชมบรรยากาศในห้องอาหารแทนแล้วกันครับ
ผมออกมาเดินเล่นอีกทีก็หลังจากแดดร่มลงแล้ว ซึ่งก็เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าไปอีกวันแล้วล่ะครับ
ซึ่งบริเวณที่เดินเล่นก็แถวๆ ที่เดิม หน้าชายหาดตรงรีสอร์ทนั่นล่ะครับ
พระอาทิตย์ช่วงเย็นๆ ก่อนจะลาลับขอบฟ้า
ทางเดินกลับมารีสอร์ท ผ่านสะพานหน้า To The Sea Resort ซึ่งสะพานนี้มีการเปิดไฟด้วย ดูสวยไปอีกแบบครับ
อาหารค่ำวันนี้ผมก็ยังคงฝากท้องไว้กับห้องอาหารของรีสอร์ทเหมือนเดิม
โดยที่ The Beach Natural มีให้บริการอาหารแบบปิ้งย่างด้วย นอกเหนือจากอาหารที่สามารถสั่งได้จากในเมนูครับ
เค้ามีการจัดเป็นเซตๆ เอาไว้ให้เลือก หรือเราจะเลือกอาหารสดๆ จากตรงหน้าเคาน์เตอร์บาบีคิว แล้วให้เค้าจัดการให้ก็ได้ครับ
ผมจัดการสั่งเซตแบบ 2 คนมากินในมื้อนี้ อิ่มอร่อยใช้ได้เลยล่ะครับ
อาหารทะเลสดๆ ให้เลือก
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ผมต้องอำลาจากเกาะกูดกลับกรุงเทพฯ แล้วล่ะครับ
เช้าวันนี้ผมตื่นแต่เช้าตรู่เลย เพื่อมาชมแสงยามเช้าริมทะเล แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าพระอาทิตย์ขึ้นคนละด้านกับฝั่งของรีสอร์ทที่ผมพักก็ตาม
เกาะกูดเป็นเกาะที่สวยงามมากๆ ของอ่าวไทยครับ ซึ่งผมยอมรับว่าชอบสีสันของท้องฟ้าและทะเลแถบนี้มากๆ
จากประสบการณ์มาเที่ยวเกาะของทะเลตราดมา 2 ปีติดต่อกัน ไม่มีครั้งไหนที่ผิดหวังเลยจริงๆ ครับ
ริ้วทรายหน้าหาดขณะน้ำลงในตอนเช้าๆ
แล้วพบกันใหม่ทริปถัดไป....
สวัสดีครับ
The Cloud
วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.11 น.