จุดเริ่มต้นทริปนี้เห็นรูปที่แชร์กันทางเว็บไซต์ กระตุ้นต่อมเดินทาง ตุ๊บ ตุ๊บ รีบหาตั๋วปั๊บ แล้วชวนแนวร่วมที่ไปกับเราได้แบบ ไม่รู้งบประมาณ ไม่รู้ว่าจะไปไหนบ้าง แต่รู้แค่ปลายทาง คือ
ลารุงก้า Larung Gar สำนักสงฆ์บนหลังคาโลก (Larung Gar Buddhist Academy) หรือ นารุง ออกเสียงอย่างทิเบต ตั้งอยู่ในหุบเขาลารุง (Larung Valley) เมืองเซอต๋า (Sertar) มณฑลเสฉวน (Sichuan) พวกเรามาใน Concept ไม่มีผิดแผน เพราะไม่ได้วางแผน ^^,
6 คำจำขึ้นใจ 1 Kanding 2 Setar 3 Larung Gar 4 Danba 5 Siguniang Shan ซื่อกูเหนียงซาน 6 เมืองจินชวน(金川)ติดตามกันต่อไปนะคะ ว่าพวกเราจะเดินทางไปที่ไหน ยังไงบ้าง
เริ่มต้น อยู่ๆ การบินไทยก็ออกตั๋วโปร บิน 2 คนขึ้นไป ราคาคนละ 9,920 บาท ตื่นเต้นจองแบบไม่สนใจดูสายการบินอื่นละ เราเดินทางออกจากไทย 3 คน พี่หนุ่ย และพี่แต่ แล้วไปเจอเพื่อนที่เฉิงตู ชื่อเล็ก เพื่อนคนนี้ทำงานที่เมืองกวางโจวแล้วนั่งเครื่องมารวมตัวที่เฉิงตู ทริปนี้ เดินทางตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2016
ถึงเฉิงตู ก็นั่งรถ Shuttle bus Line 1 ของสนามบินมาลงสุดสายที่ Minshan Hotel คนละ 10CNY มาเจอน้องส้มรุ่นน้องที่เรียนปริญญาโทที่เฉิงตู น้องมา Check in ที่พักให้ก่อน :) เราเลือกพักที่ Mrs Panda Hostel จองมาก่อนจากเวบ booking.com เพราะอยู่ติดกับสถานีรถบัสที่จะไปเมือง Kanding และ Setar จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดินเที่ยวถนนคนเดินชูนซีลู่รอเพื่อนอีกคนมาจากกวางโจว ระหว่างรอ น้องที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ Panda Hostel ก็พูดคุยด้วยและถามไถ่ว่าพวกเราจะไปเที่ยวไหน แค่นั้นละ ทริปที่ไม่ได้คิดวางแผนมาก่อน ก็เกิดขึ้น ตามแผนที่ของมณฑลเสฉวนแผนใหญ่ที่ติดอยู่ภายใน Hostel น้องก็แนะนำว่าเมืองไหนมีอะไร เดินทางไปยังไงบ้าง
จากภาพดูเหมือนคุยกันรู้เรื่องนะ น้องเค้าพูดภาษาอังกฤษได้ พูดแบบปนภาษาจีนและภาษามือ แฮะๆ แต่รู้เรื่องกัน ให้น้องส้มช่วยแปลด้วย
แล้วทริปนี้ก็เกิดขึ้นว่าพรุ่งนี้เราจะนั่งรถบัสไปลงไหนก่อน Chengdu - Kanding - Ganzi - Luhuo - Sertar - Larung Gar - Maer kang - Xiao jin - Siguniang Shan - Dujiangyan - Chengdu จบนะ ทั้งทริปได้เท่านี้ก็ดีเวอร์ละ ฮาๆ จากนั้นก็แล้วแต่เหตุการณ์และสถานการณ์จริงจะเจอแบบไหนและไปได้ครบแค่ไหน ตามสภาพและระยะเวลาที่เราจะทำได้ อ้าวววว ลุยยยยยยย สู้โว้ยยยยย
รวมตัวกันครบ 4 คน ส่วนน้องส้ม ไม่ได้ไปด้วยเพราะน้องติดสอบ จะมีแค่ ลิงเปิ้ล เล็ก นำทัพ แล้วพี่หนุ่ย พี่แต่ ตาม อิอิ แค่คิดก็เริ่มสนุกแล้วค่ะ แฮะๆ
รู้แล้วว่าจะไปไหนบ้าง เราก็ไปซื้อตั๋วรถบัสไว้ก่อน เพราะกลัวจะเต็ม เดินไป Xinnanmen Bus Station (新南门长途汽车站) อยู่ติดกับที่พัก ได้ตั๋วรถบัสไปเมือง Kanding หรือ คันติ้ง รอบเวลา 7.30 น. ราคาคนละ 139CNY สถานีนี้มีจุดหมายไปหลายเมืองนะคะ ดูจากตารางเดินรถนี้ได้
การจะมาขึ้นรถบัสในเมืองจีน เราต้องรีบมาก่อนเวลารถออกซัก 20 - 30 นาทีนะ เพราะที่นี่จะต้องมีสแกนกระเป๋าด้วย ถ้าเจอคนเยอะอาจจะตกรถได้ เผื่อเวลาไว้ก็ดีค่ะ
จากเฉิงตูไปเมือง Kanding ปกติจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง แต่พวกเราโชคไม่ดีตั้งแต่วันแรกเลยอะ มาได้ประมาณครึ่งทาง ถนนมีดินสไลด์ทำให้ต้องจอดรถเพื่อรอเค้าเคลียร์ทาง ปล่อยให้วัยรุ่นเซ็งรอเกือบ 5 ชั่วโมง เฮ้อ นานม๊ากกกกก
ดินสไลด์จุดเดียวไม่พอ มาเจออีกจุด เนื่องจากคืนก่อนนะฝนตกหนักทำให้ดินสไลด์ถ้วนหน้า ทำให้พวกเราถึงเมือง Kanding ตอน 5 ทุ่ม เฮ้อ ! ไม่ได้เดินเที่ยวกันเลย มาถึงก็ซื้อตั๋วรถบัสไปเมือง Ganzi แล้วรีบหาที่พักนอน มีรถรอบเวลา 6 โมงเช้า ราคา 121CNY โอวววว แม่เจ้า จะได้นอนมั้ยคืนนี้ อากาศก็หนาวมาก เดินหาที่พักใกล้ๆ กับสถานีรถบัส เป็นแบบพอนอนได้ ดีที่พวกเราพกถุงนอนมา น้ำอุ่นก็ไม่มี แต่เอาน่า นอนไม่กี่ชั่วโมงเด๋วก็ตื่น ไหวๆ
เริ่มต้นชมวิวระหว่างทางสวยๆ จาก Kanding ไปเมือง Ganzi อือ ฮือ อ่า ฮ้า หลับบ้าง ตื่นบ้าง พอเห็นวิวสวยก็สะกิดขึ้นมาถ่ายรูป แล้วก็หลับต่อ อิอิ
บ้านสไตล์ทิเบต
เริ่มมีภาษาทิเบตละ
ธงมนต์ เต็มเขา
ก้อนหินก็ไม่เว้น
เจอจามรี เยอะแยะ
ระหว่างทางผ่านเมืองเล็ก ไม่รู้จักชื่อ หลับๆ ตื่นๆ ดูวิวเพลิน
จำได้แค่ว่าผ่านเมือง LuHuo ถนนคดเคี้ยว
หลังจากฟินกับวิวและธรรมชาติระหว่างทาง 7 ชั่วโมงเราก็มาถึงเมือง Ganzi เมืองเล็กๆ แต่บรรยากาศและวิวสวยคอดๆๆ มีภูเขาหิมะรายล้อม เสียดายมีเวลาเที่ยวเมืองนี้แค่เย็นวันนี้เองอ่า ปรับสภาพร่างกายเตรียมไปเมือง Sertar ที่มีความสูงระดับ 4,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
มาถึงรีบหาที่พักใกล้ๆ กับที่เราลงรถบัส จากนั้นเดินหาของกินและเหมารถเที่ยวรอบเมือง ที่นี่ก็ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว มีตลาดเก่า รถเหมาก็จอดให้บริการเยอะเลย อยู่ที่เราต่อรองและตกลงราคากันได้พอใจ เราต่อรองได้ 100CNY เที่ยวรอบเมืองแล้วแต่เค้าจะพาไปไหน ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ตะเวนจนมืดค่ำ
โล่งๆ ถนนก็เป็นของเรา อิอิ
เริ่มวัดแรก จำชื่อวัดไม่ได้ ^^
ลามะ ท่านใจดี พูดคุยทักทาย และให้จิบน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคล ตามความเชื่อของชาวทิเบต ^^ สาธุๆ
ไปต่อวัดที่สอง นี่ก็ไม่รู้ชื่อวัด ^^
เป็นสัญลักษณ์วัดทิเบต ต้องมีกงล้อ ให้สวดมนต์และอธิษฐาน
เจอชาวบ้านอยู่ในวัด น่ารัก และใจดี
ขอถ่ายรูปท่านก็จับมือและควงแขนตลอด
มารอดูพระอาทิตย์ตก
คืนนี้เราก็ได้กินเนื้อๆ บ้างละ ปิ้งย่าง สไตล์ทิเบต แต่ห้ามใส่หมาร่าเชียว มันเผ็ดจี้ดดดดดด อิ่มมมมมรอดไปอีกมื้อ จากนั้นต่อรองราคารถเหมาไปเมือง Sertar ตกลงได้ คนละ 70CNY นัดมารับที่โรงแรม 8.30 น. เพราะคนขับบอกว่าใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงก็ถึง เราจะได้มีเวลานอนพักนาน
หลับสบาย เมืองนี้อากาศหนาวมาก ที่พักเครื่องทำน้ำอุ่นใช้ไม่ได้ ก็อาบเฉพาะจุดเนอะ ^^ มีผ้าห่มไฟฟ้าช่วยอุ่น ตื่นเช้าเก็บเป๋า รถที่นัดมารับ แต่ไหงมีคนนั่งในรถแล้ว ก็เข้าใจว่าเหมาแค่พวกเรา 4 คน มิน่าราคาถูก สรุปมีนักท่องเที่ยวนั่งไปด้วยอีก 2 คน คิดซะว่าน่าจะได้เพื่อนใหม่เนอะ
นั่งข้างกันก็ได้คุยและแบ่งขนมให้กินด้วยกัน เป็นชาวญี่ปุ่น มาเที่ยวคนเดียว เก่งอะ ผู้หญิงมาเที่ยวจีนคนเดียว
ออกจากเมือง Ganzi มาเจอวิวข้างทาง ก็เสียดายอะ น่าจะมีเวลาเที่ยวเมืองนี้นานกว่านี้ อยากอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ จะได้มั้ย ^^.
ลั๊ลล๊า ฝึกเซลฟี่นอกรถ ฮาๆ
ภูเขายิ่งใหญ่ อลังการ มนุษย์เราแค่เสี้ยวนึง
ไม่ได้ขอให้จอด ก็ส่องกดชัตเตอร์ในรถแบบรัวๆ
คนขับก็ช่างรู้ใจ จอดจุดชมวิวให้ลงไปถ่ายรูป
แต่จุดที่จอด ไม่มีห้องน้ำ ก็ต้องหาที่หลบตามสภาพ อิอิ
เราจะไปทางไหนนะ อ่านไม่ออก ^_^
กับมือใหม่ฝึกถ่าย VDO บนรถ :)
เป้าหมายเราใกล้จะถึงละ ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน แค่ระหว่างทางก็ทำให้เราได้มีประสบการณ์ เก็บเกี่ยวให้มากที่สุด จัดการ วางแผน แก้ปัญหาวันต่อวัน ก็สนุกแล้วนะ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปต่อตามหา Larung Gar กัน ต่อไปนะค่ะ https://th.readme.me/p/4084
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เรื่องโดย ลิงเปิ้ล : LingPle Mayuree : [email protected]
Fanpage เที่ยวแล้วยัง :
www.facebook.com/welikejourney
IG : lingple
เที่ยวแล้วยัง
วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.23 น.