เมื่อช่วงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกระบี่แบบ 4 วัน 3 คืน และตั้งใจว่าจะเที่ยวเกาะแก่งของกระบี่ให้ครบ เมื่อลองศึกษาข้อมูลดูก็พบว่ามีทริปมากมายเลยครับ ให้เราได้เที่ยวกัน ผมเคยเลือกไปแบบทัวร์ 4 เกาะแล้วคือ ไร่เล ปอดะ ทะเลแหวก เกาะไก่ เมื่อปีก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ประทับใจกับความสวยงามของทะเลกระบี่ มาปีนี้ผมเลยจัดอีก 2 เส้นทางครับ

ก่อนจะลงเกาะกัน มารีวิวที่พักกันก่อนครับ 

รอบนี้ผมเลือกพักที่โรงแรมดุสิตธานีกระบี่บีช ที่หาดคลองม่วง ซึ่งห่างจากท่าเรือประมาณ 10 กม. เดินทางสบายหายห่วง ทำเลที่พักดีมากครับ ติดทะเล และพนักงานบริการดีมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะมาเป็นครอบครัวหรือกับคู่รักก็เหมาะเลยครับ ผมมาเป็นครอบครัวใหญ่ เลยตอบโจทย์มากๆ เพราะเด็กๆได้เล่นทราย ลงว่ายน้ำ หรือเล่นของเล่นก็สนุกถูกใจไปหมด และเพราะผมพัก 3 คืน เลยทำให้ผมได้เล่นกีฬาทางน้ำฟรีเลยครับ ทั้ง คายัค ซับบอร์ด เรือใบ...และยังได้ทานอาหารเย็นฟรีอีก  1 มื้อด้วยครับ อาหารอร่อยมากกกกกกก 

สรุปคือสำหรับที่พัก ถ้ามีโอกาส ผมจะกลับไปพักที่นี่อีกแน่นอน

รีวิวที่พักเสร็จงั้นไปลงเกาะกันครับ

เริ่มจากเส้นทางที่ 1 (เกาะเหลาลาดิง เกาะผักเบี้ย เกาะห้องลากูน เกาะห้อง)

รีวิวแต่ละเกาะกันครับ

เกาะเหลาลาดิงหรือเกาะ paradise ที่ชาวต่างชาติเรียกกัน เป็นเกาะเล็กๆที่สงบ จุดเด่นของกะนี้คือน้ำใส ปลาเยอะมากครับ และไม่กลัวคนเลย เจ้าปลาทั้งหลายว่ายมาเล่นกับคนแบบตอดเอาตอดเอาเลยครับ

เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะที่ทัวร์เค้าจะให้มารับประทานอาหารกลางวันกันครับ จุดเด่นของเกาะคือการถ่ายรูปสวยๆกับฉากหลังที่เป็นเกาะรูปร่างสวยๆ และมีลักษณะคล้ายๆทะเลแหวกครับ แต่ก็ต้องระวังเจ้าลิงจ๋อมาขโมยอาหารกินด้วยนะครับ 

เกาะห้องลากูน จุดนี้เราจะนั่งในเรือและถ่ายรูปบนหัวเรือ มีฉากหลังบนหมู่เกาะ ซึ่งสวยงามมากๆ ทัวร์แจ้งว่าจะมีอีกจุดคือที่พีพีลากูน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ไป จะได้รู้ว่าที่ไหนสวยกว่ากัน 

เกาะห้อง มีกิจกรรมให้ทำคือการปีนขึ้นเขาไปชมวิวแบบ 360 องศาซึ่งต้องบอกว่าเหนื่อยมากกกกก แต่ก็คุ้มค่าครับ แต่ถ้าใครไม่อยากเหนื่อย ก็ว่ยน้ำเล่นที่ชายหาดของเกาะห้องได้ครับ น้ำใส ถ่ายรูปสวยครับ

ครบแล้วครับสำหรับเส้นทางนี้ ก็ถือว่าไม่เร่งรีบมากมายจนเกินไป ได้ดื่มด่ำแต่ละที่อยู่พอควร ออกเดินทาง 9.00 กลับมาถึงฝั่งประมาณ บ่าย 3 ครับ 

มาเปรียบเทียบกันกับเส้นทางพีพีบ้างครับ

เส้นทางที่ 2 (เกาะไม้ไผ่ เกาะไวกิ้ง พีพีลากูน เกาะพีพีดอน เกาะลิง อ่าวมาหยา ดำน้ำ)

เกาะไม้ไผ่คือดีสุดครับในการเที่ยวของผมครั้งนี้ ทรายขาว ทะเลสวยมาก คือไม่รู้จะบรรยายยังไง แม้แดดจะแรงแค่ไหน แต่ก็ต้องสู้เพื่อรูปสวยๆครับ เกาะนี้สู้กับหลีเป๊ะ ตาชัย เกาะกระดาน ได้สบายครับ

เกาะไวกิ้ง เป็นเกาะสัมปทานรังนกครับ ได้แค่นั่ดูบนเรือนะครับสำหรับเกาะนี้

พีพีลากูน เมื่อเปรียบเทียบกับเกาะห้องลากูนแล้ว ที่น่สวยกว่ามากครับ น้ำทะเลคือใสมาก และลากูนก็กว้างมาก สวยครับ สวยมากจริงๆ เรือเยอะแยะทั้งหางยาวและสปีดโบท ทุกคนต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ ขอเก็บรูปสวยๆกับที่นี่บนหัวเรือ

เกาะพีพีดอนเป็นสถานที่ทานอาหารกลางวัน เกาะนี้มีที่พักเยอะครับ เกาะใหญ่และเป็นชุมชนชาวบ้านขายของที่ระลึกด้วย

เกาะลิง อันนี้ตามชื่อเลยครับ ลิงเยอะมาก เกาะนี้ก็ไม่ได้ลนะครับ ต้องนั่งดูลิงบนเรือ ลิงที่นี่ปีนหินเก่งมากครับ 

อ่าวมาหยา สถานที่ในตำนานของการถ่ายหนังระดับ Hollywood เรื่อง The Beach ที่นำแสดงโดย ลีโอนาโด้ ดีคาปริโอ คนมาเที่ยวเยอะจนอ่าวพัง ปะการังเสียหาย เลยต้องปิดให้พักฟื้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปิดครับ ผมเลยได้แค่ถ่ายรูปห่างๆจากบนเรือ แต่จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยมาเหยียบที่นี่แล้วครั้งนึง คือทรายขาวและหาดสวยจริงๆครับ

สำหรับเส้นทางนี้จะมีจุดให้ดำน้ำดูปะการัง 2 จุด ซึ่งต่างจากเมื่อวานที่ไม่มีดำน้ำดุปะการังสวยๆ แอบมีปลานีโมน่ารักๆด้วยครับ แต่ยังไงสำหรับการดำน้ำดูปะการัง ผมยังคงให้หลีเป๊ะเป็นที่ 1 ครับ

สรุปสำหรับเส้นทางนี้ผมว่าใช้เวลากับแต่ละที่น้อยไปหน่อยครับ ไม่ค่อยได้ดื่มด่ำกับแต่ละที่ น่าจะเหมาะกับคนที่เน้นที่เที่ยวเยอะๆ เส้นทางนี้จะกลับมาถึงฝั่งประมาณ 4 โมงเย็นครับ

เปรียบเทียบ 2 เส้นทางนี้แล้ว คงต้องขึ้นกับทุกคนนะครับว่าชอบแบบไหน ทั้ง 2 เส้นทางมีข้อดีข้อเสียกันคนละแบบ อ่านดูแล้วแลเห็นรูปประกอบแล้ว ลองดูนะครับว่าชอบแบบไหน 

อ้อ ลืมบอกนิดนึงว่าเส้นทางพีพีจะแพงกว่าเส้นทางเกาะห้องนะครับ ราคาสามารถดูจากหน้า web ของแต่ละบริษัททัวร์ได้เลยครับ

จบการรีวิวทริปนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วเจอกัน ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวครับ

ปล.ฝากเพจไว้สำหรับคนที่มีใจรักการท่องเที่ยวไว้แชร์ความประทับใจร่วมกันครับ 

https://www.facebook.com/jadtripkan