แค่เพียงเปิดประตูบ้านออกไปก็สัมผัสได้ถึงอากาศที่ค่อนข้างเย็น มืด และเงียบ.......      

     ทางเดินเปลี่ยว เราหันหน้าหันหลังอย่างคนเลิ่กลั่ก ก้มมองเงาตัวเองบนถนนสีเทาเจือสีเหลืองอ่อนจากเสาไฟข้างทางตกกระทบ

     ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่สี่สิบนาที และเรากำลังเดินออกจากที่พัก เพื่อไปนั่งรอรถบัสที่ป้ายหน้าหมู่บ้าน ที่จะพาเราไปสถานีอะโตชา      
     รถบัสพาเราไปถึงสถานีรถไฟอะโตชาตอนหกโมงเช้า เรายื่นบัตรโดยสารที่จองมาล่วงหน้าให้พนักงานตรวจตั๋ว ก่อนจะกระโดดขึ้นรถไฟรอบ 6.35 น.

     รถไฟใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ก็พาเรามาถึงเมืองบาเลนเซีย

uzg213ufw8an

     เมื่อเดินออกจากสถานีรถไฟ เราหยิบมือถือขึ้นมาเปิดกูเกิแมพส์ บอกว่าเดินไปตรงจุดศูนย์รวมแลนด์มาร์กดัง ๆ ประมาณ 30 นาที เห็นระยะเวลาแล้วมองดูสภาพอากาศกับกำลังตัวเองที่ยังมีเยอะในตอนเช้า เลยตัดสินใจเดิน เพราะเป็นเส้นทางเดินผ่านเมืองตรงๆ ไม่มีเลี้ยวอะไรให้ยุ่งยาก ถือว่าเดินชมบ้านเมืองเขาแล้วกัน

     บรรยากาศเมืองบาเลนเซียยามเช้าเหมือนคนเพิ่งตื่น คล้ายความรู้สึกของเราที่เพิ่งค่อยๆ หายจากความงัวเงีย หลังจากได้ก้าวขาเดินบนถนนเส้นใหม่ในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศสเปน

      เรารู้อะไรเกี่ยวกับเมืองวาเลนเซียบ้าง ?  

      ที่คุ้นๆ  อาจจะเป็นชื่อทีมฟุตบอลหรือน้ำส้มวาเลนเซีย

      แต่เมื่อลองค้นหาข้อมูลคร่าวๆ ดูแล้ว เมืองบาเลนเซียยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการมาเยี่ยมชมวิหารบาเลนเซีย เมืองเก่า ตลาดกลาง และยังเป็นบ้านเกิดของปาเอยา (ข้าวผัดสเปน) พิพิธภัณฑ์ที่แปลกประหลาด เทศกาลสนุกสนาน อากาศแจ่มใส และชายหาดที่อยู่ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม

kbujiy09g6zm

     ร้านรวงบางร้านยังไม่เปิดให้บริการ ในขณะที่พนักงานร้านอาหารเช้ากำลังตระเตรียมของ หันไปทางขวาก็เห็นคนกำลังหยิบขนมปังออกจากเตา หันไปทางซ้ายก็เห็นแผงผลไม้ทรงกลมสีส้ม บ้างวางอยู่ในตะกร้า บ้างวางอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม หรือนี่อาจจะเป็น…ส้มวาเลนเซีย

     และสีแสดๆ ส้มๆ ของส้มวาเลนเซีย ก็เหมือนปลุกเราให้ตื่นอย่างเต็มตัว!

v21ff46mzbyf
rog2qnsbch3s
00mxft2o2qfa
eta0qiixlubr
0bg1uq1fni9h
oullfiyw9o64
o70oh11mxig4
dz78svnz9cem
w06r0999ih3g
91sko5os3gnh
395qmkgbfngy
a6njbbde3br6
82ypdnupos9u
5m6wg8jwlem5
Monumento Ruy Diaz de Vivar (Monumento a Rodrigo Díaz de Vivar (EL CID))

     อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่บนถนนเส้น Gran Vía de Ramón y Cajal โดดเด่นกลางเมือง หาไม่ยาก นี่เป็นอนุสาวรีย์วีรบุรุษของชาติสเปน ที่ต่อสู้เพื่อกษัตริย์ Alfonso VII ของสเปน รวมทั้งต่อต้านคริสเตียนและมุสลิม และปกครองอาณาจักรของเขาเอง

0i42xyiimmpu


     ระหว่างทางเดินไป Plaza de la virgen เราหันไปองทางขวา เห็นถนนตรงไปสู่ตึกสีขาวใหญ่ สวยๆ เลยตัดสินใจลองเดินไป ก็ไปเจอตึกสวยและอาคารใหญ่โต เลยแวะถ่ายรูปตรงนี้สักพัก

nj33iih6fx2g

 Tourist Information Office City Hall-Ayuntamiento ตึกขนาดใหญ่ สีขาวครีมที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางของเมืองวาเลนเซีย  เป็นอาคารศาลาว่าการมีความน่าสนใจในการเยี่ยมชม มีบันไดหินอ่อนขนาดใหญ่ หอจดหมายเหตุเทศบาล พิพิธภัณฑ์ และสำนักงานบริหารของเมืองบาเลนเซีย 

61vz9r79ym7c

     นอกจากนี้ยังเป็นเป็นศูนย์ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว ช่วยเหลือในการวางแผนการเข้าพักในเมือง และการจองซื้อตั๋วสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งอาจช่วยประหยัดเวลาในการไปยืนต่อคิว ส่วนจัตุรัสข้างหน้าคือ  Plaza del Ayuntamiento

vtbrgkyrvunj

     มีผู้หญิงวัยกลางคนขอให้ถ่ายรูปให้ เธอน่าจะเห็นเรามาคนเดียวและพยายามถ่ายรูปเหมือนกัน

     ในขณะที่กำลังเดินชมเมืองไปพลางๆ มีกลุ่มเด็กนักเรียน บางคนก็แกล้งเซย์ไฮทักทายกล้อง 

     ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อสามวันที่ผ่านมาที่ได้ไปเที่ยวเมือง Zaragoza Madrid และ Alcala de Henares วันนี้เป็นวันแรกที่รู้สึกว่าเหมือนได้มาเมืองท่องเที่ยวจริงๆ เพราะเจอนักท่องเที่ยวเยอะ ทั้งแบ็กแพ็กเกอร์มาเอง ทั้งกรุ๊ปทัวร์ แถมเด็กมาทัศนศึกษาอีกประมาณ 4-5 กรุ๊ป ให้ความรู้สึกคึกคักในเมืองใหญ่

uwamfg0gckvw
เขต La Seu ในบาเลนเซียเป็นเขตที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองและเป็นศูนย์กลางของชีวิตทางสังคม ศาสนา การเมืองและการทหารตั้งแต่กำเนิด และยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ปีของเมือง ผ่านชาวโรมัน วิซิกอธ ชาวมุสลิม และชาวคริสต์

      Plaza de la virgen จัตุรัสที่โดดเด่นตั้งอยู่กลางเมือง จัตุรัสนี้ในย่าน La Seu เขต Ciutat Vella [เมืองเก่า]

    ราวกับเรียกให้ผู้สัญจรผ่านไปมา มาหยุดพักบนม้านั่งหินหรือแวะจิบเครื่องดื่มในคาเฟ่ที่มีกลิ่นไอเมืองเก่า พร้อมกับได้ยินเสียงเด็กเล่น น้ำพุไหล และนกพิราบกระพือปีกเป็นพื้นหลัง  

a54m65mehyiy

     Real Basílica de Nuestra Señora de los Desamparados

      มหาวิหารอาคารสไตล์บาโรกแห่งแรกที่สร้างขึ้นในวาเลนเซีย ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชารูปเคารพของพระแม่มารี

vdgil8k98rex
nvyjrv0ych9w
yw7qxne5686x
jibznlypxlwi
kcw1sk47926b
by2l5if5fm53
j42un7pqnixb

     Palacio de Benicarlo (Government Palace) หรือที่รู้จักในชื่อวังของรัฐบาลวาเลนเซีย ตั้งอยู่ใน Piazza San Lorenzo นี่คืออาคารเก่าสามชั้นซึ่งเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1482 ภายใต้การนำของสถาปนิกชื่อดัง Pere Conte 

f41v33oonj8x
bb5e91v5xnb4
xes5xx5oxrff
1rfrg5gtlyf4

     ตอนนี้ประมาณ 11 โมง เราเดินไปเจอร้านอาหารตั้งอยู่พอดี เราสั่งตอตีญ่าและน้ำส้มคั้นวาเลนเซียมากินเรียกว่าเป็นมื้ออะไรดีล่ะ เป็นมื้อเช้า-สาย-กลางวันแล้วกัน      

n140oo07iqg7
d3ldtekeudpe

      อาหารอร่อยไม่เท่าไหร่ แถมกินไปก็เงยหน้ามาเจอหอคอย Serranos ที่ตั้งอยู่ในระยะใกล้

     แหม...ร้านนี้ช่างทำเลดีเสียจริง

     เมื่อกินเสร็จก็มีรุ่นพี่ทักไอจีสตอรี่มามา เขาแนะนำให้ไปโบสถ์ San Nicolás de Bari เราก็ทดเอาไว้ในใจว่าจะไปหลังจากแวะไปชม หอคอยตรงหน้าเสียก่อน 

     บริเวณหน้าทางขึ้นหอคอยเจอเด็กนักเรียนเป็นกลุ่มใหญ่เต็มเลย มีบันไดข้างบนให้ขึ้นไปชมวิวเมืองด้วย 

fan4euye7lk6
lgjbxhq33m0o
jj6582t715vp
1up4k685t9ei

     หอคอย Serranos รอดพ้นจากการรื้อถอนเมื่อกำแพงเมืองถูกทุบลงในปี พ.ศ. 2408 ถูกใช้ทั้งในฐานะป้อมปราการของเมือง ประตูชัย และเคยใช้เป็นคุกสำหรับขุนนางในอดีต

ydr99dveyp5r
4w7wv23re6g3
ou50hel4eylb


     คุ้มค่ากับการขึ้นบันไดมาชมวิวข้างบนเป็นอย่างมาก และวันนี้ท้องฟ้าเปิด โปร่งใส เราชอบภาพที่อยู่ตรงหน้าเหลือเกิน

t3sco4c2hl4z
xkaxhy1hrmlq

      ขึ้นไปมองข้างหลังเห็นวิว Plaza de los Fueros จากมุมสูง

v9inwiwlf8xt
m91lojxk1017
txaa8k4uemlj

      เมื่อเดินลงมา ก็เดินไปสะพานที่อยู่ข้างหลังหอคอย

dhvoklv24dvt
poqnuctrzlmh
divqbe433d5x

     หอคอยประตูเมืองแฝดสถาปัตยกรรมโกธิคสองชุดนี้ ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่กำแพงเมืองถูกทำลายในสมัยก่อน

cqsxtkre6ugf
265p8hyn33ve

     ท่ามกลางแดดที่สว่างจ้า ในช่วงกลางวันในเมืองบาเลนเซีย การได้หันไปเห็นสนามฟุตบอลที่อยู่ทางขวามือ ความกว้าง ใหญ่ของมัน ทำให้รู้สึกสบายสายตาขึ้นมาบ้าง

4xh6ofw1vf60
181a4wdpus99
wvx2etm56sbu
x6z439wvbq5k
a6f9no4a0ouk

     หลังจากนั้นเราก็เดินไปโบสถ์ San Nicolás de Bari และ San Pedro Mártir หรืออีกชื่อคือ The Valencian 'Sistine Chapel' 

     เมื่อมองแวบแรก โดยเฉพาะจากภายนอก ตัวอาคารอาจดูเหมือนโบสถ์สไตล์โกธิกแบบสเปนเพียงแห่งเดียว หรืออาจมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนและร้านอาหารโดยรอบ
แต่ถ้าใครได้เจอล่ะก็ นี่คือความทรงจำของยุคแห่งประวัติศาสตร์ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง!

z3q6k2pb4ovd

     เรายื่นบัตรนักศึกษาให้พนักงาน ส่งผลให้ตั๋วเข้า ลดราคาเหลือ 7 ยูโรจาก 8 ยูโร 

    พนักงานหนุ่มถามว่าเราสะดวกฟังภาษาอะไร เขาจะแจก audio guide มาให้ฟัง

5h2bsj2k52v6

     เมื่อเข้าไปในโบสถ์ San Nicolás de Bari และ San Pedro Mártir  เป็นหนึ่งในโบสถ์ประจำเขตศาสนาคริสต์สิบสองแห่งแรกในเมืองวาเลนเซียหลังการยึดครองของ Jaume I ในปี 1238

booltomgy2wd
miqyoxd1dbhh
iz9oua798d1v
24u62f6pekld

     ภาพเฟรสโกที่งดงามบนพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร  ซึ่งสร้างในสไตล์บาโรกที่สมบูรณ์แบบ ครอบคลุมเพดานโค้งโกธิค นี่คือสิ่งที่ทำให้โบสถ์ได้รับสมญานามว่า Valencian Sistine Chapel

zchucnpdaqyo
4yx8rh4mcby2

     ด้วยความสวยอลังการ ไม่แปลกที่จะมีใครบางคนกล่าวถึงภาพประดับที่อยู่ภายนโบสถ์แห่งนี้ว่า

     "the most important architectural and pictorial-ornamental work ever carried out
anywhere in the world due to the scale of the work and the techniques used"

kyidu0kdw5fv
bxvtdeub1s8i

     เมื่อชมความงามของโบสถ์ San Nicolás de Bari เสร็จแล้ว เราก็นั่งรถบัสไป The city of Art and Science ตามแมพส์ให้เราลงป้ายที่ห่างออกไปจากตัวสถานที่ เราค่อนข้างงง เพราะรถบัสมันเคลื่อนผ่าน The city of Art and Science ไปแล้ว ทำไมมันไม่จอดนะ

bkppjpd7q45j

     เราไปลงป้ายอะไรก็ไม่รู้ เดินเข้าไปรู้สึกแปลกๆ คนก็น้อย เหมือนศูนย์วิจัยอะไรสักอย่าง เลยเดินกลับออกมา แล้วย้อนไปทางที่เห็นตึกรูปทรงแปลกตาอันโดดเด่น ซึ่งระหว่างทางแสงแดดส่องลงมาอย่างจัง ร้อนสุดๆ!!    

     แต่ถ้าใครสะดวกจะเดินจากเมืองเก่าผ่านสวนแม่น้ำ Turia ที่แห้งแล้ง ไปจนถึง City of Arts and Sciences จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที

      เมื่อก้าวขาเดินเข้าไปในเขต The city of Art and Sciences  ราวกับอยู่ในโลกอนาคต 

     ด้วยตึกที่ถูกออกแบบเป็นรูปทรงแปลกตา มากไปกว่านั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสีฟ้าอันสดใสของสระน้ำข้างหน้า ที่ถูกแสงแดดแรงๆ ตกกระทบจนสว่างจ้า ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูน่าอัศจรรย์เข้าไปใหญ่ 

     The city of Art and Sciences สถาปัตยกรรมสมัยใหม่แห่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาววาเลนเซีย Santiago Calatrava และเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2539 เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่น่าประทับใจ

wfqg4rvej83r

     Agora

     ตึกใหม่ของ City of Arts and Sciences เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถรองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เวทีการประชุม คอนเสิร์ต รวมถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการได้อีกด้วย

r3mxpaxm6jaj
2we1u5voyaj3
40yj2ckv4ufb
ak0kubf96hha
v407skb0ljpg
c37hoa79v9p3
5inq1sg99b7p
ds34vul5r1yl

     เราหิวน้ำมากเลยไปต่อคิวซื้อน้ำที่ร้านค้า ซึ่งแถวยาวออกมานิดหน่อย เราซื้อน้ำส้มมากินชื่นใจ แล้วเดินเข้า Hemisophere ไปดูหนังที่จองมารอบบ่ายโมงเรื่อง Oceangenic ซึ่งถ้ามาวันพุธจะลดราคาจาก 12 ยูโร เหลือ 6 ยูโร  เมื่อเข้ามาข้างในแถวค่อนข้างยาว โชคดีที่เราจองผ่านเว็บไซต์มาก่อน

dkvqmvfdiu26
6ni2w485yy9u

     HEMISFERIC

      อาคารที่มองจากด้านหน้าแล้วมีรูปร่างดวงตาแห่งนี้ ข้างในมีลักษณะคอมเพล็กซ์ ที่มีทั้งโรงภาพยนตร์ IMAX, Laserium และ ท้องฟ้าจำลองที่สวยงาม มีพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร 

     ภายในโรงหนังออกแบบเป็นโดมครึ่งทรงกลม ตัวเลือกภาษาในหูฟังมีให้เลือกภาษาสเปนกับอังกฤษ เป็นหนังสารคดี ที่นั่งสบาย แอร์เย็นฉ่ำ เราก็เหนื่อย มันก็เลยมีแอบหลับกันบ้าง

io34qgfv6wjp
yf2wvv6cbk7o

      MUSEO DE LAS CIENCIAS PRÍNCIPE FELIPE

     เมื่อมองไปที่อาคารขนาดยาวชวนให้นึกถึงโครงกระดูก ซึ่งจากข้อมูลบอกว่าผู้สร้างตั้งใจออกแบบให้เหมือนโครงกระดูกวาฬ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แสดงเป็นภาพกราฟิก พร้อมข้อความและรูปภาพขนาดใหญ่ มีการทดลอง พร้อมปุ่มต่างๆ ให้ได้สัมผัส

pdbjmnv4kwoj
xbuov3f44m09
d1pfpaafuw5j

       

ripi8uzgk06r
rn3jt1xhoq1v
mbss5h7sjci9

     ราคาตั๋วที่ซื้อมาสามารถเข้าชม museum ได้ด้วย 

enk6gj40zys4
js76xogwvtkp
d90gi842ot68

     มิวเซียมเป็นแนววิทยาศาสตร์มีทั้งเรื่องอวัยวะของมนุษย์ โลกเล็กๆ ของแมลง และโลกอันกว้างของอวกาศ

     เนื่องจากไม่ใช่สายมิวเซียมมากนัก จึงไม่ได้ใช้เวลาอยู่ข้างในมาก จึงตัดสินใจออกไปเดินถ่ายรูปเล่นข้างนอกและเดินไปขึ้นรถเวลาบ่ายสาม 

      อีกฟากหนึ่งของถนน มองออกไปจะเห็น PALAU DE LES ARTS REINA SOFIA ซึ่งเป็น Opera House

1880im3rgyn0


     L’Oceanografic 

     ด้วยพื้นที่ 110,000 ตร.ม. ทำให้กลายเป็น aquarium ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปและเป็นอันดับสามของโลก กว่า สัตว์น้ำ 45,000 สายพันธุ์จากทั่วโลก ถ้าใครมีโอกาสก็ไม่ควรพลาดที่จะเข้ามาเห็นโลกของท้องทะเลลึก

9gnp9b1o4hag
pm6aelnqms4l
8wd5q3cze8qw

     มันเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกว่ารถบัสจะมารับ บัสมาจอดให้เปลี่ยนบัสไปอีกคัน ระหว่างเดินไปเราได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่นต่อหน้าต่อตา ฟุ่บ สายตามองตามไป เห็นส้มบาเลนเซียหล่นลงมา

     เราก็รู้สึกว่ามันเป็นลางหรือสัญญาณอะไรหรือเปล่า แฮะ

     และอีกความคิดหนึ่งที่แว้บเข้ามาก็คือ เราสามารถเก็บส้มไปกินได้ไหม

     แต่ก็ได้แค่คิดไง แล้วเราก็เดินไปขึ้นบัสต่อ

     บัสไปจอดในบริเวณที่ในแมพส์บอกว่าเดินไปถึงสถานีรถไฟ 3 นาที เห็นแบบนี้ก็ชิลล์ๆ ตอนนี้เวลา  15.45 น. เอง แต่พอเรากดรีเฟรซแมพส์เท่านั้นแหละ มันขึ้นว่าเราต้องเดินไปสถานีถึง 17 นาที! 

     อะไรกันวะเนี่ย เอาวะลองดู เราเดินไปเรื่อยๆ 

     แต่ทำไมมันดูไม่เห็นจะใกล้เลย ทั้งๆ ที่มองข้างๆ ก็เห็นเป็นสถานีรถไฟ มีรถไฟจอดอยู่นะ สถานีมันกว้างมาก หาทางเข้าไม่เจอ จนตอนนี้เป็นเวลา 16.04 น. แล้ว

     เราเครียดมาก เพราะไม่เห็นวี่แววเลย เห็นอีกฟากของถนน มีแท็กซี่จอดอยู่ จึงรีบวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อขึ้นแท็กซี่

     แท็กซี่คันหนึ่งรับเราขึ้นไป เราเปิดในโทรศัพท์ให้เขาดูว่าจะไปสถานีรถไฟ Valencia Joaquín Sorolla และรถไฟจะออกในอีก 15 นาที ทันไหม ?

     คนขับบอก 5 นาทีก็ถึงเดี๋ยวพาไป เราถามเท่าไหร่ 

     เขาบอก 5 เราเลยยื่นแบงก์ไป

     คนขับทำท่าบอกว่า ไม่ๆ แล้วชี้ไปที่มิเตอร์ 

     เราจึงเพิ่งนึกได้ เออว่ะ นั่งแท็กซี่มันต้องรอคิดระยะทางก่อนนี่หว่า 

     สภาพเราคือล่กมาก ไม่มีแล้วสติ

    คนขับแท็กซี่ขับย้อนกลับผ่านไปตรงที่เราลงจากบัส แล้วเหมือนมันต้องขึ้นสะพานไปด้วย แล้วไปจอดที่หน้าสถานี เราก็ได้แต่สงสัยว่าในตอนที่บัสจอด เราจะเดินขึ้นสะพานอันนี้มาจริงๆ หรอ  ทำไมบัสมันไม่มาจอดใกล้กว่านี้นะ ก็งงๆ ไป

    สุดท้ายก็มาทันรถขึ้นรถไฟในเวลา 5 นาที

    เอ๊ะ หรือว่าส้มตกเมื่อกี๊เป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะตกรถไฟในอีก 3 2 1.....

sm3hfp1q5dzp

ความคิดเห็น