"ภูทับเบิก" ถามว่าไกลไหม ขับรถยากไหม ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วผมตอบเลยว่าที่นี้ไกลมากและขับขึ้นไปยากมาก แต่ผมก็อยากที่จะไป เคยแต่ดูตามรีวิวต่างๆ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนในรูปไหม ในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ผมไปที่นี่ถึง 5 ครั้ง ไปครบหมดแล้วทั้ง 3 ฤดู ไปเพื่อให้เห็นกับตาว่าทะเลหมอกที่นี่จะสวยแค่ไหน ถึงแม้ว่า 4 ครั้งที่ผ่านมาผมจะไม่เจอกับทะเลหมอกที่สวยๆ แต่ความพยายามของผมก็ยังคงไม่สิ้นสุด ยังคงเดินทางต่อไปเพื่อให้ได้เจอกับสิ่งที่หวังไว้ และวันนี้ผมก็ได้พบกับมันแล้ว "ทะเลหมอก ฤดูฝน ภูทับเบิก" ความลับที่ถูกเก็บไว้มานาน มิถุนายน 2558



ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ^_^ https://www.facebook.com/TravelEverythingEveryTime



ติดตามการอัพเดทการเกิดทะเลหมอก และรายงานสดภาพรายวันของภูทับเบิก + เขาค้อได้ที่ ชมรมคนรักเขาค้อ ภูทับเบิก >> คลิ๊ก https://www.facebook.com/groups/486496408154333/



ก่อนที่จะขึ้นไปยังยอดภูทับเบิก จะแวะกันที่จุดชมวิวแรกกันก่อนเลยครับนั่นก็คือ จุดชมวิวศาลาแปดเหลี่ยม จุมชมวิวตรงนี้จะสามารถมองเห็นถนนคดเคี้ยวเป็นเลข 3 ที่เราขับรถผ่านขึ้นมา


ถนนหมายเลข 3


ถ้ามองไปทางด้านขวาก็จะมองเห็นภูเขาที่สลับซับซ้อนกันเป็นแนวยาว


จากนั้นก็ไปแวะกันต่อที่จุดชมวิว ภูแผงม้า จุดชมวิวนี้จะอยู่ภายในอุทยาน " ภูหินร่องกล้า "


ขับรถผ่านด่านจ่ายเงินไปแค่ประมาณ 500 จะเจอทางเข้าเขียนว่าจุดชมวิวภูแผงม้า อยู่ทางด้านซ้าย แต่เราต้องจอดรถไว้ที่ทางเข้านะครับ รถเก๋งไม่สามารถขับเข้าไปได้

แล้วเดินเท้าต่อประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิว

วันนั้นอากาศปิดมีหมอกปกคลุมตลอดทาง

ระหว่างทางที่เดินเข้าไปก็สดชื่นมากๆครับเพราะมีหมอกปกคลุมตลอดทางเลย


เมื่อถึงจุดชมวิวแล้วหากมองไปด้านซ้ายจะเห็นยอดภูทับเบิก และถ้าหากมองไปทางด้านขวามือจะสามารถเห็นยอดผาตัดและวัดผาซ่อนแก้วได้ครับ แต่ว่าวันนี้อากาศปิดเลยเก็บภาพมาได้เพียงเท่านี้เองครับ


เย็นวันนั้นเลยตัดสินใจกลับที่พักดีกว่าไม่รอชมพระอาทิตย์ตกแล้วเพราะว่าฟ้าคงจะไม่เปิดง่ายๆแน่

การมาภูทับเบิกครั้งนี้ก็มีความตั้งใจเหมือนๆทุกครั้งคือตื่นเช้ามาจะได้เจอทะเลหมอกที่สวยๆแบบที่คนอื่นๆเค้าเจอกัน


ซึ่งก็ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าจะเป็นอย่างไรก็ได้แต่ ภาวนาว่าขอให้คืนนี้ฝนตกเถอะนะพรุ่งนี้เช้าเราจะได้เจอสิ่งที่เราได้ตั้งใจไว้

และแล้วสิ่งที่ผมหวังไว้ก็ได้เกิดขึ้นคือ เมฆฝนก่อตัวมาแล้วครับ ความหวังของผมมาแล้วครับ

และในคืนนั้นฝนก็ตกลงมาจริงๆครับและลมก็แรงมากๆด้วย เนื่องจากลมที่แรงนั้นทำให้ความหวังผมหายไปเพราะว่าถ้าลมแรงหมอกก็กระจายหมดไม่เหลือให้เห็นเป็นทะเลหมอกแน่ๆ T___T

เช้าวันนั้นผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 4 ครึ่ง เพื่อที่ตี 5 จะได้ไปยังจุดชมวิวเพื่อที่จะได้เริ่มมองดูการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น


แต่สุดท้ายแล้วด้วยความที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันทำให้เช้าวันนั้นผมตื่นสาย ตื่นมา ตี 5 ครึ่ง อย่างแรกเลยที่ทำคือเปิดหน้าต่างแล้วรีบคว้ากล้องถ่ายภาพก่อนเลยครับ

จากนั้นก็รีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จภายใน 5 นาที (ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียวล่ะกัน 5555)

จากนั้นก็พร้อมลุย!!!!

เนื่องจากที่พักผมนั้นไม่ไกลจากจุดชมวิวมากนักจึงคิดว่าเราน่าจะไปทันพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ แต่เนื่องจากระหว่างนั้นมองไปทางไหนก็สวยเลยแวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ


สุดท้ายก็ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชิมวิวไม่ทัน เลยถ่ายจากร้านอาหารแถวๆนั้นละกัน


และแล้วผมก็มาถึงจุดชมวิวหลักของภูทับเบิก


เมื่อขึ้นมาก็จะพบกับนักท่องเที่ยวหลายๆท่านตั้งกล้องรอถ่ายภาพกันอยู่เยอะแยะเลยครับ


เมื่อขึ้นมาถึงจุดชมวิวเราสามารถมองดูทะเลหมอกไปพร้อมๆกับพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆเลยครับของการมาภูทับเบิกครั้งนี้ไม่ผิดหวังจริงๆครับ


หลังจากที่อยู่ตรงนั้นได้สักพักนึงก็เดินลงไปถ่ายภาพด้านล่างต่อดีกว่า


ระหว่างทางที่เดินลงไปก็เก็บภาพทะเลหมอกไปเรื่อยๆ


ระหว่างทางที่เราเดินลงไปนั้นสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดเส้นทางเลยครับ และหากมองไปทางด้านซ้ายเราจะมองเห็นเจดีย์วัดป่าภูทับเบิก กำลังถูกทะเลหมอกรายล้อมอยู่มองไปคล้ายๆเกาะเลยครับ


เรายังคงเดินต่อลงไปเรื่อยๆและก็จะพบกับจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งนั้นก็คือจุดชมวิวของ รีสอร์ท ริมผาภูทับเบิก


จุดชมวิวตรงนี้ทำให้เรารู้สึกได้เลยครับว่าเราเข้าใกล้ทะเลหมอกมากที่สุด

เช้าวันนั้นเป็นเช้าที่มีความสุขมากๆเดินไปทางไหนก็เจอแต่ทะเลหมอก


และเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสมากครับไม่มีเมฆมาบดบังเลย


ระหว่างทางที่เก็บภาพไปเรื่อยๆก็พบบกับบรรยากาศที่น่าอิจฉา คือการเดินทางไปทำงานของคนบนนั้นที่ข้างถนนเต็มไปด้วยไร่กะหล่ำปลีและมีสายหมอกปกคลุมไปด้วย


และหากเมื่อเรามองขึ้นไปยังยอดภูทับเบิกก็จะเห็นหมอกเริ่มที่จะฟุ้งกระจายและเริ่มปกคลุมทั่วทั้งบริเวณของภูทับเบิก


มุมจากด้านล่าง

มุมจากด้านบน


ลานจอดรถก่อนถึงจุดชมวิวได้ทำขึ้นใหม่แล้วโดยมีรั้วเหล็กกั้น


บนภูทับเบิกจะมีดอกไม้อยู่ชนิดนึงที่ดูค่อนข้างแปลกตานั่นก็คือดอกกระดาษ


การมาเที่ยวภูทับเบิกในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่ที่ได้เคยไปที่นี่มา ได้เจอทะเลหมอกดั่งที่ตั้งใจไว้ ได้เจออากาศดีๆที่หาแบบนี้ไม่ได้ใน กรุงเทพ


แล้วจะกลับไปอีกนะ "ภูทับเบิก"

ก่อนที่จะจบ รีวิวฉบับนี้อยากฝากเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวบนนั้น ในเรื่องของการขับรถอย่างระมัดระวัง เช็คสภาพรถก่อนการเดินทาง


เพราะนอกจากทางที่คดเคี้ยวสูงชันแล้ว ช่วงฤดูฝนจะมีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเส้นทางทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง

ขับขี่ปลอดภัยนะครับ ขอให้ทุกคนเที่ยวอย่างมีความสุขครับ และเจอกันในรีวิวฉบับต่อไปนะครับ

ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ^_^ https://www.facebook.com/TravelEverythingEveryTime

เที่ยวทุกวัน จันทร์-อาทิตย์

 วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.47 น.

ความคิดเห็น