ทริปอุบลฯในรีวิวนี้ เป็นทริปที่เราดองเอาไว้นานมากๆ

ไปมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ถึงวันนี้ก็เกิน 1 ปีแล้ว

เราประทับใจที่สามพันโบกมากๆ เรียกว่ามหัศจรรย์ธรรมชาติจริงๆ สวยงามมากๆ

เชื่อว่าถ้าใครไป ก็จะต้องประทับใจกับโขดหินรูปร่างสวยงามแปลกตาเหล่านี้แน่นอน

ก่อนเราจะตัดสินใจไปสามพันโบก ก็พยายามถามคนโน้นคนนี้ที่เคยไปมาแล้ว ว่าเด็กสี่ขวบไปได้มั้ย

บางคนก็บอกว่าได้ บางคนบอกว่าไม่ได้ งงนะเนี่ย...ยังไงตามมาดูรีวิวนี้กันค่ะ มีคำตอบ

เด็กจิ๋วออกเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่อายุ 5 เดือนนะคะ ชมเรื่องราวการเดินทางของเด็กจิ๋วได้ที่นี่ค่ะ

https://www.facebook.com/DekJewChillOut

http://www.dekjewstory.blogspot.com/

https://www.youtube.com/user/DekJewChillOutเราออกเดินทางจากกรุงเทพกันแต่เช้าตรู่บินไปลงที่สนามบินอุบลราชธานี

(อันนี้นานจนจำไม่ได้ว่านั่งสายยการบินสีแดงหรือสีเหลืองเลยค่ะ)

เด็กจิ๋วยังง่วงๆอยู่เลย เดี๋ยวเราจะแวะเที่ยวในเมืองอุบลฯกันก่อนที่จะขับรถไปสามพันโบกนะคะ

จุดแรกที่แวะคือ ทานอาหารเช้าที่ร้านสามชัยกาแฟ

ไข่กระทะ กับก๋วยจั๊บญวนคือสิ่งที่อยากมาหม่ำม๊ากมาก อร่อย...

อิ่มแล้ว แวะชมหอไตรกลางน้ำ ที่วัดทุ่งศรีเมือง

จุดนี้แดดแรงมากๆทีเดียว เราขึ้นไปเดินชมหอเก็บพระไตรปิฎกแป๊บเดียวค่ะ

นี่ขนาดตอนที่ไปอากาศยังมีหนาวอยู่บ้าง แต่แดดนี่แบบเปรี้ยงอ่ะค่ะ

แวะกราบพระที่พระอุโบสถค่ะ

วัดต่อมาที่แวะคือ วัดพระธาตุหนองบัว วัดนี้สวยงามมากๆ

มีเจดีย์สีขาวคลิบทองอร่ามที่จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย

ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตกแต่งด้วยสีทองๆอร่ามๆเลย สวยมากๆค่ะ

เที่ยวไปสองวัด เริ่มหมดแรงอีกแล้ว มาเติมพลังมื้อบ่ายๆ กันที่ร้านอินโดจีน

เป็นร้านเวียดนามที่หมายมั่นว่าจะไปหม่ำให้ได้ ใครๆก็แนะนำว่าอร่อย เลยต้องจัดซะหน่อยค่ะ

วีดีโอน้องพริมพาเที่ยวสามพันโบก ตอน เที่ยววัด กินอาหารอร่อยที่อุบล

อิ่มมื้อกลางวันกันบ่ายมากๆแล้ว เราก็ขับรถจากเมืองอุบลฯ มาที่พักที่สองคอนกันค่ะ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงแล้วค่ะ

สามพันโบกจะอยู่ที่อำเภอสองคอน ถ้าเราจะมานั่งเรือไปชมโบก ก็จะต้องมาขึ้นที่ท่าเรือหาดสลึง ที่สองคอนค่ะ

ฉะนั้นพักแถวๆนี้ก็จะสะดวกที่สุดค่ะ

เราเลือกพักที่ปลายฟ้ารีสอร์ท ห้องกว้างขวาง และสะอาดดี ในราคาย่อมเยาค่ะ

ทีแรกตั้งใจกันว่าจะล่องเรือไปสามพันโบกตอนเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

แต่เย็นนี้ก็ไม่มีอะไรทำ ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี ปะป๊าเลยเสนอว่าเราไปล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินกันด้วยดีกว่า

เราขับรถจากที่พักไปลงเรือที่หาดสลึง (ประมาณ 5 ก.ม.)

ไปถึงที่สองคอนรีสอร์ทก็ไปถามๆเจ้าหน้าที่เรื่องเรือ

พอดีว่ามีคนที่พักที่สองคอนรีสอร์ทกำลังหาคนแชร์เรือไปอยู่พอดี เราเลยไปแจมกับเค้า ประหยัดไปได้หน่อยค่ะ

ล่องเรือสบายๆ แม้แดดจะแรงแบบเปรี้ยงมากๆ แต่ลมเย็นๆ

ที่เห็นเป็นฝั่งลาวนะคะ ใกล้ชิดกันขนาดนี้เลย

จุดแรกที่มาแวะลงคือหาดหินสี

จากจุดลงเรือต้องเดินเข้าไปประมาณ 400 เมตร ผ่านทะเลทรายและแสงแดดแบบในรูป ถึงจะเจอหินสีค่ะ

แม่กับลูกขอหลบแดดนั่งเล่นทรายอยู่แถวๆที่จอดเรือละกันนะคะ

ส่งปะป๊าเป็นตัวแทน ลุยแดดเข้าไปเก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ

เดินมาถึงบริเวณลานหินสีแล้วค่ะ หินแถวๆนี้จะเป็นสีแบบนี้ คือที่มาของชื่อ หาดหินสีค่ะ

ข้างๆลานหินสีจะมีแอ่งน้ำเล็กๆอยู่

จุดต่อมาที่แวะ คือหาดหงส์ค่ะ

หาดหงส์จะมีจุดเด่นที่มีเนินทรายกว้าง ๆ

วิวเหมือนเมืองทะเลทรายแถวตะวันออกกลางเลยค่ะ (ช่อง 7 ก็มาถ่ายละครที่นี่ด้วย)

จุดหมายต่อไปคือสามพันโบกค่ะ

สามพันโบก หรือสามพันแอ่ง มีแอ่งน้ำที่เกิดจากฝีมือธรรมชาติล้วนๆอยู่มากมายจริงๆ

เป็นอะไรที่สวยมากๆ คือใครๆก็บอกว่าที่นี่สวย มาแล้วจะชอบ

ความจริงก็ดูรูปมาเยอะมากๆ ก่อนจะมาที่นี่นะคะ แต่พอไปยืนอยู่ตรงนั้นเองแล้วจะรู้ว่ามัน amazing จริงๆค่ะ

บางแอ่งกลมดิกมากๆ เหมือนเอาวงเวียนมาวาดเลย กลมจริงๆ

จากจุดขึ้นเรือ ปีนขึ้นมาหน่อย ทิศนี้เป็นทิศตะวันออก พรุ่งนี้เช้าจะมาดูพรอาทิตย์ขึ้นตรงนี้ค่ะ

การมาท่องเที่ยวที่สามพันโบกนี่ เราจะต้องมาในฤดูแล้งนะคะ

ต้องให้น้ำน้อยๆ โบกถึงจะโผล่พ้นน้ำมา เผลโฉมให้เห็นความสวยงามแบบนี้

เราขอแนะนำให้มาตอนเดือรมกรา กุมภาค่ะ เอาแบบตอนที่หนาวๆเลยค่ะ เพราะไม่เช่นนั้นจะร้อนละลายมากๆแน่เลย

ถ่ายรุปที่นี่กันพักใหญ่ ก็นั่งเรือกลับค่ะ

เด็กจิ๋วมีเขินนิดหน่อย โดนพี่ๆที่มาถ่ายรูปแซว และขอถ่ายรูปไปด้วย เด็กทำตัวไม่ถูกค่ะ เลยเลือกงอแงดีกว่า

มื้อเย็นก็ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของปลายฟ้ารีสอร์ทค่ะ

มาแถวนี้ก็เลือกเมนูปลาน้ำโขงค่ะ สดๆอร่อยค่ะ

วีดีโอน้องพริมพาเที่ยวสามพันโบก ตอน ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินที่สามพันโบก

เช้านี้ที่รอคอยมาถึงแล้วค่ะ...

เราตื่นกันตั้งแต่มืด ขับรถไปลงเรือที่หาดสลึงที่เดิม

วันนี้มีแค่บ้านเราสามคน ไม่มีนักท่องเที่ยวอื่นมาแชร์เรือนะคะ ฉะนั้นอยากหยุดจุดไหนนานแค่ไหนได้ตามใจปะป๊าเลย

เรียกได้ว่ามาถึงลำแรก กลับออกมาแนลำสุดท้ายอ่ะค่ะ

แสงสวยๆ ก่อนพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า

งานนี้เด็กจิ๋วไม่ยอมตื่น ต้องหอบหิ้วกันมาทั้งหลับๆแบบนี้

แม่หาที่ปักหลักในมุมคิดว่าจะสามารถนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นได้ชัดๆ แล้วก็นั่งตรงนี้ยาวๆเลย รอจนเด็กตื่น

โผล่มาแล้ว กลมดิกๆ แดงแจ๋เลย

แสงแรกส่องมากระทบหิน ทำให้ประติมากรรมธรรมชาติตรงนี้งดงามขึ้นไปอีกค่ะ

เช้านี้มีคนมารอถ่ายรูปแสงแรกกันไม่มาก

มีบ้านเรากับกลุ่มช่างภาพที่เหมือนมาด้วยกันกลุ่มใหญ่อีกกลุ่ม

ส่วนนักท่องเที่ยวอื่น ที่ไม่ได้เน้นถ่ายภาพ เราเห็นเข้ามากันตอนพระอาทิตย์ขึ้นสูงไปมากแล้ว มากันเยอะเลยค่ะ

โบกสวยๆ กับแสงเช้า งามจริงๆ

สว่างแล้วเด็กก็ยังไม่ตื่น อากาศเริ่มอุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว (จากเมื่อเช้ามืดที่นั่งรือมา อันนั้นหนาวหงิกมากๆค่ะ)

และปะป๊าก็ยังคงลั้นลา ถ่ายรูปกลุ่มโบกต่างๆ อย่างเพลิดพลิน

โค้งสวยๆของโบก เนียนๆเลย ธรรมชาติสร้างสรรค์

หลังจากแบกเดินไปเดินมากันพักใหญ่ เด็กจิ๋วก็ตื่นซะที

ตื่นมาพาไปดูโบกมิกกี้กันก่อนเลย เด็กจะได้ตื่นเต้นสนุกสนาน

โบกนี้เป็นรูปหัว mickie mouse ค่ะ เหมือนมั้ย

อากาศในหน้าหนาว เย็นสบาย เที่ยวที่นี่แล้วมีความสุขมากๆ ที่สวยๆ อากาศดีๆ

มีพี่ที่รู้จักกันเค้ามาหลังเรา 2 อาทิตย์ ตอนนั้นหายหนาวแล้ว และแถมยังมาตรงนี้ตอนกลางวันอีก

ถึงแม้สถานที่จะสวย แต่ร้อนๆ แสงไม่สวย ก็ทำให้ความงามลดลงไปโขอยู่ค่ะ

ฉะนั้นอยากเห็นความงามแบบเต็มๆ มากันเช้าๆนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

รูปนี้ถ่ายมาแล้วนึกว่ารูปจาก Arches National Park ที่อเมริกาซะอีก 555 เมืองไทยก็มี Arch สวยๆเหมือนกันนะคะ

ขากลับ เราแวะหาดหงส์กันอีกรอบ

ตรงนี้จะเป็นเนินทรายกว้างใหญ่ ทรายนุ่มมากๆ และเย็นมากๆด้วย ปกติไปทะเล ไม่เคยสัมผัสทรายที่เย็นแบบนี้

อันนี้แบบเย็นมากๆ เลย เหยียบไปแล้วตกใจ ทำไมเย็นแบบนี้

แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ ต้องเดินกันเข้าไปอีกหน่อย ถึงจะไปเจอวิวงามๆด้านในอีก

ต้องเดินขึ้นเนินนี้ ดูไกลอ่ะ...แม่กับเด็กจิ๋วเล่นทรายนุ่มๆ เย็นๆ รอละกันนะคะ ปะป๊าไปเป็นตัวแทนเก็บภาพมาเหมือนเดิม

เดินเข้าไปลึกหน่อยจะเจอวิวงามๆเหมือนกันค่ะ

ปะป๊าชอบจุดนี้มากค่ะ บอกว่าสวยจริงๆ เหมือนกับว่าเราเดินๆ ไปในทะเลทราย แล้วอยู่ดีๆ มีแอ่งน้ำเป็นโอเอซิสโผล่มา

ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเดินมาเลย ส่วนใหญ่เล่นทรายกันอยู่ที่ท่าเรือ จุดนี้ต้องเดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร

ตัดภาพกลับมาที่เด็กจิ๋ว เล่นทรายรออยู่ที่หาด

ทางนี้ก็ฟินมากเหมือนกัน สนุกสุดๆ ทรายเข้าหัวเข้าหู เสื้อผ้าเละเทะไปหมด แต่เด็กสนุกขนาดนี้ ก็ยอมอ่ะค่ะ

ล่องเรืออกมาเป็นกลุ่มสุดท้ายของนักท่องเที่ยวรอบเช้าเลยมั้ง เงียบกริบไม่มีเรือเหลือเลยนอกจากเรา

โดนหลอกให้เดินขึ้นบันไดที่หาดสลึงด้วยตัวเอง เดินจนถึงเลย แม่ก็สบายไป

วีดีโอน้องพริมพาเที่ยวสามพันโบก ตอน ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สามพันโบก

มื้อกลางวัน แวะมากินหลนบักนัดกันที่ทอแสงโขงเจียม

เราเคยมาที่เศรษฐปุระ ซึ่งเป็นรีสอร์ทเจ้าของเดียวกันกับทอแสงเมื่อหลายปีมาแล้ว

ติดใจในรสชาติหลนบักนัด ก็เลยขอแวะกลับมากินซะหน่อยค่ะ

เมนูนี้ของเด็ก คงอร่อย เพราะหม่ำซะเรียบเลย

ปิดท้ายด้วยกล้วยหอมทอดกับไอติม อร่อย...

อีกวัดในโขงเจียมที่แวะมาเที่ยวคือวัดถ้ำคูหาสวรรค์

เราจอดรถแล้วถ่ายมาได้รูปนี้รูปเดียวจริงๆ เพราะหลังจากนั้น เด็กจิ๋วก็อาเจียนออกมาหลายรอบมาก ต้องพากันไปล้างหน้าล้างตัวให้วุ่นไปหมด

แก่งสะพือก็มาแวะถ่ายรูปแชะเดียว แล้วเด็กจิ๋วก็อ้วกพุ่งอีก

คราวนี้ดูอาการหนักมากๆ ภายในเวลาไม่นาน อาเจียนไป 4-5 รอบ ไม่น่าใช่เมารถแบบที่คิดไว้ทีแรกแล้ว

จุดหมายต่อไปของเราเลยเป็นโรงพยาบาล เกือบต้องโดน admit ที่อุบลฯซะแล้ว ...

สรุปทริปนี้เหนื่อยและลำบากน้อยกว่าที่กลัวเอาไว้ล่วงหน้ามากๆ

ที่พักก็สบาย นั่งเรือ+เดินขึ้นแต่ละจุดก็ไม่ได้ลำบากอะไร

อากาศก็ยังหนาวเย็นอยู่ ถึงแม้กลางวันแดดเปรี้ยงๆ ก็ไม่ร้อน

สามพันโบกเป็นธรรมชาติที่สวยงาม และน่ามหัศจรรย์มากๆค่ะ

ไม่ผิดหวังที่พยายามแบกเด็กจิ๋วมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่จริงๆ

เป็นอีกทริปที่ประทับใจกับความงามของธรรมชาติจริงๆ

(ถึงแม้ตอนจบจะทุลักทุเลไปหน่อย เด็กอ้วกเป็นสิบรอบกว่าจะกลับมาถึงบ้าน อันนี้ก็จำไม่ลืมเลยเหมือนกันค่ะ )

เด็กจิ๋วต้องบ้ายบายไปก่อนนะคะ พบกันใหม่รีวิวหน้า

ขอบคุณที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกันค่ะ