อ่านย้อนหลัง
2 วัน 1 คืน สโลว์ไลฟ์...ในถิ่นนนท์ กับ TG15 (Part 01)
ได้ที่นี่ก่อนเลยครับ!
เกือบลืมบอกไป ช่วงกลางคืนจอไมล์ของ TG150 จะปรับให้เป็นพื้นสีดำอัตโนมัตินะครับ เพื่อให้ดูได้ง่ายขึ้น ส่วนเวลากลางวันจะเป็นสีเทา ดูได้ง่ายเช่นกันครับ...เห็นไหม? วันแรกจัดไปเบาๆ ร้อยกว่าโลเอง (เอง)
ตื่นเช้ามาอย่างสดชื่นและมีพลัง ผมจึง Check – Out และออกเดินทางต่อ จนได้ไปเจอกับคลองประปาลับๆ ของ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงขอจอดชิลกับบรรยากาศยามเช้าสักหน่อย
ระหว่างนี้ผมจึงขอนั่งสำรวจเจ้า TG150 สีทูโทน Orange สวยๆ คันนี้ (เพิ่งจะมาทำ…ฮา) หลังจากที่ผมขี่มาได้วันหนึ่งแล้ว สรุปสั้นๆ ได้ว่า Feeling การขับขี่ดีมาก เหมาะทั้งใช้ในเมืองและออกทริปได้สบายๆ สายชิลแบบผมต้องชอบแน่นอน รวมถึงด้านอุปกรณ์ต่างๆ ที่ Support อย่างเต็มที่ เช่น ถังน้ำมันเกือบ 8 ลิตร บิดยาวๆ ได้สบาย ตะแกรงหลังขนาดใหญ่พร้อมขนของ Touring ได้เต็มพิกัด ช่องเก็บของที่มาพร้อม USB ที่ชาร์จไฟ ไม่พลาดการติดต่อในทุกเวลา ล้อยางขนาด 12 นิ้ว และดิสก์เบรคหน้า - หลัง มาพร้อม ABS ไปได้หลากหลายเส้นทางอย่างปลอดภัยและมั่นใจจริงๆ ครับ
มื้อเช้าผมขอมาดูวิถี Local ตลาดบางคูลัด ที่ซ่อนแอบอยู่ อ.บางใหญ่ พร้อมกับไหว้ศาลเจ้าพ่อจุ้ยบางคูลัด เอาฤกษ์เอาชัย (เหมือนเคย)
จริงๆ ที่นี่มีอีกชื่อว่าตลาดใหม่วัฒนา แต่คนก็ยังเรียกว่าตลาดบางคูลัดอยู่เหมือนเดิม และเมื่อมาถึงตลาดแนว Vintage แบบนี้ ก็ต้องมากินกาแฟต้มที่ร้าน โอโซน แนว Moka Pot ที่ผมก็ชอบเลย
ชุดกาแฟ Hot Americano พร้อมเสิร์ฟในถาดไม้แบบสวยๆ เหมาะกับเช้าวันที่ฝนตกปรอยๆ (หมวกเปียกๆ หยดๆ ก็เท่ไปอีกแบบ) แต่เป็น Biker ต้องห้ามกลัวฝนนะครับ (ฮา)
นั่งจิบกาแฟไปด้วย นั่งดูวิถีชาวบ้าน นั่งดูบ้านไม้เก่าๆ เดิมๆ ริมคลองบางคูรัด วิถีสโลว์ไลฟ์แบบนี้ ช่วยเติมพลังบวกให้กับชีวิตดีนะครับ
ความ Vintage รอบๆ ตลาดนี้ก็เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากในปัจจุบันนะครับ และร้านถ่ายรูปแบบนี้ ผมว่าหลายคนตอนเด็กๆ ต้องเคยใช้บริการอย่างแน่นอน
วิทยุเก่าตัวนี้ผมชอบมาก ที่บ้านผมก็มี แต่ฟังไม่ได้แล้วครับ (ฮา)
ชุนชนริมคลองที่รวมวิถีขีวิตคนไทยและคนจีนได้อย่างลงตัวและน่ารัก ผมขอยกให้ตลาดบางคูลัดเป็นหนึ่งในความประทับใจของผมเลย
ตามสองข้างทางของ อ.บางใหญ่ จะเห็นชาวบ้านขายต้นไม้ทำสนอยู่มากมาย ที่นี่ราคาถูกนะครับ ถ้าชอบใจก็ซื้อกลับบ้านได้เลย (เสียดายขี่มอเตอร์ไซค์มา แบกกลับมาไม่ไหว)
ความ Vintage ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผมกำลังพาทุกคนมาที่ สตูดิโอ ชมเฌย แลนมาร์คของ อ.บางกรวย ในบรรยากาศยุค ‘80
ที่นี่แนวตั้งแต่คาเฟ่ มีที่นั่งชิลริมสระว่ายน้ำด้วยนะครับ
จอดเชยชม TG150 กับป้ายชมเฌย : ) Vintage จนเกินบรรยาย
ร้านเก่าๆ ยุค’80 ที่เห็นอยู่นี้คือ สตูดิโอที่เช็ทขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้บริการการถ่ายละคร ถ่ายภาพยนตร์ และถ่ายโฆษณา (หลายคนอาจเคยเห็นฉากเหล่านี้ รวมถึงตัวผมเองด้วย) หลังจากทำธุรกิจมาพักหนึ่ง เจ้าของจึงคิดว่าควรเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะด้วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นวิถีชีวิตคนไทยและภูมิปัญญาต่างๆ
ร้านเก่าๆ ติดริมน้ำ ถือเป็นอีกมุมยอดฮิตของชมเฌย
รถสกายแล็ปกับโรงหนังแบบ Stand Alone ที่ปัจจุบันแทบไม่เหลือในเมืองไทยแล้ว
ร้านขายเครื่องดื่มอารมณ์บ้านๆ อ้อ…จะบอกว่าทุกอย่างถ่ายรูปได้นะครับ แต่ห้ามเข้าไปภายในร้าน เพื่อป้องกันข้าวของเสียหาย
ร้านถ่ายรูปนี้ถูกใจผมที่สุด : ) อยากได้กล้องกลับไปสักตัว (ฮา)
เอาเป็นว่าชอบร้านไหนก็แวะได้เลยครับ เดินเที่ยวทั้งวันก็ไม่หมด
ส่วนตัวผมของนั่งพักตรงนี้ หน้าต่างสวยๆ กับต้นตีนตุ๊กแกที่ปลูกไว้เหมือนงานศิลปะ
เที่ยงแล้วก็ต้องเติมพลังให้ท้องกันกัน ผมจึงบิดเจ้า TG150 มาที่ วัดต้นเชือก พอถึงแล้วรีบจอดรถ เพราะหิวมาก (ฮา) แต่ก็ขอถ่ายรูปไว้หน่อย...เอาจริงๆ นะครับ TG150 จะถ่ายยังไงหรือถ่ายกับอะไร ก็สวยจริงๆ
นี่คือร้านดังสุดในย่านนี้ ก๋วยเตี๋ยวปิ่นโตห้อยขา เป็นแพอยู่บนคลองบางใหญ่ และที่นั่งเราจะนั่งห้อยขาลงไปได้ จึงเป็นที่มาของชื่อร้านครับ
ร้านนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบโบราณ เสิร์ฟมาในปิ่นโตทุกเมนู เจ้าของร้านบอกว่า “…เราอาศัยขายอยู่ในวันต้นเชือก จึงอยากใช้ภาชนะที่มีอยู่ในวัด ถ้าเป็นจานชามทั่วไปก็จะแตกง่าย เลยมาลงตัวที่ปิ่นโตถวายพระ ทนทานและไม่แตกแน่นอน…” สุดท้ายจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ แถมรสชาติอร่อยตนต้องยกนิ้วให้
อิ่มแล้วก็ชิลได้...แถวนี้ทุ่งนาสวยๆ เพียบครับ
จุดหมายถัดมาคือ วัดราษฎร์ประคองธรรม ที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ใหญ่ที่สุดในนนทบุรี
ชาวบ้านจะเรียกกันว่าหลวงพ่อพระนอน มีความยาวถึง 32 เมตร มีศิลปะพม่าผสมผสานลงไปด้วย
ด้านบนวิหารจะมีเจดีย์จำลองอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ พระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน พระธาตุพนม จ.นครพนม และพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
วัดราษฎร์ประคองธรรม เป็นอีกวัดที่คนนิยมมากราบไหว้ในนนทบุรี
TG150 กับอีกมุมสีทองเหลืองอร่ามของหลวงพ่อพระนอน
ขับช้าๆ แล้วแหงนมองฟ้าเห็นต้นตาล ภาพง่ายๆ แต่หาดูได้ยากในเมืองหลวง
บ่ายคล้อยๆ ผมเริ่มอยากกาแฟ (อีกแล้ว) จึงลองถามคนแถวนี้ว่ามีร้านอะไรบ้าง? ได้คำตอบว่า “…มีตึกแนววินเทจ คล้ายโฮมออฟฟิศ มีคาเฟ่อยู่ใต้ตึกที่ชื่อว่าบางกอกเดย์รามา ส่วนร้านชื่อบางกอกดอยคาเฟ่...”
ผมมาถึงอย่างไม่รอช้า เห็นชิงช้าสวรรค์กับสวนเล็กๆ พนักงานบอกว่า “…บริเวณนี้จะจัดฉายหนังกลางแปลงในช่วงปีใหม่ตลอด…” งั้นต้นปี แวะมาดูบ้างดีกว่า
ร้านถูกตกแต่งในแนววินเทจ สีสันสดใส มีโปสเตอร์ของโรงภาพยนตร์เก่า ๆ ในเมืองไทยอยู่ตามผนัง
รูปเจ้าของเอามาเป็นโลโก้ร้านบางกอกดอยคาเฟ่ ผมว่าเท่ดี
กาแฟที่นี่มีหลายแบบ…อาหารก็มีขายนะครับ
หลายคนมานั่งชิลและนัดคุยกัน
ส่วนตัวผมสั่งเหมือนเดิม : )
ขากลับพอดีกับช่วงพระอาทิตย์ตกแถวเกาะเกร็ดพอดี เป็นอีกภาพที่ประทับใจในการปิดท้ายทริปนี้...โอกาสหน้าผมจะเอา TG150 ข้ามไปบ้าง
ความซนของผมยังไม่จบ : ) เห็นแสงทไวไลท์ตอนเย็นๆ ที่สะพานเจษฎาฯ จึงขอกดชัตเตอร์อีกสักภาพ
ทริป 2 วัน 1 คืน ผมจัดเต็มไปกับ TG150 กว่า 200 กม. : ) และเติมน้ำมันไป 200 บาท ประหยัดมากๆ กับระบบหัวฉีดครับ
“2 วัน 1 คืน สโลว์ไลฟ์…ในถิ่นนนท์ กับ TG150” ผมสรุปให้อีกทีว่า ถ้าคุณเป็นสายวินเทจ สายชิล ต้องชอบแบบผม! เพราะ TG150 จะทำให้คุณได้เดินทางไปในโลกใหม่ๆ ที่แตกต่างและโดดเด่นเกินกว่าที่คิด
...พร้อมแล้วก็มาสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบ “Vintage LIFEXURY” ด้วยกัน : ) แล้วไว้พบกันในทริปหน้าครับผม
Nuim Navigator
วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 16.00 น.