รวมรีวิว - ไปกับพี่พูห์

Facebook page | ไปกับพี่พูห์

ทริปนี้พวกเราจะพาไปเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในทริปนี้เราจะแวะเที่ยวที่อำเภอปาย 1 คืน ก่อนจะไปบ้านรักไทยอีก 1 คืน ทั้งหมด 3 วัน 2 คืน

รายละเอียดทริป

- พักที่อำเภอปาย 1 คืน ไปหมู่บ้านสันติชล ถนนคนเดินปาย จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล

- ระหว่างทางไปบ้านรักไทย จะได้ผ่านจุดชมวิวปางมะผ้า, กินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่, ถ้ำปลา

- พักที่บ้านรักไทย 1 คืน ที่นงนุชรีสอร์ต

- แวะเที่ยวสะพานซูตองเป้

- แวะเอาใบประกาศนียบัตร ผู้พิชิต 1,864 โค้งสู่แม่ฮ่องสอนเมืองสามหมอก

- ซื้อของฝาก ถ่ายรูปสะพานประวัติศาสตร์ปาย

เริ่มต้นทริป

การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ถึง อำเภอปาย ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนตัวชอบถนนเส้น 1095 มาก ขับรถชมวิวเพลินเพลิน ไม่นานเดี๋ยวก็ถึงจุดหมาย

พอถึงอำเภอปาย ก็ต้องไปเซ็คอินที่พักกันก่อนเป็นอันดับแรก ถ่ายเทสัมภาระออกจากรถ รถเบาขึ้นเยอะเลย เรามาถึงประมาณบ่ายโมงครึ่ง เราได้เลือก Pai Homey เป็นที่พักที่ปาย ที่พักสวย สะดวกสบาย เจ้าของบริการดีมากๆ แถมใกล้ถนนคนเดิน เดินข้ามสะพานไม้ไผ่ก็ถึงแล้ว

ภายในห้องพักกว้างขวาง มีเตียงขนาด 6 ฟุต แอร์ ทีวี ตู้เย็น ตู้เซฟ ห้องน้ำกว้างแบ่งเป็นโซนอาบน้ำและล้างหน้า หน้าห้องมีเปลไว้นอนเล่น มาช่วงนี้อากาศดีมากๆ เย็นสบายทั้งวัน

สะพานที่เชื่อมต่อระหว่างที่พักกับถนนคนเดินปาย เดินข้ามก็ถึงถนนคนเดินแล้ว โซนนี้มีที่พักที่น่าพักอยู่หลายที่ บรรยากาศดีทั้งนั้น

พักผ่อนให้หายเมื่อยจากการเดินทาง แล้วออกไปหาของกินเพิ่มพลังกันก่อน พวกเราได้เลือกร้านน้องเบียร์ เป็นร้านอาหารตามสั่ง จะอยู่ตรงสี่แยกไฟแดง หลายๆรีวิวบอกว่า หมูสะเต๊ะอร่อย ก็อร่อยจริงๆนะ

หมู่บ้านสันติชล ขับรถออกจากตัวอำเภอปายประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว มาครั้งนี้เป็นช่วงที่โควิดระบาดเยอะ นักท่องเที่ยวน้อยลงไปเยอะมากๆ บรรยากาศยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อน

ฟ้าเริ่มจะมืด อากาศก็เริ่มหนาว ได้เวลาไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ระยะทางจากที่พักไปถนนคนเดินใกล้ๆ เหมือนหน้าปากซอย

ถนนคนเดินปาย

ถนนคนเดินที่มีบรรยากาศโรแมนติก ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและมีลำน้ำปายไหลผ่าน คืนที่เรามานักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะเหมือนปกติทุกอย่าง ร้านค้าจะมีทั้งร้านอาหาร ของกินพื้นเมือง เสื้อผ้าพื้นเมือง ของที่ระลึก เสื้อผ้า

ร้านน้ำกระบอกปาย 35 บาท เติมครั้งต่อไป 10 บาท พ่อค้าใจดี

อาหารค่ำ เราเลือกทานที่ร้านอาหารบ้านปาย รสชาติอาหารอร่อยใช้ได้เลยหล่ะ ด้านหน้าร้านมีข้าวปุกงา โรตี อยู่หลายร้าน เดินเลือกกินได้สบายๆ

พวกเราได้เลือกซื้อโรตีที่ร้าน โรตี อาลีปาย อยู่ถัดจากร้านอาหารบ้านปายไม่กี่เมตรเอง เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง มีโรตีหลากหลายหน้ามากๆ เราได้เลือกหน้านูเทลล่า สั่งแบบกรอบๆ รสชาติอร่อย แป้งมีความกรอบนอกนุ่มใน

น้องที่ฟ้อนรำพื้นเมือง เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่มาปายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ปัจจุบันก็ยังมาเอ็นเตอร์เทนนักท่องเที่ยวเสมอ

ข้าวปุกงา เมนูที่ฮอตฮิตตอนนี้ เป็นการนำเอาข้าวเหนียวดำมาตำผสมกับงาขี้ม่อนให้เหนียว แล้วรีดเป็นแผ่นบนใบตอง จะกินสดๆ หรือนำไปย่างไฟ โรยด้วยน้ำอ้อย งาขี้ม่อนหรือนมข้นหวาน นิยมกินกันในช่วงหน้าหนาว

วันที่ 2 ของทริป

เราออกจากที่พักตอนตีห้า เพื่อจะไปชมวิวทะเลหมอกที่จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล พวกเราคิดว่าพวกเราออกจากที่พักเช้ามากแล้วนะ พอขึ้นมาถึงจุดชมวิว คนแน่นมาก มีทั้งนักท่องเที่ยวที่พักที่นี่และนักท่องเที่ยวที่พักในตัวเมืองปาย บรรยากาศดีมากสุดๆ อากาศหนาวเย็น ตอนนี้ต้องลุ้นว่าจะเจอหมอกกันไหม

คุ้มค่าแก่การได้มา ชมวิวเมืองปายจากจุดนี้ สวยจริงๆ เคยมาพักที่นี่เมื่อ 10 ปีก่อน ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไม่มาก ยังคงบรรยากาศเดิมๆไว้เหมือนเดิม

เช้าแล้วแต่หมอกมีน้อยมากๆ

กลับไปที่พัก ทานอาหารเช้าก่อนออกเดินทางต่อ ที่พักจะมีข้าวต้ม ไข่ดาว กาแฟ โอวัลติน ขนมปังปิ้ง แบบบุฟเฟต์ เจ้าของที่พักบริการดีมาก ขอแนะนำเลย

จุดชมวิวปางมะผ้า

จุดชมวิว พักรถพักคนระหว่างทาง

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่

ขับรถมาจากจุดชมวิวดอยกิ่วลมไม่นาน เราก็ถึงหมู่บ้านจ่าโบ่ ก่อนถึงตัวหมู่บ้านถนนจะชันเป็นทางลงเขา มีร้านก๋วยเตี๋ยวและคาเฟ่เล็กๆ ไว้บริการ เรามาถึงที่นี่ตอนเที่ยงแดดเริ่มแรง กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็ออกเดินทางต่อ ไว้มีโอกาศค่อยมาพักชมหมอกสักคืน

ถ้ำปลา

อยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095 ห่างจากเมืองแม่ฮ่องสอน 17 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. มีลานจอดรถไว้บริการ แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปชมถ้ำปลาอีกประมาณ 500 เมตร บริเวณลานจอดรถมีร้านขายอาหารอยู่หลายร้าน

บ้านรักไทย

ในทีสุดก็ถึงเป้าหมาย ถนนก่อนเข้าบ้านรักไทยค่อนข้างแคบ จุดพักรถพักคนไม่มี ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ที่พักบ้านรักไทยค่อนข้างจะจองยาก ห้องพักจะเต็มเร็วมาก ครั้งนี้เราจองได้ที่ นงนุชรีสอร์ต มีห้องพักแบบบ้านดินและบ้านปูน เราได้เลือกแบบบ้านปูน เป็นห้องแอร์ แต่ก็ไม่ได้เปิดเลย ห้องกว้างขวาง เตียงนอน 6 ฟุต 2 เตียง มีห้องน้ำในตัว

บรรยากาศที่บ้านรักไทย บอกเลยดีงามมาก บรรยากาศเหมือนไม่ใช่เมืองไทย พวกเรามาช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อน กลางหมู่บ้านมีบ่อน้ำใหญ่ สามารถเดินได้รอบ ถ้าไม่อยากเดินก็มีรถสกายแลบไว้บริการ คนละ 150 บาทต่อรอบ

บริการนั่งเรือพายตอนเย็นถึงตอนค่ำๆ ก็ยังมีให้บริการ ส่วนพวกเราไว้เจอกันคิวแรกของเช้าวันพรุ่งนี้

ใครจะนั่งเรือต้องมาจองที่ร้านกาแฟลีไวน์ พวกเราจองได้เที่ยวแรกตอน 06.30 น. โดยจองผ่านเพจก่อนเดินทาง 1 เดือน พอเรามาถึงบ้านรักไทย ก็มาเอาตั๋วเรือที่นี่ได้เลย

บรรยากาศดีมาก หลงรักบ้านรักไทยเข้าแล้ว

พอแดดร่มลมตก แสงไฟเริ่มมี บรรยากาศเริ่มครึกครื้น ร้านหมูกระทะฝั่งโรงเรียนคนจะเยอะมากๆ คนนั่งเรือพายจะมีเกือบทั้งวันจนถึงกลางคืน

อากาศเย็นๆแบบนี้ หมูกะทะคือคำตอบของเรา ที่นงนุชรีสอร์ตก็มีไว้บริการ บรรยากาศคือฟินมาก

บรรยากาศตอนกินหมูกะทะจะเป็นแบบนี้เลย จะเห็นฝั่งชาสารักไทย แสงไฟสวยๆ สภาพอากาศวันที่พวกเรามาดึกๆจะอยู่ที่ 11 องศา+มีลมพัดเบาๆ ยิ่งเพิ่มความหนาวไปอีก 

พามาชมบรรยากาศช่วงกลางคืน

สายหมอกบนผิวน้ำเริ่มมาแล้ว ดึกๆยิ่งเยอะ หวังว่าเช้าอีกวันหมอกน่าจะเยอะแบบที่หวังไว้

ประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง อากาศเริ่มเย็น อุณหภูมิ 11 องศา หมอกบนผิวน้ำเห็นได้ชัดเจนมาก พร้อมกับมีลมพัดเบาๆ อากาศยิ่งเย็นมากขึ้น ดูแล้วตอนเช้าที่นั่งเรือพาย หมอกน่าจะเยอะแน่ๆ

เช้าอีกวัน สมหวังแล้วเรา หมอกเยอะ เพราะว่าพี่เจ้าของที่พักบอกว่าเมื่อวานไม่มีหมอกเลย

พวกเราได้ลงเรือเป็นลำแรก ซึ่งได้จองล่วงหน้าก่อนมา 1 เดือน

บนเรือจะมีชุดน้ำชาไว้บริการให้ด้วยนะ

ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศตอนเช้าไว้หลายๆมุม เอาไว้ดูตอนคิดถึง

ที่บ้านรักไทยมีพระเดินบิณฑบาตด้วยนะ

ร้านขายชามีอยู่หลายร้าน แต่เราชอบร้านนี้จัง ตัวผนังเป็นดิน ตัวหนังจีนติดฝาหนัง ถ้าไม่มีตัวหนังสือไทย คิดว่าเมืองจีนแน่ๆ

วันนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้ว หมอกยังเยอะอยู่นะ แต่สักแปดโมงนิดๆ หมอกก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนกลับเก็บบรรยากาศจากหน้าที่พักเราสักหน่อย

มุมมองจากกำแพงเมืองจีนของชาสารักไทย เวลาตอน 09.30 น. แดดเริ่มแรงแล้ว

ออกจากบ้านรักไทย พวกเราจะไปเอาใบประกาศนียบัตรผู้พิชิต 1864 โค้งในตัวอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางไปจะผ่านสะพานซูตองเป้ ถือโอกาสแวะถ่ายรูปเก็บไว้ดีกว่า ถ้ามาช่วงที่ท้องนามีต้นข้าวสีเขียว วิวน่าจะสวยมากแน่ๆ

มาแม่ฮ่องสอนเป็นครั้งที่ 3 เพิ่งจะได้ใบประกาศนียบัตรผู้พิชิต 1864 โค้งใบแรก มีให้เลือกอยู่ 3 แบบ ค่าใบประกาศอยู่ที่ 60 บาท พวกเรามาขอใบที่ร้าน Feel Good อยู่ตรงข้ามกับอำเภอ

ไหนๆก็มาถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แวะไหว้พระที่วัดพระธาตุดอยกองมูก่อนกลับซักหน่อย

เคยเห็นคนรีวิว ถ้าตอนเช้าๆ วันไหนหมอกเยอะ ร้านกาแฟตรงนี้วิวจะสวยมากๆ

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่พวกเราชอบมากๆ มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เดี๋ยวคงได้กลับมารีวิวอีกแน่นอน 

ไว้เจอกันใหม่นะแม่ฮ่องสอน

ฝากติดตามพวกเราด้วยนะ

Facebook page | ไปกับพี่พูห์

ไปกับพี่พูห์

 วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.45 น.

ความคิดเห็น