Pa Pong Piang, Chiang Mai | เชียงใหม่หน้าฝน

🛖 ในฤดูฝน ถ้าพูดถึงที่ที่สามารถหนีความวุ่นวายจากตัวเมือง ใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดหัว มานอนใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบ ชาติแบบให้ตัวเองพักชาร์จแบตสัก 2‑3 วัน อยากจะแนะนำ “บ้านป่าบงเปียง” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย

📍 Fact about Pa Pong Piang
1. บ้านป่าบงเปียงอยู่ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
2. บ้านป่าบงเปียง อยู่บริเวณตีนเขาของดอยอินทนนท์
3. ทางมาที่นี่เป็นถนนคอนกรีต (แต่เหมือนจะมีทางของชาวบ้านที่ดูสู้ชีวิตอยู่)
4. การมาที่นี่ควรมาทางเส้นดอยอินทนนท์ (เพราะบางที่ทางที่ GPS บอกจะเป็นทางของชาวบ้านที่เป็นดินแดงซึ่งเวลาเจอฝนรถจะติดหล่ม) ให้ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงทางแยกตรงจุดตรวจก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ให้เลี้ยวซ้ายมาทางถนน 1192 (ถ้าไม่แน่ใจให้ถามเจ้าหน้าที่)
5. บ้านหลังแรกของบ้านป่าบงเปียงคือ บ้านฉิโพ
6. โฮมสเตย์มีให้เลือกเยอะมาก โดยราคาจะอยู่ปนะมาณ 500 บาท/คน (รวมอาหารเย็นและเช้า)
7. ผมพักที่ FB : บ้านไม้ไผ่ นาขั้นบันไดป่าบงเปียง
8. บ้านพักสามารถนอนได้ 2 คน
9. บ้านดักมีห้องน้ำในตัว
10. ราคาจะอยู่ที่ คนละ500บาท (4 คนขึ้นไป)รวมอาหารเย็นและเช้าฟรีน้ำดื่ม กาแฟโอวัลติน
11. มีน้ำดื่ม น้ำแข็ง อาหารตามสั่งขาย
12. หมูกระทะชุดละ 350 บาท
13. โฮมสเตย์ ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ (มีแค่ไฟจาก Solar Cell) ควรพก Powerbank ไปด้วย
14. ช่วงการท่องเที่ยว :
💧 กรกฎาคม ‑ สิงหาคม ช่วงดำนาโดยช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ชาวบ้านเริ่มจะปักต้นกล้าลงไปในท้องนา ที่มีน้ำขัง ทำให้เห็นภาพสะท้อนของท้องฟ้า จากน้ำในท้องนา
🌿 สิงหาคม ‑ ตุลาคม เป็นช่วงที่ต้นข้าวเติบโตเขียวขจีขึ้นอัดแน่นเต็มท้องทุ่ง มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว
🌾 ตุลาคม ‑ พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ข้าวออกรวงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เตรียมพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวโดยเห็นนาขั้นบันได ที่มีแต่สีเหลืองทองอร่าม

_______

Chapter 1 : Ticket 🎟

เริ่มเดินทางด้วยรถไฟขบวน 51 (กรุงเทพ‑เชียงใหม่) โดยขึ้นรถที่ชุมทางบางซื่อเวลา 22.24 น. โดยจะถึงปลายทางเชียงใหม่ประมาณ 12.10 น. โดยเลือกนั่งเป็นชั้น 3 ราคาจะอยู่ที่ 270 บาท/คน

Chapter 2 : ระหว่างทาง

ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 ขณะรถไฟอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดแพร่

Chapter 3 : ถนนลื่น

พอรถไฟถึงเชียงใหม่ก็ทำการเช่ามอเตอร์ไซค์ (250 บาท/วัน) เพื่อขับมาหมู่บ้านแม่กำปองซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตร แต่ยังไม่ทันได้ออกไปไหน ฝนก็ตกเป็นการต้อนรับแล้ว ก็เลยต้องซื้อเสื้อกันฝนขับมาจนถึงแม่กำปอง (ถนนค่อนข้างลื่นและชัน ถ้าไม่ชำนาญ ก่อนใกล้ถึงหมู่บ้านจะมีรถของชาวบ้านพาขึ้น)

Chapter 4 : ไข่ป่าม

ไหนๆก็มาถึงแม่กำปองแล้ว ขอลองของขึ้นชื่อที่นี่หน่อยแล้วกัน ราคา 20 บาท รสชาติเหมือนไข่เจียว+ไข่ตุ๋นเลย

Chapter 5 : เชียงใหม่

หลังจากเที่ยวแม่กำปองเสร็จก็กลับมาตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะว่าจองที่พักไว้ในเมือง (Doze Hostel (90 บาท/คน) เป็นห้องนอนรวม เตียง 2 ชั้น) ตอนดึกเลยแวะตะลอนกินของในเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สุกี้ช้างเผือก (สาขาหลัง มช เพราะว่าสาขาตรงช้างเผือกคนเยอะจริงไม่เคยจะได้กิน) และโรตีป้าเด ก็อร่อยสมกับชื่อทั้ง 2 ร้านเลย

Chapter 6 : มากับฝน

พอวันรุ่งขึ้นก็เริ่มเดินทางจากตัวเมืองเวลาประมาณ 13.00 น. มาบ้านป่าบงเปียงในสภาพอากาศที่แดดร้อนจนแสบผิว แต่พอขับมาเรื่อยๆจนเข้าถึงเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ความเย็นจากต้นไม้และฝนเริ่มมาเยือน แต่ฝนก็ไม่ตก จนมาถึงบ้านป่าบงเปียงทำให้รู้ว่า เมฆฝนมันล้อมเราไว้หมดแล้ว 🥶

Chapter 7 : Cheers 🥂

ถึงฝนจะตกปรอยๆเราก็ไม่สนใจ เพราะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการดื่มด่ำกับเบียร์และบรรยากาศอีกแล้ว

Chapter 8 : ฟ้าหลังฝน

ในที่สุดก็เข้าใจคำว่า “ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ”

Chapter 9 : แสงสุดท้าย

แสงสุดท้ายที่บ้านป่าบงเปียง ตอนกลางคืนจะไม่มีแสงไฟเลย นอกว่า แสงไฟของบ้านแต่ละหลัง (Solar Cell) และจะได้ยินเสียงกบร้องทั้งคืน

Chapter 10 : ทำงาน ทำงาน ทำงาน

ระหว่างที่คนอื่นกำลังตั้งเตาหมูกระทะ เพื่อนที่เรียนสถาปัตย์ของคุณไปเอาโต๊ะมาจากไหนไม่รู้ มาดราฟแบบ

Chapter 11 : Good Morning

นี่คือสภาพของคนที่เช่าบ้านพักมาแต่ว่ามานอนเปิดประทุนรับน้ำค้าง

Chapter 12 : บรรยากาศ

นี่คือรางวัลของคนตื่นเช้า ถึงแม้จะคาดหวังว่าจะเจอทะเลหมอก แล้วมันจะเป็นแค่กลุ่มหมอกก็เถอะ

Chapter 13 : Terraced Rice Fields

เสียงน้ำและนาขั้นบันได 🌾 บรรยากาศคือดี สงบมาก

Chapter 14 : หมอกหรือควัน

ข้างบนคือหมอกหรือเมฆ ส่วนข้างล่างคือควันจากกระท่อม

Chapter 15 : ชาวนากับเจ้าโบ้

ชาวนากำลังออกไปทำงานโดยมีเจ้าโบ้ไปส่ง

Chapter 16 : ไปก่อนนะ

เริ่มเดินทางออกจากบ้านป่าบงเปียงประมาณ 11.00 น. เพื่อกลับไปยังตัวเมืองเชียงใหม่

Chapter 17 : 1192

ถนนเส้น 1192 (อ.จอมทอง‑อ.แม่แจ่ม) คือถนนสายที่เราจะต้องผ่านถ้าจะไปบ้านป่าบงเปียง

Chapter 18 : see ya ชายเหมี่ยง 👋🏻

เดินทางกลับด้วยรถไฟ ขบวน 52 (เชียงใหม่‑กรุงเทพ) (270 บาท/คน) โดยรถไฟจะเริ่มออกจากสถานีเชียงใหม่ 15.30 น. และถึงสถานีกรุงเทพประมาณ 05.30 น.