เมื่อพูดถึงอาหารอินเดีย หลายคนต้องนึงถึงอาหารที่จัดเต็มในความเป็นเครื่องเทศทั้งกลิ่น ทั้งรสชาติ แล้ววันนี้พวกเราจะพาไปชิมอาหารอินเดียกัน แต่ต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่าปกติแล้วจะไม่ใช่ทางของเราเท่าไร แต่เราลองเปิดใจกับอาหารอินเดียอีกสักครั้งที่ ร้าน " Masala Cafe "

" Masala Cafe "

  • ที่ตั้งอยู่ที่ตึก Fourtune Condition ในซอยนราธิวาส 24
  • การเดินทางสะดวกสามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วต่อ BRT มาลงที่นราธิวาส 24 เดินเข้ามาในซอยประมาณ 400 เมตร หรือถ้าใครที่ขับรถมาก็สามารถมาตาม Google map ได้เลย
    Google map : https://goo.gl/maps/4ZGqQmhQZhLTSkox7
  • เบอร์โทรศัพท์ 099-2900983
  • Facebook Masala cafe bangkok

แปลกใจใช่มั้ยไหนว่าพามากินอาหารอินเดีย แล้วทำไมถึงเป็นคาเฟ่ได้ คือโดยปกติแล้วร้านอาหารอินเดียก็จะมีการตกแต่งที่มีความเป็นอินเดียจ๋าๆ แต่ร้านนี้ตั้งใจตกแต่งให้ดูเป็นกลิ่นอายของคาเฟ่ ไม่ฉูดฉาด อยากให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าอยู่ในร้านอาหารอินเดีย ( อันนี้มาจากการสอบถามพี่เจ้าของร้านมา ) ส่วนอาหารของที่นี่นอกจากจะมีอาหารอินเดียแล้ว ก็ยังมีทั้งอาหารฝรั่ง, ไทย เผื่อใครที่ทานอาหารอินเดียไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีทางเลือกอื่นได้

เราเข้ามาดูภายในร้านกันเลยดีกว่า บรรยากาศภายในร้านก็จะสบายๆ มีโต๊ะอยู่ประมาณ 7 โต๊ะ มองเข้ามาจะเห็นเป็นรูปเพ้นท์ที่เป็นผีเสื้อ ดอกไม้

อาหารของเราก็มาเสริฟแล้วเรามาเริ่มชิมกันเลยดีกว่า

เริ่มกันด้วยเมนูไก่ย่าง (Tandoori chicken) เป็นการนำไก่ไปหมักเครื่องเทศแล้วนำไปย่าง กลิ่นคล้ายๆ ขมิ้นบางๆ ส่วนซอสสีเขียวทำมาจากใบมิ้นต์ มีมะนาวซีกให้ด้วย 

ไก่เนื้อนุ่มดี มีกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ ซอสมิ้นต์แปลกดี เจ้าของร้านบอกว่าให้บีบมะนาวใส่ไก่นิดหน่อย แล้วจิ้มซอสตามชอบ พอลองทำตามแล้วอร่อยเข้ากันมากๆ

ต่อมาเป็นข้าวหมกไก่สไตล์อินเดีย กับซอสนมเปรี้ยว (Chicken biryani) ดูเผินๆ ก็เป็นข้าวหมกไก่ธรรมดา แต่ที่แปลกตาไปก็คือเสริฟมาพร้อมกับซอสนมเปรี้ยวเนี่ยแหละ มาลองชิมข้าวกันก่อนเลย ข้าวหุงได้ดี ไก่ที่อยู่ในข้าวก็นุ่ม มีกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ ต่อมาลองชิมซอสนมเปรี้ยวบ้าง รสชาติตัวซอสเป็นแบบโยเกิร์ตรสธรรมชาติประมาณนั้น พอมาทานด้วยกันกลายเป็นว่าตัดเลี่ยนได้ดี อเมซิ่งอินเดียมากๆ เลย

จานต่อมาเป็นจานคลาสสิคของอาหารอินเดียเลย แป้งนาน (Butter naan) ที่เสริฟพร้อมกับแกงถั่ว (Daal makhani) และแกงไก่ (Butter chicken) ความคลาสสิคนี้ ช่างเป็นความอร่อยที่อมตะ ความเข้ากันของแป้งและกลิ่นจากเครื่องแกง จริงๆ เซ็ตเดียวก็อิ่มจุใจแล้ว ส่วนตัวพวกเราชอบแกงไก่มาก

ต่อไปจานเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยรสชาติจริงๆ ขอเรียกว่า กะหรี่ปั๊บอินเดีย (Samosa) ละกัน อันนี้เป็นไส้มันฝรั่ง รสชาติจริงๆ ก็คล้ายกับกะหรี่ปั๊บไส่ไก่บ้านเราเลย แต่กลิ่นเครื่องเทศสุดกว่า แถมน้ำจิ้มมะขามเปียกเปรี้ยวๆ หวานๆ มันช่างเข้ากันอย่างน่าแปลกจริงๆ ถ้าไม่อิ่มจุกจะสั่งเพิ่มเลย

ละก็มาถึงของคาวจานสุดท้าย เขาว่าเป็นจานที่นิยมมากๆ ที่อินเดีย ( Plain dosa ) เป็นแป้งที่มีกลิ่นเฉพาะตัวมากๆ เกือบกินไม่ได้เพราะกลิ่นฮ่าๆ แต่พอจุ่มๆ จิ้มๆ กับซอสไปก็อร่อยดีเหมือนกันนะ

เครื่องเคียงจะเป็นมันฝรั่ง ซอสมะพร้าว ซอสมะเขือเทศ มันฝรั่ง และซุปถั่วของอินเดียจะเผ็ดๆ หน่อย กินไปงงไปว่าต้องกินยังไง แต่โดยรวมก็อร่อยดี

ดูโต๊ะเราสิ จะกิน 2 คนยังไงหมดเนี่ยเยอะขนาดนี้ แต่บอกเลยอร่อยทุกจานจริงๆ เปิดโลกใหม่เลย

ทานของคาวไปกันจนจุกแล้วเรามาปิดท้ายด้วยของหวาน ( Gulab jamun ) เป็นนมที่เอาไปทอด แล้วราดด้วยน้ำเชื่อม ก็จะได้ขนมของดีอินเดีย รสชาติก็หวานๆ มันๆ แถมหอมนม เป็นขนมล้างปากได้ดีมากๆ เลย

เป็นยังไงกันบ้างกับอาหารอินเดียที่เราพามาวันนี้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานอาหารอินเดีย แล้วอยากจะลองสามารถมาลองทานกันได้ที่ร้าน Masala cafe นี้ได้เลย นอกจากเราจะได้ทานอาหารอร่อยๆ แล้วเรายังได้คำแนะนำในการทานอาหารอินเดีย วิธีการทานที่ถูกต้องจากพี่เจ้าของร้านอีกด้วย

เราก็ต้องขอบคุณพี่เจ้าของร้าน Masala cafe มากๆ ที่ชวนเราไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในครั้งนี้ ทำให้เรามีมุมมองกับอาหารอินเดียที่ดีขึ้น ขอบคุณมากครับ แล้วเราจะชวนเพื่อนๆ ของเราไปทานกันอีก

เที่ยวแบบเรา : Once-a-month

 วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เวลา 13.10 น.

ความคิดเห็น