ทริปนี้เรามาแนะนำที่เที่ยวแบบสบายๆไม่ตรากตรำเหมือนทริปอื่นๆของเรากันบ้าง

--- เกาะสุกร จังหวัดตรัง เกาะทะเลใต้ สำหรับคนชอบธรรมชาติและผจญภัยเบาๆ อาหารซีฟู้ดสดๆ หรอยแรง มุมถ่ายรูปเพียบ มีทั้งวิวทุ่งนาและทะเลครบจบในเกาะเดียว ที่พักโฮมสเตย์หลายแบบ เกาะใกล้ฝั่ง เดินทางจากฝั่งแค่ 20 นาที มีเรือตลอด เดินทางสะดวกมาก

--- กิจกรรม นั่งรถซาเล้งเที่ยวรอบเกาะ มีทั้งเช่าขับเองและมีคนขับ ดูวิวทุ่งนาสวยๆที่จะเปลี่ยนเป็นสวนแตงโมหลังเก็บเกี่ยว วิวทะเล หรือจะปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซก็ได้ ค่าเช่าซาเล้งพาเที่ยวรอบเกาะอยู่ที่ราคา 400 บาท แต่ถ้าเช่าขับเองจะได้ใช้รถทั้งวันค่าเช่าอยู่ที่ 400 บาทเช่นกัน ตระเวนกิน อาหารตามร้านที่นี่ราคาไม่สูงเลย อย่าลืมสั่งอาหารพื้นบ้านรสชาติจัดจ้าน ไม่ต้องห่วงเรื่องความสดของวัตถุดิบอาหารทะเลเลย ยกขึ้นจากทะเลหน้าบ้านทุกวัน ซึมซับบรรยากาศท้องถิ่น เกาะนี้จะเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวแต่ยังมีบรรยากาศท้องถิ่นเต็มเปี่ยม ลองเที่ยวแบบช้าๆ สังเกตกิจกรรมคนบนเกาะ พูดคุยทักทายคนในท้องถิ่น ถามข้อมูลจุดเที่ยวต่างๆได้เลย เช่าเรือตกปลา ดำน้ำ เที่ยวเกาะเหลาเหลียงพี่ เหลาเหลียงน้อง ค่าเรือตกปลาประมาณ 3,000 บาท อุปกรณ์คันเบ็ดพร้อม ขึ้นอยู่กับว่าจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง มีอาหารเที่ยงที่ไต๋จะเอาปลาที่จับได้มาทำทานบนเรือด้วย ระหว่างทางเราเจอโลมาด้วยนะ รอบนี้ไต๋เรือพาเราไปตกปลาสากและหมึก มีทั้งหมึกกระดองและหมึกหอม ปลาที่ตกได้เอาไปทำกินได้ 

--- ที่พัก บนเกาะมีที่พักหลายที่ เราพักที่ ทรายทองบีช รีสอร์ท มีห้องสำหรับมาเป็นคู่และเป็นกลุ่ม บ้านด้านหน้ามี 4 ห้องนอนสามารถพักได้ 10 คน ราคา 4,000 บาท และสามารถเสริมเตียงได้ถึง18 เตียง เตียงเสริมเตียงละ 300 บาท หากไม่ต้องการบ้านใหญ่สามารถพักห้องเล็กทางด้านหลังซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้อง ราคาห้องละ 1,200 บาท มีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ตอนนี้มีโปรโมชั่น 1,000 บาทรวมอาหารเช้า จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่พักเป็นห้องแอร์และมีเครื่องทำน้ำอุ่น ดูรูปที่พักและติดต่อจองได้โดยตรงเลย ทรายทอง บีช รีสอร์ท Saithong Beach Resort

--- การเดินทาง ตรัง - ท่าเรือตะเสะ - เกาะสุกร รถตู้ตรัง-ย่านตาขาว ไปลงที่ตลาดย่านตาขาวแล้วต่อรถสองแถวสายย่านตาขาว-ปากปรน-ท่าเรือตะเสะ ระยะทางประมาณ 50 กม. เหมาแท็กซี่จากตรังมาท่าเรือเลย แนะนำวิธีนี้ สะดวกสุด ประมาณ 500 บาท ค่าเรือระหว่างท่าเรือตะเสะ - เกาะสุกร คนละ 30 บาท/เที่ยว เรือมีตลอด หรือหากมาเป็นกลุ่มสามารถเหมาได้ในราคา 250 บาท ค่าที่จอดรถแถวท่าเรือประมาณวันละ 60 บาท

วันแรกเรามาถึงช่วงบ่าย ตอนเย็นก็ได้มาฝากท้องกับร้านนี้ ชื่อร้าน 'เรือนไม้คาเฟ่' จุดเด่นของร้านนี้คือเป็นร้านที่ตกแต่งปรับปรุงร้านอยู่ตลอดแบบ never ending มาอีกทีหน้าร้านอาจไม่ใช่แบบนี้นะ ร้านนี้จะอยู่ลึกเข้ามาในเกาะหน่อยนึงและต้องพารถมาด้วย บรรยากาศดีเลย ตรงข้ามร้านเป็นทุ่งนา

ร้านนี้มีอาหารหลายอย่างและอาหารที่เป็นซีฟู้ดก็ราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับความสด รสชาติ และปริมาณ เจ้าของร้านก็ฮาและเป็นกันเอง

หุ้นส่วนใหญ่ของร้าน แต่เหมือนเจ้าของร้านตัวจริงมากกว่า

มาใต้แล้วต้องแวะร้านโรตี หลังจากร้านแรกเราก็มาต่อที่นี่ โรตีบังจอน

แล้วสารพัดโรตีก็ตามมา เมนูโรตีเป็นสิบเลย โรตีระเบิด โรตีตบ กรอบ ใส่ไข่ ไข่ดาว ใส่กล้วย ใส่แยม ชีสพริกเผา เสียบไม้ etc. นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารพวกเบอร์เกอร์อีก เบอร์เกอร์ก็สาระพัดเมนูเหมือนกัน

อาหารเช้าของวันที่สอง เรามาลองกันที่ร้านน้ำชาซึ่งขายพวกโรตีอาหารเช้า กาแฟ ขนมจีบ ปาท่องโก๋ ร้านที่นี่เปิดกันตั้งแต่หัวรุ่ง เช้ามากๆ นักท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวมาก่อนร้านเปิด

วันนี้เราจะออกทะเลกัน ได้จองเรือเที่ยวเกาะและตกปลาไว้ล่วงหน้า ใครจะมาเที่ยวออกเรือแนะนำให้จองเรือไว้ก่อนนะ ลองสอบถามกับที่พักดู

วันนี้ไต๋เรือจะพาเราไปตกปลาสากและหมึก เริ่มต้นที่ตกปลาสากก่อน ไต๋เตรียมปลาหมึกมาทำเหยื่อ ชิ้นใหญ่หน่อยเพราะปลาพวกนี้ปากกว้าง ฮุบเหยื่อค่อนข้างมูมมาม

สักพักก็ตกได้ นี่แค่ไซส์เล็กๆ มือใหม่ก็ตกได้

ตกไปสักพัก พอปลาเริ่มไม่กินเหยื่อก็ย้ายที่ตกใหม่ พอใกล้เที่ยงไต๋ก็เอาปลาที่ตกมาทำกับข้าว

บังทำมาสองเมนู ปรุงจากปลาเพิ่งที่ตกได้ทั้งสองเมนู ดูง่ายๆแต่อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก

ทานเสร็จแล้วก็ย้ายที่ตกปลา แต่รอบนี้จะเปลี่ยนมาตกหมึก

แป๊บนึงก็ได้มาตัวนึง

บังตกได้เรื่อยๆ เราก็นั่งมองตาปริบๆเพราะตกได้แต่แห้ว

คงเห็นเรานั่งแบบหัวใจแหลกสลายเพราะตกไม่ได้ บังเลยจัดการทำซาซิมิมาให้ ความดิบเยียวยาได้ทุกสิ่ง รวมถึงหัวใจที่บอบช้ำ ส่วนวาซาบิสามารถช่วยรีดน้ำตาที่ตกค้างอยู่ให้มันไหลออกมา อิหยังวะ!

แต่บังก็ยังไม่หยุด

สักพักก็เจอฝนถล่มซะงั้น จริงๆช่วงที่เราไปคือช่วงที่มรสุมฝั่งอันดามันควรจะหมดแล้ว เราก็เลยมุ่งหน้ากลับฝั่ง ฝนตกกลางทะเลไม่ต้องกลัวถ้าไม่มีลม อย่างมากก็แค่เปียก นั่งเปียกๆตัวสั่นงกๆกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย สบายๆ 

พอถึงฝั่งบังก็เอาผลงานมาวางเรียง ฝีกมือบังและเพื่อนบังซัก 95%

ปลาสากก็ตกได้เยอะ เจ้าตัวใหญ่สุดนั่นใช้เหยือชิ้นใหญ่แล้วใช้เรือลากไปเรื่อยๆให้ปลาเข้ามาติดกับ ตัวก่อนหน้างับเหยื่อขาดสองท่อน อย่างโหด

วันนี้ก่อนหมดวันเจ้าของบ้านนำเมนูสุดยอดมาให้เราลองทาน มันคือ................. จ๊อโครตปู เกาะสุกร โคตรปูสมชื่อ ดูปริมาณของปูได้จากภาพ ถ้าจะยังไม่ได้ไปเร็วๆนี้แนะนำให้สั่งมาลองก่อน ทำจากเนื้อปูสดๆแน่นอน จัดส่งทั่วประเทศ

แผ่นห่อทำจากฟองเต้าหู้บางๆกรอบๆ เนื้อปูอุ่นๆที่ฟุ้งอวลอยู่ในปาก โอยย
สรุปวันนี้อิ่มอร่อยทุกมื้อตั้งแต่เช้ายันจะเข้านอน ใครจะมาเที่ยวเกาะนี้เตรียมมารับมือกับเมนูพวกนี้ด้วยนะ สุดมาก

ไม่ได้สปอนเซอร์นะ แต่นี่คืออร่อยจริง ถ้าไม่เชื่อลองไปกินที่เกาะได้เลย
ภาพประกอบฉกมาจากทางร้าน

เช้านี้เป็นเช้าสุดท้ายของเราก่อนกลับละ เราได้เพื่อนใหม่่เป็นคนพาเที่ยวรอบเกาะ หากใครมาเองสามารถขี่มอเตอร์ไซเองได้เลยเพราะมีถนนหลักอยู่เส้นเดียว ซึ่งถนนนี้จะพาเราไปชุมชนต่างๆที่กระจายทั่วเกาะ

งานอาร์ตบนเกาะ เป็นงานของกลุ่มศิลปินบนเกาะสร้างสรรค์ขึ้นมา มีตามจุดต่างๆบนเกาะ งานชิ้นนี้มาจากซากเรือเก่า

วิวจากท่าเรืออีกฝั่งของเก่า

ถนนที่พาเราวนไปรอบเกาะ

ทุ่งนาและท่าเรือระหว่างทาง

มาดูรูปที่พักกันบ้าง ทรายทองบีช รีสอร์ท

แต่ละห้องมีภาพเพ้นต์มือแตกต่างกันไป

ห้องเตียงเดี่ยว ภาพประกอบฉกมาจากทางรีสอร์ท

สรุปคือเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับทุกคนเพราะมีกิจกรรมหลากหลาย ของกินหาง่าย เดินทางสะดวก มุมถ่ายรูปเพียบ ใครอยากหาเกาะที่มีความเป็นชุมชนอยากให้ลองมาที่นี่ดู แต่ถ้าใครอยากไปที่ที่ดิบกว่านี้ ตามมาดูทริปที่เรามีใน page ต่อเลย

https://www.facebook.com/folkationthailand

Folkation

 วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.15 น.

ความคิดเห็น