อยู่ๆก็อยากลองนั่งรถไฟไปเที่ยวลพบุรี ก็เลยเปิดลองหาข้อมูลดูว่าลพบุรีมีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง เปิดไปโอโห้ ลพบุรีที่เที่ยวเยอะเหมือนกันนะนิ เป็นทริปที่แพลน2-3วันแล้วไปเลยครับ ทริปนี้เป็นทริปที่ไปก่อนปีใหม่ มีเวลาแค่1วัน นั่งรถไฟไปลพบุรีซะเลย หรือจากกรุงเทพใครไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถนั่งรถตู้มาได้เช่นกัน ระยะเวลาไม่น่าเกิน 3 ชั่วโมง ทั้งรถไฟ รถตู้ 

ทริปนี้ผมเดินทางจากพิจิตรนะครับ เป็นรถไฟชั้น 3 รอบประมาณเที่ยงคืน จากบางมูลนาก จ.พิจิตร ถึงสถานีรถไฟลพบุรี ประมาณตี 3 ได้ เอาจริงๆคืออยากไปถึงเช้าพอดี แต่ไม่มีเลย ต้องไปขบวนนี้ แต่จากกรุงเทพ มาลพบุรี เหมือนจะมีรอบที่ถึงเช้าพอดีนะ ลองหาข้อมูลกันดู 

ไปถึงสถานีรถไฟลพบุรี ก็นั่งเล่นนอนเล่นรอเช้า 

พอเริ่มสว่างก็เดินเล่นตามเมืองเก่ากันครับ แต่ละจุดก็จะอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ จุดแรกไปที่พระปรางค์สามยอด ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เป็นปราสาทศิลาแลงแบบเขมร เชื่อมต่อกัน 3 องค์ อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟลพบุรี ด้านในสามารถเดินเข้าไปชมได้นะ

ส่วนผมเห็นลิงด้านในเยอะมากๆ เป็นคนกลัวลิง เลยไม่กล้าเดินเข้าไป 555

อาคารร้างหลังนี้ดูคลาสสิคดีนะ เป็นที่อยู่อาศัยของลิงไปซะแล้วฮะ

ตรงนี้คือเทวสถานปรางค์แขก 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นวัดเก่าแก่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ มีความเป็นเมืองเก่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ใครไปลพบุรีไม่แวะไปก็เหมือนมาไม่ถึง 

ตรงนี้เป็น วัดอินทรา 

07.00 น. เราไปเช่ารถที่ร้าน Noom Guesthouse & Restaurant Lopburi
อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ เดินประมาณ 300 เมตร เห็นเซเว่นแล้วเดินตรงไปเลยครับ ถัดจากเซเว่น เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยครับ จะเห็นป้ายอยู่สีขาวแดง ถ้าซูมจากภาพนี้จะเห็นเลยครับ ร้านเปิด 07.00 น. - 21.00 น. มีหลายรุ่นให้เลือก ราคาอยู่ที่วันละ 300-500 บาทครับ 

ได้รถแล้วเราก็ขับไปที่ร้าน กระเพรา & coffee
คาเฟ่เมืองลพบุรี ทีมีสวนดอกไม้สวยเป็นลำดับต้นๆของประเทศ ดอกดาวกระจายเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง เดินลัดเลาะตามสะพานไม้ ถ่ายรูปเช็คอินกับแบบคูลๆกับทุ่งดอกไม้ นอกจากสวนดอกไม้ที่นี่ก็มีอาหาร และเครื่องดื่มขาย ไฮไลท์ก็คือกระเพราตามชื่อร้าน

ด้านหลังคาเฟ่ก็จะมีทุ่งดอกดาวกระจาย มีสะพานทอดยาว เลาะไปตามทาง สองฝั่งก็จะเป็นทุ่งดอกดาวกระจาย โดยจะเสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 20 บาท 

มองไปไกลก็จะเห็นทิวเขาจีนแล

ทุ่งดอกไม้วันที่เราไปสวยมากครับ บานเต็มที่เกือบ100% 
ร้านเปิด 08.00 น. - 17.30 น. 

จุดที่สองเราไปที่ทุ่งทานตะวันไรพี่เผือก 

ทุ่งทานตะวัน ไร่พี่เผือก แห่งนี้วิวด้านหลังเป็นเขาจีนแล ไฮไลท์ของไร่นี้ก็คือเขาด้านหลังเป็นทรงแหลมๆสวยงาม แปลกตา

สำหรับทุ่งทานตะวันไร่พี่เผือก เค้ามี2แปลง ข่าวล่าสุดเห็นว่าแปลงที่ 2 บานแล้ว ใครมีแพลนไปก็ลองเช็คได้ที่เพจ ทุ่งทานตะวันเขาจีนแล เพจนี้เค้าจะอัพเดต ว่าตอนนี้ทุ่งไหนบ้านแล้ว ทุ่งไหนปิดแล้ว เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเที่ยวด้วยครับ 

โดยบริเวณรอบๆเขาจีนแลก็จะมีทุ่งทานตะวัน หลายเจ้าเลยครับ ยังไงก็ลองเลือกกันดูครับ

จากทุ่งทานตะวัน เรามาที่วัดมุจลินท์ที่นี่มีวิหารที่สวยงาม  โดยรอบวิหารมีการสร้างองค์พญานาคมุจลินทร์ 7 เศียร สีรุ้งอยู่ด้านขวา คู่กับ องค์ศรีมุจลินทร์ 5 เศียรสีขาว อยู่ด้านซ้าย ล้อมรอบด้วยพญานาคหลายตน สวยงามอลังการมาก 

สวยงามอลังการมากครับ ที่เห็นนี่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์นะครับ 

ด้านในวิหารมีหลวงพ่อนาคปรก สามารถเข้าไปกราบไหว้ขอพร ขอโชค ขอลาภกันได้ 

โลเคชั่นที่ 4 เรามาแวะที่วัดคุ้งท่าเล่า เป็นวัดที่อยู่ในอำเภอบ้านหมี่ มีไฮไลท์คือหน้าวัดมีรูปปั้นหนุมานขนาดใหญ่อ้าปากอยู่ตรงทางเข้า 

มีไมยราบสีม่วงอยู่ด้านในตรงทางเข้าวิหาร 

ภายในวัดยังมีประติมากรรมอีกมากมายที่เกียวกับรามเกียรติ์ 

ที่นี่ถือว่าเป็นแลนมาร์คของอำเภอบ้านหมี่เลยก็ว่าได้

ที่ต่อมาพาไปแวะนั่งชิลคาเฟ่กันหน่อย เรามาที่ Tong’au Cafe
คาเฟ่ ที่ตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนท้องทะเลสไตล์บาหลี เป็นคาเฟ่กลางน้ำ มีศาลายื่นออกไปเหมือนมัลดีฟส์ มีต้นมะพร้าว ชายหาดจำลอง อารมณ์เหมือนไปทะเล มุมถ่ายรูปเยอะมาก บรรยากาศชิล มีเครื่องดื่มเยอะแยะมากมาย

นี่มัลดีฟส์หรือเปล่า ไม่ใช่ที่นี่ลพบุรี 

ตรงบริเวณคาเฟ่ ตกแต่งโทนสีขาว มีต้นมะพร้าวและชายหาด ดูมินิมอล ได้อารมณ์เหมือนไปทะเลเลยฮะ

สั่งเค้กมะพร้าวกับน้ำมะพร้าวมาก็รสชาติ ใช้ได้เลยครับ นั่งชิลๆ พักผ่อน เดินถ่ายรูปเล่น โอเคเลยครับ

สะพานรถไฟโคกสลุง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
น่าจะเป็นไฮไลท์ของจังหวัดลพบุรีเลยก็ว่าได้ ใครไปลพบุรีต้องไม่พลาดที่จะแวะไปที่นี่ เป็นสะพานข้ามทางรถไฟที่ตั้งอยู่บนเขื่อน ผ่ากลางลำน้ำ จึงเรียกว่าเป็นจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ มีทิวทัศน์สวยงาม ถ้าจะให้ดีต้องไปตอนช่วงที่มีรถไฟผ่าน อย่างเราไปใกล้4โมงเย็นก็มีดีเซลรางผ่านพอดี ก่อนไปก็ลองเช็คตารางดูก่อนก็ได้ครับ บริเวณรอบๆก็จะมีชาวบ้านมาตั้งขายอาหาร จุดถ่ายรูปสามารถเดินเลาะไปตามรางรถไฟได้ ได้ฟีลคล้ายๆญี่ปุ่นนิดๆ

แอ๊บว่าอยู่ญี่ปุ่น 555

เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ

จุดที่คนนนิยมถ่ายก็จะเป็นบริเวณสะพาน เลาะทางรถไฟกลางลำน้ำ

ทริปนี้เราได้กระเป๋าสุดเท่จาก GASTON LUGA ที่เหมาะกับสายลุย สายเที่ยวแบบเรา เป็นแบรนด์จากประเทศสวีเดน มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวกระเป๋าเป็นหนัง กันน้ำได้ ทำความสะอาดง่าย ใส่ของได้ค่อนข้างเยอะ อย่างของเราเป็นรุ่น RULLEN ขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถใส่ notebook ipad หรือกล้องถ่ายรูปได้ สำหรับคนที่สนใจ ลองไปเลือกซื้อกันได้ที่ www.gastonluga.com มีหลายรุ่น หลายสีให้เลือก
ใช้โค้ด Yhaktiew15 มีส่วนลด15% ฟรีที่ใส่การ์ด ถึงวันที่ 21 มกราคม 2565

สี่โมงเย็น รถไฟมาพอดี จะถ่ายด้านนอก หรือรอถ่ายใกล้ๆคู่กับรถไฟก็ได้ 

สี่โมงกว่าแล้วได้เวลาไปกันต่อครับ 

ภูซับเหล็ก
น่าจะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่พึ่งเปิดได้ไม่นานนัก ระยะทางขึ้นเขาน่าจะประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 15 นาที ด้านบนวิวสวยมาก เห็นอ่างเก็บน้ำอยู่ด้านล่าง มองไปไกลๆจะเห็นทิวเขาจีนแล 
ก่อนเดินขึ้นก็พกน้ำไปสักขวดนะ เผื่อกระหาย

ก็ถือเป็นอีก1ไฮไลท์เลยครับ เดินใกล้ๆ แต่วิวสวยอลังการ 

พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแสงสวยมากครับ 

สักรูปก่อนเดินลง 

ใกล้ๆกันกับภูซับเหล็กก็จะมีอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ห้ปักหมุดไปที่หาดทรายเทียม อ่างซับเหล็ก เป็นอีกจุดที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยมาก

เป็นวิวฝั่งเดียวกันกับภูซับเหล็ก สีท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตกดินเป็นอะไรที่สวยงามมาก 

ลากันไปด้วยภาพนี้ครับ จบแล้วสำหรับทริปลพบุรี one day trip รู้สึกว่าเวลาเที่ยวไม่พอ ที่เที่ยวเยอะมากๆ ยังมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ได้แวะไป แนะนำว่าถ้ามาสัก 2 วัน 1 คืน กำลังดี น่าจะเที่ยวได้ครบ ไม่เหนื่อยมาก สำหรับทริปนี้ก็ประทับใจในจังหวัดลพบุรี มากครับ เป็นวันเดียว ที่เที่ยวสนุกคุ้มค่ากับการเดินทาง ใครที่มีเวลาน้อยแล้วอยากลองมาเที่ยววันเดียวก็ลองแพลนตามดูได้ครับ

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 22.15 น.

ความคิดเห็น