ความทรงจำครั้งนึงเราเคยพบกัน
เชียงคานในวันที่ไม่มีความวุ่นวาย
เราเดินทางจาก ดอนเมือง-สนามบินเลย
รอบนี้ตั้งใจแว๊นมอเตอร์ไซค์เที่ยว แต่แดดเมืองเลยก็สู้กลับ
(พิกัดร้านเช่ารถอยู่หน้าประตูทางเข้า-ออก)
จากสนามบินไปยังเชียงคาน ระยะทางรวม 54 km
เป็นทางหลวงที่ขี่ง่าย ที่รถไม่เยอะ ก็ขี่กันยาวๆ ชิวๆ ไปเลย
แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านตำเลย ณ บ้านดาว
สิ่งแรกที่ทำตอนขี่รถมาถึงเชียงคานคือ
แวะไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
แถ๊น แถ่น แถนนนน
บ้านชานเคียง ที่ เชียงคาน
เป็นบ้านพักที่อบอุ่นไปด้วยความธรรมดาของเจ้าของบ้าน
ที่ต้อนรับแบบเป็นกันเองเหมือนญาติพี่น้อง
ให้อารมณ์เหมือนไปนอนพักบ้านเพื่อนเลยทีเดียว
ด้านบนเป็นห้องพักแบบพัดลม
มี 2 แบบคือฝั่งริมถนนคนเดินกับฝั่งริมแม่น้ำโขง
ส่วนห้องแอร์อยู่ด้านล่างริมแม่น้ำโขง
ห้องพัดลมดูเหมือนจะร้อนแต่ไม่ร้อน
เพราะมีลมพัดผ่านตลอดเวลา
ห้องริมแม่น้ำ วิวก็จะประมาณนี้มีระเบียงส่วนตัว
มองเห็นแม่น้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้านเรา
และมีโถงส่วนกลางวิวแม่น้ำแบบนี้
ด้านล่างเป็นคาเฟ่เบาๆ นั่งชิวจิบกาแฟ
และมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่เจ้าของ คือพี่น่ารักเป็นกันเอง
กิจกรรมของคนที่มาเชียงคานก็คงจะเป็น
การออกไปปั่นจักรยานริมแม่น้ำโขง
ชมบรรยากาศระหว่างทางที่ดูเงียบสงบ
มีแค่เรือชาวบ้านไม่กี่ลำที่ออกหาปลา
และที่นี่ก็ยังมีบริการล่องเรือของกลุ่มประมงพื้นบ้านด้วยน้า
..
แต่วันนั้นดันมีฝนตก ทำให้เราต้องอดนั่งเรือ
พอมีฝนบรรยากาศก็ดูไม่ต่างกับหน้าหนาว
จะถือเป็นความโชคดีก็ว่าได้ ฮ่าๆ
..
ติดต่อนั่งเรือ : กลุ่มประมงพื้นบ้านเชียงคาน
ถนนคนเดินเชียงคาน
ตั้งอยู่ถนนศรีเชียงคานสายล่างใกล้กับแม่น้ำโขง
เริ่มต้นตั้งแต่วัดท่าครกไปจนถึงวัดศรีคุณเมือง
โดยเปิดให้บริการทุกวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 17:00 – 22:00 น.
จุดเด่นก็คงเป็นเรื่องของกินพื้นเมือง
ที่ดึงดูดคนต่างถิ่น ชวนให้อยากลองชิม
ตามไปลองกันเลยค้าบบ
ใดๆ ก็คือกุ้งเสียบไม้ที่ไม่ควรพลาด รสชาติถูกปากที่สุดแล้ว
หลังจากที่เดินถนนคนเดินเชียงคาน และกินโน่นกินนี่จนอิ่มท้อง
ก็ถึงคิวของร้านคราฟเบียร์ที่เดินผ่านแล้วอยากเข้าไปนั่ง
ร้านอยู่ติดกับถนนริมโขง ดื่มด่ำกับวิวแม่น้ำ
เป็นฟิวแบบร้านหลังคาไม้ธรรมดาแต่มีเสน่ห์แบบบอกไม่ถูก(ต้องมาลอง ฮ่าาา)
จ๊วดไป 1 เมา ค่ะ
*เพื่อความต่อเนื่องก็มาจัดเบียร์ที่พักอีกสักขวด
คืนแรกผ่านไป รู้สึกประทับใจกับที่พักที่นี่
หากใครมาเที่ยว แต่ยังลังเลว่าจะพักที่ไหน
ขอแนะนำที่นี่เลย บ้านชานเคียง ณ เชียงคาน
...
บทสนทนาคำล่ำลาของคุณยายที่ดูแลที่พัก
ไปเที่ยวไหนต่อหรอลูก?
ภูเรือค่ะยาย..โชคดีนะลูก
เป็นคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จักกันแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
เหมือนกำลังคุยกับญาติพี่น้องตัวเอง
ก่อนออกเดินทางต่อก็แว๊นหาร้านอาหารเช้า
แล้วก็ได้ฝากท้องไว้กับร้านอาหารเช้าแถวๆ ซอย 3
...
ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยังเส้นทางใหม่
จากเมืองสโลไลฟ์แล้วไปต่อกับสถานที่ท้าทายความกล้ากัน
เป็นที่ที่อาจจะต้องว้าวววว จนเสียงหาย
เดินทางด้วย 2 ล้อ แว๊นจากเชียงคาน-ภูเรือ
ระยะทาง 97 กิโลเมตร เป็นทางขึ้นเขาลงเขาตลอดเวลา
ถนนลาดยางตลอดเส้นทาง
(ก่อนเดินทางก็ไม่ได้ศึกษาเส้นทางด้วย)
อาจจะไม่ได้ชันมาก แต่ด้วยระยะทางที่เป็นทางวิ่งบนเขาตลอด
รถเกียร์ออร์โต้ อาจจะมีเรื่องเซอร์ไพร์เราระหว่างทางก็ได้
จึงขอแนะนำให้ใช้รถเกียร์ธรรมดาค่ะ
แต่เรื่องที่คิดว่าจะต้องเจอแน่ๆ คือฝน
ระหว่างตั้งหน้าตั้งตาบิดรถ ฟ้าก็มืดครื้มมาเชียว
ไม่นานฝนก็ตกและลมแรงมาก เลยต้องหาที่หลบฝนก่อน
เป็นกระท่อมของชาวไร่แถวนั้น
ขอแวะหลบฝนหน่อยน้าาาา
พอฝนหยุดเราก็แว๊นต่อ เพื่อไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์จะตก
ขี่ไปลุ้นไป ระหว่างทางแทบจะไม่มีรถยนต์สวนทางมาเลย
พอใกล้จะถึงที่พัก ก็พอมีเวลาแวะถ่ายรูป วิวสวยจริงๆ เลย
บ้านไฮตาก เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ อ.ภูเรือ จ.เลย
เป็นจุดท่องเที่ยวที่แยกตัวออกจากหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก
มีทั้งที่พักแบบบ้านเป็นหลังและลานกางเต็นท์ให้เลือกเยอะ
สำหรับคืนนี้ขอนอนชิวๆ บ้านหลังน้อยๆ
กับที่พักน่ารัก ราคาก็น่ารัก วิวสิบล้าน ที่ เสวนาริมเขา
เหตุผลที่ดั้นด้นมาถึงที่นี่คือวิวภูเขาและระเบียงนั่งจิบเบียร์ ฮ่าา
ไม่มีเรื่องธรรมดาใดที่จะพิเศษ เท่ากับความธรรมดาที่ทำหัวใจเต้นแรงได้
ฉันกลัวว่าการออกไปจะเป็นอันตราย
จนไม่รู้สึกตัวเลยว่าเซฟโซน(ของตัวเอง)
ไม่เคยปลอดภัย…
Safe Zone ที่ฉันควรรักษา (ไว้ในชีวิต)
ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบที่ฉันกำลังรักษา
Cr.once ⛰🌲🙂🖤
มาเที่ยวหน้าร้อน ก็เตรียมใจกับสภาพอากาศมาบ้างแล้ว
แต่โชคดีอีกแล้ว ที่กลางคืนฝนตก
ทำให้ตอนเช้ามีหมอกบางๆ ให้ดูอย่างสบายตา
เป็นฟิวหน้าร้อนที่โคตรจะดีเลย
เซ็ตอาหารเช้า
กินข้าวเช้าจิบกาแฟอุ่นๆ เสร็จแล้ว
ก็รีบหยิบกล้องเดินไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบๆ
เราโคตรชอบที่นี่เลย ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองตามลำพัง
ทบทวนเรื่องราวต่างๆ พักและวางทุกอย่างไว้
...
ลากันไปกับหมอกหนาๆ ที่ยังลอยฟุ้งในตอนสายๆ
ส่วนเราก็ต้องแว๊นรถกลับสนามบิน
แล้วหวังว่าจะได้มีโอกาสกลับมา พบกัน อีก
...
ยังไงก็มาฮิลใจกับการเดินทางครั้งใหม่กับเราได้นะ
ไว้พบกันใหม่ทริปหน้านะเพื่อนๆ
ยังมีหลายๆ ที่ที่อยากไป เหมือนว่าเราพลาด
และเสียดายที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้
แต่ตอนนี้เรามาคนเดียวแล้วนะ
ฝากติดตาม พบกัน Journey | ฉันมาเพื่อ "คิดถึง" เธอ ด้วยน้าา
https://th.readme.me/id/LoveescapeJourney
พบกัน Journey | ฉันมาเพื่อ "คิดถึง" เธอ
วันพฤหัสที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 16.55 น.