เบตง ใต้สุดแดนสยาม

สถานที่แรกของทริป คลูแคมป์ปิ้ง 

Cool Camping • คลูแคมปิ้ง ⛰⛺️
เอนกายรับลมเย็นๆ บนเนินเขาเมืองธารโต จังหวัดยะลา ยอดเขาสลับซับซ้อน ปรากฎอยู่ต่อหน้า ที่พักแห่งนี้เดินทางเข้ามาค่อยข้างจะลำบากหากเราไม่มีรถส่วนตัว เพราะเส้นทางที่เข้ามาไม่มีรถประจำทาง หรือรถสองแถวผ่านเข้ามา แต่ที่พักจะมีรถมอเตอร์ไซด์จอดไว้ให้ที่ถนนใหญ่ และจะต้องขับเข้ามาด้วยตัวเอง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งคนที่จะเข้ามาพักต้องติดต่อเข้ามาก่อนล่วงหน้า นะครับ

เช้าวันที่ 2 ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

จุดชมทะเลหมอกอยู่ไม่ไกลจากคลูแคมป์ปิ้ง ปัจจุบันมีจุดชมวิว Skywalk เป็นจุดที่ตอนเปิดแรกๆคนเยอะมาก รอคิวกันหลายชั่วโมง ช่วงอากาศดีดีหมอกฟุ้งเต็มพื้นที่สวยงามมาก ช่วงที่ไปฝนตกตอนกลางคืนทำให้ตอนเช้าหมอกมีไม่เยอะ

หลังจากชมทะเลหมอกเดินต่อเข้าเมืองเบตงกันกัน รอบบนี้ได้พักแบบ Hostel เพราะเดินทางคนเดียว กินง่าย นอนง่าย ถึงที่พักสลบตืนอีกที่ช่วงเย็นเลย พอได้มีเวลาเดินเที่ยวอยู่บ้าง 

ช่วงค่ำไปเดินเที่ยวแถวอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ หอนาฬิกา มีการตกแต่งไฟสวยงามมาก

และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ป้ายใต้สุดแดนสยาม และรูปปั้นไก่เบตง

ช่วงเช้าวันที่ 3

Street art • สวนดอกไม้เมืองหนาว • อุโมงค์ปิยมิตร

สวนไม้ดอกเมืองหนาว • เบตง ประเทศไทย
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านปิยะมิตร 2 หมู่ที่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง 

ได้ก่อตั้งขึ้นโดยสามชิกในหมู่บ้านทั้งหมดเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
เป็นโครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันเนื่อง มาจากพระราชดำริอำเภอเบตง จังหวัดยะลา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงอักษรจีนพระราชทานนามสวนแห่งนี้ว่า ว่านฮัวหยวน หรือแปลเป็นไทยว่า สวนหมื่นบุปผาโดยมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยโดยมีทั้งชาวไทยและชาว มาเลเซียเดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงาม และยังพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อการส่งออกแทนการปลูกยางพาราตามแนวพระราช ดำริเพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่

อุโมงค์ปิยะมิตร • เบตง ประเทศไทย
เป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ของคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่ปี 2519 อุโมงค์มีความยาว 1 กม. มีทางเข้า 6 ทาง ใช้เวลาขุดแค่ 3 เดือน ใช้แรงงานคน เกือบ 50 คน ภายในมีห้องนอน ห้องทำงาน ห้องเก็บเสบียง ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้แล้ว ภายในยังมีจุดต่างๆ เช่น ศาลาพักของคอมมิวนิสต์ ห้องประชุม และยังมีห้องแสดงเรื่องราวและของใช้ต่างๆในสมัยนั้นด้วย ค่าบริการเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 10 บาท

มาถึงเบตงต้องได้ชิมเฉาก๊วยโบราณ กม.4 บ้านไม้เจ้าแรก

นอกจากนี้ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ บ่อน้ำร้อน อีกด้วย

ก่อนกลับแอดได้แอบแวะไปปัตตานีมานิดหน่อยเพราะมีเวลาน้อย จะพาทุกคนนั่งรถบัสเปิดหน้าต่างไปปัตตานีกัน

มัสยิดกลางปัตตานี • มัสยิดกรือเสะ • ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

สำหรับทริปเบตงในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า โอเค เบตง และเบตงยังโอเค ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวเบตง ลองไปเที่ยวกันดูไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครพูดกัน สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสวยงาม ทั้งที่เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษา วิถีชีวิตวัฒนธรรม แล้วทุกคนอาจจะหลงรักที่นี่และอยากไปซ้ำๆทุกปีเหมือนผมก็ได้

ภาพบางภาพสถานที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพราะผมได้นำภาพที่เคยไปมาหลายๆครั้งมารวมกัน

ซึ่งเบตงในปัจจุบันได้พัฒนาไปเยอะแล้ว จากวันนั้นจนปีนี้ 2565 แล้วผมจะกลับไปที่นั้นอีกครั้ง 

สัญญาแล้วเราเจอกันเมืองเบตง ใต้สุดแดนสยาม