ถ้าให้พูดถึงจังหวัดที่เราไปแล้วชอบที่สุด ณ ตอนนี้เราขอยกให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดที่มีพื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นภูเขา การจะไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนต้องผ่านหลายพันโค้ง กว่าจะถึงสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ บอกเลยว่าถ้าใครเมารถนี่ เตรียมตัวเตรียมยาไปได้เลย จริงๆทริปนี้เป็นทริปแรกของเราที่เคยไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปช่วงเดือนกลางธันวาคมที่ผ่านมา วันที่ 8 -11 ธันวาคม 2564 ไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เจอหมอกทั้ง 3 วัน วันแรกเจอที่บ้านจ่าโบ่ วันที่ 2 บ้านรักไทย และวันที่ 3 จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ปาย อากาศก็เรียกได้ว่าหนาวเลย อุณหภูมิ ณ วันที่ไป ประมาณ10กว่าองศา เป็นทริปที่ประทับใจสุดๆ สวยทุกจุดที่ไป เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ ในการไปแม่ฮ่องสอนครั้งนี้มาฝากเพื่อนๆ ตามไปดูกันได้เลยครับ
ทริปนี้เราเดินทางโดยเครื่องบินไปลงเชียงใหม่ แล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปแม่ฮ่องสอน เหตุผลที่นั่งเครื่องไปลงเชียงใหม่เพราะค่าตั๋วถูกกว่านั่งไปลงแม่ฮ่องสอน ส่วนขากลับนั่งรถไฟกลับ
แพลนของเราคร่าวก็คือ
คืนที่ 1 นอนที่บ้านจ่าโบ่
คืนที่ 2 นอนที่บ้านรักไทย
คืนที่ 3 นอนที่ปาย
ไฮไลท์จุดเช็คอิน
01. จุดชมวิวกิ่วลม
02. บ้านจ่าโบ่
03. ภูผาหมอก
04. ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่
05. จุดชมวิวกิกอคอ บ้านห้วยเฮี๊ยะ
06. ผาหิน บ้านผาเผือก
07. บ้านรักไทย
08. วัดพระธาตุดอยกองมู
09. ถ้ำปลา
10. ปางอุ๋ง
11. สะพานซูตองเป้
12. ถนนคนเดินปาย
13. ทะเลหมอกหยุนไหล
14. บ้านสันติชล
15. น้ำพุร้อนไทรงาม
16. วัดพระธาตุแม่เย็น
17. กองแลน ปายแคนย่อน
18. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
เริ่มที่การเดินทางของเรากันเลยครับ ทริปนี้เราเดินทางโดยเครื่องบิน ไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ ไฟท์เช้าเลย
ไปถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้า รถมอเตอร์ไซค์เช่าที่จองไว้ ก็มาส่งพอดี จากนั้นก็ได้เวลาแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์ไปลุยแม่ฮ่องสอนกันแล้วครับ
ดูจากMap ระยะทางจากสนามบินไปบ้านจ่าโบ่ 188 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงได้ เราก็ขับไปแบบเรื่อยๆไม่รีบ เมื่อยก็แวะพัก
จุดเช็คอินแรกที่เราแวะเลยก็คือ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย จริงๆแพลนคือจะแวะวันที่มานอนปาย แต่ว่าเราแวะหาอะไรกินตรงสะพานพอดี เห็นคนไม่ค่อยมี แวะเก็บภาพซะเลย
เป็นสะพานที่ดูคลาสสิคเลยครับ ถ่ายรูปสวยเลย สะพานเหล็กที่เราเห็นสีเขียวๆนี้ ไม่ใช่สะพานใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นสะพานเหล็กจากสะพานนวรัฐ จังหวัดเชียงใหม่ มาสร้างทดแทนของเดิมที่เป็นสะพานไม้ที่ถูกทำลายไปเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่2
จุดที่2 เรามาแวะที่ จุดชมวิวกิ่วลม ปาย-ปางมะผ้า เป็นจุดชมวิว หรือเรียกว่าเป็นจุดพักรถก็ได้ พักเบรกความเมื่อยล้า หลังผ่านมาเป็นพันโค้ง
วิวทิวทัศน์ตรงนี้สวยเลย เห็นวิวของภูเขากว้างๆ อากาศดีมีลมโชย ตรงจุดนี้มีอาหารขายเผื่อว่าใครขับรถจนเพลินแล้วลืมกินข้าวก็มาหาอะไรทานตรงจุดนี้ได้
ขับรถมาเรื่อยๆตามเส้นทาง จากปายมาปางมะผ้า เรามาถึงบ้านจ่าโบประมาณ 4 โมงเย็นได้ คืนแรกเรานอนที่ บ้านรัตนา โฮมสเตย์ สำหรับบ้านจ่าโบ ตั้งอยู่ที่ ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า เป็นชุมชนเล็กๆของชาวลาหู่ ตั้งอยู่บนเนินเขาอันเงียบสงบ ที่นี่เปิดเป็นโฮมสเตย์ ราคาหลักร้อยแต่รับรองว่าวิวหลักล้าน อากาศหนาวทั้งปี เช้าๆมีทะเลหมอกบริเวณหมู่บ้าน
พิกัด : https://goo.gl/maps/9bEz1fUcy6...
ที่พักของเป็นเต็นท์ เพราะว่าหาไม่ได้พักไม่ได้เลย บ้านเป็นหลังเต็มหมด ทักหาหลายที่มากๆ สุดท้ายมาได้ที่เต็นท์ ราคาคิดเป็นรายคน คนละ 400 บาท รวมอาหารเช้าเย็น
ภายในเต็นท์ก็โอเคเลยครับ มีเครื่องนอนให้ ที่นอน หมอน ผ้าห่มครบ
มุมไกลๆ เต็นท์ของเรา เป็นส่วนตัวเลยครับ วิวสวยเลย มีห้องน้ำอยู่ด้านล่าง แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ ในห้องน้ำเป็นถังน้ำตักอาบ น้ำคือแบบเย็นได้ใจ
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จ 5 โมงเย็นเขาขับรถไปที่จุดชมวิว กิกอคอ บ้านห้วยเฮี๊ยะ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ มีร้านกาแฟเล็กๆ มีเครื่องดื่มขาย
วิวภูเขาสลับซับซ้อนสวยมาก
เก็บภาพบรรยากาศกันไปยาวๆครับ
ตรงนี้สามารถกางเต็นท์ได้ ใกล้ๆกันมีโฮมสเตย์
ภาพจากมุมดูสูงครับ คือเป็นภูเขาทั้งหมดบริเวณนี้
กลับมาถึงที่พัก คุณลุง คุณป้าเจ้าของที่พักก็ยกอาหารมาเสิร์ฟให้เลย เป็นชุดขันโตก อาหารท้องถิ่น
พร้อมก่อกองไฟให้ด้วย
อากาศยามค่ำคืน อากาศหนาวกำลังดี พอเห็นดวงดาวอยู่บ้าง แอบโรแมนติกนิดๆ
หลงรักบรรยากาศแบบนี้เลย ข้อดีของเต็นท์เราเลยก็คือ จะมีกองไฟนี่แหละ แต่ถ้านอนบ้านเป็นหลังจะไม่มี
ตี 5 ครึ่ง คุณลุงเจ้าของที่พัก นัดเราไปขึ้นภูผาหมอก จากโฮมสเตย์ไปประมาณ 750 เมตร เรานั่งรถกระบะไปยังตีนเขา จากจุดเริ่มเดินระยะทางขึ้นน่าจะไม่ถึง 500 เมตร เดินขึ้นใช้เวลาแค่ 5-10 นาทีก็ถึง ขึ้นไปถึงยังไม่สว่างก็เห็นหมอกเต็มพื้นที่
พอเริ่มสว่างก็เห็นหมอกชัดขึ้น วันที่เราไปโชคดีมาก ทะเลหมอกทั้งแน่นทั้งฟู แต่ที่นี่ก็จะมีทะเลหมอกแบบนี้เกือบทุกวันอยู่แล้วในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาว คิดว่าใครไปก็ต้องเจอ
พื้นที่ด้านบนค่อนข้างแคบ แนะนำว่าให้ไปเช้ามืดจะดีสุด ไปจับจองที่นั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอกสวยๆยามเช้า
เรารอจนพระอาทิตย์ขึ้น ถ่ายรูปเสร็จ เราก็ลงไปข้างล่าง แล้วเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยว
จุดชมวิวตรงร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา วิวสวยมาก
กินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา พร้อมวิวทะเลหมอกสุดปัง แต่ละคนก็ต่างจับจองที่นั่ง สั่งก๋วยเตี๋ยวมาทาน
มาถึงแล้วก็ต้องลอง จะบอกว่า ก๋วยเตี๋ยวอร่อยเลยนะ ไม่ได้มีดีแค่วิวเพียงเดียว แต่รสชาติผ่านเลย
มาถึงบ้านพักของเราหมอกยังอยู่เลย
หมอกปังมากครับวันนี้
เวลาน่าจะแปดโมงกว่าๆได้ ชอบหมอกที่นี่มาก
ภาพมุมสูงของหมู่บ้านจ่าโบ
สายๆก่อนเช็คเอาท์ เราไปกันที่ ผาหิน บ้านผาเผือก เป็นจุดเช็คอินลับที่คนไม่ค่อยรู้จัก ตั้งอยู่ที่บ้านผาเผือก ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า อยู่เลยบ้านจ่าโบไปประมาณ 10 กม.
พิกัด : https://goo.gl/maps/ixufKtUkY8...
ความพิเศษของที่นี่เลยก็คือ คือภูเขาตรงจุดนี้นอกจากจะมีต้นไม้ใบหญ้าแล้ว จะมีกองหิน ก้อนหินน้อยใหญ่ เรียงรายตามภูเขา เหมือนมีคนเอาหินไปวางฝังไว้ แต่ไม่ใช่เลย เกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา มองไปสวยแปลกตา เหมือนอยู่ต่างประเทศเลย
ใครไปบ้านจ่าโบ่ ก็อย่าลืมแวะไปเช็คอินดูครับ อยู่เลยบ้านจ่าโบ่ไปแค่นิดเดียว
หลังจากนั้นเราก็โบกมือลาบ้านจ่าโบ่ แล้วขับรถต่อมายังบ้านรักไทย จากบ้านจ่าโบ่มาบ้านรักไทย ระยะทางประมาณ 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง บ้านรักไทยตั้งอยู่ที่ อยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อยู่ท่ามกลางหุบเขา ริมทะเลสาบ เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน
มาถึง ตรงดิ่งมาที่ร้านชาสา รักไทย ร้านอาหารจีนยูนนาน
ด้วยความหิวโหย ก่อนเช็คอิน ขอมากินขาหมู หมั่นโถ ยูนาน กันสักหน่อย เค้าว่ากันว่าใครไปก็ต้องลอง
อร่อยจริง ยำใบชาก็อร่อย
ต้องบอกว่าช่วงปลายปี บ้านรักไทยหาที่พักยากมากๆ ที่ดังๆเต็มหมด กว่าจะหาที่พักได้ไล่ถามหลายที่มาก แนะนำว่าใครจะไป จองก่อนไปสัก2-3 เดือนไปเลย บางที่เต็มยาวถึงมกรา-กุมภา เราจองได้ที่ หมอกแก้ว รีสอร์ท ราคาคืนละ 1500 บาท ไม่ติดริมอ่างเก็บน้ำ ห่างประมาณ 100 เมตร สามารถเดินไปได้ไม่ไกล
ภายในห้องก็จะประมาณนี้ ไม่มีแอร์ มีพัดลมให้ ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัวมีครบ ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น
ก็ถือว่าห้องโอเคเลยครับ
ช่วงเย็นๆไปเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆอ่างเก็บน้ำ
บรรยากาศเหมือนเมืองจีนยังไงยังงั้น
มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ
ศาลากลางน้ำ จุดถ่ายรูปยอดฮิต
ฝั่งตรงข้ามกับลีไวน์ รักไทย ชาสา รักไทย
ฝั่งนี้ก็จะมีพวก ชาบู หมูกะทะ ขาย
มาถึงบรรยากาศที่รอคอยครับ ยามเช้า รีบตื่นมาเพื่อมาดูหมอกลอย ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศยามเช้า
หมอกลอยเหนือน้ำมาตามนัด บรรยากาศดีมากๆ อุณหภูมิประมาณ 12 องศา
อีก1กิจกรรมต้องห้ามพลาดเมื่อไปเยือนบ้านรักไทยก็คือ ล่องเรือยามเช้า เคล้าสายหมอก
มุมไฮไลท์ยอดฮิต สะพานไม้ติดกับร้านชา
บรรยากาศยามเช้าดีมาก
อากาศหนาวๆ ต้องจิบชา จะบอกว่าชาที่นี่หอมมากๆ ทุกร้านจะมีชาให้ชิมฟรี
ถ่ายรูปออกมาเกือบทุกมุมนี่นึกว่าไปประเทศจีนจริงๆ
เช็คเอาท์จากที่พักเสร็จ เราไปกันต่อที่ปางอุ๋ง
ปางอุ๋ง ตั้งอยู่ที่บ้านรวมไทย ริมอ่างเก็บน้ำห้วยมะเขือส้ม ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ มีทิวต้นสนอยู่ล้อมรอบ ได้ฉายาว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ เมืองไทย
เราไปสายแล้วก็เลยไม่มีหมอกลอยเหนือน้ำ แต่บรรยากาศก็ยังดีมากๆ กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อไปปางอุ๋งก็ต้องไปล่องเรืออ่างเก็บน้ำ
จุดกางเต็นท์ บริเวณต้นสน ใครจะไปกางเต็นท์ต้องจองผ่านเว็บไซต์อุทยานแห่งชาตินะ
มุมถ่ายรูปยอดฮิต สะพานยื่นริมอ่าง
จากจากอุ๋งไปแวะต่อกันที่สะพานซูตองเป้
สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/Lm7o3iDbHZ...
ถ้ามาฤดูฝนก็จะได้เห็นทุ่งนาเขียวขจี มีสะพานทอดยาวข้ามทุ่งนาไปจนถึงวัดภูสมณาราม
หรือสวนธรรมภูสะมะ
วันที่เราไป จริงๆเราแค่ตั้งใจจะไปถ่ายรูปที่สะพานเฉยๆ เผอิญเจอคุณป้าท่านนึง แกมาคนเดียว เลยขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ พอถ่ายรูปเสร็จแกก็บอกว่าให้ไปไหว้ขอพรที่วัดด้วยนะ สามารถขอพรได้1ข้อ คุณป้าบอกว่าหลวงพ่อที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก แกมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว พอได้ยินดังนั้นแล้วเราจะช้าอยู่ใย 555+ รีบเดินตามคุณป้าไปที่วัด ไปไหว้ขอพร พระเจ้าพารา ซูตองเป้ หรือ พระพุทธสามัคคีอธิษฐานมหาจักรพรรดิ วิธีการไหว้ก็คือ ที่นี่ก็จะมีดอกไม้ ธูปเทียนที่ทางวัดจัดไว้ เราทำบุญตามศรัทธา แต่ว่าเค้าจะมีแผ่นไม้ไผ่ให้เขียนขอพร สามารถเขียนขอพรได้ 1 ข้อ เสร็จแล้วนำไปแขวนไว้ตรงจุดแขวนด้านหน้าองค์หลวงพ่อ
วัดพระธาตุดอยกองมู วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพระธาตุดอยกองมู สูงเสียดฟ้า ตั้งอยู่บนเขา ถ้าไปเช้าๆจะเห็นทะเลหมอก
วัดพระธาตุดอยกองมู ตั้งอยู่ที่ ตำบลจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/PaQj8L4cpo...
วิธีการไหว้พระธาตุ จะมีเครื่องสักการะ เป็นดอกไม้ ธูปเทียนที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ เราสามารถทำบุญตามศรัทธา แล้วเดินเวียนขวารอบองค์พระธาตุ 3 รอบ แล้วนำเครื่องสักการะไปวางที่หน้าพระประจำวันเกิด จะอยู่รอบๆองค์พระธาตุ จากนั้นจึงจุดธูปเทียนต่อหน้าพระประจำวันเกิด แล้วท่องคาถา อธิษฐานขอพร
ด้านหลังองค์พระธาตุ วิวสวยมาก มีจุดชมวิว มีร้านกาแฟเล็กๆด้วยนะ
จากวัดพระธาตุดอยกองมู เรามากันที่ถ้ำปลาครับ
พิกัด : https://goo.gl/maps/RLYEqn6w7Q...
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่นี่ ก็คือมีปลาพวงอยู่ในถ้ำ ตามธารน้ำเป็นจำนวนมาก ค่อนข้างแปลกสามารถให้อาหารปลาได้ ด้านในมีอาหารขาย ด้านในค่อนข้างร่มรื่น มีจุดกางเต็นท์ด้วยนะ มีจุดถ่ายรูปหลายจุด มีสะพานแขวนข้ามลำธาร มีร้านอาหาร จะบอกว่าร้านส้มตำ ที่นี่อร่อยมาก แนะนำเลย
มีปลาพวงอยู่ในถ้ำ ตามลำธาร เยอะมากๆ
มีสะพานแขวนข้ามลำธาร
ร้านอาหารหน้าถ้ำปลา ข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำอร่อยมาก
คืนที่ 3 เรามากันที่ ปาย เราพักที่ Paicountryhut อยู่ใกล้กับถนนคนเดินปาย ราคาถูกเลย คืนละ 800 บาท เราใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเหลือคืนละ 480 บาท
พิกัด : https://goo.gl/maps/RdBtgTun78...
ตกเย็นได้เวลาไปเดินเล่นถนนคนเดิน
สะพานไม้ ข้ามลำธาร จากที่พักไปถนนคนเดิน
ไปเดินเล่นหาของกินกันสักหน่อยครับ
มีความ Slow life มุมถ่ายรูปชิคๆเยอะเหมือนกันนะ มีความคล้ายถนนคนเดินเชียงคาน
ของกินเยอะแยะมากมาย ของกินแปลกๆก็มีนะ ขนมข้าวปุกแปลกๆดีพึ่งเคยกิน ขนมจีนน้ำเงี้ยว ร้านที่มีแคร่ให้นั่งอร่อย เกี๊ยวลุยสวนอร่อย
ร้านเท่ๆ ชิคเยอะมาก เย็นๆใครจะไปปั่นจักรยานเล่นก็ได้
วาดสวยมาก
ร้านขายเสื้อผ้าร้านนี้ สดุดตาสุด สีสันแจ่มมาก
ยามเช้าไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิวหยุนไหล
จุดชมวิวหยุนไหล ตั้งอยู่ที่ ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/yhS4Z88sNM...
หมอกฟูและแน่นมาก สวยโคตรสวย เจอหมอกเป็นวันที่ 3
เก็บภาพซะหน่อย
จากทะเลหมอกหยุนไหลมาต่อกันที่หมู่บ้านสันติชล
บ้านสันติชลตั้งอยู่ที่ บ้านสันติชล หมู่5 ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/NC2hfRUxyV...
ก่อนอื่นไปเช่าชุดกันก่อน
ได้ชุดมาแล้วก็ไปเดินถ่ายรูปกัน บรรยากาศนี่นึกว่าอยู่เมืองจีนอีกแล้ว
มุมถ่ายรูปเยอะมาก จุดนี้เป็นกำแพงเมืองจีนจำลอง ุุล
กิจกรรมสำหรับที่นี่ก็จะมี ยิงปืน ขี่ม้า เล่นชิงช้าดอย ดูบรยากาศดิ โคตรคูล
บอกเลยว่าไปที่นี่ถ่ายรูปจนเพลินอ่ะบอกเลย
มาต่อกันที่ บ่อน้ำแร่ร้อนไทรงาม
ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/FQubpNUz4B...
ออนเซ็นเมืองไทย น้ำพุร้อนไหลลงมาเป็นธารน้ำตก มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสๆมาก ออกเป็นสีฟ้าอมเขียว น้ำอุ่นกำลังดี ท่ามกลางอากาศหนาวแบบนี้
ลงแช่เท้าแช่ตัวฟินๆน่าจะรู้สึกผ่อนคลายดีนะ ตอนเราไปแค่ลงไปแช่เท้าสบายเท้ามากๆ
น้ำใสมาก เห็นยันพื้นด่านล่าง น้ำอุ่นกำลังดี ไม่ร้อนด้วย
ก่อนเข้าไปเช็คเอาท์ มาแวะที่วัดพระธาตุแม่เย็น ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/3ZocqDp6ZP...
วัดเก่าแก่อยู่คู่เมืองปายมาช้านาน ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อยู่เลยตัวเมืองปายไปประมาณ 2 กม. ที่นี่ถ้าขึ้นไปด้านบนจะเห็นวิวเมืองปายได้ เราสามารถขึ้นบันได 300กว่าขั้น เพื่อไปสักการะ พระพุทธโลกุตระมหามุนี พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่ ที่ตั้งสง่าอยู่ด้านบน แล้วเราจะเห็นทิวทัศน์ของเมืองปายได้อย่างชัดเจน
สวยมากครับ ใครไปปายแนะนำเลยต้องแวะ
จุดสุดท้ายของทริปนี้เรามาแวะกันที่ กองแลน แคนย่อนปาย อยู่ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 7 กม. อยู่ติดกับถนนใหญ่ ทางกลับไปเชียงใหม่พอดี
พิกัด : https://goo.gl/maps/sJ3kJqpQPv...
เราไปตอนเที่ยงแดดร้อนมาก
แกรนแคนย่อน ที่นี่เกิดจากธรรมชาติที่ดินถูกลมและฝนกัดกร่อน จนเป็นทางเดินแคบๆเหมือนทางตะกวด มีชั้นดินเป็นหน้าผา วิวสวยแปลกตา มีทิวเขาล้อมรอบ เห็นวิวแบบพาโนรามา แต่แนะนำว่าควรไปตอนที่แดดไม่ร้อน เช้าๆหรือเย็นไปเลย สามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินได้ที่นี่
ถ้ามาเช้าๆ หรือเย็นๆก็น่าจะสวยเลยครับ จากกองแลนเราก็ขับรถยาวๆไปเชียงใหม่ คืนรถเช่าที่สถานีรถไฟแล้วกลับรถไฟรอบ 18.00 น.
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
ค่าเครื่องบิน 2372 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ วันละ 350 เช่า 4 วัน = 1400 บาท
ค่าที่พัก 3 คืน 800+1500+480 = 2780 บาท
ค่ารถไฟขากลับ 1814 บาท
ค่าน้ำมันประมาณ 500 บาท
ค่ากินประมาณ 3000 บาท
หาร 2 เฉลี่ยทริปนี้ หมดไปคนละประมาณ 6000 บาท
จบแล้วครับ สำหรับทริปแม่ฮ่องสอน เป็นทริปปิดท้ายปลายปีที่ประทับใจมาก หลงรักแม่ฮ่องสอนเข้าแล้ว มีโอกาสต้องกลับไปซ้ำแน่อน ยังไงก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เผื่อว่าใครกำลังวางแพลนไปแม่ฮ่องสอน ลองแพลน ลองลิสต์ที่เที่ยวตามรอยได้เลยครับ จริงๆเดือนมกราคมเป็นเดือนที่หนาวที่สุดของแม่ฮ่องสอน ยังทันนะครับ ถ้าใครกำลังคิดว่าจะไปหรือไม่ได้ดี แนะนำเลยครับ แม่ฮ่องสอนอีก 1 จังหวัดภาคเหนือที่ต้องห้ามพลาด แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ ^^
อยากเที่ยวก็เที่ยว
วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 19.40 น.