กราบบบบบ.... สวัสดีเพื่อน ๆชาวหมี หลังจากที่เราห่างหายกับการเดินทางมานาน พอมีโอกาศก็เลยอยากจับกล้องออกเดินทางอีกซักที แล้วที่หายไปไม่ใช่เพราะโควิดน่ะ เพราะไม่มีเงิน.......แฮร่

          ทริปนี้ไม่ได้มีอะไรมาก พอดีว่าทีมงานว่างก็เลยชวนกันเที่ยว ฮ่ะ ง่าย ๆ แบบนี้เลยหรอ สำหรับทริปนี้ สมาชิคหมี ไม่ว่างหนึ่งคน แต่ก็ได้ทีมงานมาร่วมทริปแบบคับคั่งเหมือนเดิม เราเดินทางจาก จ.นครนายกเพื่อไปยังทุ่งดอกกระเจียว เพิ่มเติม..การตั้งจีพีเอสให้ตั้งไปที่ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” 
( https://goo.gl/maps/Td5H4wiA9JDkEv9k8 ) แต่ทุ่งดอกกระเจียวมีหลายทุ่งน่ะครับ กรุณาตรวจสอบดี ๆว่าจะไปทุ่งไหน ความงามก็จะต่างกันเล็กน้อย เดือนที่เหมาะกับการเที่ยวคือช่วง เดือนกรกฏาคม – ตุลาคมครับ เพิ่มเติม...ดอกกระเจียวได้รับฉายาว่า ‘Siam tulip’ ทั่วโลกมีมากกว่า 500 สายพันธุ์ พบในประเทศไทย 9 สายพันธุ์ แต่ที่ป่าหินงามมีเพียง 4-5 สายพันธุ์เท่านั้นครับ

          เราออกจากบ้านตอน 9 โมงกว่า ๆระหว่างทางคือ “ฝนตกตลอดทาง” โอ้มายก๊อดดดดดด ตั้งใจว่าจะเที่ยวชิล ๆอย่าบอกน่ะว่าจะต้องเถื่อนทราเวลอีกแล้วอ่ะ เราได้แต่หวังว่าเมื่อไปถึงแล้วขอให้ฝนไม่ตกน่ะ แต่เที่ยวหน้าฝนก็ต้องทำใจเนาะ และเมื่อไปถึงพบว่า ฝนก็ยังตกอยู่ดี แต่ดีที่ตกไม่แรง ซึ่งเราก็คุยกันอีกทีว่าตกแค่นี้ “ได้อยู่” เพราะฝนเล็กๆไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ... มาดูความพร้อมของสมาชิกทีมหมีเราดีกว่า

          เราก็ตัดสินใจขึ้นรถรางไปเลย...... และเมื่อรถรางเคลื่อนตัวออกจากจุดขึ้นรถ “ฝน” ก็เริ่มเทลงมา เทลงมาหนักขึ้นเรื่อย ๆจนกระทั่งรถรางวิ่งมาถึง “ลานหินงาม” เป็นจุดแรกที่รถจะจอดให้เราลง ถ่ายรูปกับหินรูปร่างประหลาด แปลกตาหลาย ๆก้อน แต่ ๆๆๆๆ ฝนมันก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยที่เดียว แล้วเราจะทำไงดี คือมันต้องเดินเท้าไปต่อไง แล้วเราก็มีร่มอันเดียวกับ หมีอีก 6 ตัว ป๊าดดดดดดดดด ตัดสินใจไม่ลงแล้วกัน เจ้าหน้าที่ก็เห็นว่าฝนมันตกแรง เลยเสนอว่า ให้กลับไปรอฝนหยุดที่ด้านล่างก่อน พอฝนหยุดค่อยขึ้นมาใหม่ เราก็ตกลง

          แต่ เมื่อฝนดูจะไม่หยุดง่าย ๆ“เดอะโชว์ มัสโกออน” เราเลยตัดสินใจ ใส่ชุดกันฝนแล้วไปลุยกันต่อเลย เรียกได้ว่า สมัครใจเปียกกันเลย จากทริปสุขสันต์กลายเป็นเถื่อนเรียบร้อยย ทั้งรถมีแค่แก๊งเราแก๊งเดียว แก๊งเทเลทับบี้ พอรถ วนมาถึงจุดแรกลงสิครับลงทันทีรอบนี้ฝนตกมาเลยไม่กลัวแล้วครับ

          “ลานหินงาม” มีหินหลายรูปร่างตามจุดต่าง ๆซื่งต้องเดินเท้าไปน่ะครับ เดินอยู่ดี ๆ “เกิบขาด” โอ้พระเจ้าวันนี้มันวันอะไรกันครับเนี๊ย ก็ต้องเท้าเปล่าสิครับ ความน่าสนใจอีกอย่างของลานหินงามจุดนี้คือ ด้านบนวิวสวยมากครับ สามารถมองไปเห็นทุ่งกังกันลมได้ด้วย และด้วยภาระกิจที่ใหญ่ยิ่ง เราจำเป็นต้องทิ้งผู้สูงอายุไว้ด้านล่าง 2 คนอยากเดินไม่ไหวเอง หึหึหึ  เราว่าเราเถื่อนแล้ว มีกลุ่มอื่นที่เถื่อนพอๆ กับเรา เสื้อกันฝนถึงกับขาดตลาดเลยทีเดียว

          ไปต่อกันที่ “ผาสุดแผ่นดิน” และแล้วฝนก็ได้หยุดโปรยปรายสักที สบายและทีนี้เอ้าถอดชุดกันยกใหญ่ ที่ผาสุดแผ่นดินจะมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันเป็นเขตติดต่อกัน 3 ภาค ซึ่งวันนี้หมอกเยอะมาก ทำให้วิวที่ได้หยิ่งหลักล้านเข้าไปอีก มีชาเลนจ์ปลูกป่าให้ทำ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีของเจ้าหน้าที่มากครับ

          จากนั้นเราก็ไปต่อยัง “ทุ่งดอกกระเจียว” กันเลยครับ เดินเรื่อย ๆไปครับเป็นทางเดินชมธรรมชาติประมาณ 300เมตร ก็ถึงทางเดินทุ่งดอกกระเจียวแล้ว เพิ่มเติม...เราต้องเดินอยู่บนช่องทางเดินเท่านั้นน่ะครับ ไม่สามารถไปในทุ่งได้ ก็ทำการถ่ายรูปกันรัว ๆไปเลยครับ

          สำหรับ “ทุ่งดอกกระเจียว” ใครที่ยังไม่เคยมาอยากให้ลองมาเที่ยวครับ หรือใครที่เคยมาแล้วแต่นานมากแล้วก็กลับมาใหม่ครับ เจ้าหน้าที่เค้าปรับปรุงจนสวยงามน่าเที่ยวจริง ๆยิ่งช่วงนี้คนเที่ยวน้อยครับยิ่งควรออกมาเที่ยว เที่ยววิถีใหม่แบบนิวนอร์มอล สวมแมสตลอดเวลา ถ้าไม่มีคน ก็ถอดแมสถ่ายรู้ได้ถ่ายเสร็จก็ใส่กลับน่ะครับ เรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ตามวิถีใหม่ เพิ่มเติมน่ะครับ...สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ก็สามารถมาติดต่อได้เลยน่ะครับ มีลานกางเต็นที่ร่มรื่น และมีเต็นท์ให้เช่าด้วยครับ สำหรับทริป นี้ทางทีมงานหมีต้องขอลาไปก่อน อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและดูแลตัวเอง จนกว่าจะพบกันใหม่ ...... “สวัสดิ์ดีครับ”

สรุปค่าใช้จ่าย

  1. ค่าเข้าอุทยาน 30 บาทต่อคน 40 บาทต่อรถหนึ่งคัน
  2. ค่ารถราง 30 บาทต่อคน

Krachiew flower field

สองเกลอเจอหมี

 วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 23.29 น.

ความคิดเห็น