เที่ยวทิพย์ในกรุงเทพฯ เพราะทริปต่างจังหวัดล่มหมดเลย

ฮ่าๆๆๆ โชคดียังพอมีสถานที่ให้เราไป staycation

อย่าง Loy La Long Hotel โรงแรมเล็กๆ สุดไพรเวท

ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ใครได้ไปก็ต้องตกหลุมรัก <3

แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกัน แถมที่นี่ยังเคยใช้

ถ่ายหนังเรื่อง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ”

เป็นบ้านของ เคน ธีรเดชด้วยนะ! *O*

ออกจากบ้านทั้งที Bliss Out There เราก็ต้อง

แวะคาเฟ่!5555555 ไม่แวะไม่ได้จริงๆ เพราะ

2 ร้านนี้อยู่ใกล้กับที่พักเลย นั่นก็คือ

Malee Brew & Bloom และ ARBOR café

and cooking studio รายละเอียดเรื่องการเดินทาง

ราคาห้องพัก ฯลฯ อ่านได้ในรีวิวนี้เลยจ่ะ : )

ทริปนี้ เราทำ vlog Q & A ตอบคำถามที่

คนที่ติดตามเราบน IG “blissoutthere”

ส่งมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำเพจ

เรื่องการเรียน การทำงานที่ออสเตรเลีย

เข้าไปดูไปฟัง คำตอบได้ใน vlog นี้เลย

https://www.facebook.com/111476199189252/videos/229511072282658

ก่อนจะเข้าที่พัก เรามาแวะคาเฟ่ร้านแรกกันค่ะ…

MALEE BREW & BLOOM.
ร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็กๆ

ที่มีเสน่ห์ด้วยดอกไม้… ในขณะที่วัฒนธรรมกินกาแฟ

เข้าคาเฟ่ กำลังเติบโตไม่หยุด มีคาเฟ่เปิดใหม่อยู่ตลอด

แต่นานๆทีเราจะเห็นคาเฟ่ที่แตกต่างจากร้านอื่นจริงๆ

และมี conceptชัดเจนเหมือนร้านนี้ ^^

เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับดอกไม้สดที่ตกแต่งอยู่รอบๆ

ไม่ว่าจะบนพื้น บนเพดาน หรือบนโต๊ะ ทำให้ร้านนี้

ดูมีชีวิตชีวาอยู่ตลอด แถมขนม และเครื่องดื่ม ก็มี

ดอกไม้เป็น inspiration <3

– ที่อยู่ : หัวมุมสี่แยกบ้านหม้อ เขตพระนคร

(ใกล้ MRT สนามไชย)

– เปิด / ปิด : อ – ศ 11.00 – 19.00, ส – อา 10.00 – 19.00 (หยุดวันจันทร์)

– FB : https://www.facebook.com/malee...

เราลองเครื่องดื่มไป 2 ตัว คือ

Premium Hojicha Latte 150 บ.

และ Rose Sparkling 110 บ.

ตัวแรกละมุนมาก ไม่หวานเกินไป

ตัวที่สองก็ชื่นใจ ดื่มได้เรื่อยๆเลยยยย >//<

จาก Malee Brew & Bloom เราเรียก taxi

เข้าที่พัก หรือ Loy La Long Hotel

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว… ขอเม้าหน่อย!

ทางเข้าที่พักแอบลึกลับ ฮ่าๆ เพราะถ้าเราตาม

google map มา เราจะมาโผล่ ที่หน้าวัดๆหนึ่ง

บนถนนทรงวาด อย่าคิดว่าที่พักจะอยู่ซอยข้างวัดจ่ะ..

ทางเข้าที่พักอยู่ในวัดเลย เดินตรงเข้ามาในวัดเลย

ด้านหลังสุด จะเจอป้าย เขียนชื่อที่พัก

เดินตรงเข้าไปในซอกเล็กๆก็จะเจอค่ะ : D

เข้ามาถึงก็ลงทะเบียน วัดอุณหภูมิร่างกาย

ให้เรียบร้อย และเข้ามานั่งชิลล์ตรงส่วนกลางก่อน

แล้วพนักงานจะเอา welcome drink + เอกสาร

มาให้เรากรอก แล้วเราจะได้เลือกว่ามื้อเช้า

จะทานอะไร ตามลิสต์ที่เค้ามีให้ค่ะ

ป.ล. ที่นี่เช็คอินได้ 14.00 น. น้า

ระเบียงริมน้ำ ต่อจากห้องนั่งเล่นชั้นแรกเลย

จะนั่งเบาะที่เค้ามีให้ นอนเปล หรือนั่งห้อยขา

แบบนี้ก็ได้ ชิลล์ไม่ไหวววววว >//<

ผนังด้านหนึ่ง มีรูปจากหนังเรื่อง

รถไฟฟ้ามาหานะเธอติดอยู่เต็มเลย

ใครเคยดูและยังจำหนังเรื่องนี้ได้บ้าง?

นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว เราก็ขึ้นมา

สำรวจชั้นสองกันต่อ… มุมถ่ายรูปเยอะ

ไม่แพ้ชั้นหนึ่งเลยจ่ะ อยากมีบ้านแบบนี้เลย

บ้านๆ อบอุ่น แต่อาร์ต <3

มุมนั่งเล่นเยอะมาก ไม่ต้องกลัวว่า

จะไม่มีที่นั่งค่ะ เพราะทั้งโรงแรมมีห้องพัก

แค่ 6 ห้องเท่านั้น และดูจากรูปในรีวิวนี้สิ…

เหลือเฟือมาก

และนี้ก็คือออออออออ ห้องที่เราพักค่ะ

Blue Room / ห้องสีฟ้านั่นเองงงง

ทั้งห้องตกแต่งด้วยธีมสีฟ้า มองไปมุมไหน

ก็สบายตาไปหมดเลย ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ที่สำคัญคือ ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก

ครบมากๆค่ะ ตู้เย็นเล็ก ที่เป่าผม ผ้าเช็ดตัว

ผ้าเช็ดหน้า ไม้แขวนเสื้อ ฯลฯ

ห้องนี้ราคา 3,000 บ. / คืน ในวันจันทร์ – พฤหัส

3,400 บ. / คืน ในวันศุกร์ – อาทิตย์ค่ะ

ราคารวมอาหารเช้าแล้วน้า

จอง/สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/loylalong เลย

ห้องน้ำสวย วินเทจมาก และยังคงไม่หลุดธีมสีค่ะ

ที่ชอบสุดๆคือ shower gel หอมม๊ากกกกกก

หลังจากเก็บของ นอนพัก ชาร์จแบตกล้องกันแล้ว

ก็ได้เวลาอาหารเย็นค่ะ! มื้อนี้เรามาฝากท้องกันที่

1608 Café & Bistro
ร้านอาหารบรรยากาศดี

ใกล้ๆที่พักเราเลย เดินมาแค่ 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว

ร้านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกันค่ะ และ

อาหารก็อร่อยม๊ากกกก ก.ไก่สามสิบล้านตัวไปเลย!!

– ที่อยู่ : ถนนทรงวาด (ทางเข้าร้านอยู่ซอยข้างวัดค่ะ)

– เปิด / ปิด : 11.00 – 23.00 น. (หยุดวันจันทร์)

*เวลาเปิด/ปิด ปรับเปลี่ยนตามกฏระเบียบช่วงโควิดค่ะ*

– เบอร์ร้าน: 091 936 1632

เราสั่งหมูสามชั้นทอด ข้าวกะเพราไก่+ไข่ข้น

และยำวุ้นเส้นค่ะ บอกเลยว่า เค้าให้เยอะมากกก

2 คน 3 อย่างไม่หมด : D กับอร่อยมาก ทุกอย่าง

ไม่ได้อวย! อร่อยจริงเลยมาบอกต่อ บิลออกมา

710 บ. ค่ะ ราคาแรง น่าจะเพราะโลเคชั่นร้านด้วย

แต่ถามว่า”คุ้มมั้ย?” ตอบเลยว่า “มาก!”

ตัดภาพมาที่เช้าวันต่อไป

ตื่นมาเจอบรรยากาศแบบนี้ มันช่างดีต่อใจ

ไม่ต้องไปพักไกลๆหรอก แค่นี้ก็พอแล้ว :’)

มื้อเช้าของเรากับเพื่อน คือเซ็ตไข่ดาวน้ำ

+ ผักสลัด และเซ็ตไข่กระทะ + ขนมปัง

เครื่องดื่มสามารถเลือกได้ ระหว่างกาแฟ

กับน้ำส้มค่ะ… เอาจริง วิวนี้ กินอะไรก็อร่อยหมดอ่ะ ^^

จัดไปอีกรูปกับวิวแม่น้ำ ^^

IG เรา : https://www.instagram.com/blissoutthere/

ทานมื้อเช้าเสร็จ ชิลล์อีกหน่อย เราก็เช็คเอ้าท์

และเดินมาหากาแฟอร่อยๆทานต่อที่คาเฟ่ใกล้ๆค่ะ

(ใกล้มาก เดิน 4 นาทีถึง!) ARBOR café & cooking studio

ร้านนี้เพิ่งเปิดไปไม่นานค่ะ ตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย

ผสมผสานความไทยและจีน เข้ากันได้อย่างลงตัว

มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ถูกใจ cafe hopper แน่นอน

เมนูขนมและเครื่องดื่ม ก็แปลกใหม่ ราคา

สมเหตุสมผล ที่สำคัญร้านนี้เป็น cooking studio ด้วย

ใครอยากทำขนมพิเศษให้คนพิเศษ ก็ไปเรียนที่นี่ได้

ทักไปถามรายละเอียดที่ ig / fb ร้านเล้ยย

– ที่อยู่ : ถนนทรงวาด (หัวมุมปากซอยเจริญพานิช)

– เปิด / ปิด : 9.00 – 18.00 น. ทุกวัน

– FB : https://www.facebook.com/ARBOR-cafe-and-cooking-studio-105095804433199

ที่นั่งจะอยู่ชั้นสองนะคะ นี่รู้สึกว่าเค้าจัดสรรพื้นที่

ดีมาก มีโต๊ะให้นั่งหลายมุมและมีดอกไม้ ต้นไม้

ตกแต่งอยู่รอบๆ ทำให้ร้านดูมีชีวิตชีวามากๆเลย : )

เราลอง Matcha Green Tea 145 บ.

กับ Brown Sugar Latte 135 บ.

Matcha ได้คุณภาพตามมาตรฐานคาเฟ่ที่ดี

ส่วนตัว กาแฟผสมน้ำตาลทรายแดงและ

ไข่มุกรส brown sugar เพิ่งลองที่นี่ที่แรก

อร่อย หวาน เคี้ยวเพลินๆดี : p

จบแล้วกับการ #เที่ยวทิพย์ #พักผ่อนทิพย์

แบบสั้นๆ ในกรุงเทพฯ ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะ

ไว้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยไปเที่ยวแบบจริงๆจังๆ

พยายามออกจากบ้านให้น้อยที่สุด เพราะแค่คุณ

ดูแลตัวเอง ก็เหมือนคุณได้ดูแลคนที่บ้าน

คนรอบๆตัวคุณด้วย <3

สุดท้าย ฝาก vlog Q&A เที่ยวไป ตอบไป ของเราด้วย

https://www.facebook.com/111476199189252/videos/229511072282658

ตอบทุกคำถามที่คนส่งมาบน IG : blissoutthere ไม่ว่าจะ

เรื่องเรียนที่ออสเตรเลีย หรือ เรื่องการทำเพจ Bliss Out There

https://www.facebook.com/BlissOutThere/

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า ขอบคุณค่ะ ^^

Bliss Out There

 วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 11.44 น.

ความคิดเห็น