“ เส้นทางเดินป่าระยะไกลชุมชนขุนน้ำเงา “ 5 วัน 4 คืน ระยะทาง 50 กิโลเมตร

   เส้นทางเดินป่าระยะไกลเส้นนี้เป็นเส้นทางเดินป่าสลับกับชุมชน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสป่าและชุมชนไปพร้อมๆกัน บางเส้นทางจึงต้องตัดเข้าตัวหมู่บ้านโดยเริ่มจาก เส้นทาง แม่ปะ – จอลือ ไปสิ้นสุดที่ สบโขง ระยะทางเดินเท้ารวมๆแล้วก็ 50 กิโลเท่านั้น!!! แม่เจ้าเดินให้ตีนแตกไปเลยจ้าาาาา แต่ต้องยอมรัยเลยว่าเส้นนี้สวยสะท้านมากๆ สวยตั้งแต่วันที่หนึ่งเลย เราอยากให้รีวิวนี้เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนใหม่ๆ ที่ชื่นชอบและรักในการเดินป่าอยากมาสัมผัสวิถีความสงบสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง

สิ่งที่ควรรู้เมื่อไปขุนน้ำเงา

- เส้นทางนี้ไม่มีลูกหาบ

- ไม่มีแหล่งน้ำระหว่างทางที่เดิน แต่ที่แคมป์ทุกวันมีจุดตักน้ำใกล้ๆ 

- เส้นทางนี้เปิดให้เดินเฉพาะช่วง พ.ย. – ม.ค. เท่านั้น

- ที่อช.แห่งชาติแม่เงาไม่มีสัญญาณมือถือ แต่ระหว่างทางเดินคือสัญญาณดีมากกกกก ตลอดเส้นทาง

- เส้นทางนี้ติดต่อผ่านชุมชนโดยตรงเท่านั้น พี่วิทู เบอร์โทร 061 383 8318

- เนื่องจากเราจะต้องเดินทางผ่านอุทยานฯแม่เงาและผ่านชุมชน ผู้เข้าร่วมเดินทางจะต้องปฏิบัติตามมาตรการโควิดของอุทยานฯด้วย 

     1. จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม

     2.จะต้องเตรียมชุดตรวจโควิด ATK มาด้วย 1 ชุดเพื่อทำการตรวจที่ที่ทำการอุทยานก่อนจะเดินทางเข้าชุมชน

DAY 1    

      ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ไปยัง อุทยานแห่งชาติแม่เงา จ.แม่ฮ่องสอน ไปถึงหน้า อช.ก็ลงทะเบียน ตรวจ ATK วัดอุณหภูมิ กินข้าวเช้าให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวขึ้นรถกะบะที่ทางแม่เงาจัดไว้

จากอช.แม่เงา นั่งรถต่อไปอีกประมาณ 1 ชม.

สิ้นสุดทางรถ ที่จริงทางที่ต้องเดินไปต่อ รถวิ่งได้สบายมาก แต่คนนำบอกว่าไม่สามารถนำรถผ่านไปได้เนื่องจากคนละหมู่บ้านกัน เค้าไม่ให้นักท่องเที่ยวนั่งรถผ่าน จะส่งนักท่องเที่ยวได้แค่ตรงนี้ เป็นทางสามแยก

จุดสตาร์ท ก็ชันเลย 10 โมงแดดเปรี้ยง

จุดนี้แวะพักกินข้าวกลางวันกันก่อน ช่วงถนนที่ผ่านมาร้อนมากกกกกก และทางก็ยังชันอีกด้วย ฝุ่นก็เยอะ

แต่พอนั่งลงกินข้าวแปปเดียวอากาศที่ร้อนก็หนาวๆ ลมพัดคลอด อากาศช่วงนี้คือดี ร้อนแค่ตอนเดินแปปเดียว (ช่วงที่มาเดินคือ 22-26 ธ.ค.64)

พร้อมเดินต่อแล้ว...Go go go

จากป้ายนี้เดินไปอีกประมาณ 2.5-3 โลเท่านั้นก็ถึงเลย แต่ถ้ามากับ อช.รถจะมาส่งถึงจุดนี้เลยค่า

ในภาพดูเหมือนร้อนเนอะ แต่ที่จริงอากาศเย็น

ไม่รู้จะอธิบายยังงัย จากจุดนี้ไปคือสวยตลอดเส้นทางเลย เป็นเขาโล้นๆทางโล่ง มองไปทางไหนก็เป็นช่องเขาสลับกัน

จากจุดเริ่มต้น - ถึงแคมป์วันที่1 ดอยม่อนกองข้าว ระยะทางทั้งหมด 9 กิโลเมตร
เริ่มเดิน 9.50-16.30 น. นั่งพักตลอดทาง ไม่รีบเลย

จุดกางเต้นท์คือสวยมากกกกกกก วิวดีที่หน้าเต้นท์เลย

ตอนเย็นๆ ก็เดินขึ้นไปถ่ายพระอาทิตย์ตกที่ตรงป้ายดอยม่อนกองข้าว สวยดี อากาศตอนนี้เย็นมากๆ

วันนี้ขอส่งทุกคนเข้านอนกันด้วยทางช้างเผือกสวยๆของคืนนี้

DAY 2

กินข้าวเช้าเสร็จก็รีบเก็บของแล้วออกเดิน

จากที่เดินทางลาดๆมาตลอด ช่วงนี้จะดันขึ้นชันหน่อยนะ แต่แค่ระยะทางสั้นๆ ที่เล่นเอาหอบเหมือนกัน

ถึงจุดแคมป์วันที่ 2 แล้ว สามารถนอนตามสัน และ ตรงป่าก่อนถึงจุดนี้ได้ ตรงป่าจะไม่ค่อยหนาว ตรงป่ากางเปลได้ มีจุดให้ไปตักน้ำ เดินไป 1 กิโลเมตร ทางชันมากขากลับ
วันนี้เริ่มเดินตอน 9.30-15.00 น. ระยะทาง 8 กิโลเมตร

ช่วงเย็นก็นั่งดูพระอาทิตย์ตกที่หน้าเต้นท์ได้เลย คือดี

จากเนื้อหาที่กล่าวมาข้างต้น แคมป์วันนี้คือ ดอยธง แต่หลายคนคงสงสัยได้ว่าทำไมป้ายถึงเขียนว่าคุยหลวง

ในภาษาเหรี่ยง คุย หรือ คลุย หมายถึง หัวโล้น
หลวง หมายถึงใหญ่
คุยหลวงก็คือภูเขาที่หัวโล้นลูกใหญ่ๆ จะเป็นเขาลูกไหนก็ได้
เช่น คลุยหลวงที่ทูเล กับคุยหลวงที่ ขุนน้ำเงา ไม่ใช่เขาลูกเดียวกันนะ
จุดนี้คือดอยธง ขุนน้ำเงา

อากาศหนาวมากกก

DAY 3 

หมอกลงจัดเลย อากาศคือหนาวเลย

เก็บของแล้วเริ่มเดินกัน 9 โมงกว่าๆเหมือนเดิม วันนี้เราจะเดินตัดลงไปทาง ร.ร.บ้านแม่หาด
แต่ถ้าไปกับ อช.จะไปลงอีกทางหนึ่งคือไปทาง ดอยปุยน้อย และปุยน้อยนี้ก็ไม่ใช่ปุยหลวงที่เลโจ๊ะ คนละลูกกันคนละที่กัน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดแอดขออธิบาย ณ ตรงนี้

กระบอกไม้ไผ่ยาวๆ ที่อยู่ตรงหน้านั้น ชาวบ้านทำไว้สำหรับรองน้ำฝน โดยน้ำจะไหลผ่านใบตองแล้วกรองลงไม้ไผ่ยาวๆอีกที แต่ช่วงนี้หน้าแล้งไม่มีน้ำให้แวะกินเลย ตลอดเส้นทางไม่มีน้ำนะ ต้องกรอกจากแคมป์มาให้เรียบร้อย 

ทางเดินจะสลับ ป่า กับ ถนน

วันนี้เดินท้อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เริ่มเดินตั้งแต่ 9 โมง ตอนนี้ 5 โมงเย็นแล้วยังไม่ถึง แต่เดินมาตรงนี้เจอก๊อกน้ำวะ มีน้ำด้วย เย็นมาก แวะล้างหน้าล้างตากันก่อน แล้วลุยต่อ ไม่รู้จะถึงกี่โมง

จากที่เดินๆหยุดๆ มาตลอด ตอนนี้ต้องรีบจั้มแล้วไม่งั้นมึดแน่นอน

เดินๆอยู่ในป่าดีๆ ก็มาทะลุหมู่บ้านเฉยเลย งง มาก 

ซ้ายมือข้างหน้านี้คือร้านชำที่มีโค้กเย็นๆรออยู่

เมื่อเห็นประตูรั้วโรงเรียนแสดงว่าเราถึงแล้ว

สำหรับวันนี้ 19 กิโลเมตร 19 จริงๆ เดินไปได้ไงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ล้าสุดๆ หิวสุดๆ ถึง โรงเรียนตอน 18.10 น.

วันนี้ขอลาไปด้วยไข่เจียว 5 จาน

DAY 4

จากโรงเรียนไปถึงปลายทางวันนี้ จะไม่มีวิวอีกแล้วเป้นแค่ป่า ป่า และชุมชนเท่านั้น เป็นระยะทาง 14 กิโลเมตร

เหมือนเคยออกเดิน 9 โมงกว่าเกือบๆ 10 โมง

เช้านี้ข้าวต้มร้อนๆ

นี่คือทะเลหมอกจากหนเาโรงเรียน

มีคนอิแตะขาด ก่อนหน้านี้รองเท้าเดินป่าก็พื้นหลุด ที่สุดแล้วคนนี้

วันนี้ข้ามลำธารไปมาหลายครั้ง 

นั่งพักกินข้าวกลางวันกันตรงนี้

จากที่เดินมา 4 วันแล้วค้นพบว่าเด็กๆ ทุกหมู่บ้านน่ารักมากๆ มารยาทดี 

ยกมือไหว้สวัสดีทักทายตลอดเส้นทาง 

อุ้มเจ้าเสือข้าวไปด้วย หมาอะไรไม่รู้ตามมาทุกวันเลย

ไม่อยากเปียกแล้ว โดนอุ้ม

แวะเติมพลังกันสักหน่อย

อย่างที่บอกเด็กยกมือไหว้ตลอดเส้นทาง น่ารักมากๆ

วันนี้เดิน 14 กิโล แบบไร้สาระมากๆๆๆๆๆ

ทางถนนเยอะมากกกกกก นั่นคือความคิด ณ ช่วงเวลานั้น แต่ตอนนี้กลับมาบ้านมานั่งเขียนรีวิว ความรู้สึกกับต่างออกไป มันดีเหมือนกัน การที่เราได้แวะกินน้ำเย็นๆ ทุกหมู่บ้านที่ผ่านไปด้วยขาของเราเอง ได้แวะคุย ได้แวะบ่น มันได้ฟิลไปอีกแบบ ถ้าใครที่มีเวลาก็อยากให้มาลองเส้นทางนี้ดู มันไมไม่ได้แย่ขนาดนั้น

ก็แค่ตีนเปื่อยยยยยยย เหมือนผ้ายับที่ยัดไว้อีกที ^ ^ 

คืนนี้นอนนี่จ้า

เหล่าแม่ครัว

DAY 5

เช้าวันสุดท้ายของเส้นทางขุนน้ำเงา เราจะล่องแพไปกันค่า 

แดดยังมีอยู่

กำลังใจมาทั้งหมู่บ้านจ้า

ขึ้นเรือปุ๊บ ฝนตกปั๊บ จากที่มีแดดมาทุกวัน ให้ชิลหน่อยไม่ได้เลยหรอ?
มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ตลอดๆ 

ชิลไหมล่ะ? นั่งเรือสบายๆ หึ

ไอ้เสือ ตามมาถึงนี่เลย

ล่องเรือไปประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แล้วนั่งกะบะต่อกลับ อุทยานอีก 1.30 น.

     ทริปนี้เป็นทริปที่ยาวนานและมีหลากหลายอารมณ์ ใน 5 วัน 4 คืน กับระยะทางทั้งหมด 57 กิโลเมตร และเพื่อนทั้ง 10 คน แต่พวกเราผ่านมันไปได้ด้วยกัน 

   ทุกอย่างถูกเยียวยาด้วยเสียงหัวเราะ อาหารอร่อยๆ ดวงดาวและทางช้างเผือก อากาศดีๆ 
   เรื่องที่ไม่ค่อยดีในทริปนี้เราจะไม่เอ่ยถึงมันมากนัก แต่อยากให้คนที่จะมารูทนี้อยากให้ดิลทุกอย่างไว้ให้ดีๆ ตกลง เรื่องรถ อาหารให้แน่ใจ
แล้วสนุกกับการเดินทางนะคะ 
ปล.พบกันใหม่ที่ป่าหน้า 

#เสพติดเขา

ภาพที่โคตรสวย : พี่โม (Korostudio)ช่างภาพ ,นิว (0982374669 ช่างภาพโสด),
มิกกี้ เพจ wake forpic ,พี่หน่อง เพจหน่องซื้อมาแล้ว,มิ้นท์เสพติดเขา,และเพื่อนๆ


Mint Septidkhao

 วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.57 น.

ความคิดเห็น