#รีวิว เเบ๊คเเพ็คทริปสังขละบุรี 3วัน2คืนกับงบ 2,000 บาทมีทอน
-ทริปนี่เราเดินทางโดยรถไฟ
-ต่อรถตู้จากกาญ - สังขละบุรี
-เช่ามอไซร์เที่ยวตลอด3วัน
-ค้างคืนโฮมสเตย์ราคาหลักร้อยวิวหลักล้าน #โครตฟิน !!
#จุดไฮไลท์ของอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัส นอกจากวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมชาติที่น่าประทับใจแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดต่างๆ ดังนี้
#สะพานมอญ สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่เรียกกันว่า เป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทยที่มีความยาว 850 เมตร เป็นสะพานที่ใช้ข้าม แม่น้ำซองกาเลีย ระหว่างสังขละ-หมู่บ้านมอญ ถือเป็นไฮไลท์และมนต์เสน่ห์ของสังขละบุรี ใครมาสังขละเเล้วไม่ได้เเวะสะพานมอญคือคุณมาไม่ถึง
#วัดวังก์วิเวการาม หรือที่คนมอญเรียกกันว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นเเหล่งศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอสังขละบุรีมาอย่างยาวนาน
#เจดีย์พุทธคยา จำลองจากของจริง เป็นเจดีย์สีทองอร่าม เราสามารถเห็นได้เเต่ไกลจากตัวอำเถอสังขละบุรี
#กิจกรรมล่องเรือ ท่องเที่ยวเเม่น้ำซองกาเรียชมวัดใต้น้ำ
#ตลาดนัดคนเดินสังขละบุรี เเนะนำหมูจุ่มพม่าไม้ละบาท
#ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นจึดไฮไลท์อีก1จุดที่เราสามารถเเวะซื้อของฝากเเละข้ามไปเที่ยวประเทศพม่าได้
#น้ำตกนพพิบูรณ์ น้ำตกที่เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นานนี้ สามารถเล่นน้ำชมธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
การเดินทาง (ขนส่งสาธารณะ) #รถทัวร์สามารถขึ้นรถที่หมอชิตใหม่ รถทัวร์ บขส.999 กรุงเทพฯ - ด่านเจดีย์สามองค์ไปลงที่อำเภอสังขละบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 - 7 ชั่วโมง
#รถตู้ ขึ้นได้ที่หมอชิต,สายใต้ใหม่,สายใต้เก่า (เท่าที่รู้ครับ^^) กรุงเทพ-กาญจนบุรี แล้วต่อรถตู้จากกาญจนบุรี-สังขละบุรี รวมเวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง
#รถไฟ สำหรับคนที่ชอบสโลไลฟ์สามารถขึ้นจากต้นทางสถานีธนบุรี มาลงที่สถานีน้ำตกใช้เวลาเดินทางประมาณ5ชั่วโมง เเล้วต่อรถตูัที่หน้าน้ำตกไทรโยคเข้าอำเภอสังขละใช้เวลาประมาณ2-3ชั่วโม'
เเนะนำที่พัก
#พีเกสเฮาท์รีสอร์ท เพราะเราทาพักเเล้วยอมรับเลยว่าที่นี้เค้าได้ขื่อว่า #ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน จริงๆครับ
พิกัด
https://goo.gl/maps/XCFy1Br4Y8m3DnRp7
![](/f/38170/60fc06d62f04971c3a4f76d5.jpg)
![](/f/38170/60fc06fe4faadf1c186db223.jpg)
Day 1.....
เราเริ่มต้นกันที่ สถานีรถไฟ ธนบุรี เพื่อเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี โดยขบวนรถธรรมดาที่ 257 ต้นทางธนบุรี -น้ำตก ออกจากธนบุรีรอบเวลา 07.50 น. บอกเลยว่าค่ารถไฟถูกโครตตตต 25 บาทเท่านั้นเอง
![](/f/38170/60fc09110d31db1c347c9ed3.jpg)
การนั่งรถไฟเป็นสิ่งที่เราชอบมาก เพราะการเดินทางโดยรถไฟเหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางเเบบไม่เร่งรีบเเบบเรา ได้เห็นวิถีชุมชน 2ข้างทางตลอดเส้นทาง
![](/f/38170/60fc092e2f04971c3a4f76d6.jpg)
บนขบวนรถไฟ ขบวนที่เราใช้บริการยังคงความคลาสสิคโดยการพ่วงตู้เเบบเก้าอี้ม้านั่ง ทำให้เราค่อนข้างตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้พอสมควร
![](/f/38170/60fc09444faadf1c186db224.jpg)
07.50 น.รถไฟออกตามเวลา รถไฟค่อยๆวิ่งผ่านวิวทุ่งนา สลับกับภูเขาลูกนั้นทีลูกนู้นที ทำให้เรารู้สึกว่า
" ร ะ ห ว่ า ง ท า ง มันเพลิน จนลืมว่า ร ะ ย ะ ท า ง มันไกลเเค่ไหน"
![](/f/38170/60fc095a2f04971c3a4f76d7.jpg)
หนึ่งไฮไลท์ของทางรถไฟสายน้ำตกเราจะผ่านสะพานข้าวเเม่น้ำเเคว เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยเเละชาวต่างชาตินิยมนั่งรถไฟมาเที่ยวกันที่นี่
![](/f/38170/60fc09d30d31db1c347c9ed4.jpg)
การเดินทางโดยรถไฟทำให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ เเบบนี้
![](/f/38170/60fc09fc4faadf1c186db225.jpg)
ไฮไลท์สำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้คือ สะพานถ้ำกระเเซ หรือที่เรียกกันว่าสะพานมรณะ (จุดนี้เราจะผ่านตอนขากลับนะครับ เพราะขาไปเราลงเเค่สถานีกาญจนบุรีครับ)
![](/f/38170/60fc0a150d31db1c347c9ed5.jpg)
ใครผ่านจุดนี้นิยมเก็บภาพเป็นหนึ่งในคงามทรงจำเสมอ
![](/f/38170/60fc0a3f4faadf1c186db227.jpg)
วิวเเบบนี้ต้องเดินทางด้วยรถไฟเท่านั้นครับ
![](/f/38170/60fc0a710d31db1c347c9ed6.jpg)
จุดนี้เราสามารถลงรถไฟเพื่อไปไหวสักการะ พระในถ้ำกระเเซหรือเดินถ่ายรูปบนสะพานรถไฟได้(ควรใช้ความระมัดระวัง)
![](/f/38170/60fc0a840d31db1c347c9ed7.jpg)
เอาละเข้าเรื่องกันดีกว่า รถไฟถึงกาญจนบุรีในเวลา10.35 น. เราลงรถไฟก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดไข้ เเละเราก็ส่งใบที่กรอกรายละเอียดจากสถานีต้นทางหย่อนลงที่สถานีนี้ครับ
![](/f/38170/60fc0a9d0d31db1c347c9ed8.jpg)
อยากบอกว่าสถานีกาญจนบุรีเป็นอีก1สถานีที่นักท่องเที่ยวนิยมลงมากเป็นอันดับต้นๆของเส้นทางสายน้ำตกเลย
![](/f/38170/60fc0ab70d31db1c347c9ed9.jpg)
เราขึ้นรถสองเเถวจากหน้าสถานีรถไฟกาญฯ มาลงที่ บขส.กาญฯ ในราคาคนละ 10 บาท รถใช้เวลาวิ่งประมาณ 15นาทีครับ
![](/f/38170/60fc0ace0d31db1c347c9eda.jpg)
พอถึง บขส.กาญฯ เราก็ต่อรถตู้เข้าสังขละบุรี คาโดยสารคนละ 180 บาท รถใช้เวลาวิ่ง 3ชั่วโมงครึ่งครับ
![](/f/38170/60fc0ae80d31db1c347c9edb.jpg)
เราถึงสังขละบุรีในเวลา 16.00 น.เราก็นั่วพี่วินมอไซร์คนละ20 บาท มาลงที่ พีเกสเฮาท์รีสอร์ท บอกเลยว่าที่นี่ราคาหลักร้อย วิวหลักล้านจริงๆ
![](/f/38170/60fc0afc4faadf1c186db228.jpg)
ที่นี่สามารถนำเต้นท์มากางนอนได้ด้วยนะครับส่วนเราพักห้องพัดลมเป็นห้องเตียงคู่ วิวบอกเลยว่าสวยโครตๆๆ ในราคาคืนละ 350 บาทเท่านั้น ห้องแอร์ 750 บาท
![](/f/38170/60fc0b0f4faadf1c186db229.jpg)
ตกเย็นเราเช่ามอไซร์ของทางที่พักไว้เที่ยวตลอดทริป ค่าเช่าวันละ 200 บาท ตอนเช่าน้ำมันเต็มถัง ตอนคืนก็ต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังด้วยนะครับ
..... เราเเว้นมอไซร์มากันที่สะพานมอญเพื่อดูวิวตอนเย็น บอกเลยว่าบรรยากาศ้ย็นสบายดีมาก
![](/f/38170/60fc0b572f04971c3a4f76da.jpg)
จุดไฮไลท์สำคัญของสังขละบุรี แท่นเเท้นนนน “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 445 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2528 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี
![](/f/38170/60fc0b722f04971c3a4f76db.jpg)
สะพานมอญ ถ้ามาช่วงเย็นๆนี่บอกเลยว่า ฟินโครตตตต เราจะได้เห็นวิถีชาวบ้าน เห็นเด็กกระโดดน้ำ ท้องน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา โดยมีภูเขาเป็นภาพพื้นหลัง เเดดร่มลมตกนี่บอกเลยว่าฟิน ^^
![](/f/38170/60fc0b9b0d31db1c347c9edd.jpg)
สะพานมอญเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดนักถ่ายภาพนักต่อนักให้มาเก็บภาพพระอาทิตย์ตกที่นี่
...... เริ่มหิวเราก็ไปตลาดสิครับ จุดศูนย์รวมสำคัญอีกเเห่งหนึ่งของสังขละคือ ตลาดโต้รุ่งครับ ที่นี่ เสาร์-อาทิตย์จะมีของขายเยอะเป็นพิเศษ เเต่จุดไฮไลท์จริงๆคือ เเท่นนนน เเท้นนนน หมูจุ่มพม่าไม้ละ1บาทครับ บอกเลยว่าถ้ามาสังขละเเล้วไม่ลองมากินเหมือนมาไม่ถึงนะ เชื่อเราสิ กินคำเเรกอื้อหือ อร่อยว่ะ !! เป็นหมูเเช่ในน้ำพะโล้ครับ ไม้นึงก็เเค่นี้ครับเเต่เด็ดที่น้ำจิ้ม น้ำจิ้มจะมี 2 ถ้วยครับ น้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มสุกี้เเต่จี๊ดจ๊าดกว่า อีกถ้วยนึงจะคล้ายๆน้ำจิ้มซีฟูดครับ
![](/f/38170/60fc0bb24faadf1c186db22b.jpg)
กลางคืนที่พีเกสเฮาท์บอกเลยว่าเหมาะสำหรับนั่งชิลหรือเเม้กระทั่งการนั่งดูดาว
![](/f/38170/60fc0bc90d31db1c347c9ede.jpg)
DAY 2 เราตื่นกันตั้งเเต่ 05.30 เพื่อออกมาดูเเสงเเรกของวันที่สะพานมอญกับบรรยากาศหมอกจางๆอากาศเย็นๆ เราขะได้เห็นวิถีขีวิตของชาวบ้านชาวมอญด้วย
ครับ
...... สะพานมอญห่างจากพีเกสเฮ้าท์ประมาณ 1 กิโลครับ โดยสะพานมอญเป็นจุดท่องเที่ยวที่เรียกว่า เป็นสัญลักษณ์ของสังขละบุรีไปแล้ว
![](/f/38170/60fc0bdea2e7071c1e05b37b.jpg)
เริ่มเช้า ชาวบ้านก็เริ่มดำเนินชีวิตประจำวัน นักท่องเที่ยวเองก็เริ่มออกหมาเดินเที่ยวสะพานมอญเช่นกัน
..... แน่นอนว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลาย ๆ แห่ง รวมถึงที่นี่ สังขละบุรีด้วย ต่างมีเจ้าหนูมัคคุเทศก์น้อย ที่จะคอยเดินเข้ามาพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวของสถานที่เกิดของพวกเขา ด้วยความน่ารัก เป็นมิตร พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่เงินเป็นสิ่งตอบแทน แต่ต้องการจะสื่อสารกับผู้คนด้วยจิตใจรักบ้านเกิด ถ้าคุณมีโอกาสไป ลองมองตาพวกเขา แล้วจะรู้ว่าเด็กน้อยกลุ่มนี้ พวกเขามีเสน่ห์มากแค่ไหน …
![](/f/38170/60fc0bf84faadf1c186db22c.jpg)
ดูวิวเสร็จเเล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของการมาสังขละบุรีคือ การใส่บาตรมอญ เราเดินข้ามไปอีกฝั่งของสะพานก็จะเป็นฝั่งมอญ ฝั่่งมอญนี่คือประเทศไทยนะครับ เพียงเเต่ว่าชาวมอญอาศัยอยู่เยอะเลยเรียกกันว่าฝั่งมอญ
![](/f/38170/60fc0c142f04971c3a4f76dc.jpg)
![](/f/38170/60fc0c2b4faadf1c186db22d.jpg)
ระหว่างระพระมาเราก็แอบมาลองกินขนมพื้นบ้านดู 10บาท เเต่อร่อยดี
![](/f/38170/60fc0c432f04971c3a4f76dd.jpg)
![](/f/38170/60fc0c552f04971c3a4f76de.jpg)
พิธีตักบาตรมอญ เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่ ทุกเช้าตรู่เวลาประมาณ 6.30 น. ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ต่างต่อแถวเนื่องแน่น เพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์ คุณจะพบรอยยิ้มของคนในชุมชน เด็กน้อยผู้นำโถข้าวมาซ้อนไว้บนศีรษะ หรือนักท่องเที่ยวที่สวมชุดมอญเดินถ่ายรูป เป็นภาพที่คุณไม่อาจเห็นที่ไหนในประเทศนี้ นอกจากที่นี่ สังขละบุรี ที่ฝั่งมอญจะมีการจัดชุดใส่บาตรไว้ให้เราด้วยนะครับชุดละ 99 บาทพร้อมชุดมอญสำหรับเปลี่ยนถ่ายรูปฟรีครับ
![](/f/38170/60fc0c772f04971c3a4f76df.jpg)
ฝั่งมอญนอกจากจะมีการใส่บาตรเเบบชาวมอญเเล้วยังมีร้านค้าที่มีพ่อค้าเเม่ข่ยเปิดร้านขายของที่ระลึกเเบบภูมิปัญญาชาวบ้านในราคาที่ไม่เเพงด้วยนะครับ
![](/f/38170/60fc0c8c2f04971c3a4f76e0.jpg)
หลังจากใส่บาตรเเละกินอาหารเช้าที่สะพานมอญเสร็จเเล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะไปกันคือวัดจมน้ำครับ โดยการเดินทางจะต้องเหมาเรือไปเท่านั้นครับ ค่าเรือคิด ไป-กลับลำละ 500 บาทครับ โดยเรือ1ลำนั่งได้ประมาณ 6-7 คนครับ
![](/f/38170/60fc0cb32f04971c3a4f76e1.jpg)
ครั้งนี้เป็นการนั่งเรือเที่ยวที่เราไม่เบื่อเลยนะ เพราะระหว่างเรือวิ่งลมจะตีหน้าทำให้เย็นตลอดเวลา อีกอย่างวิวสองข้างทางมันฟินด้วยละ
![](/f/38170/60fc0cc62f04971c3a4f76e2.jpg)
จุดเเวะจุดเเรกคือ วัดจมน้ำ หรือวัดวัดวังก์วิเวการาม(เดิม) เดิมวัดนี้เป็นวัดหลวงพ่ออุตตมะ ต่อมามีการสร้างเขื่อนน้ำจึงท่วมในที่เดิม จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล การเดินทางเข้าชมคือทางเรือเท่านั้นครับ วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม
![](/f/38170/60fc0cdba2e7071c1e05b37c.jpg)
วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำเท่านั้น
![](/f/38170/60fc0d692f04971c3a4f76e4.jpg)
![](/f/38170/60fc0d5e4faadf1c186db231.jpg)
![](/f/38170/60fc0cf32f04971c3a4f76e3.jpg)
วัดวังก์วิเวการามเดิมนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 เป็นวัดที่เกิดจากพลังความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อ
อุตตมะ
วัดอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ คือบริเวณเนินที่มีแม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำบิคลี่ ซองกาเลีย และรันตี มารวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย ในปี 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือเขื่อนเขาแหลม เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อสร้างน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ รวมถึงวัดวังก์วิเวการามเดิม สำหรับวัดย้ายมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน
บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ “วัดใต้น้ำ” หรือ “เมืองบาดาล” และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.สังขละบุรีครับ
การมาที่นี่ทำให้เรารู้สึกสงบเเบบบอกไม่ถูกเลยเลยละ
![](/f/38170/60fc0d8f2f04971c3a4f76e5.jpg)
นั่งเรือมาอีกนิดก็จะเจอซากวัดเก่าที่จมน้ำหลงเหลือเเต่อนุสรณ์สถานให้คนรุ่นหลังได้ดูกันครับ จุดๆนี้เราสามารถลงไปถ่ายรูปได้นะครับ
![](/f/38170/60fc0db30d31db1c347c9edf.jpg)
![](/f/38170/60fc0dba0d31db1c347c9ee0.jpg)
เดินมาถึงด้านบนเราก็จะพบพระประธานให้เรากราบไหว้ครับ
![](/f/38170/60fc0dd34faadf1c186db232.jpg)
เสร็จจากล่องเรือชมวัดเราก็เเว้นมอไซร์กันเพื่อไปด่านเจดีย์ 3องค์กันครับ โดยด่านเจดีย์3องค์ห่างจากตัว อ.สังขละประมาณ30กิโลเท่านั้นครับ
![](/f/38170/60fc0e162f04971c3a4f76e6.jpg)
เมื่อมาถึงด่านเจดีย์3องค์ทถ้าเป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่มีไวรัสโควิด-19 ที่นี่จะคึกคักเเละเต็มไปด้วยผู้คนที่จะข้ามด่านไปเที่ยวยังประเทศพม่าครับ
![](/f/38170/60fc0e3d4faadf1c186db233.jpg)
หากเรามาเองไม่ผ่านทัวร์ก็จะต้องทำการติดต่อที่ด่านชายแดนเจดีย์สามองค์เพื่อทำบัตรผ่านแดนเข้าพม่าภายใน 1 วันเสียก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้ข้ามแดนทุกคน โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บบัตรประชาชนตัวจริงไว้ 1 ใบ และให้บัตรผ่านแดนมา เมื่อกลับเข้ามาอย่าลืมแวะด่านเพื่อแลกบัตรประชาชนตัวจริงคืนนะครับ
2. กรณีนำรถยนต์เข้าไปในพม่า จะต้องใช้ สำเนาทะเบียนรถ/พรบ./ประกันภัย/ป้ายวงกลม(ป้ายการเสียภาษี) อย่างใดอย่างหนึ่ง และเสียค่าธรรมเนียมคันละ 50 บาท (มอเตอร์ไซค์เอาเข้าไปไม่ได้) ค่าธรรมเนียมผ่านด่านชายแดนเจดีย์สามองค์ จากฝั่งไทยไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนฝั่งพม่าเสียค่าธรรมเนียมคือ ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 10 ดอลล่าร์ (ชาวต่างชาติไม่สามารถประทับตราวีซ่าใหม่ ณ จุดผ่านแดนนี้ได้)
เวลาทำการด่านเข้า-ออก 6.00 น. – 18.00 น.
ติดต่อสอบถามการเปิด-ปิดด่านได้ที่ ตม.สังขละบุรี โทร 034-595-335
ข้อแนะนำ
– นักท่องเที่ยวที่ผ่านแดน ไม่สามารถพักค้างคืนในพม่าได้ ต้องกลับเข้ามายังฝั่งไทยก่อนเวลาด่านปิด คือเวลา 18.00 น.
– หากขับรถยนต์เข้าไปในพม่าต้องเปลี่ยนจากขับเลนซ้ายเป็นเลนขวา
– สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองสังขละ เพื่อขี่ไปเที่ยวแถวบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ได้ แต่ไม่สามารถนำมอเตอร์ไซค์ผ่านข้ามแดนไปพม่า
– ฝั่งพม่ามีมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาทัวร์วัดและตลาด ราคาประมาณ 100 – 120 บาท เช่นไปวัดเสาร้อยต้น ตลาดพญาตองซู และวัดเจดีย์ทอง
สำหรับใครที่กลัวหลง เดินทางไม่ถูก ไม่ต้องห่วงนะครับ ที่ด่านมีแผนที่ในการเดินทางให้ สามารถขอเจ้าหน้าที่ได้เลย เมื่อเข้าฝั่งพม่าแล้ว อย่าลืมว่าต้องขับรถเป็นเลนขวาค่ะ ถนนเป็นลาดยางนิดหน่อย หลังจากนั้นจะเจอแต่ทางดินลูกรัง ขรุขระบ้าง ได้บรรยากาศแอดเวนเจอร์หน่อยๆ ทีเดียว
![](/f/38170/60fc0e672f04971c3a4f76e7.jpg)
ซากเส้นทางรถไฟเก่าที่มุ่งหน้าไปพม่าที่ยังคงหลงเหลือตั้งเเต่สมัยสงครามโลก
..... อ่อเราลืมบอกว่าการมาเที่ยวพม่านั้น เราจะต้องมีบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ตครับ ทางทัวร์จะจัดการให้เราหมดครับ เมื่อทำเรื่องผ่านเเดนเสร็จเเล้ว เราก็เดินข้ามไปยังฝั่งพม่าเเล้วจะมีรถสองเเถวมารอรับเราเพื่อเดินทางไปเที่ยวพม่ากันครับ
![](/f/38170/60fc0e9aa2e7071c1e05b37d.jpg)
ออกมาจากด่านเจดีย์สามองค์ขากลับเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีเราได้เเวะที่นี่ เเท่นเเท้นนนน
.... จุดเล่นน้ำตกซองกาเรีย ตั้งอยู่บริเวณสะพานแม่น้ำซองกาเรีย อำเภอสังขละบุรี ห่งจากตัวเมืองเมืองสังขละ ประมาณ 8 กิโลเมตร ขับรถไปทางชายแดนด่านเจดีย์สามองค์จะเห็นสะพานซองกาเรียทางขวามือ มีพื้นที่จอดรถ และมีบริการฝากรถเสียคันละ 20บาท พร้อมบริการเช่าห่วงยาง อันเล็ก 10 บาท อันใหญ่ 20 บาท ความน่าสนใจของพื้นที่บริเวณนี้ คือเป็นจุดเล่นน้ำ ที่มีน้ำไหล ใสและเย็น น้ำก็ไม่สูง เล่นน้ำสนุกมากครับ และมีซุ้มรับประทานอาหารริมน้ำ มีอาหารอีสานรสชาติจัดจ้านขายด้วย เป็นบรรยากาศปิคนิกที่เย็นสบายมาก
![](/f/38170/60fc0ec3a2e7071c1e05b37f.jpg)
![](/f/38170/60fc0ebda2e7071c1e05b37e.jpg)
เเพซองกาเรียจะเน้นอาหารตามสั่งกับอาหารอีสานครับ จัดเลยส้มตำไข่เค็ม ส้มตำปูปลาร้า ลาบหมู ข้าวผัดรวม นอกจากจะได้วิวนั่งกินอาหารริมน้ำแล้ว เรายังสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วยนะ น้ำที่นี่ไม่ลึกครับ เฉลี่ยระดับเอวเท่านั้น
![](/f/38170/60fc0ee32f04971c3a4f76e8.jpg)
จุดเเวะต่อมาก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรีเราได้เเวะ วัดหลวงพ่ออุตตมะ หรือวัดวังก์วิเวการาม เป็นสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบพม่า วัดนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นที่ คือเป็นศูนย์รวมจิตใจของขาวสังขละ วัดนี้ห่างจากเจดีย์พุทธคยาเพียงนิดเดียวเท่านั้นครับ คือมาเที่ยวครั้งเดียว เที่ยวได้ถึง 2 ที่เลยนะ
![](/f/38170/60fc0f024faadf1c186db234.jpg)
จุดเเวะต่อมา พุทธคยาจำลอง หรือ พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเลีย ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็นเจดีย์ที่มีผู้คนมาสักการะ บูชาองค์เจดีย์ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เจดีย์พุทธคยายังเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาและงานเทศกาลเช่น งานวันสงกรานต์ เจดีย์พุทธคยา ตั้งขึ้นอยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการาม ห่างไปประมาณ 650 เมตรเท่านั้น
![](/f/38170/60fc0fca4faadf1c186db235.jpg)
![](/f/38170/60fc0f34a2e7071c1e05b381.jpg)
![](/f/38170/60fc0f18a2e7071c1e05b380.jpg)
ก่อนเข้าที่พักเราเเวะจุดไฮไลท์สำคัญของสังขละบุรี เพื่อเก็บเเสงสุดท้ายของวันแท่นเเท้นนนน “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 445 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2528 จนถึง พ.ศ. 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี
![](/f/38170/60fc0fae2f04971c3a4f76e9.jpg)
![](/f/38170/60fc0f620d31db1c347c9ee2.jpg)
บรรยากาศฟินๆช่วงเย็นของพีเกสเฮาท์รีสอร์ท
![](/f/38170/60fc0f810d31db1c347c9ee3.jpg)
มุมมองสะพานมอญ ใช้เลนส์Zoom จาก พีเกสเฮาท์รีสอร์ท
![](/f/38170/60fc101fa2e7071c1e05b383.jpg)
Day 3.....
เราเช็คเอาท์ออกจากที่พักเพื่อมาต่อรถตู้จากสังขละบุรีมาลงที่น้ำตกไทรโยค โดยรถจะออกทุก 1ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งถึงน้ำตกไทรโยคครับ
![](/f/38170/60fc104ca2e7071c1e05b384.jpg)
ค่าโดยสารคิดเเบบเหมาระยะทาง คนละ 180 บาทครับ
![](/f/38170/60fc10614faadf1c186db236.jpg)
รถใช้เวลาวิ่งประมาณ 2ชั่วโมงครึ่งก็ถึงเวลาที่เราจะลงที่น้ำตกไทรโยคกันเเล้วครับ
![](/f/38170/60fc10780d31db1c347c9ee4.jpg)
![](/f/38170/60fc108d0d31db1c347c9ee5.jpg)
กินเมื้อเที่ยงที่น้ำตกไทรโยคเเล้ว จากน้ำตกไทรโยคเราต่อรถสองเเถวคนละ10บาทเพื่อมาลงสถานีรถไฟน้ำตกเพื่อเดินทางกลับ กทม.กันต่อครับ บรรยากาศบนรถมันจะฟินๆหน่อย
![](/f/38170/60fc10b3a2e7071c1e05b385.jpg)
นั่งสองเเถวประมาณ 10นาทีก็ถึงสถานีรถไฟน้ำตก เราก็ไปกรอกรายละเอียดการเดินทางเเล้วซื้อตั๋วไปลงสถานีธนบุรี ค่าเสียหายสุดถูกที่ 39 บาทเเถมยังได้ดูวิวที่ดังระดับโลกกับวิวสะพานมรณะอีกด้วย
![](/f/38170/60fc10d0a2e7071c1e05b386.jpg)
รถไฟออกจากสถานีน้ำตกตามเวลาคือ 12.55 น.ครับ
![](/f/38170/60fc10f7a2e7071c1e05b387.jpg)
โดยเราจะผ่านสะพานถ้ำกระเเซหรือสะพานมรณะที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยครับ
![](/f/38170/60fc1102a2e7071c1e05b388.jpg)
มองเผินๆจะคล้ายๆอุโมงค์ต้นไม้ พิกัดที่หยุดรถถ้ำกระเเซครับ
![](/f/38170/60fc11250d31db1c347c9ee6.jpg)
ถัดจากสะพานถ้ำกระเเซเราก็จะผ่านสะพานข้ามเเม่น้ำเเควอีกครั้งครับ เรานั่งรถไฟดูวิวเพลินๆจนถึงธนบุรีตามเวลาที่ 17.40 น รถไฟไทยตรงเวลามากครับ
สรุปรายจ่ายคร่าวๆไม่รวมค่ากินนะครับ
-35 บาท ค่ารถไฟจาก ธนบุรี -กาญจนบุรี
-10 บาท ค่ารถสองเเถว สถานีรถไฟกาญจนบุรี-บขส.กาญฯ
-180 บาท ค่ารถตู้ กาญฯ -สังขละบุรี
-600 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซร์ 3 วัน (หาร2)
-70 บาท ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซร์
-900 บาท ค่าที่พักพีเกสเฮาท์ 3คืน(หาร2)
-500 บาท ค่าเรือเที่ยววัดจมน้ำ(หาร4)
-99 บาท ค่าชุดเเละของใส่บาตร
-180 บาท ค่ารถตู้ สังขละบุรี-น้ำตกไทรโยค
-10 บาท ค่ารถสองเเถวไปสถานีรถไฟน้ำตก
-39 บาท ค่ารถไฟ น้ำตก - ธนบุรี
**รวม 1123 บาท (*หารค่าห้อง, ค่ามอไซร์, ค่าเรือ) ไม่รวมค่ากินครับ
![](/f/38170/60fc116f0d31db1c347c9ee7.jpg)
อำเภอสังขละบุรีเป็นอีก1สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาด ซึ่งนอกจากการท่องเที่ยวได้ภาพถ่ายสวยๆกลับบ้านกันเเล้วเรายังได้เรียนรู้ได้เห็นวิถีการดำเนินชีวิตเเบบชาวมอญที่ใช้ชีวิตตามพระราชดำหริ เศรฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9
...... ลองมาครับ สังขละบุรีเที่ยวง่ายๆ มาไม่ยาก
...... ขอบคุณที่อุตสาห์นั่งทนอ่านรีวิวไก่เขี่ยของเราจนจบครับขอบคุณจริงๆ รีวิวนี้อาจจะเป็นเเนวทางของใครหลายๆคนที่ค้นหาข้อมูลไปสังขละบุรีนะครับ
...... หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณที่ชื่นชอบการเดินทางของพวกเรา เเล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าครับ กับเราเพจเดี๋ยวพาไป #โตเเล้วเที่ยวไหนก็ได้
Taeremix
วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.11 น.