กราบบบบบ.... สวัสดีเพื่อน ๆชาวสองเกลอเจอหมี วันนี้ทีมงานหมีเราก็มีทริป ปุบปับรับโชคบินมารีวิวให้เพื่อน ๆสมาชิกหมีได้ชมกันอีกแล้วครับ เป็นการกลับมาของการออกนอกบ้านครั้งแรกในรอบ 2 ปีเต็มกับพาสปอร์ตเล่มใหม่ ไปไหนดี และการจะไปไหนขึ้นอยู่กับ....เงินในกระเป๋าของเราเอง
การเดินทางครั้งนี้ เราไปที่ “ลาว” ทริปนี้สั้น ๆวันเดียวปิดจบได้เลย ที่สำคัญปิดงบได้ง่าย ๆตามสไตล์สองเกลอครับ ซึ่งในทริปนี้ขออนุญาตเที่ยวเฉพาะในเวียงจันทน์น่ะครับ ไม่ได้ออกไปนอกเมืองครับ เป็นเสมือนการมาพักผ่อนมากกว่าครับแบบสโลว์ไลฟ์เก็บเท่าที่เก็บได้แหละเนาะ
เราเลือกบินที่สุวรรณภูมิ แล้วไปลงที่สนามบินอุดรธานี จากนั้นนั่งรถบัสจากอุดรไปสุดสายที่เวียงจันทน์เลยง่ายไหม บอกเลย อีซี่มาก สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ การเดินทางจากสนามบินอุดรเข้าเมืองง่ายสุดคือ แท๊กซี่ 200 บาท หรือ แกรบ 170 บาท แต่รถชนิดอื่นต้องเดินเท้าออกจากสนามบินประมาณหนึ่งกิโลครับ แล้วถึงมีรถสายเข้าเมือง เพิ่มเติม มันมีวิธีอื่นในการไปเวียงจันทน์น่ะครับ แต่ในทริปนี้เราเลือกนั่งรถบัสในราคา 80 บาทครับ ถูกมากกกกกกที่สำคัญ “ต่อเดียวถึงงงงง”
“บขส. เก่า” หรือสถานีขนส่งแห่งที่ 1 เมื่อเดินเข้ามาน่ะครับให้เดินตรงเข้าไปในสุดเลยครับจะเป็นเคาท์เตอร์สีส้ม ๆของ บขส.แต่ ๆเราก็ไม่รู้มาก่อนว่ารถ “ไม่ได้มีตลอดเวลา” โอ้มายก๊อดดดดด รอไปยาว ๆ ถ้าจะมาเส้นทางนี้ตรวจสอบตารางการเดินรถให้ดีด้วยน่ะครับ และแล้วรถที่จะพาเราไปในครั้งนี้ก็เข้าชานชราแล้ว แนะนำให้จดทะเบียนรถไว้ด้วยน่ะครับ เพิ่มเติม ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1:30 นาที
รถออกตามเวลามาก ๆบนรถเราจะได้เขียนใบผ่านแดนของประเทศลาวน่ะครับ กรอก ๆไปเถอะขีดฆ่าก็ยังเข้าได้หลับไปพักใหญ่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่บอกให้ลงไปปั๊มพาสปอร์ตขาออกฝั่งไทย แล้วก็กลับมาขึ้นรถคันเดิมน่ะครับใช้เวลาไม่นานประมาณ 20 นาทีได้ จากนั้นก็ข้ามฝั่งไปฝั่งลาว รถก็จอดให้ลงไปปั๊มพาสอีกรอบครับ เพิ่มเติมน่ะครับ ตรงนี้ผมโดนตรวจประวัติการฉีดวัคซีนด้วย แต่สมาชิกหมีอีกคนไม่โดน และก็ต้องจ่ายค่าเยียบแผ่นดินเค้าด้วยครับ 20 บาท และใครที่อยากได้ซิมการ์ด ก็ซื้อบนรถที่เรานั่งได้เลยครับ 100 บาท เน็ต 3 วันเหลือ ๆ
ประมาณ 20 นาทีก็มาสุดสายที่ “ตลาดเซ้า” ของเวียงจันทน์ ซึ่งทีมหมีเรามาถึงก็จะบ่ายสองแล้ว จึงตัดสินใจใช้บริการรถสามล้อแถว ๆขนส่งเลยครับ ให้ไปส่งที่ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” ในราคา 72,000กีบ(160 บาท) ถามว่าแพงไหม ยอมรับว่าแพงกับระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ก็ซื้อเวลาน่า
สำหรับพระธาตุหลวงนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากครับ เพราะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ มีลักษณะเป็นเจย์ดีองค์ใหญ่สูง 45 เมตรครับ ต่างชาติจะเสียค่าเข้าคนล่ะ 30,000กีบ(60บาท) ต้องมาไหว้ขอพรให้ได้น่ะครับ
จากกนั้นเราก็เข้าที่พักครับ “ตลาดเย็นริมโขง” เราเดินออกจากที่พักมาไม่ไกลครับ ก็มาถึงเป็นตลาดนัดท้องถิ่นเลยอยู่ติดริมโขง ของเยอะราคาดีคนก็เยอะด้วยครับแนะนำให้มาเย็น ๆจะชิลค์สุด จากกนั้นก็เดินกลับมาหาไรกินแถวที่พักครับ ผ่าน “ธาตุดำ” ด้วยเป็นลักษณะวงเวียนใหญ่ ๆ เพิ่มเติม ธาตุดำแห่งนี้เขาถือว่าจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองบาดาล เหมือนคำชะโนดที่ไทยเลยน่ะครับ เย็นนี้เราฝากท้องไว้ที่ “หมูกระทะ” ป๊าดดดมาตั้งไกล มากินหมูทะ เพิ่มเติม เบียที่นี่ราคาถูกมากน่ะ 15,000กีบ (30บาท) คือกินแทนน้ำได้เลย โออิชิยังแพงกว่าอ่ะ จากนั้นเราก็เดินไปต่อที่ “ประตูไซ” เป็นเสมือนลานกิจกรรมไว้นัดพบกันตอนกลางคืนเลย เพิ่มเติม ตอนกลางคืนจะมีโชว์น้ำพุประกอบแสงสีเสียงให้ชมด้วย แต่มีถึงแค่ 21:00 น.เท่านั้นครับ
“สบายดีเวียงจันทน์” เช้านี่เรามีเวลาไม่มากนักเพราะต้องรีบกลับชลบุรี เป็นไงปุบปับสมชื่อทริปไหม เดินเท้าไปที่ประตูไซอีกรอบครับเวลาเช้าที่ก็สวยงามไปอีกแบบน่ะ ดูขลังดี
“ วัดสีสะเกด” เดิมเป็นวัดหลวงตั้งอยู่ในเวียงจันทน์ติดกับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อน สำหรับค่าเข้าอยู่ที่ 30,000กีบ(60บาท)ครับ
“หอพระแก้ว” สร้างขึ้น เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ก่อนจะถูกย้ายมาอยู่ที่ไทยครับ ค่าเข้าอยู่ที่ 30,000กีบเหมือนเดิม
หลังจากนั้นทีมหมีเราก็มองดูนาฬิกาพบว่าจะบ่ายโมงแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว วิธีการกลับก็เหมือนตอนไปเลยครับ ไปขึ้นรถที่ตลาดเช้า ดูรอบให้ดี ๆแล้วก็ซื้อตั๋วบริเวณนั้นได้เลย เราแวะร้านกาแฟอเมซอลพบว่า ราคาน่าคบหามากกกก ตกเป็นเงินไทยสามสิบกว่าบาทเอง อยากซื้อสักสิบแก้วจากกนั้นก็นั่งรอขึ้นรถกลับอุดรในราคาเดิมครับ 80 บาท
สำหรับทริป “เที่ยวเวียงจันทน์ในวันเดย์” อาจจะเก็บได้ไม่ครบทุกจุด แต่ก็พยามให้ได้มากที่สุดครับ ถึงเวลาจะน้อยก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการเดินทาง สิ่งสำคัญคือการได้ออกไปดู ออกไปใช้ชีวิต ยิ่งช่วงนี้ประเทศลาวเรทเงินค่อนข้างดี ถือเงิน 5,000 มาเหลือ ๆบอกเลย ใครที่ยังไม่เคยมาอยากให้ลองมาเที่ยวครับ เที่ยววิถีใหม่แบบนิวนอร์มอล สวมแมสตลอดเวลา ถ้าไม่มีคนก็ถอดแมสถ่ายรู้ได้ถ่ายเสร็จก็ใส่กลับน่ะครับ เรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ตามวิถีใหม่ เพิ่มเติมน่ะครับ...คนที่นี่ไม่ค่อยสวมแมสครับ แต่เราสวมตลอดเวลา เค้าเลยดูออกว่าเราไม่ใช่คนที่นี่ ที่สำคัญคนที่นี่ใจดีมากครับสมแล้วที่เป็นบ้านพี่เมืองน้อง สำหรับทริป นี้ทางทีมงานหมีต้องขอลาไปก่อน อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและดูแลตัวเอง จนกว่าจะพบกันใหม่ ...... “สวัสดิ์ดีครับ”
สรุปค่าใช้จ่าย
- ตั๋วเครื่องบิน สุวรรณภูมิ – อุดร = 690x2 = 1,380
- แกรบเข้าเมืองอุดร = 170
- รถบัสอุดร-เวียงจันทน์ = 80x2 = 160 x2(ขากลับ) = 320
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ = 180,000กีบ(360บาท)
- ที่พัก = 1,300
สรุป รวมค่ากินแล้วไม่เกิน 5,000 บาทแน่นอน นี่เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ 2 คน
สองเกลอเจอหมี
วันพฤหัสที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 23.30 น.