Saturday, May 28th, 2016 (รีวิวนี้มีสรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป)

Day1

5:45am. มองออกไปนอกหน้าต่างสนามบินดอนเมืองในวันที่ฟ้าครึ้มๆ พยากรณ์อากาศบอกว่ามีฝนตกร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งที่ไทยและโฮจิมินห์ ฉ่ำตลอดทริปแน่ๆ

7:00a.m. ประตูเครื่องบินเปิดแล้ว นกเหล็กลำน้อยๆกำลังพาเราฝ่าพายุฝนไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต ประเทศเวียดนาม

9:00a.m. ถึงเวียดนามแล้ว! ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไปอย่างง่ายดาย รอกระเป๋า ในใจภาวนาขอให้กระเป๋าออกมาโดยสมบูรณ์อย่าให้มีอะไรบุบสลายเลยเถิ้ดดด...สาธุ นั่นไหลออกมาแล้ว เช็คๆๆๆ ทุกอย่างสมบูรณ์ ด่านต่อไปคือเอาเงินUSDที่พกมาไปเเลกเป็นเงินด่อง ด้วยความขี้งกผมเลยเดินไล่ถามเรตมันทุกร้านในสนามบินเลย จนเจอร้านที่เรตดีที่สุดในตอนนั้น พอมีเงินแล้ว ด่านต่อไปคือ ซิมการ์ด ผมเช็กมาจากรีวิวที่เคยมีคนทำเอาไว้เขาบอกว่ามีร้านนึงอยู่ซ้ายสุดของสนามบิน คุ้มสัสๆๆ พอเข้าไปดูเออหวะคุ้มจริงจังเน็ต จำไม่ได้ว่า 2หรือ 5GB รวมโทรทั้งในและต่างประเทศ ราคา180,000่ดอง ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมที่จะตะลุยเวียดนามแล้ว เฮ้!

ร้านขายซิมอยู่ทางซ้ายสุดของสนามบิน

ร้านแลกเงินที่เรทดีที่สุดในสนามบิน(ในตอนนั้น)

รถเมล์คันน้อยสีเขียวอ่อน หมายเลข 152 อยู่นั่นไงรถที่จะพาเราไป ฟามงูเห่า เฮ้ย ฟามงูหลาว เฮ้ย ถูกแล้ว แฮร่ ตั๋วราคา5,000ดอง ใครซื้อแพงกว่านี้ถูกโกงนะจ๊ะ ล้อรถเมล์คันน้อยเริ่มหมุนสงครามเสียงเเตรก็เริ่มขึ้น ปี๊นๆๆปี๊นๆๆปี๊นๆๆ ปี๊นพ่อง!!! หู้ยมึงจะบีบจะเดือดอะไรกันขนาดนั้น บีบแม่งทุกอย่างคนจะข้ามถนนแม่งยังไม่ทั้นมีถ้าทีทที่จะข้าม ปี๊น!!! จะจอด ปี๊น! จะออกตัว ปี๊น! ทำเ-ี้ยอะไรแม่ง ปี๊นหมด พี่คนขับขณะที่ บีบเเตรอยู่สายตาพี่คนขับกับสายตาผมเราได้สบตากับในกระจกมองหลังแล้วพี่แกก็ทำหน้าประมาณว่า "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ เวียดนามนะไอ้น้องประเทศแห่งการทำเ-ี้ยอะไรก็บีบแตรไว้ก่อนเท่ป้ะล่าาาา

รถเมล์เข้าเมืองราคา5,000ด่อง

ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มี จักรยานยนต์เยอะกว่าจำนวนรถยนต์ มากๆ เอาแค่โฮจีมินห์ มีจำนวนรถจักรยานยนต์ประมาณ4ล้านกว่าคัน!!! เยอะป้ะล่า แต่สกิลคนที่นี้ปาดไปปาดมายังไม่เห็นมีการใช้กำลังกันเลย แค่บีบแตรแล้วก็จบแค่นั้น ถ้าเป็นที่ไทยนะยังไม่ทันปี๊นหรอกต่อยกันเลย

พอถึงฟามงูหลาวเราก็เริ่มเดินหาโฮสเทลว่ามันไปหลบอยู่ในซอกไหนเดินตามกูเกิ้ลแมพ เดินเลยไปแล้วก็เลยมา ก็ยังไม่เจอชักหงุดหงิด เลยถามคนแถวนั้น เขาก็บอกทางจนในที่สุดเราก็เจอมันหลบอยู่ในซอกหลืบแคบๆที่กูเกลิ้ลและแมพมียังไม่มีเส้นทางนี้ในแผนที่ โฮสเทล ของเราเป็นตึกแคบๆ แต่!สูง6ชั้น สัสสูงชิบหาย ห้องกูอยู่ชั้น5 พ่องงง เดินขึ้นบันไดขาสั่นเลยมึงเอ้ย ถึงห้องเปิดประตู้ ทั้งหมดมีสี่เตียงมีคนเข้าอยู่ก่อนเราแล้วสองเตียง แต่ตอนนี้ต่อมเสือกไม่ทำงานไม่มีความอยากรู้ว่าเขาเป็นใครชาติอะไรผู้หญิงหรือผู้ชาย ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงบนเตียง ตุ้บ..... โอ้ยมันสบายมากเดินวนไปมาหลายรอบแถมห้องกูเสือกอยู่ชั้น5อีก

แม่จ้าวโว้ยยย Zzz...z เผลองีบไป1ชั่วโมง

ตื่นมาก็ลงมาเดินหารถไปหมุยเน่ จนเราได้มาเจอบริษัทTHE SINH TOURIST ราคาถูกที่สุดเลยตัดสินใจซื้อตั้งแต่ไปยังกลับเลยจะได้ไม่ต้องไปเดินหาอยู่อีก ค่ารถข้ามเมืองตลอดทริป คนละ357,000ดอง

จากนั้นก็ก็เดินเล่นลัดเลาะไปรอบๆเมือง

ชมนู้นชมนี่ จนตกเย็นเราไปชมวิวเมืองโฮจีมินห์บนตึก Bitexco บัตรราคาคนละ200,000ดอง

ค่าอาหารวันแรก

มื้อเที่ยง60,000ดอง

มื้อค่ำพร้อมขนม70,000ดอง





Day2

ตื่นเช้าแหกขี้ตาตื่นขึ้นรถไปหมุยเน่ ตั้งแต่ ตี5:30a.m. รถออก7:00a.m .จาก โฮจิมินห์ไปหมุยเน่ใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมง(แล้วแต่คนขับ) พอถึงหมุยเน่รถบัสส่งเราที่หน้าทางเข้าโฮสเทล แล้วก็จากเราไป พอถึงห้อง เช็กอินเสร้จสัพก็อาบน้ำสิครับรออะไร อาบเสร็จโบกครีมกันแดด แดดที่นี้แรงมากก ฟ้าโล่ง(แต่ในพยากรณ์อากาศบอกว่าพายุเข้าร้อยเปอร์เซ็นทั้งวัน พ่อง!!!)วันแรกของหมุยเน่ไม่ขอเอาอะไรมากแค่เดินเล่นแถวโรงแรมพอ

พอตกเย็นผมก็ขึ้นไปทานอาหารที่ชั้นบนของโฮลเทล ภาพที่เห็นคือ เชี่ยยย เจ๋งสัส มี2สระว่ายน้ำเป็นสระบนดาดฟ้า รอบๆสระเป็นโต๊ะอาหาร ทั้งคนว่ายและคนทานอาหารสามารถชมวิวทะเลได้ สัส นี่หรอที่พักคืนละ240บาท คุ้มเกินไปแล้วT0T

ปล.ชื่อที่พักเพื่อใครอยากไปใช้บริการ "mui ne hill"

ส่วนอาหารของวันที่สอง

อาหารเช้าก่อนรถออกที่ โฮจิมินห์20,000ดอง

อาหารเที่ยงที่หมุยเน่ ข้าวไก่ทอดน้ำปลา 30,000ดอง

แพนเค้กอีก15,000ดอง

อาหารค่ำ 35,000+เบียร์15,000ดอง



Day3

ตื่นสายครับวันนี้ ตื่นหัวรุ่งมา2วันร่างกายต้องการพักผ่อน วันนี้เเพลนว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวรอบหมุยเน่ หน้าโฮลเทลมีร้านเช้ามอเตอร์ไซค์ วันละ 70,000ด่อง หารสองแหลือตนละ35,000ด่อง

ขับไปแวะเที่ยวไปเรื่อยๆอ่าวสัส น้ำมันหมด เข้าปั้มให้ว่องเลย (ก่อนจะมาหมุยเน่ ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่เป็นคนเวียดนามเธอบอกว่า ยูต้องระวังโดนโกงน้ำมันนะ ขนาดไอเป็นคนเวียดนามไอยังโดนโกงเลย) อ่าโอเค ด้วยความที่คิดว่ายังไงก็ก็รอดในที่สุดครับยืนดูมันเติมบอกมันว่าสองลิต ลิตละเกือบๆ 20,000ด่อง สองลิตก็40,000 ผมก้บอก ยูๆทูลิต นั่งไงสัสเอ้ย เห้ๆๆยูมึงยังไม่ได้รี เครื่องเลยมึงเติมคันนู้นเสร็จมึงมาเติมเครื่องกูต่อกูก็ได้ลิตเดียวสิ เห้ย ผมพูดจบมันทำหน้าเอ๋อๆใส่ผมโอ้ยอีเหี้ย มึงจะมาเอ๋ออะไรมึงโกงกู ยูชีท ไอโนวยูชีท มันก็เรียกลูกพี่มันมาแล้วมันก็เอาหัวจ่ายน้ำมันไปวางตรงที่วางแล้วทำท่าประมาณว่า มึงเห็นมั่ยบอกว่าแล้วยกใหม่ปุ๋บ เครื่องมันจะรีใหม่ เออ!!! อันนั้นหนะก็รู้แต่ที่ก็จะบอกก็คืนไอ้เหี้ยนี่มันยังไม่ได้ว่างยังไม่ได้รี ใหม่เลย โอ้ยปวดกระบานครับเลย จ่ายใหม่มันไป40,000ด่อง หงุดหงิบชิบหายเลยพยายามทำใจให้เย็นๆไว้แล้วมีความสุขกับการเที่ยวต่อ พยายาม!!!!

ปล่อยเรื่องการโกงกับมาเรื่องเที่ยวต่อดีฟ่า

สถานที่แรกที่เราเเวะคือ

ตลาดปลา(อาหารทะเลถูกมาก)


สถานที่ต่อไปถือว่าไฮไลต์ของการมาเยือน"มุยเน่"เลยก็ว่าได้ ที่นั้นคือ " ทะเลทรายขาว

ตำรวจเวียดนาม

กำลังขับมอเตอร์ไซค์บนเส้นทางไปทะเลทรายขาว ระหว่างทางก็พบกับ สน.พุ่มไม้ พี่แกออกมาแล้ว นั่นไงกูว่าแล้ว กูโดนแล้ว แล้วพี่ตำรวจหน้าตาเสื้อผ้ามอมแมมเหมือนไปฝัดกับสุนัขมาโบกให้จอด ตอนนี้ใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว "สต๊อปคาเมร่าๆ โนวีดีโอๆ" อะผมก็ยังไม่ได้ถ่ายไงกำลังจะบอกว่าไม่ได้ถ่าย พี่แกบอกให้กดปุ่มปิด อะกูจัดให้ กดให้พี่แกดูละตอนนี้ก็ถ่ายวีดีโดอยู่ตลอด พอใจคุณมึงรึยังห้ะครับ!"ขอดูใบขับขี่หน่อย" หึไม่ได้แดกกูหรอกศึกษามาดี ใบขับขี่ประเทศไทยสามารถใช้ได้ในอาเซียน แล้วผมก็ล้วงใบขับขี่ให้พี่แกดูแล้วก็เอาไปคุยกัน คุยอะไรไม่ทราบผมฟังไม่ออกได้แต่รอว่ามันจะเรียกกี่ด่องเงินก็ไม่ค่อยมีถ้าโดนตำรวจไถตังนี่โคตรรู้สึกแย่ พี่แกเดินมาบอกให้ผมไปนั่งตรงโต๊ะจ่ายค่าปรับ(เหมือนไทยเลย) "โอเคใบขับขี่นี้สามารถใช้ได้ ขับชิดขวา ขับห้ามเร็วเกิน40km/h นะ โอเคไปได้" เอ้ามึงไม่ไถตังกูหรอโชคดีไป หู้ววว มีคลิปมาเป็นที่ระทึกด้วยฮาฮาฮา

จบเรื่องตำรวจเราก็แว้นกันต่อเส้นทางที่นี้อาจไม่ได้ดูอลังการอะไร แต่มันดูแปลกดูแปลกตาสำหรับผมมาก


ถึงแล้วครับทะเลทรายขาว ค่าเข้าคนละ10,000ด่อง ค่าที่จอดรถอีกคันละ5,000ด่อง แล้วเราก็วู้วอยากวิ่งแล้วเอาหน้าทิ่มลงปักกับผืนทราย ทรายที่นี้ละเอียดยังกับแป้ง




ใครที่อยากแกล้งแฟน ก็ลองพาเธอมานั่งบนยอดภูเขาทราย แล้วแกล้งๆผลักเธอให้กลิ้งลงไปดูสิสนุกดี555แกล้งมนุษย์แฟน

ที่ต่อไปคือทะเลทรายแดง (โดยส่วยตัวชอบทะทรายขาวมากกว่าทะเลทรายแดง)




(อันนี้ก็ที่ทะเลทรายแดงนะ)


กินล็อปเตอร์!

หมดล่ะที่เที่ยวในหมุยเน่ (หมดที่ว่านี่คือหมดที่ๆเป็นไฮไลท์นะ)กลับโรงแรมนอนเอาแรงพอค่ำๆก็ตื่นเดินออกจากที่พักไปกินอาหารทะเล มาหมุยเน่ต้องมากินล็อปเตอร์ ล็อปเตอร์ที่นี่ถูกมา กิโลละ500บาท ซัดไปเลยคนละตัว กับหอยเชลล์คนละ1กิโลสำราญพุงเลยทีเดียว


ข้าวปลาทอดน้ำปลา25,000ด่อง



จบทริปในหมุยเน่แล้วนอนหลับฝันดีพรุ่งนี้เช้า 7:30 รถ เดินทางไป" ดาลัต"เมืองเเห่งขุนเขา(อากาศเย็นตลอดปี)


Day4

รถมารับเราที่หน้าโฮลเทล เดินทางไปดาลัต จากหมุยเน่ไปดาลัตใช้เวลาประมาน4-5ชั่วโมง วิวสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากทะเลทรายแห้งแล้งเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ สัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อยๆลดลงจนหายไปในที่สุด วิวสองข้างทางตอนนี้แทบทำให้ผมไม่อยากนอน อยากเบิ่งตามองและจดจำวิวแบบนี้เอาไว้

(วิวสองข้างทาง จากหมุยเน่ สู่ ดาลัต)

ถึงดาลัตผมยังจำอากาศเย็นพัดเข้ามาปะทะหน้าผม ขณะกำลังก้าวลงจากรถ จากอากาศร้อนทะเลทรายสู่อากาศเย็นบนเขา บอกตรงๆกูปรับตัวไม่ทัน ไข้แทบแดก! เปิดโทรศัพท์เช็กสภาพอากาศ ยังคงบอกเหมือนเดิมว่า พายุเข้า พายุห่าอะไร ฟ้าโล่ง แต่ผมเชื่ออุณหภูมิ 18องศา สาบานเถอะว่านี่คืออากาศตอนเที่ยง หู้ยไม่อยากนึกถึงอากาศตอนกลางคืน ตอนนี้ผมเลิกบ่นหนาวแล้วรีบเดินไปโฮลเทลที่จองเอาไว้ ระว่างทางวิวเมืองนี้สวยมาก มากจนไม่รู้จะอธิบายยังไง ดาลัตมีความเป็นยุโรปอยู่ (ถ้าไม่นับเสียงแตร)

พอถึงโฮลเทลเก็บกระเป๋าเรียบร้อยลงมาดูโปรแกรมทัวร์ของโฮลเทล

พอถึงเวลาอาหารค่ำทางโฮลเทลเรามี เวลคัม ดินเนอร์ ให้สำหรับนักเดินทางที่เข้ามาพักใหม่ในแต่ละวัน ได้มาทานอาหารร่วมกันและคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ตอนนี้ผมก็นั่งกินไปแล้วก็นั่งฟังเรื่องที่พวกนางกำลังเล่ากันอย่างเมามัน ผู้ชายสองคนทางด้านขวา สองคนนั้นมาจากอังกฤษครับ สองคนนี้ดร๊อปเรียนสองปีออกมาเที่ยวรอบเอเชีย เหี้ย ผมฟังแล้วมึงเจ๋งมาก ชีวิตเด็กไทยถ้าดร๊อปมีอยู่ไม่กี่เหตุผลหรอครับ เพราะเด็กไทยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับการเรียน เรียน เรียน เรียน แล้วก็เรียน เรียนจบมาก็ทำงาน ทำงาน ทำงาน เก็บตัง แค่นั้น ชีวิตไม่ได้มีอะไรมากมาย

อาหารของวันนี้กิน เสียตังแค่มื้อเช้าขนมปังเหมือนที่โฮจิมินห์ราคา15,000ดอง+เบอร์เก้อมื้อเที่ยงอีก35,000ดอง


ชื่อโฮสเทคที่เมืองดาลัด "dalat backpackers hostel"



Day5

ตื่นเช้ามาพร้อมกับอากาศหนาวๆชื้นๆ เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าของโฮสเทล ตาผมโต่เป็นไข่ห่าน หัวใจพองโตเพราะวิวตรงหน้าของผมมันสวยงามมาก เมืองในสายหมอก

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ แปดโมงครึ่งเช้าวันนี้เรามมีนัดกับทัวร์มอเตอร์ไซค์ที่จองเอาไว้เมื่อวาน เป็นทัวร์แบบไพรเวท มีไกด์คนเวียดนามที่พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก (เน้นนะว่ามากๆๆๆๆเลย)เรากัดฟันซื้อทัวร์นี้เพราะทัวร์จะพาไป"น้ำตกฟงกัว"น้ำตกที่สวยที่สุดในดาลัตในราคาคนละ657,000ด่อง แต่มันก็คุ้มค่ากับการมีไกด์ที่ให้ความรู้ตลอดทาง ทัวร์ของเราพาไปทั้งหมด อ่างเก็บน้ำเพื่อการเกษตรของดาลัต,หมูบ้านไก่ที่เป็นการเกษตรพื้นเมืองดาลัต(คล้ายๆหมู่บ้านOTOPของไทยเรา),โรงเห็ด, น้ำตกช้าง,น้ำตกฟงกัว,วัดจีน(เราไม่อยากไปเพราะของแบ่งเวลาไปดื่มด่ำกับกระนั่งชมน้ำตก555),โรงงานหม่อน,ไร่กาแฟ(ของดีดาลัตเลยแหละ),ร้านกาแฟขี้ชะม,สวนดอกไม้ และปิดท้ายด้วยCrazy House(คงเดาออกใช่มั่ยครับว่าผมจะไปหรือไม่ไป คำตอบคือไม่ไปครับ)




(เมื่อแต่ก่อนที่นี่เคยเป็นสระว่ายน้ำของเด็กๆละแวกนี้ )


น้ำตกฟงกัว ( Pongour Falls) น้ำตกที่สวยที่สุดในดาลัต




(ไร่,สวน พิ้นที่การเกษตรของดาลัต)




น้ำตกช้าง (Elephant waterfall)




จบทริปวันนี้ที่ "ร้านกาแฟขี้ชะมด"

ราคาแก้วละ60,000ด่อง


อาหารวันนี้มื้อเช้าฟรีกินที่โฮสเทค

มื้อเที่ยง25,000ด่อง

มื้อเย็น25,000ด่อง



Day6

เดินเล่นชมเมืองวันนี้กะว่าจะเดินเล่นในตลาดดาลัตวันนี้เดินเสร็จแล้วเราก็ไปนั่งเปื่อยๆดูคนอยู่ที่หน้าห้างBigCพอฝนตกเราก็เข้าไปเดินเล่่นในBigC




Day7

นั่งรถกลับโฮจิมินห์ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ช.ม. เกือบมาไม่ทันไปซื้อหนังสือ ภาษาอังกฤษของแฟนที่ร้าน FAHASA หนังสือแกรมม่าและอ่านเล่นบางเล่มถูกกว่าไทยประมาณนึงเลยล่ะ จากนั้นเราก็เดินกลับมากันที่ Ben thanh market เพื่อขึ้นรถเมย์สาย 152 ไปยังสนามบิน แล้วรอขึ้นเครื่องตอน 20:45


เสียค่ารถเมล์ไปสนามบิน5,000ด่อง จบทริป


สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป

Day 1(โฮจิมินห์)

ซิม 180,000ดอง พร้อมเน็ตและโทร

รถเมล์เข้าเมือง 5,000ดอง/คน

โฮสเทล230บาท/คน(จองตั้งแต่ที่ไทย)

มื้อเที่ยง 60,000ดอง

ซ้อหมวกเวียดนาม 30,000ดอง

รถบัส 357,000ด่อง/คน(โฮจิมินห์-หมุยเน่-ดาลัต-โฮจิมินห์)

ขึ้นตึกชมวิวเมืองโฮจิมินห์200,000ดอง/คน

น้ำสองขวด20,000ด่อง ขวดละ10,000ดอง

มื้อค่ำ70,000ดอง

Day 2(โฮจิมินห์ ไป หมุยเน่)

มื้อเช้า 20,000ด่อง

มื้อเที่ยง 45,000ด่อง

มื้อค่ำ 50,000ด่อง

Day 3(หมุยเน่)

เช่ามอเตอร์ไซค์70,000ดอง/คัน หารสองเหลือ35,000ดอง

น้ำมัน40,000ดอง หารสอง20,000ดอง

มื้อเที่ยง25,000ดอง

ค่าเข้าทะเลทรายขาว10,000ดอง/คน

ค่าฝากมอเตอร์ไซค์5,000ด่อง/คัน

มื้อค่ำ380,000ดอง/คน

น้ำสองขวด20,000ดอง

Day 4(หมุยเน่ ไป ดาลัต)

ค่าที่พัก 217,500ดอง/คน (ชื่อที่พักmui ne hill)

มื้อเช้า 15,000ดอง

มื้อเที่ยง 35,000ดอง

Day 5(ดาลัต)

มื้อเที่ยง40,000ดอง(รวมโค้ก)

มื้อค่ำ 25,000ดอง

น้ำหนึ่งขวด 10,000ดอง

แก้วมังกร1ลูก 10,000ดอง

Day 6(ดาลัต)

มื้อเที่ยง 30,000ดอง

มื้อค่ำ 35,000ดอง

น้ำสองขวด20,000ดอง

Day 7(ดาลัต ไป โฮจิมินห์)

ที่พักสามคืนรวมค่าทัวร์ 1,100,000ดอง/คน (ชื่อที่พักdalat backpackers hostel)

มื้อเช้า10,000ดอง

มื้อเที่ยง45,000ดอง

รถเมล์ 5,000ดอง

รวม3,254,500ดอง (เงินไทย5,103บาท (ยังไม่ได้รวมของจิปาถะเช่นขนม ช๊อกแลต นมฯลฯ)แต่ยังไงก็ไม่เกิน6,000บาทเพราะเเลกไป6,000บาทถ้วน!)

#เวียดนาม






เซน

 วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.44 น.

ความคิดเห็น