รีวิวทริปสั้น 1 วันจบ ชื่อทริปก็สั้น ๆ คุยกันวันศุกร์ ออกเดินทางวันอาทิตย์ เริ่มจากคุณสาของเพื่อนต้องไปดูไซต์งานก่อสร้างแถบ ๆ เขาใหญ่ ไปเล็งทำเลไว้หรือไงนี่หละ ก็เลยชวนภรรยานั่งไปด้วย คงกะไปกันสองคน ส่วนทางภรรยากลัวทริปไม่ครื้นเครงเลยชวนเดอะแก๊งค์ เรียกว่า มีผู้โดยสารงอกระหว่างทาง จาก 2 เป็น 5 คน (ไม่ถามความสมัครใจคนพาไปซ้ากกกคำ) เรื่องราวก็ต้องเลยตามเลย ตั้งต้นด้วยเรื่องงาน ระหว่างทางคือเรื่องเที่ยว
แสดงผลตรวจโควิดกันทุกคน แล้วค่อยเจอกัน
ไปทำงานก็ต้องตื่นเช้ากันหน่อยแม้จะเป็นวันอาทิตย์ก็เหอะ ออกเช้าเลยต้องแวะกลางทางกินมื้อเช้ากัน ร้านในปั๊ม คือ ทางของเรา พอสระบุรีเลี้ยวขวาวิ่งยาว ๆ เจอปั๊มซัสโก้เราไม่แวะ (แล้วบอกทำไม บอกไว้ให้เป็นจุดสังเกต เพื่อใครจะตามรอย) วิ่งเส้นนอกยาว ๆ มาก่อน เจอ ปตท. ใหญ่ แวะเลย มีร้านข้าว กับร้านก๋วยเตี๋ยวนั่งกินจริงจังอยู่ 2 ร้าน เลือกร้านริม
สั่งข้าวราดกับอย่าง สองอย่าง รสชาติดีติดหวานนำ แต่ไม่ได้หวานเวอร์
ข้าว+แยกกับ 1 อย่าง 60 บาท
ข้าวราดกับ 2 อย่าง 65 บาท
คำเตือน !! ผัดเผ็ดปลาดุก ระวังแม่ค้าตักท่อนหางให้แทะ
เพิ่มโปรตีนอีกหน่อยด้วยหมูปิ้งหน้าร้านจิฟฟี่ ไม้ละ 10 บาทเท่าเดิม
ว่ากันว่า กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ ออกจากร้านข้าวแกงเลยแวะคาเฟ่ซักที่ คุ้ย ๆ กูเกิลมาแนะนำร้านนี้ “leaf garden” ตั้งพิกัดแล้วขับตามไป ทางเข้าเป็นทางดินเล็ก ๆ ไม่หลงเพราะมีป้ายสีขาวอันใหญ่อยู่ทางเข้าพอดี แต่อาจเลยบ้างนิดหน่อย
ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ได้อารมณ์แบบจิบชาชมวิว อากาศเย็น ๆ จะดีมาก ช่วงที่ไปไม่ถึงกับร้อนมาก แต่มีแดดต้องหามุมโต๊ะนั่งหลบไปมา
เก๋ไก๋ด้วยมุมถ่ายรูปน้อย ๆ
เครื่องดื่มมีทั้งชา กาแฟ ร้อนเย็น เค้กมีพอประมาณ อาหารจานเดียวก็มีนะ แนะนำเลยเป็นข้าวมันไก่ แต่อิ่มมาแล้วไม่งั้นคงสั่งมาลองแหละ
ที่นี่เป็นแบบบริการตัวเอง สั่งอาหารเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ แล้วจะได้เครื่องกลม ๆ มาถือคนละวง ดังเมื่อไหร่ก็ไปเอาอาหารที่สั่งได้ที่เคาน์เตอร์
คำเตือน !! ด้วยความที่โต๊ะในร้านเป็นแบบ outdoor ซะส่วนใหญ่ พื้นจะปูด้วยบล็อกตัวหนอน เวลายกเครื่องดื่มโปรดระมัดระวัง หกได้ไม่เท่ากับอาย
ท้องแน่นละ ไปเดินย่อยกัน จุดหมายแรก เข้าไร่องุ่น ไร่ประจำทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของกับ “PB Valley” ที่นี่ยังมีบริการทัวร์ชมไร่กับโรงบ่มไวน์ แต่ไม่ได้ใช้บริการ อาศัยเดินย่อยรอบ ๆ
องุ่นยังออกลูกให้เห็นเยอะแต่ตรงนี้เอาตาข่ายมากั้นไว้ทั้งหมด เดานะ ว่าคงกันคนมือบอนไปเด็ดทิ้งเด็ดขว้าง ใครรู้เหตุผลจริง ๆ มาให้ข้อมูลได้นะ
ติด ๆ แถวองุ่นเป็นทุ่งปอเทือง ไปลองส่องใกล้ ๆ แล้ว ดอกโรยราเลยผ่านไป
ที่นี่มีร้านอาหารด้วย วิวสวย บรรยากาศดีน่าจะเป็นมื้อเย็น ไปช่วงแดดแรง ๆ แบบนี้ หลบร่มอย่างเดียว
จุดถ่ายรูปอีกจุดที่อยู่นานมาก คือ ใต้ต้นนี้ ไม่รู้ว่าต้นอะไรแต่เห็นว่ากิ่งก้านใหญ่ดีเลยถ่ายรูปอยู่นาน
ถ่ายรูปกันอยู่นาน นานจนไหล่ไหม้แล้วก็ไปเหอะ เข้าร่ม
ก่อนออกแวะชิมไวน์ 1 เซตเล็ก (ไวน์ 3 ชนิด ราคา 150++) ไม่ใช่สายวาย (สายไวน์) เลยบรรยายไม่ถูกกว่าแต่ละแก้วรสไปทางไหน ตัวไหนอร่อยกว่าตัวไหน เอาเป็นว่า ถ่ายรูปมาให้อ่านกัน ใครสนใจเข้ามาแล้วแวะมาชิมกันได้ ชอบตัวไหน มีขายในร้าน ราคาไม่แพงมีส่วนลดให้ด้วยถ้าเอาใบเสร็จจากการชิมไปยื่น
แวะเก็บน้ำองุ่นกลับกทม.มาโหล สองโหลแล้วเก็เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไป ทุ่งลาเวนเดอร์
ภิรมย์คาเฟ่ เป็นเครือเดียวกับ PB Valley น่าจะเพิ่งเปิดไม่นาน ต้นไม้ยังดูแบบเพิ่งเอามาลง มีที่จอดรถเยอะถ้าไม่พอก็มี รปภ.หาที่ให้จอดได้ นอกจากมีทุ่งลาเวนเดอร์แล้วข้างในทำเป็นอาคารเปิดโล่ง จัดชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานอาหารเล่น หรือจะนั่งหลบแดดร้อน ในนี้ที่นั่งไม่เยอะ แต่ด้านนอกมีซุ้มนั่งเล่นใต้ต้นไม้อีกนิดหน่อย อาหารที่นี่ยังมีไม่เยอะ หนักสุดเป็นพิซซ่า ตอนแรกตั้งใจจะมาหามื้อกลางวันที่นี่แต่เห็นเมนูแล้วไม่ค่อยหลากหลายเลยเลือกไปทุ่งลาเวนเดอร์อย่างเดียว
ค่าเข้าคนละ 40 บาท ตัวทุ่งอยู่ด้านบนเขาจะมีรถรางให้บริการพาขึ้นและพาลงเป็นรอบ ๆ ได้รอบ 13.00 น. รอไม่นานเพราะไปถึงก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ซุ้มรอรถก็จะกันเองนิดหน่อย
ถึงแล้ว ทุ่งลาเวนเดอร์ของเรา เพราะทั้งทุ่งไม่มีใครนอกจากกลุ่มเรา 555+
ถ่ายยังไงให้สวย เอาให้คุ้มกับ 40 บาท แล้วก็เพิ่งมารู้จากที่นี่ว่าต้นไม้ใหญ่ ดอกสีส้มที่ไปถ่ายกันเยอะ ๆ ที่ PB Valley คือ ต้นงิ้ว แต่เป็นต้นที่เค้าได้ริดหนามที่ลำต้นออกหมดแล้ว (สวย น่าปีนขึ้นมาทีเดียวเชียววววว)
วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ให้หัวไหล่ตูดไหม้กันไปแล้ว ได้เวลามื้อกลางวันค่อนไปทางบ่ายของจริง แวะกินจริงจังที่ร้านอาหารในโรงแรม Thames Valley Khao Yai ไม่เข้าพักก็แวะไปกินอาหารกันได้ ร้านอาหารอยู่ด้านหน้าเลย บอก แวะรับบัตรจอดรถที่ รปภ.ตรงทางเข้า ขากลับอย่าลืมแสตมป์บัตรที่ร้านนะ
อาหารที่นี่เน้นไปทางสเต็ก สปาเกตตี้ ซูปต่าง ๆ แต่พิซซ่าไม่มีนะ อาหารไทยมีบ้าง
รีวิวพร้อมให้ดาว เต็ม 5 ดาว
เริ่มกันที่ ซุปเห็ดทรัฟเฟิล – เข้มข้น หอมเห็ด 5 ดาว แนะนำ
ต่อกันที่ สลัดปูนิ่ม – ได้ปู 1 ตัวใหญ่ถ้วน ผักสด น้ำสลัดออกแนวซีฟู๊ด แต่ถ้าไม่ชอบแนวน้ำมันมะกอกก็ได้ ส่วนตัวว่าที่เค้าราดมาแบบซีฟู๊ดนั่นนะ ใช่ละ ให้ 4 ดาว
ตามต่อ สปาเกตตี้คาโบนารา ครีมซอสเห็ด เบคอน – ครีมซอสนี่เข้มข้นกว่าซุปเห็ดอีก ทานเข้ากับเส้นสปาเกตตี้นะ อื้อหือ ทั้งโต๊ะบอก 5 ดาว เอาไปเลย
จานถัดไป สเต็กปลากะพงแดงกับกุ้งลายเสือผัดซอสพริกแห้งกระเทียมเนย – ชื่อยาวไปไหน รสชาติ เนื้อปลาแน่น กุ้งตัวโต เนื้อแน่น ซอสที่ผัดมารสชาติพอดีกับเนื้อปลาเนื้อกุ้ง เสียนิดเดียวให้ซอสมาน้อยไปนิด ให้ 4 ดาว
ซี่โครงหมูตุ๋นไวน์แดง – หมูตุ๋นเปื่อย นุ่ม ละลายในปาก ซอสไวน์แดงเข้มข้น จัดจ้าน หอม ให้ 5 ดาว
มาที่อาหารไทย ๆ กันบ้าง สั่งมาลอง 2 เมนู
ลาบปลาแซลมอน – ตอนที่สั่งนึกว่าเป็นแซลมอนดิบ อ้าวไม่ใช่แฮะ ปรุงมาค่อนไปทางจืดถ้าแบบคนไทย ๆ กินนะ ให้ 3 ดาว
ผัดหมี่โคราช – สั่งมาลอง ไม่ได้คาดหวังแต่อร่อยจริงจัง ไม่อร่อยอย่างเดียว ส้มตำ จืดหนักกว่าลาบปลาแซลมอนไปอีก ให้ 4 ดาว เพราะผัดหมี่เลย
มื้อนี้ 2400++
เก็บบรรยากาศรอบ ๆ ร้านอาหารมาให้ดู มีที่นั่งหลายโซน ถ้าอากาศเย็น ๆ หน่อยนั่งด้านนอกแบบนี้ก็ดีค่ะ ถ้าไม่ได้เข้าพักไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านในนะคะ เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขก
สี่โมงเย็น เริ่มขึ้นเขาใหญ่ 555+ แวะไปเก็บบรรยากาศก็พอแหละ จ่ายค่าผ่านทางแล้วเดินทางกันยาว ๆ
จุดหมายปลายทาง คือ น้ำตก ไม่แวะมากที่เพราะเดี๋ยวน้ำตกปิด แวะจุดชมวิว 2 ที่ พอ
มี 2 น้ำตกให้เลือก ระหว่าง เหวสุวัต กับเหวนรก เลือกจากชื่อที่ชอบ ชื่อที่ใช่ ไปค่ะ เหวนรก
ไปถึง 17.00 น. พอดิบพอดี พอลงรถได้ก็เดินเลย แล้วเจอป้ายนี้
“ห้ามเข้าตั้งแต่ 17.00 น.” เริ่ดดดดด มาทันเวลาปิด เลยถ่ายกับป้ายไปแทน ไว้แก้ตัวรอบหน้า
ก็ว่าอยู่ เอ้อ...ลานจอดรถโล่งๆ เนอะ ที่ไหนได้ ได้เวลาปิดจ้า
ขามามาทางโคราช ขากลับกลับทางปราจีน ไปมาต้องไม่ซ้ำทางเก่า (ความจริงคือทางนี้เข้ากทม.ใกล้กว่าย้อนกลับทางเก่า) แวะซื้อผลไม้ตลาดริมทางนิดหน่อย
หน้านี้ต้องมะปราง แต่...ไม่ซื้อ ไปซื้อนู้นเลย “ตะลิงปลิง”
จบ one day trip เช้าจรดเย็น รีวิวแบบมาเร็ว ไปเร็ว ทริปหน้าไปไหน ติดตามกันได้เรื่อย ๆ
เหมือนเดิมค่ะ
ติดตามผลงานเฮปนฮาได้เพิ่มกับเพจ “ไปกินไปเที่ยว” >>> https://m.facebook.com/goestogether/
ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด
วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 11.25 น.