กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่เราไปเที่ยวบ่อย เพราะใกล้ กทม. และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมากมาย วันนี้จะนำทริป 2 วัน 1 คืน แบบคุ้มค่า คุ้มเวลา มาฝากเพื่อนๆครับ เผื่อใครสนใจไปช่วง เสาร์-อาทิตย์ ลองรีวิวครั้งแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ


ก่อนอื่นเราเริ่มเดินทางโดยรถทัวร์จากหมอชิตเวลาประมาณหกโมงเช้า ไปถึงขนส่งเมืองกาญจน์ประมาณ 8-9 โมงเช้าครับ เป้าหมายแรกของเราจะไปชมต้นจามจุรียักษ์อายุกว่า 100 ปี ถึงขนส่งกาญจน์เราก็เรียกพี่วินไปเช่ารถมอไซค์เลยครับ แต่ถ้าพี่วินแนะนำร้านอื่นที่คุณไม่ได้ตั้งใจไว้ ระวังนะครับตอนส่งรถคืนทางร้านจะคิดค่านายหน้าจากเราเพื่อเอาไปให้พี่วินด้วย ราคาเช่าอยู่ประมาณ 200-300 บาทต่อวันครับ ได้รถมาแล้วเราก็แว๊นไปต้นจามจุรียักษ์เลยครับ 20 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึง ครึ่ง ชม.


ระหว่างทางเห็นสวนดาวเรืองและชาวบ้านกำลังเก็บดอกไปขายครับ เราก็แวะแชะรูปซะหน่อย


หลังจากนั้นก็ขับตากแดดร้อนๆ ต่อ และก็มาถึงซะที ต้นจามจุรียักษ์ นี่ถ่ายระยะไกลครับ ให้เห็นทั้งต้น


เข้ามาใกล้ๆต้นกันมากขึ้นครับ


มีคนเรื่อยๆครับ มีแม่ค้าขายขนม ขายน้ำอยู่ด้วย


ต้นใหญ่มากขนาด 10 คนโอบ และ มีกิ่งก้านมากมาย ทำให้มีมุมถ่ายเยอะครับ ขยับไปนิดนึงก็ได้มุมมองต่างกันแล้ว เด็กนักเรียนก็มาพักครับ


เรามาถ่ายรูปเล่นแถวนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็หาอะไรกิน เอารถไปคืน เตรียมตัวไปสังขละบุรีครับ เราเดินทางไปสังขละโดยรถตู้ที่อยู่หน้า บขส. กาญจนบุรีครับ ราคาประมาณ 180 บาท ต่อคนครับ รอแปปเดียวก็ได้ขึ้นรถแล้ว นั่งรถประมาณ 3-4 ชม.ครับ มาถึงกาญจบุรีก็ประมาณ บ่าย 3 ครับ เป้าหมายเราคือ พักที่ พี เกสต์เฮาส์ คันทรี เพราะเคยมาพักแล้วและประทับใจครับ คุณภาพคุ้มราคามาก คืนละ 300 เอง ติดริมน้ำได้วิวสะพานมอญด้วย แต่ไปรอบนี้ที่พักเต็ม เลยดูมีสำรองไว้อีกที่ แต่เราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะเป็นบรรยากาศแบบในป่า ไม่ติดแม่น้ำ เราอยากได้เห็นแม่น้ำมากกว่า เลยเดินหาดูแถวนั้น จนพบกับ


นี่ครับ สังขละการ์เด้นโฮม อยู่ติดๆกับ พีเกสเฮาส์เลย ลุ้นมาก ว่าจะเต็มอีกป่าว ปรากฏว่ายังว่างครับ ห้องละ 600 บาท รีบจองเลยครับ


นี่เป็นวิวจากที่พักครับ ที่พักทำด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่สภาพไม่ใหม่มาก ระดับใช้ได้ แต่วิวนี่แหละที่ต้องการ กลางคืนมานั่งจิบเบียร์ด้านนอกนี่นะ อั๊ยยะ!! คงจะฟิน


และ มองไปทางขวาจะเห็นสะพานมอญอยู่ไกลๆ


นี่เป็นห้องน้ำครับ ไม่ได้หรูหรา แต่ก็ไม่แย่เกินไปนัก เราไม่ค่อยซีเรียสเรื่องห้องน้ำเท่าไหร่ครับ

เตียงพักได้สองท่านครับ มีทีวีด้วย


และที่นี่รถเช่าเต็มครับ เลยไปเช่าที่พีเกสเฮาส์ครับ ถ้าจำไม่ผิดวันละ 150 บาทครับ ให้น้ำมันไปเต็มถัง เอามาคืนก็ต้องเต็มถัง ได้รถแล้วแว๊นซิครับ กะจะแว๊นไปจุดชมวิวป้อมปี แต่เนินเยอะ และ ทางลดเลี้ยวเยอะ เลยไปแค่จุดชมวิวตรงนี้ครับ จำชื่อไม่ได้ น่าจะแถวๆ จุดชมวิวสะพานรันตี


แอบเห็นควันไฟป่าด้วย


ช่วงนั้นไปเดือน มี.ค. ไฟป่าเยอะครับ ทำให้ WiFi ที่พักใช้การไม่ค่อยได้ ที่นี่ห่างจากที่พักประมาณ 20 กว่ากิโล ชมวิวเสร็จแล้วก็กลับครับ จากนั้นก็แว๊นไป เจดีย์พุทธคยาครับ


เดินเข้าไปด้านในจะเห็นองค์พระครับ เราก็ทำบุญบริจาค เอาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้พระครับ


เสร็จแล้วก็ขึ้นบันไดไปด้านหลังองค์พระเพื่อชมเจดีย์


รีบถ่ายแล้วรีบกลับมาถ่ายแสงเย็นที่สะพานมอญกันต่อ


จากนั้นก็นั่งชมพระอาทิตย์ตกครับ จุดนี้อยู่แถวแพมิตรสัมพันธ์ครับ หลังจากพระอาทิตย์ตกก็ลงไปทานข้าวที่แพมิตรสัมพันธ์เลยครับ


กินกันไม่เยอะครับ เพราะเดี๋ยวจะไปตะลอนกินกันที่ ถนนคนเดินต่อ มื้อนี้ตกคนละประมาณ 100 บาทครับ รสชาติดีเลยทีเดียว ที่สำคัญได้สัมผัสบรรยากาศบ้านแพแบบใกล้ๆ และมีชาวต่างชาติเล่นน้ำอยู่ใกล้ๆอีกด้วย


เสร็จแล้วไปเดินถนนคนเดินครับ


มีน้องๆ แต่งตัวน่ารักๆ ให้เราถ่ายรูปและเราก็ช่วยบริจาคเงินไปครับ เหมือนเป็นค่าบำรุงที่นี่และค่าดนตรีที่เขามาแสดงให้เราดูครับ ช่วยกันคนละนิดละหน่อย ให้คนมาเที่ยวทีหลังได้เห็นเหมือนที่เราเห็นครับ


มาที่นี่ก็ต้องกินหมูจุ่มครับ

หมูจุ่มไม้ละบาททานกับเพลินๆ


มีหลายร้านให้เลือกนั่งครับ ร้านไหนเต็มก็หาร้านอื่นนั่งกันไป อร่อยดีครับ กินกันไปประมาณ 30 ไม้


เสร็จแล้วก็เดินต่อไปเจอขนมจีนหยวกกล้วย ความที่ไม่เคยก็จัดมาอีกจาน อื้อหือ ต้องบอกเลยว่าแหลกไม่ล่าย ฮ่าๆๆ รถชาติแปลกๆครับ หลายคนอาจชอบแต่ไม่ใช่ทางผม เลยกินไปครึ่งนึง ไม่ให้คนขายเสียน้ำใจมากนัก

กินเสร็จแล้วแต่ค่ำคืนนี้ยังไม่จบ เรากลับไปเดินสะพานมอญกันอีกยามค่ำคืนครับ


กลางคืนก็ไม่เปลี่ยวครับ มีคนอยู่พอสมควร


เดินๆ นั่งๆ เล่นๆ ซักครึ่ง ชม. เราก็กลับที่พัก เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อครับ


วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางมาชมดวงอาทิตย์ขึ้นครับ มาที่สะพานซองกาเลีย จะเห็นวิวสะพานมอญพร้อมดวงอาทิตย์ขึ้นและเรือแล่นไปมา


อีกฝั่งของสะพานซองกาเลีย มีไอหมอกอยู่ตามผิวน้ำด้วยครับ อากาศตอนนั้นเย็นกำลังดีเลย


อยู่ที่สะพานซองกาเลียเกือบ ชั่วโมง ก็จะมาตักบาตรที่สะพานมอญครับ แต่ลืมไปว่าเขาตักกัน 6 โมงเช้า เรามาเจ็ดโมง ก็สายซิครับ ฮ่าๆๆ สรุปว่าไม่ได้ตักบาตร ก็เดินเที่ยวสะพานมอญยามเช้าอีก นี่เป็นวิวจากสะพานมอญครับ เห็นแพเยอะแยะมากมาย

ลงสะพานมอญมาทางซ้าย มีร้านขายของและสามารถทาแป้งมอญ(ทานาคา)ได้ โดยเราจะให้เงินเท่าไหร่ก็ได้ เสร็จแล้วก็เดินตรงๆมาดูความยิ่งใหญ่ของสะพานมอญกันใกล้ๆ


ระหว่างทางเจอลุงกับหลาน พร้อมเบ็ด เลยแชะภาพซะหน่อย


และมาถ่ายกับหลักกิโลที่ 0 ครับ


เสร็จแล้วก็กลับห้องครับ เดินไปหลังที่พักจะเป็นแม่น้ำ เราเลยพยายามจะถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ซะหน่อย อิๆ


มีหมาด้วย น่ารักมาก นำทางเรามาด้วยครับ ตอนกลับก็มาส่ง


ถึงเวลาที่เราจะโบกมือลากาญจนบุรีแล้วครับ แต่ถ้าใครอยากล่องเรือชมวัดใต้น้ำ ก็ไปต่อได้ครับ เราเคยไปแล้วและไม่อยากกลับดึก เลยตัดสินใจไม่ไปในทริปนี้ครับ เราไปคืนกุญแจห้อง เติมน้ำมันรถและไปคืน แล้วมากินคั่วกลิ้งตรงข้ามคิวรถตู้ สังขละ-กาญจบุรีครับ


จากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน ค่าเสียหายทริปนี้เฉลี่ยประมาณคนละ 1000-1500 บาทก็เอาอยู่ครับ ยิ่งคนเยอะจะยิ่งถูกครับ ช่วยกันแชร์


ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านนะครับ เพิ่งหัดเขียน แนะนำด้วยนะครับ

หากใครสนใจเรื่องท่องเที่ยวติดตามพวกเราได้ที่

https://facebook.com/reviewtrang

ไว้เจอกันใหม่นะครับ

รีวิวตรัง

 วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.04 น.

ความคิดเห็น