ข้อควรรู้เที่ยวลาว
สำหรับการเดินทางมา สปป.ลาว สามารถมาได้ทั้ง รถทัวร์ รถไฟ นั่งเรือ และนั่งเครื่องบิน
*การเดินทางผ่านด่านพรมแดนด้วยรถทัวร์ จะมีด้วยกัน 5 จังหวัด ได้แก่
1.ด่านเชียงของ - ห้วยทราย จ.เชียงราย
2.ด่านสะพานมิตรภาพไทย - ลาว จ.หนองคาย
3.ด่านท่าแขก จ.นครพนม
4.ด่านสะหวันนะเขต จ.มุกดาหาร
5.ด่านช่องเม็ก - วังเต่า จ.อุบลราชธานี
*ทางรถไฟ สามารถขึ้นได้จากกรุงเทพ ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)
*ทางเรือ จากประเทศไทยจะมีเรือที่ด่านเชียงของ จ.เชียงราย เป็นการเดินทางโดยใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางสัญจรหลัก เรือจะล่องผ่านเมืองสำคัญ เช่น หลวงพระบาง เวียงจันทน์ จำปาศักดิ์ เป็นต้น
*ทางเครื่องบิน จะมีไฟล์ทที่บินตรงจากไทย ลงเวียงจันทน์ และ หลวงพระบาง ซึ่งมีหลากหลายสายการบิน
ส่วนใครจะเดินทางจากเวียงจันทน์ไปวังเวียง สามารถขึ้นรถตู้ได้ที่ตลาดเช้าหรือขนส่งสายเหนือ ซึ่งจะอยู่ในย่านตัวเมืองเวียงจันทน์ และอีกหนึ่งเส้นทางคือนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ไปวังเวียง จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (สถานีรถไฟที่เวียงจันทน์ มี 2ที่นะคะดูดีๆ มีสถานีคำสะหวาดกับรถไฟความเร็วสูงลาวจีน)

1.สามารถเดินทางเข้า สปป.ลาว โดยไม่ต้องมีวีซ่า ยื่นหนังสือเดินทางก็ผ่านเข้าประเทศได้เลย และสามารถอยู่ได้ถึง 30วัน กรณีผู้ที่ไม่มีหนังสือเดินทาง สามารถเข้าลาวได้แต่ต้องขอบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่จะเดินทางเข้าลาวได้เฉพาะในเขตนครหลวงเวียงจันทน์เท่านั้น อยู่ได้ครั้งละ 3วัน 2คืน
2.ลาวใช้สกุลเงิน กีบ (Kip) อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาทไทย จะเท่ากับ 610กีบลาว หรืออาจจะมากกว่าขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่เราเดินทางไปเที่ยว โดยเราสามารถแลกเงินกีบได้ที่สนามบินเวียงจันทน์ หรือตามร้านค้า ร้านทอง ตลาดเช้าแถวในเมืองได้เลย อย่างไรก็ดีแนะนำว่าควรแลกเงินกีบติดไว้ด้วยจะดีที่สุด
3.เวลาและสภาพอากาศเหมือนที่ประเทศไทย
4.ซิมการ์ดโทรศัพท์ จะซื้อจากไทยไปหรือไปซื้อฝั่งลาวก็ได้ ที่หน้าด่านลาวจะมีคนมายืนขายซิมเต็มเลย เราใช้ค่าย Unitel 15GB 10วัน ราคา 120บาท ใส่ซิมแล้วใช้งานได้เลย สัญญาณเน็ตดีทุกพื้นที่ ไม่มีสะดุด

5.วิธีกรอกใบขาเข้า-ขาออกประเทศ





เราเข้าทาง จ.หนองคาย และมีพาสปอร์ต
*ด่านฝั่งหนองคาย คือ ด่านพรมแดนหนองคาย สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1
*ด่านฝั่งลาว คือ ด่านพรมแดนท่านาแล้ง (เวียงจันทน์)
*เจ้าหน้าที่ต้องประทับตราพาสปอร์ตทั้งขาเข้าและขาออกประเทศ
เอกสารที่ใช้ผ่านด่านพรมแดนลาว
- พาสปอร์ต และกรอกใบเข้า-ออกประเทศ (ขอใบได้ที่หน้าด่าน)
- เอกสารการฉีดวัคซีนโควิด (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว แต่เราปริ้นใส่กระดาษไปเผื่อ สามารถขอได้ที่แอปหมอพร้อม)
- ค่าธรรมเนียมเข้าประเทศ 20บาท
-ขาเข้าลาว พอมาถึงด่านลาวแล้ว ให้กรอกใบเข้า-ออกประเทศ และยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ตม.ลาว ที่ตู้สีเขียวเทา (ใบขาออกเก็บไว้ให้ดีห้ามหาย เพราะต้องใช้เวลาขากลับ) พร้อมกับประทับตราขาเข้าลงในพาสปอร์ตให้เรา ตรงนี้สำคัญนะคะ!!! เพราะถ้าลืมประทับตราเข้าประเทศ ตอนเราจะกลับไทยขาออก อาจจะโดนปรับเงินได้ค่ะ
-ขาออกกลับไทย ยื่นพาสปอร์ตและใบขาออกประเทศให้เจ้าหน้าที่ ที่ตู้สีเขียวเทาเหมือนเดิม พร้อมประทับตราขาออก และออกมาซื้อตั๋วรถบัสกลับไทยได้เลย พอถึงด่านหนองคายให้เดินเข้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า เพื่อตรวจพาสปอร์ตและตรวจกระเป๋า
6.ที่พักแล้วแต่เราเลือกเลย ราคาตั้งแต่หลักร้อย สะดวกแบบไหนมีหมด ทั้งโรงแรม โฮมสเตย์ บังกะโล อพาร์ทเม้นท์ แต่เราชอบความสะดวกสบาย ส่วนใหญ่เลยเลือกนอนโรงแรม 5ดาว มีครบจบทุกอย่างรวมอาหารเช้า คืนละ 2-3พันกว่า จองในแอพ Agoda, Trip, Traveloka, Booking, Klook เปรียบเทียบราคาดู แต่ละแอพราคาไม่เท่ากันค่ะ
7.การใช้จ่ายที่ลาว ควรพกไปทั้งเงินกีบและเงินสดไทย เพราะบางร้านรับเฉพาะเงินกีบ ไม่รับเงินไทยและไม่รับเหรียญ
8.การเดินทาง สามารถใช้ GPS ได้เลย แค่เลือกสถานที่ปลายทางแล้วก็เดินทางตามที่ GPS แนะนำ
9.แอพเรียกรถ เราใช้แอพ inDrive ลงทะเบียนง่ายผ่านเบอร์โทรหรืออีเมลก็ได้และเข้าสู่ระบบ (เราใช้ซิมลาวลงทะเบียน) เรียกรถง่าย รอไม่นาน คนขับสุภาพ ค่าโดยสารจ่ายเงินกีบได้เลย เหมือนแกร็บคาร์บ้านเรา
10.ที่นี่ขับรถเลนขวา พวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย เวลาขับก็จะงงๆหน่อย ในเมืองทางค่อนข้างแคบบางช่วง อย่าขับเร็วนะจ๊ะ
11.ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ มีเยอะพอสมควร ค่าเช่าวันละ 150,000กีบ (250บาท) เติมน้ำมันเต็มถังอีก 60,000กีบ (100บาท)
12.วิธีเดินทางจากสถานีรถไฟเข้าตัวเมือง มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถเหมา รถตู้โดยสาร รถบัส รถเมล์ หรือเรียกรถในแอพก็ได้ค่ะ
-จากสถานีหลวงพระบาง เข้าตัวเมืองหลวงพระบาง จะมีรถเหมาหรือจะนั่งรถตู้ที่ไม่ใช่รถเหมาก็ได้ ราคาตั๋วคนละ 35,000กีบ (60บาท) รถจะออกเมื่อคนเต็ม (ผู้โดยสาร 8คน) *รถตู้เต็มเร็วมาก ต้องรีบออกมาซื้อตั๋วขึ้นรถนะคะ เราออกมาช้าเลยได้เหมารถตู้ไปส่งที่โรงแรมแทน ราคาเหมา 300,000กีบ (500บาท) จากสถานีรถไฟหลวงพระบางเข้าตัวเมือง นั่งรถประมาณ 30นาที
-จากหน้าด่านท่านาแล้ง เวียงจันทน์ เข้าตัวเมืองเวียงจันทน์ จะมีรถรับจ้างหรือจะนั่งรถบัสไปลงที่ตลาดเช้าก็ได้
-จากสถานีวังเวียง เข้าตัวเมืองวังเวียง อาจจะมีรถรับจ้างอยู่นะคะ ของเราเหมารถพร้อมคนขับจากเวียงจันทน์มาวังเวียงเลย 3วัน 2คืน ราคาอยู่ที่ 5,000-7,000บาท ตกลงราคากันเองแล้วแต่แพลนเที่ยวของเราค่ะ ใช้เวลาเดินทาง 3ชั่วโมงกว่า ขึ้นทางด่วนและขับแบบชิวๆ 5555
13.สถานที่เที่ยวไฮไลท์แต่ละเมือง
-หลวงพระบาง จะเป็นเมืองมรดกโลก ชมประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม
*ตักบาตรข้าวเหนียว https://th.readme.me/p/75100
*วัดเชียงทอง https://th.readme.me/p/75097
*พระธาตุพูสี https://th.readme.me/p/75098
*ตลาดมืด https://th.readme.me/p/75098
*น้ำตกตาดกวางสี https://th.readme.me/p/75063
-เวียงจันทน์ มีผับบาร์ คาสิโน ห้าง คึกคัก แสงสีเสียงยามค่ำคืน
*พระธาตุหลวง https://th.readme.me/p/75152
*ประตูชัย https://th.readme.me/p/75100
*วัดสีสะเกด
*หอพระแก้ว
*สวนพระ
-วังเวียง เมืองธรรมชาติสวยงาม มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์เพียบ ปีนผา ขึ้นบอลลูน บินพารามอเตอร์ พายเรือคายัก ล่องเรือลอดถ้ำ เดินป่า สำรวจถ้ำ ขับรถบักกี้ ฯลฯ สนุกทุกกิจกรรม กลับมาขาเดี้ยง ปวดขามาก 5555
*ผาหนามไซ
*บลูลากูน
*ถ้ำนางฟ้า
*ล่องเรือแม่น้ำซอง กิจกรรมเพียบ
*ตลาดกลางคืน
14.อาหารเหมือนบ้านเรา มีทุกประเภท อาหารลาว อีสาน อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน เฉลี่ยมื้อละ 100-500บาท (ร้านตามสั่งทั่วไป) การสั่งอาหารโปรดอย่าวู่วาม เพราะอาหารที่นี่จะเสิร์ฟจานใหญ่
15.ห้องน้ำสาธารณะ ไม่ได้สะอาดมาก พอเข้าได้
16.วัด อุทยาน สถานที่เที่ยว เก็บค่าเข้าชมแทบทุกที่
17.ภาษา จะใช้ภาษาลาว จีน อังกฤษ ไทย และธุรกิจส่วนใหญ่เป็นของคนจีนมาลงทุน
18.การแต่งกาย สบายๆเหมือนบ้านเรา ตามความเหมาะสมแต่ละสถานที่
19.การต่อรองราคา รถเช่า รถเหมา ค่ากิจกรรมแอดเวนเจอร์ ต่อเยอะๆ ถ้าแพงไปเจ้าอื่น มีเยอะแยะ
20.การจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนด้วยตัวเอง (ไม่ผ่านเอเจ้นท์)
1.โหลดแอพ LCR TICKET
2.ทำการลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ มีให้เลือก 3 ภาษา (ลาว จีน อังกฤษ) ใช้เบอร์โทรศัพท์ไทยลงได้เลย




3.กรอกข้อมูลผู้โดยสาร 1 บัญชี จองตั๋วได้ 10ใบ (เตรียมพาสปอร์ต ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด)
4.เลือกวันเดินทาง จุดหมายปลายทางที่จะไป และรอบรถไฟที่ต้องการ *ช่วงเทศกาลจองล่วงหน้าได้ 4วัน ส่วนวันธรรมดาเปิดจองล่วงหน้า 3วัน


5.กดจ่ายเงิน สามารถจ่ายผ่านบัตรเดบิตและเครดิตที่เป็น Visa และ UnionPay (ต้องจ่ายเงินภายใน 20นาที)
6.ระบบจะส่ง SMS ข้อมูลการจองมาให้ผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน ถือว่าเสร็จสมบูรณ์
7.เข้าไปตรวจสอบในแอพ จะขึ้นข้อมูลเป็น QR Code วันเดินทางจริงก็เปิด QR ให้เจ้าหน้าที่สแกนได้เลย ไม่ต้องปริ้นออกมา






*** ข้อควรรู้ ***
-รถไฟประเภท EMU จะมีที่นั่ง 3 รูปแบบให้เลือก คือ ชั้นธุรกิจ (ราคาแพงที่สุด), ชั้น 1 (ราคารองลงมา), ชั้น 2 (ราคาถูก) อยู่ในขบวนเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรถไฟประเภทธรรมดา (ราคาถูกที่สุด) บริการด้วย **ขบวน EMU ทุกที่นั่งมีปลั๊กเสียบอยู่ใต้เบาะ ชาร์จโทรศัพท์ได้
-ถ้าระบบการจองตั๋วขัดข้อง เน็ตช้า หรือจ่ายเงินไปแล้วแต่ไม่ได้ตั๋ว ไม่ต้องตกใจเงินจะเด้งกลับเข้าบัญชีเองอัตโนมัติภายใน 7-10วัน
-เตรียมเอกสารของผู้เดินทางทั้งหมดไปด้วย เวลาขึ้นรถไฟให้ใช้เอกสารตัวจริงเท่านั้น
-ควรไปถึงสถานีต้นทางก่อน 1-2ชั่วโมง (ประตูขึ้นรถไฟจะปิดก่อนเวลาเดินทาง 7นาที) เมื่อขึ้นรถไฟแล้วเก็บตั๋วให้ดี เพราะมีการตรวจตั๋วก่อนออกจากสถานีด้วย
-ติดตามข่าวสารรถไฟได้ที่เพจ laos -china railway company limited (ไม่มี Call Center หรือช่องทางการติดต่อสอบถาม) ส่วนการแจ้งรถหยุดวิ่งหรือล่าช้า เราต้องมาดูที่บอร์ดภายในสถานีเท่านั้น
-รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวเอง เจ้าของรีวิวนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางสถานที่แต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
สุดท้ายนี้... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้ด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/bell.diiz.39
Tara
วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 15.50 น.