วัดขุนสมุทรจีน อันซีน! วัดปากอ่าวท่ามกลางทะเล ทำบุญ! สร้างโบสถ์ ขอพรหลวงพ่อปากแดง แลโบสถ์เก่า ดูโบสถ์ใหม่

คุณเชื่อหรือไม่? ว่าสิ่งที่เราคิดและทำตามใจคือความสุขที่เราสัมผัสได้ เช่นเดียวกับการเดินทางท่องเที่ยวหลังจากปลดล็อก เรามีโอกาสเดินทางไปสัมผัสความอบอุ่นและกลิ่นไอของชายทะเล ชมวัดเก่าปากอ่าว แลโบสถ์ใหม่ที่กำลังก่อสร้าง เป็นความสุขที่เราไปเยือนแล้วได้บุญ อิ่มเอมสำราญความสุขและเป็นสะพานส่งต่อให้กับทุก ๆ คนที่มีเวลาว่างไปชมความงดงามของโบสถ์วัดขุนสมุทรจีน

โบสถ์ใหม่แกะลายสวยงาม

วัดขุนสมุทรจีนมีที่มาที่ยาวนานผ่านการเล่าเรื่องมาหลายชั่วอายุคน สิ่งที่เราได้พบและได้ชื่นชมสัมผัสเป็นความสุขที่ผ่านการเล่ามา จวบจนเราได้มีช่วงเวลาว่างไปกราบหลวงพ่อปากแดง ซึ่งประวัติความเป็นมาเท่าที่มีการเล่าสืบต่อกันมาพอสรุปได้ความดังนี้

โบสถ์เก่า

วัดขุนสมุทรจีน หรือ วัดขุนสมุทรทราวาส ตั้งอยู่ติดกับชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน เป็นวัดที่มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ อยู่ติดกับปากอ่าวทะเล ภายในวัดมีพระอุโบสถเก่าแก่ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ เนื่องจากเมื่อก่อนเป็นพระอุโบสถที่จมอยู่ใต้น้ำบางส่วนตอนเวลาน้ำขึ้น และจะสามารถเข้าไปชมได้เมื่อเวลาน้ำลด แต่ปัจจุบันมีแนวเขื่อนหินที่ชาวบ้านในชุมชนขุนสมุทรร่วมกันสร้าง และทางวัดได้ยกพื้นด้วยโครงไม้ให้สูงขึ้น จึงทำให้เป็นกลายพระอุโบสถที่ไม่เหมือนกับวัดอื่นๆ เนื่องจากมีร่อยรอยของน้ำทะเลที่เคยท่วมจากธรรมชาติ โดยด้านนอกตัวพระอุโบสถมีลาดลายปูนปั้นที่สวยงาม มีระฆังและพระพุทธรูป บริเวณทางเข้า ส่วนด้านในเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อปากแดง พระประธาน สามารถประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้

พระพุทธรูปริมปากอ่าว

วัดขุนสมุทราวาสแต่เดิมนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ ที่ชาวบ้านขุนสมุทรจีนที่มีเชื่อสายไทย-จีนผสม ร่วมกันก่อตั้งขึ้นด้วยแรงศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา แต่แรกสร้างกุฎิด้วยการตัดไม้แสมดำมาทำเป็นเสา เป็นคานหลังคาแลกุฎิมุงด้วยใบจาก มีเพียงศาลาเล็กๆเพื่อไว้ทำกิจกรรมทางสงฆ์เท่านั้น

ระฆังเก่าแก่ ด้านหน้าโบสถ์เก่า

ต่อมาด้วยแรงศรัทธาของคุณหมอประเทือง หมอขายยาประจำท้องถิ่นแถบนี้ ได้เป็นผู้นำในการหาทุนมาก่อสร้าง พัฒนายกระดับจากสำนักสงฆ์ให้เป็นวัด โดยการเรี่ยรายทำบุญตลอดเส้นทางที่เดินไปขายยาตั้งแต่แถบแหลมฟ้าผ่าทั้งหมด ถึงเมืองมหาชัย ข้ามอ่าวเลยไปถึงปากแม่น้ำท่าจีน เมื่อรับเงินทำบุญได้จำนวนหนึ่งจึงซื้อหิน ซื้อปูน เข้ามา เพื่อทยอยสร้างโบสถ์ สร้างศาลาไปเรื่อย ๆ ตามกำลังศรัทธาที่ได้รับบริจาคมาในแต่ละครั้ง โดยมีพ่อของผู้ใหญ่สมร เป็นผู้ช่วยดูแลการก่อสร้าง

ศาลตายาย (ขอพร ขอโชคลาภ)

จนในที่สุด จึงได้ยกฐานะจดทะเบียนขึ้นเป้นวัดขุนสมุทราวาสอย่างเป็นทางการ มีเจ้าอาวาสรูปแรกชื่อหลวงตาใบ พื้นที่ของวัดในอดีตได้รับบริจาคมาจากชาวบ้านขุนสมุทรจีน มีเนื้อที่กว่า 76 ไร่ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 5 ไร่เท่านั้น เพราะถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนหายไปหมด

พระพุทธรูปด้านหน้าปากอ่าว

วัดขุนสมุทรจีนเปรียบเสมือนสายสิญจน์ยึดโยงจิตวิญญาณของลูกขุนสมุทรจีนเข้าไว้ด้วยกัน เป็นศูนย์รวมกิจกรรมทางพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชนแทบนี้ ด้วยพลังแห่งความศรัทธาของชาวบ้านวัดขุนสมุทรจีนจึงยืนหยัดต่อสู้กับคลื่นลมที่ถาโถมเข้าใส่มาได้จนถึงปัจจุบัน

(ปูเลย์ ขอเท่) บรรยากาศวิวด้านหน้าปากอ่าว ยืนรับลม ชมนกทะเล

ด้วยความเก่าแก่ของโบสถ์ผ่านมาหลายสิบปี ทั้งจมน้ำและเลยผ่านน้ำท่วมมาถึงจวบจนปัจจุบัน ได้มีการก่อสร้างโบสถ์ใหม่แกะลายอย่างสวยงาม ทั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ความสวยงามเปล่งประกายให้เราได้แลเห็น และอีกไม่นานวัดขุนสมุทรจีน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ศาสนิกชนแวะเวียนไปกราบไหว้พระ ทำบุญ ชมความงดงามของอุโบสถ ที่รอให้ทุก ๆ ท่านได้มาเป็นส่วนหนึ่งที่สัมผัสผ่านดวงตาแลเห็นถึงพระพุทธศาสนาที่ยังอยู่ให้ทุกคนเข้าถึงพระธรรมและมองเห็นสัจธรรมชีวิต

ถนนทางเข้าวัดขุนสมุทรจีน มีระฆังแขวนตลอดสองฝั่ง (สองฝั่งป่าโกงกาง)

สำหรับท่านใดที่มีโอกาส ขอแนะนำให้ไปเที่ยวชมกลิ่นไอของปากอ่าวทะเลที่ตั้งของวัดขุนสมุทรจีน สัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนวัดขุนสมุทรจีน สูดกลิ่นไอของธรรมชาติ ที่น้อยครั้งจะมีให้เราได้ชื่นชม

ว่างไหม? ขอแค่คำตอบ! หากคิดว่าการเดินทางคือความสุข การไหว้พระคือจุดเติมเต็มบุญ อย่าช้า! วันหยุดคราวหน้าเจอกันที่สวัดขุนสมุทรจีนนะขอรับ

บริเวณรอบวัดขุนสมุทรจีน

วัดขุนสมุทรจีน

ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น. (ขึ้นอยู่กับเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง)

ความสวยงามของดอกไม้ตลอดเส้นทางไปวัดขุนสมุทรจีน

การเดินทาง : ค่าเรือหางยาว คนแรก 100 บาท คนต่อไป คนละ 10 บาท

รถยนต์ส่วนตัว มุ่งหน้ามายัง อ.พระสมุทรเจดีย์ ถ.สุขสวัสดิ์ วิ่งมาจนเจอหอนาฬิกาสามแยกเจดีย์ ให้เลี้ยวขวาทางไปป้อมพระจุล ขับไปอีก 2 กิโลเมตร เจอ "สะพานคลองสรรพสามิต" ให้ข้ามเลี้ยวขวาเข้าซอยจากนั้นมุ่งหน้าไปอีก 5 กิโลเมตร จะเจอป้ายท่าเรือป้ารี่ตรงคอสะพาน แล้วต่อเรือหางยาวเพื่อเข้าไปยังวัด สำหรับรถยนต์สามารถจอดริมถนนได้ หรือเพื่อความสบายใจ ก็ใช้บริการรับฝากรถ