Sofitel Krabi Phokeethra : โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา - รีสอร์ทสไตล์ Colonial หรูหรา 5 ดาว ♥

โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟเเอนด์สปารีสอร์ท เป็นรีสอร์ท 5 ดาว สไตล์โคโลเนียล* ขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกระบี่ บนหาดคลองม่วง (มีถนนคั่น) พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 120 ไร่ facilities ต่างๆครบครัน โดยเฉพาะสนามกอล์ฟขนาด 9 หลุม ห้องพัก 276 ห้อง และ สระว่ายนํ้าที่พื้นที่กว้างขวางมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

fatreview มา CHECK IN ที่นี่โดยใช้คะแนนสะสมของ Accor Plus และจ่ายเพิ่มส่วนต่างอีกเล็กน้อย ได้อาหารเช้าฟรี ตาม Platinum benefit (จองช่วง กย. 2564 ที่โรงแรมเพิ่งกลับมาเปิดอีกครั้งหลัง Covid ได้ราคาดีมาก)

+ + + + + + + + + + + + + + + + +

*สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล (Colonial Style) เป็นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมในยุคล่าอาณานิคม ที่มหาอำนาจชาวตะวันตก อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส ฮอลันดา ฯลฯ ที่เข้ามาปลูกสร้างอาคารในเมืองขึ้นต่างๆ ในรูปแบบที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันตก กับท้องถิ่น ทั้งรูปทรง สไตล์ และ การเลือกใช้วัสดุ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่

ในขณะที่ประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพลเหล่านี้ไปด้วย Colonial Style เริ่มเข้ามาแพร่หลายในเมืองไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5-6 โดยผู้คนจะเรียกขานอาคารในสไตล์แบบนี้ว่า "ตึกฝรั่ง"

+ + + + + + + + + + + + + + + + +

Sofitel Krabi Phokeethra เป็นโรงแรมที่สวยจริงๆ มีมุมให้เก็บภาพเยอะมาก ๆ 

โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา อยู่บนหาดคลองม่วง ไม่ไกลจาก หาดทับแขก และทางเดินขึ้นเขาหงอนนาค

ห่างจากท่าอากาศยานกระบี่ ประมาณ 36 กม. และห่างจากอ่าวนางประมาณ 13.5 กม.

* จาก Google Earth จะเห็นได้ว่า อยู่ไม่ไกลจากเกาะห้อง ดังนั้นหากมีโอกาสมาพักแถวนี้ในวันที่อากาศดีๆ ควรเพิ่ม one day trip เกาะห้องเข้าไปด้วยนะครับ สวยมาก และ ไม่ควรพลาดจริงๆ

ภาพจากโดรน ทำให้เห็นความกว้างขวางใหญ่โตของ โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา โดยเฉพาะโซนสระว่ายนํ้า

หากพักที่นี่สัก 2 - 3 คืน นอกจาก one day trip เกาะห้อง แล้ว หากเป็นสายลุย ผมอยากแนะนำให้ได้เดินป่า ขึ้นเขาหงอนนาค รับรองฟินมาก 🙂

สนามกอล์ฟ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ของถนนทางเข้ารีสอร์ท - รีวิวนี้ไม่ได้พาเที่ยวสนามกอล์ฟนะครับ เพราะข้าพเจ้าตีกอล์ฟไม่เป็น 🙂

มีที่จอดรถมากมาย บริเวณหน้า Lobby

ต้องยอมรับว่า Colonial Style ของ โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา นี่มีความเป็น "โคโลเนียล" ที่แท้ทรูจริงๆครับ ♥

โดยเฉพาะงานไม้ built in ไล่ลงมาตั้งแต่โครงหลังคา ฝ้าเพดาน ทำออกมาได้ดีมากๆ (y) ผนวกเข้ากับ การเลือก และจัดวาง เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบโบราณ ต่างๆนานา ในลักษณะที่เข้ากันได้ดีมากๆ เลยยิ่งทำให้ดูโอ่อ่า หรูหรา ไปทั่วทั้ง Lobby

เหมือนเดินอยู่ในบรรยากาศเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว . . . สวยระดับนี้ ใช้เป็น location ถ่ายทำภาพยนตร์ได้เลย 👍🏻

ชอบความพยายามสรรหาเฟอร์นิเจอร์โบราณ รูปทรงต่างๆ มาจัดวางอย่างเหมาะสม และใส่ prop เพิ่มเข้าไปอย่างดูดี มีรสนิยม

มุมมองออกมาจากเคาน์เตอร์เช็คอิน

Chandelier โลหะ โคตรเท่

Daybed ยุคโบราณ - ต้องชมความมานะพยายาม ของคนจัดหาเฟอร์นิเจอร์เก่า ต่างๆ เหล่านี้ แล้วนำมาจัดวางให้ดูเข้ากันได้อย่างดีมาก

ให้บรรยากาศเข้าสู่การพักผ่อน ได้ตั้งแต่แขกเข้ามาอยู่ใน Lobby

ผมเองใช้เวลาเดินเก็บภาพแถวนี้อยู่เกทือบครึ่ง ชม. 🙂

ที่นอน หมอน มุ้ง โต๊ะ ตั่ง เตียง ตะเกียงเหล็ก กำปั่นไม้

ใครจะเชื่อว่า เราจะเห็นข้าวของประดามีเหล่านี้ มาอยู่ใน Lobby โรงแรม 5 ดาว

โชคดีที่แขกไม่เยอะมาก เลยได้บรรยากาศ ราวกับเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์โบราณ

ใกล้ๆกันนั้นมีห้องประชุม/จัดเลี้ยงขนาดใหญ่ พร้อม Grand Piano

ปลายสุดของ Lobby เป็น เก้าอี้นั่งเล่น ชมวิวทะเล

วิวสระว่ายนํ้า และ ทะเล เมื่อมองจาก Lobby

น้องเบลล่า Butler คนเก่งสำหรับแขกผู้เข้าพัก ที่เป็น Platinum Member ของ Accor เป็นผู้เข้ามาต้อนรับ และดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับการเช็คอิน

* ความประทับใจ คือ การโทรมาแนะนำตัว สอบถามล่วงหน้า เกี่ยวกับรายละเอียดการจอง ความต้องการต่างๆ และ เวลาที่เราจะเดินทางมาถึง

ความเป็น Colonial ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วทุกจุดของรีสอร์ท

* นอกจากซุ้มประตู ไม้ฉลุ ที่ผมชอบมากๆ คือ บันไดและราวบันไดไม้ ที่ยุคนี้ แทบจะไม่มีรีสอร์ทไหน ยอมลงทุน และประณีตกับ รายละเอียดต่างๆ เปิดเผยสัจจะของวัสดุ และ ฝีมือช่าง กันแบบนี้แล้ว (y) ♥

Key Card เรียบโก้ (y)

มี Welcome Gift (สำหรับ Platinum) เป็น มาการงต์ + ช็อคโกแลต อร่อยมาก ♥

ภาพแรกที่เห็นเมื่อเปิดประตูเข้าไป

ห้อง type นี้ คือ POOL SUITE, Pool access พื้นที่ 103 ตารางเมตร กว้างขวาง โอ่อ่ามากครับ แบ่งเป็น 1ห้องนั่งเล่น 1ห้องนอน และ 2 ห้องนํ้า

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆเป็นงานไม้สไตล์ Vintage ฝีมือดีมาก (y) แบบนี้ farang ชอบ ♥

*ภายในตู้ชั้นล่าง ยังมี เสื่อโยคะ และ ดัมพ์เบล สำหรับให้แขกไว้ออกกำลังกายภายในห้องด้วยครับ

ประดับห้องด้วยเครื่องถ้วยโถโอชาม สไตล์จีน ดูดีมีราคา (y)

ไม่มีโซฟา ไว้นั่งดูทีวี แต่แทนที่ด้วย"ตั่ง"ขนาดใหญ่ กลางห้อง ที่ใช้แทนเตียงได้เลย

*Coffee Machine ใช้ของ illy ส่วนตู้เย็น อยู่ในบานไม้ ชั้นล่างครับ

ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Vintage สวยหรูดูดี จัดวางได้เข้าชุดกันดีมาก

เตียงนอน และ detail ต่าง ๆ ของโต๊ะข้างเตียง

โต๊ะเขียนหนังสือ สวยจนต้องเก็บภาพเป็นที่ระลึก

พัดลมเพดาน - โปรดสังเกต การประยุกต์ใช้โลโก้ของ Sofitel มาเป็นกลีบดอกไม้

ตู้เสื้อผ้า มีอุปกรณ์ต่างๆครบครัน ตามสไตล์โรงแรม 5 ดาว

ห้องนํ้าใหญ่โต มีอ่างล้างหน้าให้ทั้ง 2 ฝั่ง อ่างอาบนํ้าใหญ่มาก และเป็นอ่าง Jacuzzi

ไอเดียผม - ถ้าเจาะช่องหน้าต่าง เป็นกระจกใส ให้ เปิด/ปิด ได้ น่าจะช่วยทำให้ห้องดูมีความร่วมสมัย และ โปร่งขึ้นมาได้บ้าง

Amenities แบรนด์ L'Occitane จากฝรั่งเศส - กลิ่นหอมสดชื่นมากๆเลยครับ (y)

จุดแข็งของห้อง type นี้ คือตรงนี้นี่เอง - Pool Access ขนาดใหญ่มาก จนรู้สึกเหมือนเป็นสระว่ายนํ้าหน้าบ้าน #รักเลย ♥

เป็น Pool Access หลังห้อง ที่กว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่าที่สุด เท่าที่ fatreview เคยไป CHECK IN มาเลยครับ - ชอบมากๆ (y)

ว่ายนํ้าได้สะใจจริงๆ

และที่ชอบมากๆอีกจุด คือ ฝักบัว สำหรับล้างตัว ทันทีที่ขึ้นจากสระ ฯ ไม่เคยเห็นรีสอร์ทที่ไหนจัดให้แขกได้ขนาดนี้ ♥

ตรงปลายสุดของ Pool Access ยังมีอ่าง Jacuzzi ขนาดใหญ่ ให้ไปนั่งเพลินๆ - บรรยากาศดีมากๆ จนแทบไม่อยากจะ Check out เลย

ชมบรรยากาศภายในห้องพักกันแล้ว จะพาไปต่อที่ Club Millésime ซึ่งเป็น benefit สำหรับสมาชิก Accor Platinum

โดยจะเสิร์ฟ Afternoon Tea พร้อมของว่างในช่วง 15.00 - 17.00 น. ตามด้วย Evening Cocktail ตั้งแต่ 17.30 - 19.30 น.

ชมบรรยากาศภายในห้องพักกันแล้ว จะพาไปต่อที่ Club Millésime ซึ่งเป็น benefit สำหรับสมาชิก Accor Platinum

โดยจะเสิร์ฟ Afternoon Tea พร้อมของว่างในช่วง 15.00 - 17.00 น. ตามด้วย Evening Cocktail ตั้งแต่ 17.30 - 19.30 น.

ฝั่งตรงข้ามกับ Club Lounge เป็น Explorer Bar - บาร์ 1 ใน 2 ของรีสอร์ท ที่ออกแบบตกแต่งได้สวยมากๆ (y)

ช่วงคํ่าๆ จะมีดนตรีเล่นสดด้วยครับ

*ออกจากคลับเลาจน์ ถ้ายังไม่เมา ก็ข้ามมาต่อที่นี่ได้เลย

ติดกับ Explorer Bar เป็นห้องอาหารอิตาเลียน ชื่อ Venezia บรรยากาศดีทีเดียว (y)

เดินลงมาชม "ตึกฝรั่ง" กันที่สนามหญ้าชั้นล่าง

ความสนุก ของงานสถาปัตยกรรมของ Sofitel Krabi Phokeethra คือ การที่สามารถทำให้ "ตึกฝรั่ง" อยู่เคียงข้างกับ "บ้านไทย" ได้อย่างเรียบหรู ดูดีจริงๆ (y)

"บ้านไทย" ที่เป็นที่ตั้งของ So Spa

เดินชมบรรยากาศโดยรอบของ บ้านไทย

จากนั้นมาดูโซนสระว่ายนํ้าที่เป็นจุดแข็งของ Sofitel Krabi Phokeethra กันครับ

เชื่อว่า ภาพจากโดรน คงทำให้ทุกท่านสามารถตัดสินใจเลือกมาพักผ่อนที่นี่กันได้ไม่ยากเลย

Wibit Adventure เครื่องเล่นใหม่ล่าสุด ของ Sofitel Krabi Phokeethra อยู่กลางสระว่ายนํ้าขนาดยักษ์

*Wibit ของที่นี่ ใหญ่กวว่าที่ SO/Hua Hin อีกนะครับ

ต้องรีบตื่นมาเก็บภาพนี้ช่วงอาหารเช้า ไม่งั้นหมดสิทธิ์ เพราะช่วงสายๆ ยาวตลอดไปถึงเย็น แถวนี้จะเต็มไปด้วย เด็กๆ + หนุ่มๆ + สาวๆ ที่สนุกกันอย่างสนุกกันเต็มที่

Wibit Adventure Zone @ Sofitel Krabi Phokeethra

Pool Bar ของที่นี่ ชื่อ Koh Poda (เกาะปอดะ)

ศาลาไทย กลางนํ้า อันเป็น Signature ของ Sofitel Krabi Phokeethra  

*ภาพนี้ มองจาก Pool Bar

จากนั้นเดินผ่านดงมะพร้าว และ สนามหญ้าเขียวชะอุ่ม มายังอาคารห้องพักในอีกโซน ที่อยู่ใกล้สนามกอล์ฟ เก็บภาพมาให้ชมกันพอเป็นไอเดียนะครับ 🙂

วกกลับมาเก็บภาพบริเวณรอบๆสระว่ายนํ้า และ ศาลาไทย

*บนศาลาไทย จะมี daybed สำหรับแขกให้ขึ้นไปนั่งเล่น นอนเล่นได้นะครับ

เดินเลียบอีกฝั่งของสระว่ายนํ้า มายังสนามหญ้า แล้วมองกลับเข้าไปยัง "ตึกฝรั่ง"ที่เป็น Lobby

บริเวณนั้น จะมี ศาลา 2 -3 หลัง ที่มีโต๊ะพูล + โต๊ะปิงปอง

ใกล้ๆกันจะเป็นประตูทางเดินออกไปยังชายหาด (ต้องข้ามถนนนะครับ - โปรดระวังรถ เพราะแถวนี้มีรถขนแร่ขนาดใหญ่วิ่งกันเยอะ )

ทางรีสอร์ท ได้จัดให้มีเครื่องเล่นต่างๆ เกี่ยวกับกีฬาทางนํ้า และ เจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวก ตลอดวันเลยครับ

หาดคลองม่วง เป็นหาดที่มีหิน จะเล่นนํ้าได้ และดูสวยกว่า เฉพาะช่วงเช้าๆ ที่มีนํ้าขึ้นเท่านั้น เพราะในช่วงเย็นที่นํ้าลดลง อาจจะทำได้แค่มานั่งชมพระอาทิตย์ตก

ภาพจากโดรน เห็นสนามกอล์ฟของ Sofitel Krabi Phokeethra

สะพาน 2 แห่งที่ยื่นไปในทะเล เป็นท่าเรือของ บริษัท Southern Port และ ท่าเรือ เจียรวาณิชย์ ถัดจากนั้นไปอีก จะเป็นหาดทับแขก

*ในวันที่อากาศดีๆ โซนหาดคลองม่วง + หาดทับแขก จะเป็นโซนที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ตก ท่ามกลางวิวป่าเกาะ ที่สวยงามสุดๆเลยครับ

ทางโรงแรมมีเรือให้บริการสำหรับ one day trip ไปยังเกาะห้องด้วยนะครับ

*ไม่แน่ใจว่ายังมีโปรฯ พัก 2 คืน ฟรี ทัวร์เกาะห้อง อยู่อีกรึเปล่านะครับ เพราะผมพักแค่คืนเดียว หากมนใจตรงนี้ - คงต้องสอบถามรายละเอียดกับทางโรงแรมโดยตรง 🙂

เดินกลับเข้ามาชมบรรยากาศต่างๆของโซนสระว่ายนํ้ากันต่อครับ 🙂

โซนนี้เป็นโซนสำหรับเด็กเล็ก นํ้าตื้นแค่เข่า มีทั้ง นํ้าพุ นํ้าตก และ Slider

ช่วงบ่ายๆนี่ เด็กๆเค้ามาสนุกสนานกันเต็มที่เลยครับ น่ารักมาก ♥

*ภาพขวาบน เป็นห้องพักที่เห็นวิวทะเล ถ้าได้ห้องชั้นล่าง ก็สามารถเดินออกมายังสระว่ายนํ้าได้เลย

Rain Shower ไว้ล้างตัว บริเวณสระว่ายนํ้า

โซนนี้เป็นบริเวณก่อนถึงห้องพักแบบ Pool Access 🙂

พอเลยไปจากสะพานโค้งในภาพขวาบน ก็จะเป็นเขตที่แขกจากห้องพัก type อื่นไม่สามารถเข้ามาได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพักในห้องแบบ pool access

โดยจะมี barrier ในนํ้า กั้นเอาไว้ และมีป้ายบอกไว้ ทั้ง 2 ฝั่ง (ป้ายรูปร่างเหมือนหลักไมล์ สีขาว)

มีสนามวอลเล่ย์บอล ในบริเวณนั้นด้วยนะครับ - ระวังอย่าเสิร์ฟลูกวอลเล่ย์ ออกไปบนถนนหน้าโรงแรมล่ะ

อาคารห้องพักในโซน Pool Access จะแยกมาอยู่ในอีกฝั่งของรีสอร์ทเลยครับ บรรยากาศดีมากๆ

ถ้าเราเดินไปจนปลายสุดของอาคารห้องพักแบบ Pool Access จะพบกับ สนามเทนนิส และใกล้ๆกัน เป็นสวนผีเสื้อ ด้วยนะครับ - แต่ช่วง Covid ที่โรงแรมได้ปิดตัวลงไประยะหนึ่ง ไม่มีพนักงานดูแล จึงได้ปล่อยน้องๆออกสู่ธรรมชาติ

*ปัจจุบันโซนนี้ยังไม่เรียบร้อย

เดินเลยมาอีกหน่อย จะพบกับจตุรัส ของ Kid's Club / สนามเด็กเล่น / Cooking School และ Fitness

Health Club ของที่นี่ใหญ่โตโอ่อ่าพอสมควรเลยครับ มีห้องตีปิงปองด้วย

นอกจากนั้น ยังมีทั้ง Sauna และ Steam Room

ยามคํ่า ได้เวลาของ Club Millésime

จัดไปแบบเบาๆ

มีคานาเป้ และขนมขบเคียวต่างๆให้ด้วยครับ

สำหรับท่านที่ไม่ดื่ม Lกฮ - จะมีชา / กาแฟ ให้เหมือนช่วงบ่าย

อาหารเช้า ที่ Maya Restaurant ครับ - ไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมมากนัก เพราะแขกค่อนข้างเยอะ - แต่ไลน์อาหารของที่นี่ จัดหนัก จัดเต็ม จริงๆ

ชอบที่สุด คือ ขนมจีนนํ้ายา อร่อยมาก ซัดไป 2 จานเต็มๆ

นอกจาก ขนมนมเนย Bakery ครบครัน ยังมีไอศกรีมด้วยครับ

เกือบลืมใช้ Welcome Drink สำหรับเรา ชาว Accor Plus Platinum

- ขอบคุณสำหรับการติดตาม fatreview และ fatreview : CHECK IN

* หากชอบอ่านรีวิวในสไตล์ที่มี detail ต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกโรงแรม/ที่พัก ก็ติดตามกันได้เรื่อยๆ นะครับ  

ขอบคุณครับ ♥